หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 258 รถม้าร่วงตก

บทที่ 258 รถม้าร่วงตก

บทที่ 258 รถม้าร่วงตก

โอ้โห!

สวรรค์ชั่งใส่ใจนางเช่นนี้เชียว?

นางเพียงแค่อธิษฐานไปส่งๆ คิดไม่ถึงว่าความฝันจะเป็นจริงเร็วขนาดนี้……

นางต้องฉลองสักหน่อยใช่หรือไม่?

“เสด็จอา!”

ในเวลานี้ เย่หลีเฉินคิ้วขมวดเข้าหากัน รีบเหาะไป องค์ชายด้านหลังไม่กี่คนก็รีบตามไป เซียวจิ่นหยูเหาะไปเร็วกว่าเย่หลีเฉินก้าวหนึ่ง

มีเพียงหลานเยาเยาที่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

จากนั้นก็ตีม้าให้ขึ้นไปด้านหน้า

ถอนหายใจอยู่ในใจ หากเย่แจ๋หยิ่งตกหน้าผาตายง่ายๆเช่นนั้นก็ดีสิ เช่นนั้นความแค้นในใจของก็จะโดนขจัดไปได้อย่างง่ายดาย

น่าเสียดาย……

ตั้งแต่สมัยโบราณกาล ความหายนะจะคงร่องรอยไว้เป็นพันปี

เมื่อนางขี่ม้า ดำเนินอย่างช้าๆมาถึงหน้ารถม้าสีดำ แต่กลับพบว่าคุณชายทั้งหกร่วมแรงกันคิดจะลากรถม้ากลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ

แต่กลับทำให้รถม้ายิ่งโน้มไปทางหน้าผามากขึ้นเรื่อยๆ

เห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะเคลื่อนสายตาไปจ้องมองยังร่างคนที่ไปช่วยกันลากรถม้า

มองดูการกระทำและสีหน้าของพวกเขา ราวกับว่าแต่ละคนก็ได้ออกแรงสุดกำลังแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็เป็นผู้ที่มีกำลังภายใน คนเยอะขนาดนั้นทำไมถึงไม่สามารถลากรถม้าหนึ่งคันขึ้นมาไม่ได้?

นอกจาก……

มีคนในนั้นทำอุบายไว้

แต่ว่า มองจากภายนอก ไม่สามารถมองออกได้เลยว่าคนที่ทำอุบายเป็นใคร

ตามองดูล้อรถของรถม้าที่แขวนอยู่ตรงหน้าผา ยิ่งห่างริมถนนขึ้นเรื่อยๆ และล้อรถอีกข้างหนึ่งก็ค่อยๆเริ่มจะห้อยอยู่กลางอากาศ……

ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วรถม้าคันนี้จะต้องร่วงตกเหว

หลานเยาเยาขมวดคิ้วขึ้นเบาๆอีกครั้ง……

นางและเย่แจ๋หยิ่งมีความแค้นแสนสาหัสต่อกัน ถ้าเขาร่วงตกเขาแล้ว เช่นนั้นก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือ?

ใช่!

นางปรารถนาอยากให้เขาตายเป็นอย่างยิ่ง

ในเวลานี้จะไม่ได้ลงมือผลักก็นับว่ามีมโนธรรมแล้ว ไม่ใช่หรือ?

แต่……

มองดูรถม้าที่เอนเอียงไปทีละนิดกับตา มือที่กุมบังเหียนของหลานเยาเยา ก็ยิ่งกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ และยังกำจนเหงื่อออกมา

ทันใดนั้น!

เสียงทุ้มที่ฟังดูดึงดูดก็ดังออกมาจากรถม้า : “จาวหยาง เจ้าขึ้นไปก่อน”

แต่ก็ไม่ยากที่จะได้ยิน ในน้ำเสียงของเย่แจ๋หยิ่งราวกับว่ากำลังอดทนต่อความเจ็บปวด

“เสด็จ เสด็จอา เช่น……เช่นนั้นท่านล่ะ?”

พระราชธิดาจาวหยางที่ได้รับความตกใจไม่น้อย ในเวลานี้น้ำเสียงที่พูดมีความสั่นเครือ

“ขึ้นไป!”

น้ำเสียงที่ไม่ต้องสงสัยดังมาอีกครั้ง

อะไร?

ผู้หญิงที่อยู่ในรถม้าของเย่แจ๋หยิ่งคือโหล่วเย่ว……

แต่ว่า มีไม่เสียงของโหล่วเย่วดังมาอีก และก็ไม่มีเสียงของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้นอีก

นี่ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง

คุณชายทั้งหกยังคงลากรถม้าอย่างสุดแรงกำลัง แต่รถม้ายังคงเอียงลงไปข้างล่างเรื่อยๆ ตอนนี้ล้อรถทั้งสองข้างได้แขวนอยู่กลางอากาศแล้ว

ความเร็วที่รถม้าเอียงเริ่มเร็วมากขึ้น

แต่กลับไม่เห็นคนออกมาจากในรถม้า

ทำให้ในใจของนางบังเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย และในเวลานี้

“สวบ……” เสียงเบาหนึ่งดังขึ้น

“อ้า……”

หนึ่งในคนที่ลากรถม้า ไม่รู้ว่าเท้าลื่นหรือว่าอย่างไร หกล้มไปทันที

คราวนี้…….

ไม่เพียงแรงลากลดลงไปหนึ่ง แต่กลับทำให้คนที่ลากรถม้าได้รับผลกระทบ

รถม้าพลิกตกไปในพริบตา

หลานเยาเยาตกใจ ลงมือในอย่างกะทันหัน เมื่อมือเรียวยาวขาวสะอาดโบกสะบัด ด้ายเงินยาวๆบางๆเส้นหนึ่ง ยิงออกจากกลไกของกำไลบนข้อมือทันที จากนั้นพันรอบรถม้าที่ใกล้จะตกลงไป

วินาทีต่อมา

ทันทีที่นางรู้สึกว่ามือแน่นขึ้น แรงลากที่มีพลังได้ลากกระทั่งคนและม้าไปด้านหน้า

สวนหยู่คำรามลากเสียงยาว กีบม้าทั้งสี่ดันพื้นเอาไว้อย่างสุดแรง แต่ทำอะไรไม่ได้ที่กีบม้าเหมือนกับว่าจะทาน้ำมันหล่อลื่นเอาไว้ ได้ลื่นไปข้างหน้าตลอดเวลา

หลานเยาเยาที่อยู่บนหลังม้าเห็นดังนั้น ท่าจะไม่ดี

จึงได้ใช้กำลังภายในทั้งหมดของร่างกายทันที กำหนดเข้าไปบนด้ายเงิน

เริ่มค่อยๆ……

รถม้าจึงได้หยุดเอนเอียง ทุกคนก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

คุณชายผู้นั้นที่หกล้ม รีบลุกขึ้นมาลากต่อ

ในไม่ช้า!

เสียงทุ้มต่ำของเย่แจ๋หยิ่งก็ดังออกมาจากรถม้าอีกครั้ง

“รับไว้!”

ในไม่ช้าพระราชธิดาจาวหยางก็ถูกเย่แจ๋หยิ่งผลักจนเหินออกไปด้วยฝ่ามือ ภายใต้ความตื่นตระหนกของพระราชธิดาจาวหยาง เซียวจิ่นหยูเหาะไปรับไว้ทันที จากนั้นก็ปกป้องนางไว้ในอ้อมอก

“พระราชธิดา ไม่ต้องกลัว ปลอดภัยแล้ว”

น้ำเสียงที่สุภาพนุ่มนวลดังขึ้นข้างหูของพระราชธิดาจาวหยาง เดิมทีนี่เป็นน้ำเสียงที่นางควรจะชอบฟังที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา กลับเป็นร้องไห้อย่างเป็นห่วงพร้อมพูดว่า :

“เสด็จอายังอยู่ด้านใน รีบ รีบช่วยเสด็จอา”

“พระราชธิดาวางใจได้ อ๋องเย่จะไม่เป็นอะไร”

เซียวจิ่นหยูมองรถม้าด้วยความสงสัย มีม่านสีดำกั้นไว้ เขาไม่รู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งทำอะไรอยู่ด้านใน

กลับกัน ก็ได้เห็นเทพธิดาลงมือช่วยเหลือได้ทันเวลา แววตาที่แสดงออกถึงความสับสนที่สุด

และคุณชายที่ลากรถม้าที่เหลืออีกห้าคน มีเทพธิดาช่วยเหลือ

แม้ว่าจะสบายขึ้นมา แต่ก็ยังกินแรงมากอยู่ดี

เย่หลีเฉิงก็ยิ่งออกแรงลากรถม้าไว้อย่างสุดกำลัง

หลังจากที่พระราชธิดาจาวหยางขึ้นมาแล้ว เขาของตะโกนร้องอย่างสุดเสียง :

“เสด็จอา ท่านรีบขึ้นมา พวกเราเกือบจะไม่ไหวแล้วเพคะ”

ที่ตอบเขาก็คือความเงียบกริบ

“เสด็จอา เสด็จอา ท่านเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?” เย่หลีเฉินตะโกนต่อไป

แต่ว่า!

ยังคงไม่มีคนตอบ

กลับเป็นพระราชธิดาจาวหยางที่ได้รับความตกใจพูดอย่างร้อนใจว่า :

“องค์ชายรัชทายาทเสด็จพี่ เมื่อคืนเสด็จอาได้รับบาดเจ็บ เมื่อครู่รักษาบาดแผลอยู่ในรถม้า เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ ยังถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันอีก เขากระอักเลือดเยอะมาก ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไรบ้างแล้วเพคะ”

นางยิ่งพูด ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

ผู้ที่ได้ฟังก็ล้วนตกตะลึง ต่างคนต่างมีสีหน้าประหลาดออกไปในชั่วขณะ

อ๋องเย่ที่ไม่มีอะไรทำไม่ได้ไม่เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ ยังโดนขัดจังหวะในระหว่างการรักษา นั่นก็คือความซวยซ้ำซวยซ้อน

ตอนนี้เป็นเช่นนี้ ก็เท่ากับว่า……

หลานเยาเยาได้ยินดังนั้น กำมือแน่น

หากว่าตอนนี้นางปล่อยมือ เย่แจ๋หยิ่งก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ในใจของนางเกิดความคิดอยากจะปล่อยวางลง

แม้ว่าวิธีเช่นนี้จะเป็นการกระทำที่ต่ำทรามไปบ้าง

แต่ว่า……

“เทพธิดา หากว่าพวกเราหยุดรถม้าไว้ได้ ท่านใช้ด้ายเงินพาอ๋องเย่ขึ้นมา ได้หรือไม่?”

เซียวจิ่นหยูที่ได้ปล่อยพระราชธิดาจาวหยางแล้ว มองดูด้ายเงินในมือของหลานเยาเยา จึงได้เสนอแผนการขึ้นมา

คราวนี้!

ทุกคนทั้งลากรถม้าอย่างสุดชีวิตไปพลาง ทั้งหันกลับมาดูหลานเยาเยาไปพลาง

หลานเยาเยาแอบยิ้มให้ตัวเองด้วยความขื่นขม!

นางเป็นถึงเทพธิดาที่ให้พรความโชคดีแก่ประชาชน ในสายตาของมนุษย์โลกนางก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จะไม่ได้ได้หรือ?

ช่างเหอะ!

ยังไงซะเย่แจ๋หยิ่งของยังมีค่าให้ใช้ประโยชน์ได้อยู่

อยากจะล้มราชครู เขาจะเป็นหมากที่สำคัญมาก

ยิ่งไปกว่านั้น……

ถ้าเขาตายไปเช่นนี้ นั่นก็เสียเปรียบเขามากเลย!

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพยักหน้าไปเล็กน้อย : “ได้ พวกท่านนิ่งไว้อย่าขยับ”

รอจนเซียวจิ่นหยูมาถึงข้างรถม้าอย่างรวดเร็ว เมื่อออกแรงดึงรถม้าไว้

หลานเยาเยาก็รีบเก็บด้ายเงินกลับมาทันที

จากนั้นก็หมุนตัวยิงด้ายเงินออกไป มัดรอบหินก้อนที่ใหญ่มากไว้ ถึงได้เหาะไปทางรถม้า

ยังไงซะเรื่องที่นางมีกำลังภายใน หลังจากกลับถึงเมืองหลวงก็ไม่สามารถซ่อนไว้ได้อีก

ดังนั้น!

ตอนนี้แสดงออกมาอย่างผ่าเผยก็ดี

เมื่อนางถึงบนรถม้าที่โยกเยกจะตกเขา ขณะที่แหวกม่านออก ก็ตกตะลึงกับกระเป๋าพยาบาลอัตโนมัติที่อยู่ในอ้อมกอดของเย่แจ๋หยิ่งทันที

นี่เขาถึงขนาดเอากระเป๋าพยาบาลติดตัวออกมาด้วย?

และ ในเวลานี้ดวงตาทั้งสองข้างของเขาปิดสนิท มุมปากมีคราบเลือด น่าจะสลบไปแล้ว แต่เขาก็ยังกอดกระเป๋าพยาบาลไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมือ……

“อ๋องเย่? อ๋องเย่?”

นางลองทดสอบร้องเรียกเขาดูสองสามคำ

หลังจากที่ไม่ได้ยินคำตอบ ก็รีบไปที่ข้างตัวเขา คิดจะจับที่แขนของเขา จากนั้นก็พาเขาเหาะขึ้นไป

ในเวลานี้!

มีคนตะโกนเสียงดัง : “รีบขึ้นมา จะไม่ไหวแล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท