หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 256 ไม่เคยเห็นที่รนหาที่ตายเช่นนี้มาก่อน

บทที่ 256 ไม่เคยเห็นที่รนหาที่ตายเช่นนี้มาก่อน

บทที่ 256 ไม่เคยเห็นที่รนหาที่ตายเช่นนี้มาก่อน

ดังนั้น เขาจึงขึ้นไปนั่งบนหลังคาด้วยความโกรธ รื้อกระเบื้องออกทีละแผ่นทีละแผ่น ยังคิดที่จะเปิดแผ่นกระเบื้องทั้งจวนออกให้หมด

ยังดีที่จื่อซีมาทันเวลา

อย่างน้อยหลังคาเพิ่งโดยทำลายไปแค่ครึ่งเดียว

“ท่านอยู่ที่นี่เอง! ให้ข้าหาเจอง่ายๆสักที ก่อนที่คุณหนูจะออกจากประตู……ไม่ใช่ ก่อนที่คุณหนูจะข้ามกำแพงออกไปให้ข้าน้อยต้อนรับท่านอย่างดี ท่านอยากจะพักเท้าก่อนแล้วกินข้าวสักมื้อ หรือว่าจะไปชมรอบๆก่อนขอรับ?”

มองดูกระเบื้องเหล่านั้นที่โดนตาใหญ่รื้อออกมาอย่างกระจัดกระจาย เขาเพียงทำเป็นมองไม่เห็น จากนั้นก็มองไปที่ตาใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

คุณหนูคาดการณ์ไว้ไม่ผิดเลยเหมือนดั่งเทพเซียนจริงๆ

เข้าใจตาแก่ที่มีพลังการทำลายร้ายสูงผู้นี้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ส่งเขามาปลอบเขา

“หึ! เจ้าสำนักให้เจ้ามารึ?”

ตาใหญ่หยุดการรื้อกระเบื้องลง หันไปมองเขา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

“แน่นอนขอรับ ข้าจื่อซีฟังเพียงคำสั่งของคุณหนู ในสถานการณ์ปกติแล้วจะไม่อยู่ห่างจากข้างกายคุณหนูแม้สักวินาที หากว่าไม่ใช่คำสั่งของคุณหนู ข้าจะมาได้เยี่ยงไร?

คุณหนูรู้ว่าท่านจะมา นางขอคนที่มีฝีมือการทำอาหารชั้นเลิศมาจากเจ้าของเรือของเรือแห่งความสิ้นหวังเพื่อมาเป็นพ่อครัวโดยเฉพาะ ทำอาหารให้ท่านทานขอรับ!

ข้าก็ไม่เคยได้รับสิทธิเช่นนี้มาก่อน กลับเป็นท่านกลับที่ได้เสวยสุข”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป!

ดวงตาของตาใหญ่ก็เปล่งประกาย

ของกิน?

แถมยังเป็นเจ้าสำนักจัดเตรียมให้เป็นพิเศษ

ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกพองโตสดใสขึ้นมา แต่ยังคงแสร้งทำสีหน้าที่มีทีท่าเหมือนกับว่าไม่เชื่ออยู่

“ฝีมือทำอาหารดีมาก? ขอมาเพื่อทำอาหารให้ข้ากินโดยเฉพาะ?” เจ้าสำนักไม่ได้ทำเพื่อท้องของตัวนางเองหรอกหรือ?

ในจุดนี้ เขาสงสัยเป็นอย่างมาก

“แน่นอนอยู่แล้ว ฝีมือการทำอาหารดีมาก และยังเป็นคนที่ไม่สามารถหาคนที่สองที่มีฝีมือการทำอาหารดีเช่นนี้ได้อีกแล้วในโลกนี้

ท่านลองคิดดู ทำไมก่อนหน้านี้คุณหนูไม่ขอคนมา แต่ต้องขอมาตอนนี้ให้ได้? ไม่ใช่เพราะเห็นท่านลำบาก

นำสวนหยู่มาส่งจากที่อันไกลโพ้น จึงต้องต้อนรับท่านอย่างดีเป็นพิเศษขอรับ!

ท่านได้มีลาภปากแน่นอน ตอนนี้อาหารได้ถูกวางไว้บนโต๊ะแล้ว ไม่เช่นนั้น ท่านรีบกินตอนยังร้อน?”

คำพูดพวกนี้ แค่จื่อซีปริปากก็ออกมา

ติดตามข้างกายหลานเยาเยาแค่สามปี

จื่อซีไม่เพียงแค่เจ้าเล่ห์มากขึ้น ทั้งสมองก็ยังมีไหวพริบมากขึ้นด้วย

ได้ยินดังนั้น!

ในใจของตาใหญ่ละความโกรธไปตั้งนานแล้ว สีหน้าที่จงใจแสดงความบึ้งตึงออกมา ก็พังทลายลงไปตามคำพูดของจื่อซี

“ที่วางไว้บนโต๊ะทั้งหมดเป็นอาหารอันโอชะ?”

เขาต้องต้อนรับเขาให้ดีไม่ด้อยไปกว่าตาแก่ ไม่งั้นเขาจะไม่พอใจ

“ท่านวางใจได้แน่นอน ไก่เป็ดปลาเนื้อ มีครบทุกอย่าง”

“ไปไปไป จะทำลายความหวังดีของเจ้าสำนักไม่ได้ พวกเรารีบไป”

ตาใหญ่ถูมือไปพลง แล้วก็อดใจรอไม่ได้อยากจะเหาะไปให้ถึงที่

จื่อซียิ้มเล็กน้อย แล้วเหาะลงมาก่อน แต่รอตั้งนานก็ไม่เห็นตาใหญ่เหาะลงมา จึงได้เหาะขึ้นไปบนหลังคาอีกครั้ง ก็เห็นตาใหญ่ฮัมเพลงไปพลาง จัดการกระเบื้องที่ละชิ้นให้เรียบร้อยไปพลาง

“……”

ทางด้านหลานเยาเยานี้

ด้วยกลัวว่าตาใหญ่จะทำลายจวนของนาง ดังนั้นจึงส่งให้จื่อซีไปปลอบให้เขาสบายใจ จากนั้นก็พาจื่อเฟิงมุ่งไปหลังลานนอกกำแพงรั้ว

เมื่อปีนข้ามกำแพงไป ก็เห็นม้าสีน้ำตาลแดงที่รูปร่างแข็งแรงบึกบึนถูกล่ามไว้ข้างต้นไม้ใหญ่ มีชายรูปร่างกำยำผู้หนึ่งถือมีดด้ามใหญ่เฝ้าอยู่ด้านข้าง

มันเป็นม้าเหงื่อโลหิต ชื่อว่าสวนหยู่

ในแผ่นดินใหญ่นี้ ม้าเหงื่อโลหิตได้รับการยกย่องว่าเป็นม้าแห่งสวรรค์ ความฉลาด การได้ยิน การได้กลิ่นนั้นจะดีเป็นพิเศษกว่าม้าพันธุ์ปกติธรรมดา

ม้าเหงื่อโลหิตพันธุ์แท้ที่หายากนี้ ไม่เพียงแค่ดื้อรั้น หัวแข็งไม่เชื่อฟัง ทั้งยังทำให้เชื่องยากมาก

ที่ได้กลายมาเป็นพาหนะของนาง ก็เป็นเพราะความโชคดีโดยบังเอิญของนาง

บังเอิญเจอมันในตอนที่กำลังเจ็บหนักจนถึงจะหมดลมพอดี

นางช่วยมันไว้

จากนั้น นางจะไปที่ไหน มันก็ตามไปที่นั่น

เมื่อนางตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง และในเวลาที่คนข้างกายทั้งหมดถูกถ่วงเวลาไว้ มันก็พุ่งเข้ามาช่วยนาง มันโดนมีดไปหลายรอย แต่มันก็ยังแบกนางข้ามภูเขาใหญ่มาหลายลูก แบกนางจนกลับถึงสำนักหงอี

หลังจากนั้นมา มันก็กลายเป็นพาหนะของนาง นางตั้งชื่อให้มันว่าสวนหยู่!

“วิ้ว……”

หลานเยาเยาหันไปผิวปากกับมันครั้งหนึ่ง

เมื่อได้ยินเสียงของนาง สวนหยู่ก็รีบมองมาทันที จากนั้นก็ร้องคำรามสองสามครั้ง อยากจะสลัดให้หลุดพ้นจากเชือกที่มัดไว้

เมื่อเห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาก็เอามีดสั้นออกมาทันที จากนั้นก็โบกมือไปทีหนึ่ง มีดสั้นก็ลอยไปในอากาศ ตัดเชือกที่มัดอยู่กับต้นไม้ให้ขาดออก

เมื่อเชือกขาด สวนหยู่ก็ร้องคำรามอีกสองสามครั้ง

แต่มันก็ไม่ได้วิ่งมาข้างกายหลานเยาเยาในทันที แต่ใช้ปากม้าของมันกัดไปที่มีดสั้นที่ปักอยู่บนต้นไม้ จากนั้นก็ดึงออกมา

จึงจะวิ่งมาหานางอย่างรวดเร็ว ถูไถที่เสื้อผ้าของนางอย่างขี้อ้อน แล้วเอามีดสั้นที่คาบไว้ที่ปากของมันยื่นไปตรงหน้านาง

หลานเยาเยารับมีดสั้นมา จากนั้นก็ลูบหัวของมัน

“สวนหยู่เก่งที่สุด! ไป ข้าจะพาเจ้าไปแสดงอานุภาพ แล้วก็ช่วยเจ้าหาแฟนไปด้วยซะเลย”

“เทพธิดา!”

ชายร่างกำยำที่เฝ้าม้าสุดที่รักของนางทำมือทำความเคารพต่อนาง

“ลำบากแล้ว ไปพักในจวนเถอะ!”

“ขอบคุณเทพธิดา!”

ชายร่างกำยำทำมือเคารพอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปทางประตูจวนของเทพธิดา

หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มมุมปาก หลังจากที่ลูบสวนหยู่ ก็ขึ้นไปบนหลังม้าทันที

“สวนหยู่ พวกเราไป”

ราวกับว่าสวนหยู่ฟังนางรู้เรื่อง หลังจากที่นางขึ้นไปนั่งแล้ว หลังจากที่ส่งเสียงคำรามครั้งหนึ่งเพื่อแสดงออกเป็นการตอบรับ ก็ออกไป

มันมีความเร็วดุจดั่งลม ในชั่วพริบตา ก็วิ่งมาได้ไกลมากแล้ว

เพราะว่าสนามแข่งขันล่าสัตว์อยู่ใกล้กับประประตูเมืองทางทิศตะวันออกมาก

ดังนั้น!

บนท้องถนนของประตูเมืองทางทิศตะวันออกจึงแออัดมาก ขุนนางที่มีฝีมือความรู้ที่ไปร่วมการแข่งขัน ก็ล้วนพาลูกๆของตัวเองไปด้วย

ดังนั้นรถมาบนถนนแทบจะเป็นต่อกับเป็นเชือกเส้นหนึ่ง จากนอกประตูเมืองทางทิศตะวันออกห่างยาวออกไปมาก ถึงด้านในประตูเมืองทางด้านทิศตะวันออก ก็เป็นระยะทางยาวไปอีก

ด้วยเหตุนี้ ขี่ม้าหรือเดินทางก็ไม่ต่างกัน

มองดูท่าทาง หลานเยาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็เลี้ยวหัวม้า ไปทางประตูด้านทิศใต้

จากประตูด้านทิศใต้ไปยังสนามแข่งขันล่าสัตว์ แม้ว่าจะต้องอ้อมไปไกล แต่เป็นทางเลือกที่จะขี่ม้าไปที่สนามล่าสัตว์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

แน่นอน!

นี่เป็นเพียงทางที่เหมาะสำหรับการขี่ม้าอ้อมไป

สำหรับรถม้านั้น……

ไม่เหมาะจะอ้อมไปจากประตูทางทิศใต้ โดยรวม ทางอ้อมไปสนามล่าสัตว์จากประตูทางทิศใต้ มีหน้าผาสูงชันที่อันตรายอยู่มากมาย

ขี่ม้าไปก็ยังต้องระวัง ก็ไม่ต้องพูดถึงรถม้าแล้ว

เพราะว่าเส้นทางที่เป็นหน้าผาแคบและสูงชัน ทั้งยังมีหินทรายเยอะมาก จะตกลงเหวได้ง่าย

เกือบทุกคนที่มีความรู้เพียงเล็กน้อยก็แทบจะรู้เรื่องนี้กันทั้งหมด

แต่หลานเยาเยากลับคิดไม่ถึง ว่าบนเส้นทางนี้นางจะบังเอิญพบเข้ากับ คนที่นั่งรถม้าไปทางประตูทิศใต้ไปสนามแข่งขันล่าสัตว์ อีกทั้งคนผู้นี้ยังเป็นเย่แจ๋หยิ่งที่นางคุ้นเคยมากด้วย

เอ่อ……

เคยพบคนที่รนหาที่ตาย

แต่ไม่เคยพบเจอคนที่รนหาที่ตายเช่นนี้มาก่อน

รถม้าของเย่แจ๋หยิ่งเดินทางด้วยความรวดเร็วมาก ราวกับว่าไม่เห็นหนทางแคบที่อยู่เบื้องหน้าในสายตาสักนิด

ยิ่งใกล้ถึงทางข้างหน้าผา รถม้าก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น

เดิมทีหลานเยาเยามาจากทางด้านหลัง

แม้ว่านางจะขี่ม้าด้วยความเร็วมาก แต่รถม้าของเย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้กินแต่ผัก

เมื่อม้าของนางวิ่งตามมาทัน รถม้าของเย่แจ๋หยิ่งก็ได้ไปถึงทางข้างหน้าผาแล้ว

นางคิดจะแซงขึ้นไปก็ไม่ได้ ทำได้เพียงตามอยู่หลังรถม้า

มองรถม้าสีดำที่ทรงพลังด้านหน้า หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่มองไปที่รถม้า รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เย่จ๋หยิ่งคงจะไม่ได้หลับไปแล้วหรอกนะ?

ไม่เช่นนั้น ทำไมรถม้าไปถึงขอบหน้าผาแล้วถึงยังไม่มีวี่แววที่จะชะลอตัวลงเลย?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท