หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 279 ขาดคนอุ่นเตียง

บทที่ 279 ขาดคนอุ่นเตียง

บทที่ 279 ขาดคนอุ่นเตียง

จากนั้น

เย่แจ๋หยิ่งมองไปคานของจวน สายตามีแววฉงน จากนั้นก็ฮึมฮัมเบาๆหนึ่งเสียง แล้วก็สะบัดแขนเสื้อจากไป

หลานเยาเยาที่กำหมัดไว้แน่น สายตาเปลี่ยนเป็นแหลมคมอย่างฉับพลัน

นางมองโม่เหลียงเฉินด้วยสายตาเย็นชาทันที เอ่ยเสียงเย็นว่า

“เจ้าช่างซุกซนยิ่งนัก”

โม่เหลียงเฉินเป็นเพื่อนที่รู้ใจเย่แจ๋หยิ่งมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเป็นทั้งมือซ้ายขวาที่ทรงพลังของเย่แจ๋หยิ่ง เขามีความรู้มากมาย กลยุทธ์แพรวพราว

เย่แจ๋หยิ่งนั้นเย่อหยิ่งทะนงตน ไม่เห็นสิ่งใดอยู่ในสายตา แน่นอนว่าคงไม่ใช้วิธีการเช่นนี้

คนที่ทำให้เย่แจ๋หยิ่งบิดเบือนความจริงเพื่อมาหารือ และยังหน้าด้านหน้าทนจะอยู่ที่จวนนาง คงเป็นความคิดของโม่เหลียงเฉินแน่นอน

พอปะทะเข้ากับสายตาเย็นชาของหลานเยาเยา ทันใดนั้นโม่เหลียงเฉินก็มีเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว

ไม่ได้การ อยู่ที่ห้องอาหารคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก

เทพธิดาที่อยู่ตรงหน้าช่างอันตรายนัก

ใจเขารู้สึกตื่นตระหนก

และแล้ว เขารีบมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่เดินไปไกลแล้ว อดไม่ได้ที่จะกระแอมในลำคอ จากนั้นก็กระแอมอีก

ความคิดเสี่ยงตายเช่นนี้ไม่ใช่เขาเป็นคนคิด

นี่ล้วนเป็นความต้องการของเย่แจ๋หยิ่ง เขาถูกใช้เพื่อเป็นโล่บังหน้าเท่านั้น

สุดท้ายทำได้เพียงกล่าวอย่างประจบสอพลอว่า

“ไม่ซนไม่ซน ข้าน้อยขอลา ขอลา ”

เขาไม่มีความกล้าที่จะอยู่ลำพังคนเดียว พูดจบก็วิ่งหนีหายไปแล้ว

“……”เห็นผีหรืออย่างไร

หลานเยาเยาค่อยๆคลายมือที่กำหมัดออก หยิบกระดาษและจดหมายบนโต๊ะขึ้นมาดูอีกครั้ง สายตาล้ำลึกขึ้น

จากนั้น

“ฟู่……”

นางหายใจออกหนักๆหนึ่งคำ จากนั้นก็หัวเราะขึ้นอย่างเยือกเย็น

ในห้องอาหารที่ว่างเปล่า เสียงทุ้มลึกของนางดังขึ้นเบาเบา

“คาดว่าเขาคงรู้สถานะแท้จริงของข้าแล้ว อีกทั้งยังเกิดรู้สึกสนใจในตัวข้าขึ้นมาแล้ว แผนของพวกเราสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว”

หลานเยาเยาพูดจบ จึงดื่มชาของตัวเอง

ไม่ช้า

เงาคนที่สวมชุดสีม่วงได้ลอยมาหยุดลง จากนั้นก็ค่อยๆเดินไปข้างหลังนาง จับเส้นผมอ่อนนุ่มของนางอย่างเบามือ

“ทำไมจึงเปลี่ยนความคิดกะทันหัน ต้องเลือกวิธีนี้ด้วย กำจัดราชครูใหญ่ วิธีที่จะล้มล้างราชสำนักมีมากมาย ทำไมเจ้าต้องเลือกที่มันลำบากที่สุดด้วย ”

หานแสที่สีหน้าไม่ชัดเจนมือข้างหนึ่งก็จับผมนางไว้อย่างเบามือ อีกข้างก็หยิบเอาปิ่นปักผมที่มีประกายแสงเย็นยะเยือกออกมา

“เพราะรวดเร็วที่สุด โอกาสสำเร็จสูง อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด”

นางย่อมต้องเลือกทางลัด

หลังจากการแก้แค้นทั้งหมด นางยังมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งต้องไปทำ

“เจ้าไม่กลัวจะกลับไปสู่วังวนแห่งความรัก จนไม่สามารถหลุดพ้นได้หรือ”เสียงร้ายกาจลากยาวไปบ้าง

แต่เขาค่อยๆยิ้มอย่างร้ายกาจขึ้นมา ปิ่นปักผมในมือก็ปักลงบนมวยผมบนศีรษะของนาง

“วังวนความรัก หึ”

หลานเยาเยาหัวเราะเสียงเย็น หันกลับไปจ้องตาเขา ถามอย่างจริงจัง “หานแส เจ้าคิดว่ากระจกที่แตกแล้วจะสามารถกลับคืนสภาพเดิมได้หรือไม่”

ถึงแม้จะสามารถคืนสภาพเดิมได้แล้วอย่างไร

รอยร้าวในใจไม่สามารถลบเลือนตลอดกาล

“จะได้หรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้ได้ ขอแค่ไม่กระทบต่อแผนการของข้าก็พอ ไม่เช่นนั้น อย่าโทษว่าข้าใจดำอำมหิต ไม่คิดถึงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิต”

“ได้ได้ได้ ข้าน้อยจะกล้ากระทบกับแผนการของเจ้าของเรือได้อย่างไรเล่า นอกจากข้าจะไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้ว ข้ายังอยากอยู่อย่างสบายนะ”

สำหรับคำพูดที่เหมือนกึ่งจะล้อเล่นของหลานเยาเยา หานแสก็ตบเขาที่หัวนางในพริบตา

“เจ้านี่นะ ……และก็เป็นเจ้าที่กล้าทำเช่นนี้ต่อหน้าข้า”

สำหรับวินาทีก่อนหน้านี้ที่ยังมีท่าทีสุขุมของเทพธิดา วินาทีต่อมากลับกลายท่าทีเป็นน่ารัก หานแสรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

“เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าก็ถือว่าข้าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตท่านไว้ จึงกล้าพูดจาเช่นนี้ ไม่เช่นนั้น ข้าก็จะขอใช้ฐานะผู้มีพระคุณอีกครั้ง ขอคนคนหนึ่งกับท่าน”

ในเมื่อตอนนี้นางกับหานแสไม่ได้ขัดผลประโยชน์ต่อกัน นางเป็นลูกน้องของเขา แล้วยังร่วมมือกันอีก

ฉะนั้น

สามารถล้วงเอาประโยชน์ได้ เช่นนั้นก็ล้วงให้มากหน่อย

“ครั้งนี้เป็นใครอีก”

หานแสส่ายหัว ไม่ไปยุ่งกับผมดำเงางามของหลานเยาเยาอีก แต่กลับหาเก้าอี้หนึ่งตัวแล้วนั่งลง

กล่าวอย่างสนใจว่า

“เสาหลักสี่ต้นของเรือแห่งความสิ้นหวังของข้า ครั้งที่แล้วถูกเจ้าขุดไปสองต้น รวมถึงเจ้าด้วย ก็เป็นสามต้นแล้ว เหลือเพียงต้นสุดท้ายที่น่าสงสารที่สุด เจ้ายังอยากจะขุดไปให้ได้”

ได้ยินเช่นนี้

หลานเยาเยาเลิกคิ้วยิ้มหนึ่งที

“จะทำได้อย่างไร ครั้งนี้เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนสำคัญ”

“ออ แล้วเป็นใคร เป็นหลานชิวหยุนหรือ”

หลังจากไม่เล่นผมของหลานเยาเยา หานแสเริ่มเล่นกับเส้นผมของตนที่ตกลงมาอยู่ตรงหน้าอก

“ท่านรู้ได้อย่างไร”หลานเยาเยารู้สึกตกใจเล็กน้อย

คนคนนี้เป็นพยาธิในท้องนางหรือ

รู้สิ่งที่นางอยากได้อย่างไม่คาดคิด

“พอกลับมาเมืองหลวง ก็กลายเป็นคนที่ฮ่องเต้และคนที่เกี่ยวข้องต่างแย่งชิงตัวกัน

ยิ่งเป็นความงามที่น่าตะลึงของเมื่อวานในการแข่งขันล่าสัตว์ ก่อนที่ราชครูใหญ่จะกลับเมืองหลวง เจ้าต้องสร้างความเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่า

หลานเฉินมู๋กับเจ้ามีความแค้นต่อกัน เขายังเป็นคนของฮ่องเต้ ตอนนี้ไม่แตะต้องเขาจะแตะใคร

แม้ต้อนนี้หลานเฉินมู๋จะถูกพักงานให้สำนึกผิดอยู่ในจวน แต่แท้จริงแล้วก็ยังคงทำงานให้กับฮ่องเต้ คิดอยากจะแตะต้องเขาโดยไม่ให้รู้ตัว มีเพียงทำให้บ้านปั่นปวนจึงจะมีโอกาส

ส่วนตอนนี้คนที่หลานเฉินมู๋รักที่สุดคือบุตรสาวหลานจิ่นเอ๋อ นางกำลังจะแต่งไปเป็นพระสนมขององค์ชายรองของราชวงศ์ปัจจุบัน

หากว่าตอนนี้ให้หลานชิวหยุนที่จิตใจเลวทรามกลับไปยังจวนแม่ทัพ จวนแม่ทัพคงมีเรื่องนองเลือดเป็นแน่

เพียงแต่

เจ้าคิดว่า หลานจิ่นเอ๋อจะสู้หลานชิวหยุนได้หรือ”หานแสสงสัยอยู่บ้าง

“ต่อหน้าหลานจิ่นเอ๋อ หลานชิวหยุนก็แค่นั้น”

อนุภรรยาจ้าวซื่อที่ไร้อำนาจไร้พลังไร้ที่พึง ด้วยความอดทน ตอนนี้ถูกยกให้เป็นภรรยาเอก ทั้งยังมีภาพลักษณ์เป็นภรรยาและแม่ที่ดีในสายตาผู้อื่น

พูดได้ว่าชื่อเสียงกระจายทั่วเมืองหลวง

ไม่มีวิธีการอยู่บ้างคงทำไม่ได้

แล้วจะนับประสาอะไรกับหลานจิ่นเอ๋อบุตรสาวของนาง สามารถมีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่แจ๋หยิ่งได้ และตอนนี้ก็กำลังจะแต่งงานกับองค์ชายรองแล้ว เห็นทีคงต้องดูให้ละเอียดแล้ว

“เจ้าพูดมากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์ หลานชิวหยุนข้าจะใช้ในเรื่องอื่น”

ท่าทีของหานแสจริงจังอยู่บ้าง

หลานเยาเยารู้สึกสงสัยขึ้นมากะทันหัน หลานชิวหยุนมีประโยชน์อะไรกับหานแส

“ท่านคงไม่คิดจะชุบเลี้ยงให้นางเป็นนักสังหารหรอกนะ”

เช่นนี้ความเป็นไปได้ต่ำมาก แต่ก็ไม่ใช่จะไม่สามารถสักทีเดียว

“มือสังหาร นางไม่เหมาะ”

พอพูดถึงเรื่องจะฝึกฝนให้หลานชิวหยุนเป็นมือสังหาร สายตาหานแสเต็มไปด้วยความดูถูก

หากไม่มีประโยชน์อย่างอื่น เขาคงไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์อย่างนั้นไว้หลายปีหรอก

“ถ้าเช่นนั้นเอาอย่างนี้ ยืมใช้ครึ่งเดือน แค่ครึ่งเดือน ถึงตอนนั้นจะส่งนางคืนให้ท่านอย่างสมบูรณ์ไม่เสียหายเลยสักนิด เป็นอย่างไร“

เวลาครึ่งเดือนก็นับว่าใช้ได้แล้ว

ที่จริงยังมีวิธีอื่น เพียงแต่ต้องใช้เวลามากหน่อย นางไม่อยากใช้

ตอนนี้ สำหรับตัวเองเรื่องเวลาสำคัญที่สุดแล้ว

หานแสนิ่งไปชั่วครู่ ท่าทียังคงหนักแน่น

“ไม่ได้”

ชิ

หลังจากหลานเยาเยารู้สึกผิดหวังในใจ รู้สึกไม่มีอารมณ์อยากจะคุยแล้ว

รีบกลับคืนสู่ท่าทีของเทพธิดาที่ดูสูงส่งเยือกเย็นและเฉยชาทันที ทำให้หานแสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำ

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก

เสียงชั่วร้ายก็ค่อยๆส่งมา “ข้ายังขาดคนอุ่นเตียงคนหนึ่ง นอกจากเสียว่าเจ้าจะตกลงยอมเป็นฮูหยินของเรือข้า”

เอ๋

ยังจะฮูหยินของเรือ

หลานเยาเยารู้สึกไร้คำพูดชั่วขณะ

คำพูดนี้ไม่ใช่การพูดครั้งแรกของเขา นางไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องพูดขึ้นอีก

“ท่านไม่ได้ขาดคนอุ่นเตียงสักหน่อย ทำไมต้องเป็นข้า”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท