หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 272 หญิงสาวที่เข้าไปในห้องอาบน้ำ

บทที่ 272 หญิงสาวที่เข้าไปในห้องอาบน้ำ

บทที่ 272 หญิงสาวที่เข้าไปในห้องอาบน้ำ

จากนั้นไม่นาน

ก็ไม่มีอาวุธลับใดโผล่มาอีก ผู้คนจึงค่อยๆได้สติกลับคืนมา แต่ละคนกลับไปยังที่นั่งของตนอย่างเงียบๆ

สุดท้ายคนที่เปิดปากพูดคือไทเฮา เสียงนิ่งสงบมีเมตตาของนางค่อยๆส่งผ่านออกมา

“ดูสิ พวกเจ้าทั้งขุนนางกับบ่าวรับใช้ แต่ละคนทำตัวประสาอะไร”

ไทเฮาพูดจบ

ผู้คนต่างคุกเข่าลงเป็นแถว แต่ละคนต่างรับผิดอย่างวิตกกังวล

ตอนนี้เอง

ไทเฮามองไปยังฮ่องเต้ ชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก“ฮ่องเต้ เทพธิดาช่วยชีวิตฮ่องเต้ไว้ถือเป็นความดีความชอบ ต้องตอบแทน”

สายตาของเหล่าผู้คนที่อับอายต่างมองไปยังร่างของเทพธิดา เมื่อเห็นอาวุธลับบนมือนาง ต่างก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

เป็นเทพธิดาที่ช่วยฮ่องเต้ไว้

ไม่คิดว่าวรยุทธ์ของเทพธิดาจะร้ายกาจเพียงนี้

“อะแฮ่ม”

ฮ่องเต้จัดการกับชุดมังกรที่ดูยุ่งเหยิงอยู่หน่อยๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างแข็งขัน

“ไทเฮาพูดได้ถูกต้อง ข้าจะตกรางวัล และเป็นรางวัลใหญ่ด้วย ข้าจะมอบฉายาเทพธิดาหู้กั๋วให้กับเทพธิดา ตำแหน่งเทียบเท่าองค์หญิง……”(หู้กั๋ว หมายความว่าคุ้มชาติ/ปกป้องประเทศ)

จากนั้นก็ตกรางวัลอื่นๆทั้งสร้อยแหวนเงินทองของมีค่ามากมาย ผ้าแพรผ้าไหมชั้นดีและจวนอาศัย

ชั่วพริบตา ทุกคนต่างอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้

หลานเยาเยาไม่ได้ปฏิเสธ และก็ไม่ได้พยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ คนอื่นก็คิดว่านางยอมรับโดยปริยาย

ต่อมาเป็นรางมอบรางวัลการแข่งขันล่าสัตว์ในครั้งนี้ให้กับผู้เข้าร่วมแข่งขัน แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดก็ต้องเป็นสามอันดับแรก

อ๋องเย่ที่ได้รับชัยชนะที่หนึ่งพร้อมกับหลานเยาเยานั้นไม่อยู่ แต่ฮ่องเต้ก็ให้คนส่งของรางวัลไปให้ยังจวนอ๋องเย่ด้วย

เพียงแต่การมอบรางวัลยังไม่ทันสิ้นสุด ท้องฟ้าก็มีเมฆครึ้ม มีลมกระโชกแรง เหมือนว่าฝนห่าใหญ่กำลังจะมา

ฮ่องเต้ประกาศรางวัลอย่างรวบรัดแล้วก็สิ้นสุดอย่างรวดเร็ว และยังบอกอีกว่าหลังกลับไปยังวังหลวงแล้ว จะให้คนเอารางวัลไปส่งให้ถึงจวนของแต่ละคน

จากนั้นก่อนที่ฝนจะเทกระหน่ำลงมา

เขาและไทเฮา รวมถึงเหล่านางสนมทั้งหลายต่างก็ขึ้นรถม้า รีบจากไปทันที

ฮ่องเต้และไทเฮาต่างก็ไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นๆจะยังคงอยู่ที่นี่ต่อไป

เพราะฉะนั้น

คนในสนามม้าก็ทยอยกันกลับไป

ตอนนี้เอง มีองครักษ์นายหนึ่งร่างกายกำยำ ใบหน้าขาวผ่องเดินมาอย่างรีบร้อน คุกเข่าลงกับพื้นให้นาง คารวะอย่างนอบน้อม

“ถวายคำนับเทพธิดา”

หลานเยาเยาที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเอ่ยเบาๆว่า “อืม”หนึ่งเสียง ยกน้ำชาที่ยังคงอุ่นอยู่ขึ้นมา

ฉับพลัน

ฝนเม็ดหนึ่งได้หยดลงในน้ำชา เกิดเป็นคลื่นหลายชั้น นางจึงว่างน้ำชาลงไปบนโต๊ะอีกครั้ง

“ฝนกำลังจะตกแล้ว ฮ่องเต้ให้หม่อมฉันมาดูแลส่งเทพธิดากลับไป รถม้าได้เตรียมพร้อมแล้ว เชิญเทพธิดาไปพักผ่อนบนรถม้า อย่าตากฝน และรับลมหนาวเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง”

“เช่นนั้นกระหม่อมขอ……”กางร่มให้

เพียงแต่คำพูดขององครักษ์คนนั้นยังไม่ทันได้พูดจบ ก็มองเห็นเงาดำสายหนึ่งลอยมา เขาคิดว่าเป็นนักฆ่า กำลังเตรียมจะชักดาบตรงเอวออกมา เพื่อปกป้องเทพธิดา

จึงพบว่าเป็นเงาดำคนนั้น ที่เป็นองครักษ์สวมหน้ากากที่อยู่ข้างกายเทพธิดา จึงรีบเก็บดาบทันที จื่อซีมาถึงข้างกายหลานเยาเยา กางร่มอันใหญ่ให้นาง

“คุณหนู รถม้ามาแล้ว”

ได้ยินดังนี้

“ไปเถอะ”

หลานเยาเยาพยักหน้า จากนั้นลุกขึ้น จากไปพร้อมกับจื่อซี

แต่เดินไปได้ไม่ไกล หลายเยาเยาก็หยุดเท้าลง หมุนตัวหันกลับไปมองยังโหลวเย่วที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เดิม

อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

วันนี้โหลวเย่วมาพร้อมกับเย่แจ๋หยิ่ง รถม้าของเย่แจ๋หยิ่งตกลงไปในเหวแล้ว และตัวเย่แจ๋หยิ่งเองก็จากไปตั้งนานแล้ว ฮ่องเต้และไทเฮาก็ไม่ได้คิดถึงนาง

ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในสนามม้า

บ้างขี่ม้า บ้างนั่งรถม้า

มีเพียงนางเท่านั้น โหลวเย่ว เป็นถึงองค์หญิง ไม่มีม้า ไม่มีรถม้า และก็ไม่มีคนคิดจะจัดการหารถม้าให้ เพื่อส่งนางกลับจวนอ๋องเย่

นางเหมือนมนุษย์ล่องหน

ไม่มีคนสนใจว่าจะมีนางอยู่หรือไม่

ฉะนั้น

หลานเยาเยาชี้ไปที่โหลวเย่ว พูดกับองครักษ์ที่ฮ่องเต้จัดส่งมา

“เจ้าคุ้มครองส่งนางกลับจวน”

“……พ่ะย่ะค่ะ เทพธิดา ”องครักษ์อึ้งไปเล็กน้อย

จากนั้นก็รีบตอบรับคำสั่ง เชิญพระราชธิดาจาวหยางขึ้นรถม้าอย่างนอบน้อม

หลังจากโหลวเย่วจากไปแล้ว หลานเยาเยายังคงยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้ลมแรงพัดผมปลิวสะบัด มองรถม้าที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างออกไป

ใบหน้างดงามของนางมีรอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้น

ก็ได้

มีเพียงโหลวเย่วเท่านั้นที่ดีต่อนางอย่างไม่มีอื่นใดแอบแฝง

“คุณหนู กลับจวนเถอะ”จื่อซีเอ่ยขึ้นพอดี

“ไม่กลับจวน ”เห็นจื่อซีประหลาดใจเล็กน้อย นางยิ้มบางๆ “ไปอีกสถานที่หนึ่ง ไปให้จื่อเฟิงสะบัดคนที่ถูกส่งมาทิ้งให้หมด”

“ขอรับ”

จื่อซีเอาร่มคันใหญ่ยื่นให้กับนาง แล้วก็ตากฝนจากไป

……

จวนอ๋องเย่

เย่แจ๋หยิ่งกำลังอาบน้ำอยู่ในสระที่เต็มไปด้วยไอน้ำ เขาหลับตาพักผ่อน พิงกับขอบสระ คนที่ไม่เข้าใจเขา คงคิดว่าเขาหลับไปแล้ว

ตอนนี้เอง

หญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสวยสง่า ค่อยๆเปิดประตูเข้ามา

บนร่างของนางคลุมด้วยผ้าลูกไม้ผืนบาง เผยทรวดทรงองเอวอันงดงาม และผ้าปิดหน้าอกที่แสนจะดึงดูดสายตาให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย

เอวเล็กอรชรอ้อนแอ้น ประสานเข้ากันกับสะโพกที่ส่ายไปมา ทำให้เสน่ห์ของนางยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนถึงขีดสุด

ผู้หญิงคนนั้นไม่สวมรองเท้า แต่เดินเท้าเปล่า ในมือถือตะเกียงที่จุดจันทน์เทศเอาไว้ ค่อยๆเดินไปทางเย่แจ๋หยิ่ง

เย่แจ๋หยิ่งเป็นบุรุษที่คนไม่น้อยต่างถวิลหา

มีหญิงสาวไม่น้อยที่คิดหาทุกหนทาง เพื่อที่จะปีนขึ้นไปนอนบนเตียงของเขา

แต่ว่า……

มีคนมากมายที่แม้แต่ประตูจวนอ๋องเย่ยังเข้าไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้เห็นใบหน้าดุจเทพจากฟ้าของเขาเลย

แต่นาง

ไม่เพียงแต่จะเข้าประตูจวนอ๋องเย่ได้ ยังอาศัยอยู่ในจวนอ๋องเย่ด้วย

พระชายาของอ๋องเย่ได้เสียชีวิตไปสามปีแล้ว ในสามปีนี้ ท่านอ๋องไม่ได้สานต่อเรื่องราว ไม่รับชายา และไม่มีนางบำเรอ

แม้ว่าท่านอ๋องจะเป็นเทพสงคราม ทุกคนต่างบูชา ฮ่องเต้ยังเกรงขาม

แต่ยังไงเขาก็เป็นบุรุษ

เป็นบุรุษก็ต้องมีอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป

บุรุษที่เคยลิ้มลองรสของอิสตรี อดทนมานานถึงสามปี หรือแท้จริงแล้วจะไม่คิดอะไรกับหญิงสาวเลยหรือ นางไม่เชื่อ

โบราณว่าไว้ เก๋งใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน วันนี้นางจะใช้ทุกกระบวนท่ามารยา ขึ้นไปบนเตียงของท่านอ๋อง เพื่อให้ท่านอ๋องเอ็นดู

“ใคร”

เย่แจ๋หยิ่งที่หลับตาอยู่ ลืมตาเย็นชาคู่นั้นขึ้นมา แววตามีคลื่นเย็นยะเยือกเป็นระลอก สามารถแช่แข็งได้หมื่นลี้

“ข้าน้อยมารับใช้อาบน้ำให้ท่าน”

เสียงของหญิงสาวอ่อนโยนนุ่มนวล น่าฟังเสียจนทำให้รู้สึกชาไปจนถึงกระดูก

ได้ยินเช่นนี้

เย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้วมุ่น ในตามีแววรังเกียจวาบผ่านไป

“ใครให้เจ้าบังอาจนัก”

เขาเคยออกคำสั่งไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าใกล้สระอาบน้ำของเขา

“ท่านอ๋อง……”

หญิงคนนั้นก็เรียกขึ้นอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง

“ไสหัวออกไป”

“ไม่นะเพคะ ท่านอ๋อง ข้าน้อยถวิลหาท่านเช้าค่ำ คิดถึงทุกค่ำคืน ข้าน้อยรู้ตัวดีว่าเทียบกับพระชายาไม่ได้ แต่ยินยอมจะทำหน้าที่รับใช้ท่านอ๋องแทนพระชายา ข้าน้อยไม่หวังตำแหน่งอะไร ขอแค่ท่านอ๋องอย่าไล่ข้าน้อยไปก็พอ ”

หญิงสาวกลั้นหายใจ กำตะเกียงไว้แน่น เดินไปข้างหน้าอย่างบังอาจ

อีกทั้งยังแกล้งทำผ้าลูกไม้ผืนบางนั้นร่วงหล่น เผยรูปร่างอันอ่อนช้อยงดงามให้เห็น

อย่างไรก็ตาม

เย่แจ๋หยิ่งไม่ชายตามองเลยสักนิด น้ำเสียงเยือกเย็นพูดเพียงคำเดียว

“ฆ่า”

สิ้นเสียง

องครักษ์เงาคนหนึ่งที่ร่างเต็มไปด้วยไอสังหารก็ปรากฏตัวต่อหน้าหญิงสาว

“ตุ๊บ”หนึ่งเสียง เหมือนเสียงของหนักตกลงกับพื้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท