หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 271 เทพธิดาช่วยชีวิต

บทที่ 271 เทพธิดาช่วยชีวิต

บทที่ 271 เทพธิดาช่วยชีวิต

และนี่ยังเป็นการแข่งขันล่าสัตว์ที่ราชวงศ์ได้จัดขึ้น เหยื่อที่นักล่าล่าได้นั้นถือได้ว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ อีกทั้งยังมีผู้ได้รับรางวัลที่หนึ่งพร้อมกันจำนวนสองคน

ขุนนางประวัติศาสตร์ที่ทำการบันทึก ต้องจารึกการแข่งขันล่าสัตว์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์แน่นอน

“หายไป? อ๋องเย่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก”

มองสีหน้าคล้ายเยาะเย้ยของเย่แจ๋หยิ่ง ใบหน้าของฮ่องเต้จากที่เป็นความสงสัยก็ค่อยๆหน้าตึงขึ้น แต่แววตาล้ำลึกเหมือนมีบางสิ่งต้องการหารือ

“ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าเหยื่อที่เทพธิดาล่าได้จะเหมือนกับข้า เพราะฉะนั้นจึงอยากจะถามให้แน่ใจอีกครั้ง มีคนอยู่ที่อันดับหนึ่งพร้อมข้า ข้าไม่โกรธ แต่เสด็จพี่ไยต้องโมโหด้วย?”

ประโยคนี้ไม่ว่าจะฟังในแง่ไหนก็มีนัยซ่อนอยู่

ผู้คนที่ไม่เข้าใจเหตุผล ฟังแล้วรู้สึกงงงวย

แต่ฮ่องเต้ฟังเพียงชั่วครู่ก็เข้าใจแล้ว แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงมองเย่แจ๋หยิ่งตาปริบๆ

เย่แจ๋หยิ่งมองเขาที่กำลังใช้สายตาที่ดูถูก และกำลังเหยียบย่ำแผนการในใจเขาอย่างไม่ปรานี

มือที่อยู่ใต้ชุดมังกรกำหมัดแน่น กำแน่นจน……

จากนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฮ่องเต้รู้สึกผ่อนคลายกะทันหัน มุมปากเผยรอยยิ้มขึ้นมา

“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งยังเกี่ยวพันถึงหน้าตาของราชวงศ์ ข้าจะไม่โมโหได้อย่างไร”

“หน้าตา”

เย่แจ๋หยิ่งสีหน้าจริงจัง วางถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง ทำให้น้ำชาหกกระจาย เลอะไปทั้งโต๊ะ

“หน้าตาของท่านมีประโยชน์อะไร”

ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ของตัวเองหรอกหรือ เรื่องอะไรก็ทำได้

“เจ้า……”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกเย่แจ๋หยิ่งประชดประชันต่อหน้าอย่างเปิดเผย และยังทำต่อหน้าทุกคนด้วย

ฮ่องเต้สีหน้าเขียวสลับขาว เส้นเอ็นที่ลำคอก็เด่นชัดขึ้น แต่กลับทำได้เพียงมองเย่แจ๋หยิ่งที่หยัดกายลุกขึ้น จากนั้นก็จากไปอย่างสง่างาม

หลังจากอ๋องเย่ไปแล้ว

ฮ่องเต้ก็กวาดทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะกระจายเกลื่อน

“ฮ่องเต้โปรดสงบสติอารมณ์ ระวังพระวรกายด้วย”

เหล่าขุนนางต่างพากันคุกเข่าด้วยความระมัดระวังและวิตกกังวล ทุกคนต่างก้มศีรษะลงต่ำเท่าที่จะทำได้

เห็นสถานการณ์เช่นนี้

หลานเยาเยาเลื่อนสายตามองไปบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าตน เดิมทีสายตานางได้เล็งขนมชิ้นหนึ่งไว้แล้ว

แต่นางยังไม่ทันได้ลงมือ ขนมก็ดันตกไปอยู่ในมือของคนตะกละที่อยู่ข้างๆ

นางอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังโหลวเย่วแวบหนึ่ง

ไม่เข้าใจจริงๆ พ่อนางโมโหออกปานนั้น เหลือแค่กระอักเลือดเท่านั้นแล้ว นางยังมีกะจิตกะใจกินอีก

จากการมองอย่างสำรวจของนาง ในที่สุดโหลวเย่วก็รู้ตัวว่าไม่ปกติ

โหลวเย่วเงยหน้าขึ้นมามองนาง จากนั้นก็มองไปรอบๆ สุดท้ายก็หยุดมองไปที่ร่างของฮ่องเต้

แต่ก็แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น นางก็เลื่อนสายตาไปยังขนมที่อยู่ในมือ

จากนั้นก็ถอนหายใจหนึ่งเฮือก เอ่ยเสียงต่ำว่า

“หากข้าสามารถจากไปอย่างสง่างามเช่นเสด็จอาแล้วละก็คงจะดีไม่น้อย”

ที่จวนยังมีของน่ากินมากมายรออยู่

ฉับพลัน

มองท่าทีของโหลวเย่ว หลายเยาเยาอดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้ม แต่เพียงไม่นานรอยยิ้มนั้นก็ถูกตรึงอยู่บนหน้า

จากนั้น

นางสีหน้าจริงจัง

ไอแห่งความอันตรายรุนแรงได้ปะทะหน้าเข้ามา

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไอแห่งความอันตรายนั้นก็ได้อันตรธานไปอย่างรวดเร็ว

ฉับพลัน

ก็ได้ยินเสียงหนึ่งตามมาติดๆ “ฟิ้ว”อาวุธลับชิ้นหนึ่งที่แหลมคมมาก ยิงออกมาจากที่ซ่อน ตรงเข้าไปตรงกลางคิ้วของฮ่องเต้

รวดเร็วแม่นยำรุนแรง และยังมีความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านอยู่

“ฮ่องเต้ระวัง……”

“ปกป้องฮ่องเต้……”

“มีนักฆ่า ปกป้องฮ่องเต้”

เสียดายที่อาวุธลับนั้นเร็วเกินไป องครักษ์ใกล้ชิดทั้งหลายยังไม่ทันได้ตั้งตัว อาวุธลับก็มาถึงหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้แล้ว

อย่างไรก็ตาม……

ฉากที่น่าพิศวงได้เกิดขึ้นแล้ว

ทันใดนั้นอาวุธลับได้หยุดนิ่งอยู่บนอากาศก่อนจะถึงระหว่างคิ้วของฮ่องเต้เพียงไม่ถึงหนึ่งเซนเท่านั้น ทุกคนต่างสูดหายใจเป็นจังหวะเดียวกัน

ทุกคนต่างก็มองเห็น อาวุธลับที่อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของฮ่องเต้ ถูกด้ายสีเงินเส้นบางๆยาวๆพันไว้อย่างแน่นหนา

วินาทีต่อมา อาวุธลับก็ถูกกำลังภายในแรงกล้าสายหนึ่งดึงถอยหลังกลับไป สุดท้ายอาวุธลับก็ตกอยู่ในอุ้งมือของหลานเยาเยา

ชั่วขณะที่ผู้คนตื่นตระหนก งานเลี้ยงในสนามม้าก็อลหม่านไปชั่วขณะ

องครักษ์ใกล้ชิดพระองค์ทั้งหลายปกป้องฮ่องเต้จนแม้แต่ยุงสักตัวยังบินเข้าไปไม่ได้

มีขุนนางและขันทีบางคนรีบซ่อนตัวเองยังใต้โต๊ะตัวเตี้ยอย่างรวดเร็ว ปากยังคงตะโกนร้องไม่หยุดว่า “รีบปกป้องฮ่องเต้ ปกป้องฮ่องเต้”

หลานเยาเยามองงานเลี้ยงที่วุ่นวายด้วยสายตาเยือกเย็น

สังเกตเห็นว่าโหลวเย่วที่อยู่ข้างกายไม่ขยับแม้แต่น้อย อดไม่ได้ที่จะหันไปมองนาง ปรากฏว่านางมองอาวุธลับบนมือของตนอย่างไม่เข้าใจ จากนั้นสายตาก็มีแววแห่งความหวาดกลัววาบผ่านไป

จากนั้นก็ตะโกนร้องขึ้นว่า “ระวัง บนอาวุธลับมีพิษ”

ไม่รู้ว่าเป็นฉากที่เกิดขึ้นมาแล้วตั้งกี่ปี กลับผุดขึ้นในหัวของนางอีกครั้ง

ตอนนั้นมีอาวุธลับเช่นนี้แทงเข้าไปยังตัวของนาง จากนั้นชีวิตนางก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดฝันขึ้น จากองค์หญิงผู้สูงส่ง ถูกคนมากมายเคารพบูชา เพียงชั่วข้ามคืนกลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดกระหายเลือดที่พบเจอแสงสว่างไม่ได้

โหลวเย่วยื่นมือออกไปอยากจะช่วยตบให้อาวุธลับบนมือหลานเยาเยาร่วงหล่นไป ยื่นมือออกไปได้เพียงครึ่งทางก็ต้องหดกลับไปอย่างเกรงกลัว ปากก็พึมพำกับตัวเอง เอ่ยอย่างหวาดกลัวว่า

“อาวุธลับมีพิษ อย่าเตะต้องมัน”

เจอสถานการณ์เช่นนี้

หลายเยาเยาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง จากนั้นก็มองดูอาวุธลับบนมือ

ที่จริงแล้วอาวุธลับนี้ไม่ได้มีพิษ แต่ทำไมโหลวเย่วกลับบอกว่ามี

หรือว่าอาการไม่สบายของนางยังไม่หายดี

หรือบางทีนางอาจจะเคยเห็นอาวุธลับชนิดนี้มาก่อน

ก็เลย

จู่ๆนางก็ยื่นมือออกไปจับมือที่โบกไปมาไม่หยุดด้วยความกลัวของโหลวเย่ว มือวางอยู่ตรงตำแหน่งชีพจรของนางพอดี แค่หยุดอยู่ชั่วครู่เท่านั้น จากนั้นก็วางมือของนางลง

“ฟู่……”

นางค่อยๆผ่อนลมหายใจ

อาการป่วยของโหลวเย่วนั้นหายแล้ว

คิดว่าคงเป็นอาวุธลับที่อยู่ในมือของตนทำให้นางหวนคิดถึงเรื่องน่ากลัวขึ้นมา

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว อาวุธลับนี้ไม่มีพิษ”

แต่ว่า

อาการของโหลวเย่วยังคงตื่นเต้นอยู่ สายตาเอาแต่จ้องมองอยู่ที่อาวุธลับอันคมกริบ ปากยังคงพึมพำไม่หยุด

“มีพิษ มันมีพิษ เจ้าอาจจะถูกพิษก็ได้ รีบไปหาเยาเยา นางถอนพิษให้เจ้าได้ นางเก่งมาก……”

คำว่าเยาเยา พุ่งตรงเข้าที่กำลังภายในของหลานเยาเยา ทำให้นางรู้สึกตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว

เยาเยา

นอกจากหานแสแล้ว นานแล้วที่ไม่มีคนเรียกนางว่าอย่างนี้

จากนั้น

นางค่อยๆถอนหายใจหนึ่งเฮือก เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า

“นางตายแล้ว หลานเยาเยาตายไปแล้ว”

“และอาวุธลับนี้ก็ไม่มีพิษ พระราชธิดาจาวหยางควรมีสติสักนิด”

เป็นไปตามคาด

คำพูดไม่กี่คำที่นางพูดจบไป โหลวเย่วหยุดนิ่งไม่ไหวติง ตัวแข็งเหมือนท่อนไม้มองมาที่นาง จากนั้นก็มองไปรอบๆ เสียงวุ่นวายต่างๆค่อยๆชัดเจนขึ้นมา

“เยาเยา……”โหลวเย่วประสานสายตากับนางอีกครั้ง ดวงตามีน้ำตารื้นอยู่ เอ่ยเสียงอู้อี้ว่า “นางยังไม่ตาย นางยังมีชีวิตอยู่แน่……”

“หึ”

หลายเยาเยาเก็บอาการ หึเสียงเย็น รอยยิ้มหยาดเยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้า

“ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

พูดจบ นางก็หันสายตามองไปยังฮ่องเต้ ในตามีแววเศร้า

คนที่ทำให้คาดไม่ถึงมากที่สุดคือไทเฮา

ถึงแม้จะมีองครักษ์และสาวรับใช้คุ้มกันนางไว้อย่างแน่นหนา แต่นางกลับดูนิ่งสงบมาก มองไม่เห็นถึงความกลัวเลยแม้แต่น้อย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท