หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 248 แค่บังเอิญผ่านมา

บทที่ 248 แค่บังเอิญผ่านมา

บทที่ 248 แค่บังเอิญผ่านมา

แม้ว่าสุดท้ายจะไม่พบสิ่งใด

แต่คำสั่งที่ให้ไปตามหาตราหยกแห่งราชวงศ์เก่า ด้วยเหตุที่หย่อนยานในหน้าที่ ทั้งยังปัดความรับผิดชอบ เช่นนั้นจึงจะถูกสอบสวนอย่างละเอียด

ส่วนเฉียนตุ้นในฐานะไส้ศึกแห่งราชวงศ์เก่า ก็โดนฮ่องเต้สั่งประหารชีวิตทั้งชั่วโคตร

หลานเยาเยาในฐานะเทพธิดา ด้วยคุณงามความดีในการเสาะหาตราหยกแห่งราชวงศ์เก่า ฮ่องเต้จึงพระราชทานตำหนักหนึ่งหลังให้แก่นาง และพระราชทานนามว่าตำหนักเทพธิดา ทั้งยังพระราชทานแก้วแหวนเงินทองและผ้าไหมที่งามวิจิตรให้มากมายก่ายกอง

เดิมทียังอยากจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้แก่นาง

แต่ว่า……

คนที่กินเก่งดื่มเก่งอย่างหลานเยาเยา ก็ไม่ได้จะรับเอาไว้

อย่างไรก็ตาม!

นางได้ยกเรื่องตราหยกแห่งราชวงศ์เก่าขึ้นมาในการพบปะแล้ว จะไปกินอาหารที่งานรื่นเริงนั่นด้วยเหตุอันใด?

นางเชื่อว่า ฮ่องเต้เองก็ไม่มีอารมณ์เช่นกัน!

ถึงแม้ว่าเขาจะพบตราหยกแห่งราชวงศ์เก่าที่ใฝ่ฝันแล้ว แต่พระองค์ก็คิดว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองท่านเป็นผู้จงรักภักดี

คนหนึ่งกลับเป็นไส้ศึกของราชวงศ์เก่า

อีกคนก็ถูกปลดด้วยความกริ้วโกรธ

สิ่งที่ฮ่องเต้เป็นกังวลมากที่สุดในเพลานี้ ก็คือคนอื่นๆเหล่านั้นที่พระองค์คิดว่าภักดีต่อพระองค์ หากมิได้ภักดีอย่างที่พระองค์คิดล่ะ?

จากการคาดเดา!

ตอนนี้ไม่ว่าพระองค์จะมองไปที่ผู้ใดก็ดูน่าสงสัยกันไปหมด

ดังนั้นหลังจากครานี้ไป……

นางจะใช้โอกาสก่อนที่ราชครูจะกลับมายังเมืองหลวง ทำให้ฮ่องเต้เชื่อนางอย่างสนิทใจ

และแล้ว ก็เผชิญกับช่วงที่ฮ่องเต้จะจัดงานเลี้ยงภัตตาหารเป็นการต้อนรับให้แก่นาง นางจึงแสดงออกทันทีว่าเหนื่อยมากแล้ว

ฮ่องเต้ก็หมดหนทาง พูดได้แค่ว่า ไว้จัดงานวันหลังแล้วกัน

จากนั้นก็ถอนตัวออกมา

หลังออกมาจากพระราชวัง หลานเยาเยาก็เตรียมตัวจะขึ้นรถม้ามุ่งไปยังจวนที่ฮ่องเต้พระราชทาน

“เทพธิดา ช้าก่อน!”

เหมือนว่าจะมีเสียงใสดั่งหินหยกดังขึ้น หลานเยาเยาที่นั่งในรถม้าก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็เปิดผ้าโปร่งสีแดง พลางถามว่า:

“รัชทายาทมีสิ่งใดฤา?”

ความประทับใจในใจของนางที่มีต่อเย่หลีเฉินนั้น ไม่ดีมาตลอด

เขากับหลานชิวหยุนสมรู้ร่วมคิดกันฆ่าเจ้าของร่างเดิม ทั้งยังเคยรังเกียจความไม่สวยของนางเป็นอย่างมาก

เพลานี้!

นางกลับมาอย่างน่าทึ่ง เปลี่ยนยศเปลี่ยนศักดิ์ไปแล้ว แน่นอนว่านางก็ต้อง “ทำดี” กับเขาเสียหน่อย

“ข้าได้รับคำสั่งจากเสด็จพ่อ ให้ไปส่งเทพธิดากลับจวน หากเทพธิดาต้องการสิ่งใดสามารถบอกได้โดยไม่ต้องเกรงใจ”

ในโถงวันนี้ เทพธิดาเฉียบสุดๆ

การพูดอย่างยโสโอหัง จนเสด็จพ่อมิอาจละสายตาไปจากนาง พูดคำง่ายๆไม่กี่คำ ก็ทำให้ไส้ศึกที่ซ่อนตัวอยู่ข้างกายของเสด็จพ่อเป็นที่ประจักษ์

ทั้งยังบังเอิญทำให้สิงปู้ช่างชูไปพบเข้ากับตราหยกแห่งราชวงศ์เก่าอีกด้วย

เป็นผู้ที่น่าตกตะลึงเสียจริง!

เพียงแต่……

แต่เทพธิดาที่น่าหลงใหลองค์นี้ลึกลับจนเกินไป

เขามองนางไม่ออกเลยจริงๆ……

“ท่านมาได้ถูกเวลาจริงเชียว ข้ากำลังจะไปยังจวนที่ฮ่องเต้พระราชทานให้แก่ข้า เป็นกังวลว่าจะไม่มีคนทำความสะอาดจวน เช่นนั้นก็ต้องรบกวนองค์รัชทายาททำความสะอาดให้แล้วล่ะ”

พูดจบ หลานเยาเยาก็ลูบไล้ผมที่ห้อยมาด้านหน้า พลางจ้องมองเย่หลีเฉินพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

เหตุที่ฮ่องเต้ส่งเย่หลีเฉินมา คิดว่านางจะไม่เข้าใจงั้นสิ?

นางหาได้มีความสนใจในตัวเย่หลีเฉินไม่ แต่ด้วยจุดประสงค์ส่วนตัว นางก็ต้องจำใจสื่อสารกับเขา

แต่ก็ไม่เป็นปัญหา!

ไม่ใช่ว่าเขาจะไปส่งนางที่จวนพระราชทานอยู่แล้วหรอกรึ? เช่นนั้นก็จับเขามาชะล้างสักหน่อย

“……แค่ก! ไม่ลำบาก!”

แม้เย่หลีเฉินจะเก็บสีหน้าไม่อยู่เล็กน้อย

แต่ถึงอย่างไร!

เขาก็เป็นองค์รัชทายาทแห่งประเทศก่วงส้าที่ไม่ยำเกรงผู้ใด เป็นคนที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ในอนาคต

เขาจะไปทำงานของพวกทาสได้อย่างไรกัน?

แต่……

เขาก็ยังฝืนใจตอบรับกลับมา

เมื่อครู่เขาบอกว่ามีปัญหาใดให้บอก เมื่อเทพธิดาบอกมา เขาจะกลับคำได้อย่างไรกัน?

จะอย่างไรเสีย!

ในเพลานี้เขาเป็นดั่งตัวแทนใบหน้าของเสด็จพ่อ

เช่นนั้น พวกเขาจึงเรียงกันขึ้นรถม้าไปทีละคน เพื่อไปยังจวนพระราชทาน

เดิมทีเย่หลีเฉินคิดเพียงว่าสั่งองครักษ์มาเพิ่มอีกสักหน่อย ครู่เดียวจวนก็สะอาด โดยที่ไม่ต้องลงมือทำเอง

แต่!

ความจริงมันยิ่งกว่าที่เขาคิด

เมื่อเข้ามาในจวน หลานเยาเยาก็ให้จื่อเฟิงเอาไม้กวาดมาให้เขา

ส่วนนางเองก็ทำเป็นเช็ดถูโต๊ะ

เมื่อเห็นเช่นนั้น!

เย่หลีเฉินก็มีท่าทีบางอย่าง มองดูเทพธิดาที่เริ่มเช็ดโต๊ะ แล้วหันมามองไม้กวาดของตน……

เทพธิดาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพก็ยังลงมือทำเอง เขาเป็นเพียงรัชทายาท ทั้งยังเป็นผู้ชาย แต่ก็สู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้อย่างงั้นรึ?

เช่นนั้น ความฮึกเหิมก็เกิดขึ้นในใจ

จึงหยิบไม้กวาดมาปัดกวาดพื้น ในขณะที่เย่หลีเฉินมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน หลานเยาเยาก็หายแว๊บ มาอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่สวนด้านหลัง แล้วหยิบเมล็ดแตงโมจากแขนเสื้อมาแทะๆๆ

กินไปแทะไป

หลานเยาเยาถือเมล็ดแตงโมไว้มือนึง

จากนั้นก็เอามือเข้าไปในแขนเสื้อหยิบแอปเปิ้ลจากในระบบออกมา

หลังจากหยิบออกมาแล้ว นางก็โยนไปทางต้นไม้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว……

“โอ้ย……”

เมื่อได้ยินเสียงร้องที่เจ็บปวด จึงได้ลงมาจากต้นไม้ใหญ่

มีเสียง“ตุ๊บ” พร้อมเสียงอู้อี้อันเจ็บปวด

หลานเยาเยาจ้องมองคนที่นางทำให้ตกลงมาอย่างสนอกสนใจ

นางอยากจะดูสักหน่อย ว่าผู้ใดกันมาด้อมๆมองๆนาง

ไม่ดูไม่ได้ เมื่อได้เห็น ก็เกือบจะหัวเราะเหมือนหมูออกมา

คนที่กลิ้งอยู่บนพื้นนั้นมิใช่โม่เหลียงเฉินหรอกรึ?

ชะตาคนมันจะโดนอะเนอะ!

ช่วงที่ผ่านมา เขาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหัวขโมย และนางก็ได้ทุบเขาด้วยผลไม้ป่าอย่างเหี้ยมโหด

ในเพลานี้นางได้เปลี่ยนไปอย่างน่าทึ่ง และก็มาทุบเขาด้วยผลไม้อีกครั้ง

หึ!

มันคือผลแห่งกรรมนี่เอง

ผู้ใดสั่งให้เขายกนางเป็นหลังคาบังฝนจนเปียกปอนกันล่ะ? เรื่องนี้นางก็ยังไม่ได้เอาคืนเลยนะ!

ในโอกาสอันดีเช่นนี้

ดังนั้น……

“อะแฮ่มอะแฮ่ม!”

นางตั้งใจที่จะไอออกมา แต่ก็ได้เห็นโม่เหลียงเฉินใช้พลังในการลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมจัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผม เอนกายอิงต้นไม้ใหญ่ด้วยความรู้สึกดีในความเทพเท่ของตัวเอง

ทันใดนั้น!

ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง จากนั้นก็ขยี้ตา แล้วก็เบิกตากว้างอีก แล้วก็ขยี้ตาอีก

“ไปไหนแล้วล่ะ?”

เมื่อครู่ไม่ได้นั่งอยู่บนต้นไม้หรอกรึ?

หรือว่าเขาจะตาพร่าเพราะโดนผลไม้หล่นใส่อย่างไม่ทันตั้งตัว?

เขามองดูอีกสองสามครั้ง หลังจากที่ไม่เห็นใครแล้วจริงๆ โม่เหลียงเฉินก็เอื้อมมือมาขยี้ตาข้างนึง แล้วใบหน้าของเขาก็ยู่ยี่ด้วยความเจ็บใจ

ไม่มีคนสักหน่อย เขาจะแอ็คอยู่ทำไม?

เช่นนั้น จึงรีบหันหลังกลับ

จู่ๆใบหน้าอันน่าหลงใหลก็ปรากฏตรงหน้า โดยขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดวงตาที่เฉียบแหลม!

ภาพลักษณ์อันทรงเสน่ห์!

รอยยิ้มบางๆที่แปลกประหลาด……

“กรี๊ด……”

โม่เหลียงเฉินระเบิดความกลัวจนตัวโก่งอย่างกับแมว เด้งตัวออกไปหลายสิบเมตรในพริบตา ขนลุกซู่ไปทั่วร่าง

คนหรือผีวะเนี้ย?

หลอนเกินคนไปแล้ว!

กำลังภายในของเทพธิดามีมากมายเพียงใดกัน? จู่ๆจะมาโผล่อยู่หลังเขาเงียบๆได้อย่างไร?

“ไม่ใช่ว่ากำลังมองหาข้าอยู่หรอกรึ? ดูเหมือนท่านจะกลัวนะ ขวัญหายหมดแล้วมั้งนี่”

หลานเยาเยาเหาะขึ้นไปบนกิ่งไม้ทันที พลางพูดต่อว่า:

“ท่านมาหาที่ตายหรือไร?”

โดยปกติแล้วนางจะไม่แสดงพละกำลังภายในของตนเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเจอกับโม่เหลียงเฉิน นางต้องเผยมันออกมา

ก็เพราะว่า!

โม่เหลียงเฉินเป็นคนของเย่แจ๋หยิ่ง

โม่เหลียงเฉินที่ยังหลอนไม่หาย ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายสงบจิตสงบใจ

เทพธิดา ช่างงดงาม งามเหลือเกิน!

แต่ว่า น่ากลัวไปหน่อย

ในสายตาของโม่เหลียงเฉิน ณ ตอนนี้ เทพธิดาเป็นดั่งปีศาจร้าย ที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อเขาได้ในคำเดียวอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น!

เขาจึงได้ลืมไปแล้วว่าตนมาที่นี่เพื่อสิ่งใด

“ไม่ใช่ๆ แค่ผ่านมา แค่เผอิญผ่านมาจริงๆ ท่านอย่าได้ถือสาเลย!”

พูดจบ เขาก็หันหลังไป ทำท่าเก๋าเกมเดินจากไป

“……”

เอ่อ……

โม่เหลียงเชิงเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อใดกัน เมื่อก่อนไม่ได้เป็นคนก้าวร้าวหรอกรึ?

หึหึ!

วันพระไม่ได้มีหนเดียว และปีนี้มันก็มาถึงที่พำนักของข้า

“บ๊ายบาย ท่านชายเหลียงเฉิน ค่ำๆจะแต่งผีไปหลอกเจ้านะ!”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท