หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 276 หลานเยาเยาหาเรื่อง

บทที่ 276 หลานเยาเยาหาเรื่อง

บทที่ 276 หลานเยาเยาหาเรื่อง

“ก็ใช่ เจ้าคงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งตัว”

เย่แจ๋หยิ่งมองนางที่แม้แต่เส้นผมยังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ คิดว่าเสื้อผ้าบนตัวนางก็คงไม่ต่างกัน

ในใจเกิดกังวลเล็กน้อย

นางฝันอะไรกันแน่

พูดจบ

เขาก็ลุกขึ้น เดินออกไปนอกห้องนอน

เห็นเย่แจ๋หยิ่งเดินออกจากประตูไปแล้ว หลายเยาเยายกมือขึ้นสะบัดเบาๆ กำลังคิดว่าจะใช้กำลังภายในปิดประตู สมองเกิดมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ชีวิตข้าก็ให้เจ้าได้ อย่าว่าแต่กำลังภายในเพียงครึ่งเดียวเลย”

กำลังภายในนี้……

หลานเยาเยาขมวดคิ้วเบาเบา ในตามีแววแน่ใจ

และแล้ว

มือที่หยุดอยู่กลางอากาศก็ค่อยๆวางลง จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าไปที่ข้างประตู

ส่วนเย่แจ๋หยิ่งที่เดินออกจากห้อง ไม่ได้ไปที่ห้องรับแขก แต่กลับยืนอยู่ที่หน้าประตู ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง เขาหันกลับไปมองนางที่เดินเท้าเปล่า ในตามีแววฉงนอยู่บ้าง

ได้ยินเสียง “ปัง” ดังขึ้น ประตูห้องถูกปิดลง

ผ่านไปสักพัก

“เอี๊ยด······”

หลานเยาเยาที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว บนหน้าแต่งแต้มจนมีเสน่ห์เย้ายวน สัญญาลักษณ์กลีบดอกไม้บนแก้มชัดเจนยิ่งขึ้น นางสวมชุดสีแดงก่ำแพรวพราวงดงามทั้งตัวเดินออกมาจากข้างใน

เหมือนเช่นเคย งดงามเย็นชาไร้ที่ติ

และเย่แจ๋หยิ่งก็เพียงแค่มองนางอย่างไม่ได้มีอะไรแอปแฝง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่โต๊ะข้างเตียง

น้ำขิงถ้วยนั้นยังคงมีไอร้อนอยู่ แต่เขารู้ว่านางไม่ได้ดื่มมัน

“อ๋องเย่ เชิญ”

หลานเยาเยามองเย่แจ๋หยิ่งอย่างเย็นชา จากนั้นก็ผายมือทำท่าเชิญให้กับเขา

จากนั้นสายตาก็ไปอยู่ที่ ที่ๆได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันดังห่างออกไป

เห็นเพียงองครักษ์เงาเจ็ดแปดคน ห้อมจื่อซีและจื่อเฟิงเอาไว้

หึ

มาปรึกษาหารือจริงๆ

ไม่อย่างนั้น จะพาองครักษ์เงาตั้งมากมายมาล้อมจื่อซีพวกเขาเอาไว้ทำไมกัน

“อ๋องเย่ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร คนมากรังแกคนน้อยไม่ใช่รูปแบบที่ท่านทำปกตินี่นา”

ตอนนี้เอง เย่แจ๋หยิ่งจึงเลื่อนสายตากลับมามองนางอีกครั้ง มองอย่างไม่มีความหมายอื่นลึกซึ้ง ดวงตาลึกล้ำพูดขึ้นว่า

“เหมือนเจ้าจะเข้าใจข้าดี”

ได้ยินดังนี้

ดวงตาของหลานเยาเยาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นก็หยักยิ้มมุมปากเหมือนเยาะเย้ย น้ำเสียงเย็นชาพูดว่า

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

“อ๋อ ที่แท้พวกเราก็เป็นศัตรูกัน ”สำหรับจุดนี้ เขาดูเหมือนจะไม่แปลกใจ

เพียงแต่ได้ยินนางพูดออกมาอย่างเย็นชา ในใจเกิดความรู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“นอกจากตัวข้าแล้ว คนอื่นล้วนเป็นศัตรูของข้า”คำพูดที่เหมือนจะล้อเล่นแต่ก็ไม่ใช่สักทีเดียว พูดออกจากปากนางอย่างไม่รู้สึกกังขาเลยสักนิด

พูดจบ

หลานเยาเยาเดินนำไปก่อนหนึ่งก้าว

ยังไปไม่ถึงฝั่งของจื่อซีและจื่อเฟิง นางก็โบกมือให้กับพวกเขา เขาทั้งสองก็หยุดมือทันที

จากนั้น ก็รีบมาอยู่ข้างกายนาง

“คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนะ”

“จะเป็นอะไรได้ อ๋องเย่เป็นถึงสุภาพบุรุษนะ”ทั้งๆที่เป็นคำชม แต่พอไปกระทบหูคนอื่นกลับกลายเป็นคำที่มีความหมายตรงข้าม

พอได้ยิน จื่อซีและจื่อเฟิงก็มองไปยังเย่แจ๋หยิ่งด้วยสายตาไม่ดีนัก

ได้เห็นสายตาของพวกเขา หลานเยาเยารู้สึกอยากหัวเราะอย่างประหลาด

ทั้งสองคนจำได้ดี เขาทั้งสองเคยเป็นองครักษ์เงาของเย่แจ๋หยิ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ยำเกรงเย่แจ๋หยิ่งเลยสักนิด

องครักษ์เงานั้นจงรักภักดีที่สุด

หรือว่าหลังจากไม่สบายจะลืมความจงรักภักดีที่เคยมีต่อเย่แจ๋หยิ่งไปแล้ว

อีกทั้งเหมือนว่าไม่มีร่องรอยจะฟื้นคืนด้วย

บางทีพวกเขาสองคนอาจจะถูกพิษกู่จิ้นที่ดงดอกกระดูกขาวหนักที่สุดก็เป็นได้ แต่ ตอนนั้นหานแสได้ดื่มน้ำปรโลก ส่วนนางนอกจากน้ำปรโลกแล้ว ยังมีหมู่เลือดเป็น A3

ส่วนเขาสองคน ไม่เคยกินตัวยาใดๆที่อยู่ในยาถอนพิษเลย

ฉะนั้น แม้จะจำได้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเคยเป็นเจ้านายของพวกเขา ก็คงจะลืมว่าองครักษ์เงาควรมีความจงรักภักดีอย่างไร

หากเป็นเพราะสาเหตุนี้

นางก็คงอยากจะหัวเราะจริงๆ

องครักษ์เงาที่เขาให้ความสำคัญที่สุดสองคน ตอนนี้เป็นลูกน้องของนาง และยังฟังเพียงคำสั่งนางเท่านั้น นางจะไม่หัวเราะได้อย่างไร

เย่แจ๋หยิ่งมองพวกเขาแวบหนึ่ง สายตาลึกล้ำยิ่งขึ้น แต่ก็เพียงแค่มองผ่านไปเท่านั้น เขาก็เคลื่อนสายตาออกไป

“จวนเทพธิดาใหญ่โต แต่กลับอาศัยอยู่เพียงไม่กี่คน เทพธิดาทำให้ผู้อื่นได้เห็นมุมมองใหม่จริงๆ”

สายตาของเขาทำให้องครักษ์ที่จะมาปกป้องเขาถอยออกไป

“ช่วยไม่ได้ ก็คนต่ำต้อย ไม่มีเงินทองมาซื้อคนรับใช้”

หลานเยาเยาเหมือนไม่ต้องการจะพูดมาก หันไปสั่งการจื่อซี

“ยังจะยืนอึ้งอยู่ทำไมกัน ไม่เห็นว่าอ๋องเย่เสด็จหรือ ไปดูสิว่าชาที่ชงไว้เมื่อคืนยังเหลืออยู่บ้างหรือไม่ หากมีก็ยกมาให้อ๋องเยหนึ่งถ้วย”

“ขอรับ”จื่อซีรับคำสั่งจากไป

มุมปากหลานเยาเยายกขึ้น มองท้องฟ้าอย่างสบายอารมณ์ จากนั้นก็มองเย่แจ๋หยิ่งด้วยใบหน้ายิ้มๆ

“เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมอก เวลายังเช้านัก คิดว่าอ๋องเย่คงยังไม่ได้กินอะไร คิดอยากจะหารือก็คงต้องกินให้อิ่มจิตใจสงบแล้วจึงปรึกษาใช่หรือไม่ ”

“อาหารเช้า”เย่แจ๋หยิ่งหรี่ตาเหลือบมองไปที่นาง “ผ่านเวลาอาหารเที่ยงไปนานแล้ว เทพธิดาให้คนเตรียมอาหารสำหรับมื้อค่ำเถอะ”

โอ๊ะ

เกือบจะค่ำแล้ว

นางยังคิดว่านอนไปเพียงชั่วครู่เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะนอนหลับเป็นเวลานานแล้ว

“เช่นนั้นท่านจะกินหรือไม่”

จะกินไม่กิน

ไม่ว่าอย่างไรนางก็มีวิธีรับมืออยู่แล้ว

หลานเยาเยาดูเหมือนอารมณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังเวียนหัวอยู่เลย

“น้ำใจยากปฏิเสธ ใยจะไม่กินเล่า”สองมือของเย่แจ๋หยิ่งไขว้หลัง หมุนตัวอย่างเกียจคร้าน เปลี่ยนทางเดินไปยังห้องอาหาร

หลานเยาเยาขมวดคิ้วเบาๆ

ดูท่าทางเขา เหมือนจะรู้ว่าห้องอาหารอยู่ทางไหนมากกว่านาง

และแล้ว

นางมองไปยังจื่อเฟิง พูดกับเขาด้วยเสียงจริงจังว่า “เจ้าไปบอกให้คนครัวเตรียมอาหารดีๆหลายอย่างหน่อย จำไว้ เตรียมให้อ๋องเย่โดยเฉพาะ วัตถุดิบทั้งหมดต้องดีที่สุด เข้าใจหรือไม่”

หลานเยาเยาพูดคำว่า ดีที่สุด ด้วยเสียงเน้นหนัก

จื่อเฟิงติดตามนางได้สามปีแล้ว

นางเชื่อว่าเขาจะต้องฟังความหมายที่แท้จริงในคำพูดของนางออก

“ขอรับ”จื่อเฟิงพยักหน้ารับ จากนั้นก็ลอยตัวจากไป

จากนั้นไม่นาน

ในห้องอาหาร

หลานเยาเยากับเย่แจ๋หยิ่งนั่งขนานกัน น้ำชาถูกยกมาไว้นานแล้ว

แต่ไม่มีใครดื่ม

นางให้จื่อซีเอาน้ำชาค้างคืนมา ไม่ใช่แค่พูดไปเท่านั้น

ฉะนั้นที่อยู่บนโต๊ะตอนนี้ก็คือน้ำชาค้างคืน

หลานเยาเยายังหวังดีรินให้กับเย่แจ๋หยิ่งหนึ่งถ้วย

“นี่เป็นใบชาชั้นดี ขอท่านอ๋องเย่อย่าได้รังเกียจ”

ขณะพูด นิ้วมือที่แสนอ่อนนุ่มก็ค่อยๆกดลงที่กาน้ำชาหนึ่งที และรินให้ตัวเองหนึ่งถ้วย

ไม่พูดเป็นครั้งที่สอง ก็ยกน้ำชาขึ้นจิบไปหนึ่งคำ

เห็นเย่แจ๋หยิ่งไม่ดื่ม นางเลิกคิ้วหัวเราะ หยิบน้ำชาตรงหน้าเขายื่นให้เขาไป

“ท่านอ๋องเย่ทำไมไม่ดื่ม”

เย่แจ๋หยิ่งมองน้ำชาที่จ่ออยู่ตรงหน้า ท่าทีมีแววไม่ค่อยเข้าใจ

สุดท้ายจึงเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ข้ากำลังคิดว่า……”

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็หยิบเอาน้ำชาที่นางเพิ่งดื่มไป จิบไปหนึ่งคำอย่างรวดเร็ว

“……”

ร่างของหลานเยาเยานิ่งไป คนทั้งคนนิ่งอึ้งไปสักครู่

หลังจากได้สติกลับมา ในใจรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นทันที

เจ้าคนเลวนี่……

“ท่านอ๋องเย่หมายความว่าอย่างไร”สีหน้าของนางอึมครึม

“ข้ากำลังคิด น้ำชาที่ผ่านริมฝีปากของเทพธิดาใช่จะน่าดื่มกว่าหรือไม่ ซึ่งก็ได้พิสูจน์แล้ว รสชาตินั้นดีจริงๆ”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท