หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 268 ลูกธนูสามดอกอันแหลมคม

บทที่ 268 ลูกธนูสามดอกอันแหลมคม

บทที่ 268 ลูกธนูสามดอกอันแหลมคม

เทพธิดาที่กล้าเถียงแม้แต่กับเสด็จพ่อ ตอนนี้ที่ได้พูดกับเขา ดูเหมือนว่าจะมีความจองหองไม่เท่าแต่ก่อนแล้ว……

นี่ไม่ได้ชี้ให้เห็นแล้วรึว่า ความประทับใจของเทพธิดาที่มีต่อเขามันเยอะกว่าความประทับใจที่มีต่อเสด็จพ่ออยู่มากโข?

เมื่อได้รู้เช่นนี้ ใจของเขาก็มีชีวิตชีวา

“ตามข้ามา ฮึ่ยย่ะ……”

ไม่นานนัก หลานเยาเยาก็ตามเย่หลีเฉินมาถึงทางทิศใต้ของเขตล่าสัตว์

ชัดเลยว่าเย่หลีเฉินไม่ใช่คนแรกที่รู้ว่าทางทิศใต้ของเขตล่าสัตว์จะมีเหยื่อให้ล่าเยอะ ดังนั้น เมื่อพวกเขามาถึงที่แห่งนี้ก็เจอผู้คนมากมายมาประดังกันอยู่

เมื่อพวกเขาเห็นรัชทายาทพาเทพธิดามา

แต่ละคนก็ประหม่ากันขึ้นมา

“ข้าไปล่ะ เทพธิดามาแล้ว ทุกๆคนอย่าได้ชักช้าลีลา หากรอช้าเทพธิดาจะสอยไปหมดพอดี”

ไม่รู้ว่าผู้ใดพูดออกมา

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันล่าสัตว์เหล่านั้น ก็กรูไปกันหมด

หลานเยาเยา:“……”

นางปราดเปรื่องปานนั้นเชียวรึ?

ไม่ขนาดนั้นมั้ง!

ก็แค่ขี่ม้าเร็วหน่อย ยิงธนูแม่นหน่อยก็เท่านั้นเอง!

ก็ไม่น่าจะทำให้พวกเขาเกรงกลัวกันขนาดนี้มั้ง?

เมื่อเห็นเทพธิดาดูหมดคำพูด เย่หลีเฉินจึงยกมุมปาก

“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก แม้พวกเขาจะได้เห็นเหยื่อก่อน ก็ใช่ว่าพวกเขาจะยิงโดน เทพธิดา ท่านน่ะปราดเปรื่อง ไม่แน่เสด็จอาอาจแพ้พ่ายให้แก่ท่านก็เป็นได้”

เย่หลีเฉินคาดหวังอย่างมากว่าผู้ชนะในครั้งนี้จะเป็นนาง

ประการแรก คือหวังให้นางชนะจริงๆ

ประการที่สอง เขาอยากจะเห็นมากๆว่าเสด็จอาผู้แพ้การแข่งขันจะมีท่าทีเช่นไร?

เขาล่ะอยากเห็นทีท่าของเสด็จอาที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้จริงๆเลย!

“แพ้งั้นรึ? ก็ไม่แน่ ทักษะการยิงธนูของอ๋องเย่นั้นดีกว่าข้าอยู่บ้าง”

หลานเยาเยาก็แค่พูดตามความเป็นจริง

ทักษะการยิงธนูของเย่แจ๋หยิ่งนั้นเก่งกาจอย่างถ่องแท้ ไม่งั้นเขาจะใช้เวลาอันสั้น ล่าเหยื่อจนตามนางทันอย่างไร?

“ท่านดูจะรู้จักเสด็จอาดีเสียจริง”

“แม้ข้าจะเดินทางท่องไปหลายที่หลายทาง แต่หาได้ปิดหูปิดตาไม่รับรู้สิ่งใดไม่ อ๋องเย่ผู้เป็นอ๋องเทพสงครามแห่งประเทศก่วงส้า ข้าเองก็ได้ยินวีรกรรมของเขามาบ้าง”

อีกทั้ง!

ในเขตล่าสัตว์เมื่อครู่ ก็ได้พบกับอ๋องเย่อยู่หลายครา ได้เห็นทักษะการยิงธนูของเขา ก็ดีกว่าข้าอยู่บ้างจริงๆ”

นางหาได้กลัวเย่หลีเฉินเคลือบแคลงสิ่งใดไม่

เพราะในท้ายที่สุด!

ชื่อเสียงและวีรกรรมของเย่แจ๋หยิ่ง ทั่วโลกเขาต่างรู้กันหมด การที่นางรู้ก็เป็นเรื่องปกติ

หลังได้ยินนางตอบ

เย่หลีเฉินก็พยักหน้าเข้าใจ

จากนั้นพวกเขาสองคนก็ไปล่าสัตว์ด้วยกัน สิ่งที่ทำให้หลานเยาเยาประหลาดใจคือ ทักษะการยิงธนูของเย่หลีเฉินก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน

“องค์ชายรัชทายาท ทักษะการยิงธนูของท่านก็ไม่เลวนี่”

หรือว่าเย่หลีเฉินจะซ่อนความแข็งแกร่งของตนมาตลอด?

“เทพธิดาก็ว่าไป!”

เย่หลีเฉินคำนับเล็กน้อย ดวงตาของเขาฉายแววโดดเด่นแปลกตา

หลังจากเห็นเทพธิดาดูไม่ได้ใส่ใจนัก เขาก็แอบโล่งใจไปเปาะนึง

ไม่คิดเลยว่า จะแสดงทักษะการยิงธนูออกมาโดยไม่รู้ตัว

หากเสด็จพ่อรู้เข้า เดาว่าคงจะไม่ได้มีสีหน้าที่ยินดีปรีดาเป็นแน่

เพียงแต่ว่า……

ไม่นานนัก เขาก็รู้สึกหมองหม่นอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เย้ยหยันตนเอง

ใช่แล้วล่ะ ไม่ว่าทักษะการยิงธนูของเขาจะดีหรือไม่ดี แล้วเทพธิดาจะมาอะไรด้วย?

ทันใดนั้น!

เสียง “ฟิ้ว”

ลูกธนูอันแหลมคมที่เย็นยะเยือกพุ่งผ่านอากาศมา โดยเป้าหมายคือหลานเยาเยา ทั้งยังมุ่งมาที่หัวใจของนางอีกด้วย

ท่าทีของเย่หลีเฉินแปรเปลี่ยนไป หลังตะโกนลั่นว่า “ระวัง” ก็มีปฏิกิริยาอันรวดเร็ว เหาะไปทางเทพธิดาในทันที

หลานเยาเยาไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

นางรู้อยู่แล้วว่ามีบางสิ่งผิดปกติไป ในช่วงที่ลูกธนูอันแหลมคมพุ่งมา นางก็คิดไว้แล้วว่าจะทำอย่างไร

ผู้ใดจะรู้ได้……

ว่าเย่หลีเฉินจะกระโจนเข้ามา เหวี่ยงนางลงจากหลังม้า

แม้ว่าวิธีนี้จะหลบลูกธนูอันแหลมคมได้ แต่ภาพลักษณ์ของนางดูจะย่ำแย่ไปหน่อย

โชคดีว่าตอนที่ยังตกไม่ถึงพื้น เย่หลีเฉินก็ได้หมุมโลกทั้งใบอย่างรวดเร็ว โดยใช้ตัวของเขาเป็นที่รองรับ

ซึ่งมันช่วยรักษาภาพลักษณ์ของนางไว้

ดังนั้นหลังจากตกลงถึงพื้น นางจึงไม่ได้ตกโดนพื้น แต่จบลงอยู่ในอ้อมกอดของเย่หลีเฉิน

นางถึงขนาดได้ยิน เสียงหัวใจของเย่หลีเฉินที่เต้นระรัว ทั้งยังได้ยินเสียงฮึดฮัดอยู่เหนือหัวนาง เดาว่าคงจะกระแทกแรงไม่เบา

เพียงแต่ว่า……

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงโอบกอดนางไว้แน่นอยู่ในอ้อมแขน

“ฟิ้ว……”

“ฟิ้ว……”

ลูกธนูอันแหลมคมที่เย็นยะเยือกอีกสองลูกพุ่งมา

หลานเยาเยาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกมือใช้กำลังภายในทำลายลูกธนูอันแหลมคม

แต่ในไม่ช้า นางก็พบว่ามันไม่ง่าย

ลูกธนูอันแหลมคมที่ยิงมานั้นถูกอัดฉีดด้วยกำลังภายใน และคนที่ซุ่มยิงธนูจะต้องมีกำลังภายในอันสูงส่ง แม้แต่ตอนที่นางใช้กำลังภายในปัดลูกธนูอันแหลมคม ก็ถึงกับชาไปทั้งแขน

ตั้งแต่ที่นางแอบมีกำลังภายในมา

ก็น้อยครั้งมากที่จะเห็นคนที่มีกำลังภายในมากกว่านาง และในตอนนี้ นางกล้ารับประกันเลยว่า ผู้ที่ซุ่มโจมตีนางต้องมีกำลังภายในที่ไม่ด้อยไปกว่านางเป็นแน่

ดวงตากลมโตที่ดำขลับของหลานเยาเยาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นก็มองอย่างระวังไปทางต้นตอที่ลูกธนูอันแหลมคมพุ่งมา

คิดไว้แล้วว่า คงจะมีการลอบสังหารที่ปะทะกันอย่างยิ่งใหญ่เกิดขึ้น

แต่ที่แปลกคือ

คนที่ซุ่มโจมตีนาง หลังยิงลูกธนูอันแหลมคมออกมาสามดอก อยู่ๆกลิ่นอายของความอันตรายก็จางหายไป

จากนั้น ก็ไม่มีลูกธนูอันแหลมคมยิงมาแล้ว

สรุปเลยว่า การลอบสังหารอันลึกลับครั้งนี้ ก็จางไปอย่างลึกลับเช่นกัน

เมื่อเย่หลีเฉินลุกขึ้น ก็รีบมาอยู่ข้างๆนาง คุ้มกันอยู่ข้างตัวนาง

ครู่ต่อมา!

เมื่อเห็นว่ามิมีอันตรายใดๆแล้ว เขาก็หันตัวไปขึ้นหลังม้าในทันใด ด้วยใบหน้าที่หมองหม่นมิเปลี่ยนแปลง

ในเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์แท้ๆ ยังเกิดขึ้นได้กลางวันแซกๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีการลอบสังหารเช่นนี้

อีกทั้ง!

เป้าหมายของการลอบสังหารก็เป็นเทพธิดาที่เพิ่งจะมาเยือนเมืองหลวง

“มีอย่างที่ไหน ใต้ฝ่าพระบาทแท้ๆ ยังกล้าลอบสังหารกันกลางวันแสกๆ ข้าจักต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เทพธิดาจงวางใจ เดี๋ยวข้าจะรีบให้องครักษ์สืบสาวราวเรื่องผู้ที่ลอบสังหารให้จงได้”

ผู้ใดจะรู้ได้……

ว่าจะถูกหลานเยาเยาขวางไว้

“ไม่จำเป็น ผู้ที่ลอบสังหารกล้าลอบสังหารกลางเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ ก็ต้องรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี และนอกจากลูกธนูสามดอกที่ยิงมา พวกเราหาได้เห็นหน้าคร่าตาของผู้ลอบสังหารไม่ แล้วจักสืบรู้ได้อย่างไร?”

จะว่าไปแล้ว

วันนี้ในช่วงที่นางหาที่แอบกินน่องไก่ พวกชายชุดดำเหล่านั้นที่เจอเข้าก็ยังไม่ปรากฏตัวกันเลยนี่

เดาว่าการลอบสังหารคงยังไม่จบลง

เมื่อเห็นนางพูดแบบส่งเดช กับท่าทีที่ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

เย่หลีเฉินก็รู้สึกถึงความใจเย็นอันนิ่งสงบของนางในทันที

ราวกับว่าการลอบสังหารเช่นนี้ นางชินชาไปนานแล้ว

เช่นนั้นในแววตาของนางจึงไม่มีความปั่นป่วนเลยแม้แต่น้อย

แต่!

เขาจะปล่อยมันไปไม่ได้

นี่เป็นการสร้างความอัปยศอดสูแก่คนในราชวงศ์!

“เทพธิดาไม่ต้องกังวล ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าผู้ลอบสังหารชัดเจนนัก แต่การลอบสังหารเทพธิดานั้นเป็นเรื่องใหญ่ ข้าไม่สามารถปล่อยมันไปได้ ข้าจะตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ข้าจะตรวจสอบให้ท่านเอง”

ที่เทพธิดาพูดก็มีเหตุผล

ในเมื่อไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของผู้ลอบสังหาร การสืบสาวราวเรื่องเช่นนี้ เป็นดั่งการงมเข็มในมหาสมุทรจริงๆ

แต่

ผู้ที่มีความสามารถทำเรื่องเช่นนี้ก็มีไม่มากนัก

เช่นนั้นการที่จะตรวจสอบก็ไม่ได้อยากจนเกินกำลัง

“ก็ดี!”

เขารักการตรวจสอบนักก็ตรวจสอบไป ยังไงเสียก็ไม่ได้มีผลต่อนางมากมาย

เพียงแต่ว่า……

เมื่อครู่ที่เขาเหวี่ยงตัวนางลงจากม้านั้นจริงจังมากเลยสินะ?

ก็แจ่มแจ้งอยู่ว่าเป็นการกระทำที่ทั้งหล่อเหลาและอบอุ่นหัวใจ แต่เหตุใดนางถึงไม่สัมผัสถึงมันเลยล่ะ?

กลับรู้สึกน่าขันแทน……

ใช่สิ!

ก็น่าขันนั่นแหล่ะ!

เป็นไปได้ไหมว่าที่เย่หลีเฉินเคยทำกับนางไว้จะมากเกินไป หรือว่าตัวนางเองจะไม่มุ่งทางโลกจริงๆ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท