หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 237 เมล็ดแตงโมไม่ไว้หน้า

บทที่ 237 เมล็ดแตงโมไม่ไว้หน้า

บทที่ 237 เมล็ดแตงโมไม่ไว้หน้า

หลานเยาเยาอดยิ้มด้วยความภูมิใจไม่ได้

ไอหย๊า!

ทำไมชาติก่อนถึงไม่ได้ค้นพบ ว่าตัวเองเก่งกาจสติปัญญาดีเลิศล้ำกว่าคนอื่นเช่นนี้ เหมือนมีศักยภาพเป็นนักสืบได้เชียว?

แต่ค้นพบตอนนี้ก็ยังไม่สายไป หลังจากที่เข้าเมืองหลวง ต้องพยายามแสดงออกให้เต็มที่หน่อย!

ตอนนี้ก็รอเพียงให้จื่อเฟิงที่ตามหลังสามีภรรยาปลอมคู่นั้นกลับมา ดูซิ้ว่าพวกเขาจะมีพรรคพวกอีกหรือไม่

หากว่าไม่มี คืนนี้นางก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว

ในไม่ช้า!

ขณะที่หลานเยาเยากลับมาที่ห้องของตัวเองได้ไม่นาน จื่อเฟิงก็กลับมา สองคนนั้นเป็นนักฆ่าจริงๆ ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกสามคน

แต่ว่า!

นางไม่ต้องหนักใจเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าจื่อเฟิงได้จัดการนักฆ่าเหล่านั้นไปหมดแล้ว!

หลังจากที่จื่อเฟิงออกไป หลานเยาเยาก็พักผ่อนไปอย่างรวดเร็ว

ขนาดเรื่องของเจ้าของโรงเตี๊ยมนี้ นางก็เพียงยิ้มแล้วให้ผ่านไป

หานแสจัดเตรียมโรงเตี๊ยมแห่งนี้ให้นาง คิดจะทำอะไรกันแน่?

ก่อนหน้านี้ เขาเตรียมการได้ไม่เคยพลาดเลยสักนิด ตอนนี้กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เป็นความผิดพลาด หรือเขาคิดจะทดสอบนาง?

หากว่าเป็นเรื่องหลัง งั้นสิ่งที่นางทำไปทั้งหมดในสองสามปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำให้เขาไว้ใจนางได้อย่างถึงที่สุดหรอ!

เหอะ!

ก็ใช่

ตอนนี้นางก็เหมือนกันมิใช่หรือ?

เพียงแค่ นอนได้ไม่ทันถึงครึ่งชั่วยาม ก็มีคนเคาะประตูแล้ว

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

“คุณหนู อยู่ดีๆโรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็มีคนเข้ามาอยู่หนึ่งคน ไม่เคยเห็นหน้าที่แท้จริงเขามาก่อน และก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน” คนที่พูดคือจื่อซี

“เข้ามาอยู่แล้วงั้นหรือ?”

หลายเยาเยาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย อยากจะหลับดีดีสักตื่นก็ไม่ได้

ดูท่า เถ้าแก่คงจะคันผิวหนังแล้ว

“ขอรับ!”

“ทางเถ้าแก่นั้นว่าเช่นไร?” จุดนี้นั้นค่อนข้างสำคัญ

ก่อนหน้านี้จากเรื่องของสามีภรรยาปลอมคู่นั้น เถ้าแก่คงไม่ทำความผิดแบบเดียวกันอีกครั้งแน่ ทั้งยังเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม

นอกจากว่าเขาจะบ้าไปแล้ว!

แต่ว่าตอนนี้ เขากลับให้คนเข้ามาพัก ต้องมีเหตุผลแน่นอน

เป็นไปดังคาด!

“เถ้าแก่บอกว่า คนผู้นั้นเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เข้ามาอยู่แล้ว ขณะที่เก็บห้องในวันนี้ คนออกไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้คืนห้อง”

เข้ามาอยู่แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน?

งั้นก็หมายความว่า ลูกค้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก อาจจะออกไปทำธุระ ดังนั้นจึงไม่ได้คืนห้อง ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ใหม่อีกครั้งเท่านั้น

“ช่างเหอะ อยู่ก็อยู่ไป ตอนกลางคืนระวังหน่อยก็ได้แล้ว”

หากว่าเป็นลูกค้าที่มาพักตามปกติ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

อีกทั้ง!

โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เป็นของหานแส เถ้าแก่ก็เป็นคนของหานแส เขาอยากจะฆ่าราชครูใหญ่มากกว่านาง

เป็นไม่ได้ที่เพื่อจะทดสอบนาง จะตั้งใจเปิดเผยร่องรอยการเดินทางของนาง เช่นนั้นก็สามารถทำให้ทุกอย่างที่ทำมาก่อนหน้านี้สูญเปล่า

“ขอรับ!”

หลังจากที่จื่อซีจากไป หลานเยาเยาก็ไม่ได้นอน หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเลือดที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดา จากนั้นก็นั่งอยู่ข้างโต๊ะที่เต็มไปด้วยผลไม่และขนม

ไม่พูดมาก ก็เริ่มลงมือแล้ว

“ไอ่โหย่ว! ข้าจุกแทบตายแล้ว”

มือข้างหนึ่งของหลานเยาเยาลูบไปที่ท้อง มือหนึ่งยังจะหยิบเอาขนมยัดใส่เข้าไปในปากอย่างนับไม่ถ้วน

กินไปกินไป นางก็หยุดชะงักการกระทำนั้นทันที ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

วินาทีถัดมา

นางคว้าเอาผลไม้และขนมบนโต๊ะเข้ามาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็หมอบลงด้วยความเร็วราวสายฟ้า

“สวบ……”

“สวบ……”

“สวบ……”

“……”

ลูกธนูที่แหลมคมพวยพุ่งเข้ามาดั่งห่าฝน ที่หน้าต่างปรากฏเป็นรูขึ้นมานับไม่ถ้วนในพริบตา

ให้ตายสิ!

การลอบสังหารครานี้ ไม่ทันได้ป้องกันตัวเลยจริงๆ

โชคดีที่ขนมและผลไม้ไม่ได้หกไป

เพียงแค่ กินจนจุกมากไป นางไม่อยากใช้วิทยายุทธ

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาปกป้องอาหารในอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง ค่อยๆมาด้านหลังหน้าต่าง ค่อยๆเปิดร่องที่แตกดู

ด้านหลังโรงเตี๊ยมเป็นทุ่งหญ้า ทั้งยังเงียบสงบมาก

ดังนั้น ก็รีบกระโดดจากหน้าต่างลงไป

หลังจากที่กระโดดไปแล้ว นางก็เพิ่งรู้ตัว ห้องของนางอยู่ตั้งชั้นสอง

โชคดีที่นางมีความสามารถที่คล่องแคล่วแข็งแรง มีไหวพริบว่องไว ทั้งยังมีวิชาตัวเบา จึงทำให้นางลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย

ใช่!

สามปีก่อน หลังจากที่ออกมาจากหุบเขาจิ้น นางก็พบว่าตัวเองมีกำลังภายในแล้ว

แต่ว่ากำลังภายในมาจากไหนนั้น นางไม่ได้รู้ถึงต้นตอเลย

อีกทั้งกำลังภายในของนางนั้นไม่ใช่ว่าคนปกติธรรมดาจะเทียบได้

แต่ว่า!

เมื่อลงถึงพื้นเพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าว นางก็เห็นหัวคนเรียงรายอยู่เป็นแถว โผล่ออกมาหญ้าที่สูงขึ้นมาประมาณครึ่งหนึ่งของคน จากนั้นก็เห็นว่าในมือของพวกเขาทั้งหมดถือคันธนูไว้อยู่

ยังเล็งมาที่นางอีกด้วย และไม่พูดอะไรมากก็ยิงเข้ามา……

โอ้พระเจ้า!

นี่คือนักฆ่าที่ลอบสังหาร หรือว่าเป็นกองทหารที่มาโจมตีเมืองนะ? ขนาดหลังหน้าต่างก็ยังไม่เว้น

นับว่าพวกเจ้าโหดเหี้ยม

ข้าพุงป่องอยู่ ไม่อยากหาเรื่องกับพวกเจ้า

ดังนั้น นางจึงรีบกระโดดเข้าไปตรงห้องชั้นที่หนึ่ง จากนั้นก็มีลูกธนูนับไม่ถ้วนยิงข้ามผ่านบนหัวไปในพริบตา

แต่ในไม่ช้า ฝนธนูก็หยุดลง หลังหน้าต่างด้านนอกมีเสียงฆ่าฟันกันดังมา

หลานเยาเยารู้ เป็นจื่อเฟิงพวกเขาลงมือแล้ว

“หู้ว……”

นางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กลับไม่ได้ตั้งใจพ่นองุ่นออกมาจากปากเม็ดหนึ่ง

เอ่อ……

โชคดีที่ไม่มีคนเห็น ไม่งั้นก็จะน่าอายมาก

นางมองดูไปยังขนมและผลไม้ที่ตกกระจายที่พื้นด้วยสีหน้าที่เสียดาย ที่โดนทิ้งก็โดนทิ้งไป ที่คลุกดินก็คลุกดินไป

น่าเสียดาย!

น่าเสียดายเป็นอย่างมาก

ขณะที่กำลังคิดจะเก็บผลไม้ที่ยังไม่เสียหายขึ้นมานั้น นางก็รู้สึกถึงความไม่ปกติขึ้นมาทันที

ไม่ถูก!

ที่แห่งนี้ยังมีคนอื่นอีก

ดังนั้น นางจึงรีบเงยหน้าขึ้นทันที สบตาเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่ดูลึกลับราวกับวังวนเข้าพอดี

“……” ยัง ยังมีคนอยู่จริงๆ

และยังเป็นคนที่นางไม่อยากเจอมากที่สุด……

“แฮ่มแฮ่ม” หลานเยาเยากระแอมเบาๆหนึ่งที แล้วก็มองดูเยาแจ๋หยิ่งที่ความจริงแล้วไม่ควรปรากฏตัวอยู่ที่นี่อยู่เช่นนี้

อดไม่ได้ที่จะคิดในใจ

หรือว่าที่บอก คืนนี้มีคนเข้ามาใหม่อยู่ที่โรงเตี๊ยมก็คือเขา?

หลังจากที่มั่นใจในคำตอบ หลานเยาเยาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆยืนขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ทว่า!

เมื่อนางยืนขึ้นมา

ก็ได้ยิน “ตึ่งตึ่งตึ่ง” ดังขึ้น แอปเปิลสาลี่องุ่นตกลงมาจากเสื้อผ้าของนาง ทั้งยังมีเมล็ดธัญพืชทั้งห้าหล่นลงมาที่พื้นจากประโปรงของนาง

“……”

“……”

อย่างแรกคือสีหน้าที่เขินอาย ทั้งที่ตกไปแล้วตั้งมากมาย ทำไมถึงยังมีอีก?

อย่างหลังคือมุมปากกระตุก มองดูของที่ตกลงพื้นด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง!

หลานเยาเยาที่ใส่ชุดสีแดงเข้ม สีหน้าอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

เมล็ดแตงโม เมล็ดแตงโม ข้าเป็นถึงเทพธิดา ได้โปรดอย่าหล่นลงมาอีกเลยได้ไหม?

ข้าต้องการหน้าตาเช่นกันนะ!

“ติ๊ก…..”

มีเมล็ดแตงโมอีกเมล็ดหนึ่งหล่นไปที่พื้น ไม่ไว้หน้านางแม้แต่น้อย

ได้ ไม่ไว้หน้าข้าใช่ไหม?

นางจำไว้แล้ว หลังจากนี้เทพธิดาจะกินเมล็ดแตงโมทุกวัน หากไม่กินจนเมล็ดแตงโมสูญสิ้นนางก็ไม่ใช้นามสกุลสูญสิ้น

ถุ้ย!

นางจะไม่ใช้นามสกุลหลาน

ไม่สนใจแล้ว ยังไงซะก็อับอายไปจนถึงบ้านคุณยายแล้ว นางเทหมดหน้าตักแล้ว

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจัดระเบียบชุดของตัวเอง ทำเป็นเมินผลไม้และขนมที่ตกอยู่บนพื้น จากนั้นก็เดินออกจากประตูไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ทว่า……

เมื่อก้าวเท้าไปถึงข้างประตู ยังไม่ทันจะยื่นมือไปเปิดประตู น้ำเสียงที่เย็นชาก็แว่วมาจากด้านหลัง

“รอก่อน!”

ได้ยินดังนั้น หลานเยาเยาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วก็หันกลับอย่างรวดเร็ว มีดสั้นเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วพุ่งแทงไปทางเย่แจ๋หยิ่ง……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท