หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 280 เข้าห้องนอนผิด

บทที่ 280 เข้าห้องนอนผิด

บทที่ 280 เข้าห้องนอนผิด

“คิดไปคิดมา ในบรรดาตระกูลหลานเจ้านั้นเหมาะสมที่สุด อีกทั้งข้าเองก็ไม่รังเกียจเจ้า นอกจากเจ้า ข้าหาหญิงอื่นใดที่ข้ายินดีจะแต่งด้วยไม่ได้เลย ”

ในน้ำเสียงชั่วร้ายของหานแสมีแววจำใจ และก็เสน่ห์อยู่ด้วย

หลานเยาเยายกยิ้มมุมปาก “นี่ท่านกำลังสารภาพรักหรือ”

“สารภาพรัก”เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ก็คือว่า ท่านชอบข้า จากนั้นก็เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจกับข้า” เพียงแต่ที่หานแสบอกว่าตระกูลหลานทั้งหมดหมายความว่าอย่างไร

“อะแฮ่ม”

หานแสไอเบาเบาหนึ่งครั้ง สายตาสั่นไหวเล็กน้อย กล่าวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

“เพียงแต่กับเจ้า……ไม่รังเกียจเท่านั้น”

“ก็ใช่ ท่านจะรังเกียจข้าได้อย่างไรกัน ข้ามีทั้งสติปัญญาและรูปโฉม ฝีมือการแพทย์ดีเยี่ยม กล้าพูดกล้าแสดงออก อีกทั้งวรยุทธ……ล้ำเลิศ คนที่รังเกียจข้าก็มาจากความอิจฉาทั้งนั้น

ช่างเถอะ ไม่ยินยอมจะให้ยืมคนก็แล้วไปเถอะ เช่นนั้นแค่พบหน้ากันคงทำได้กระมัง”

ขณะที่พูด ในใจหลานเยาเยาก็เกิดแผนหนึ่งขึ้นกะทันหัน

บางทีวิธีนี้อาจจะดีกว่าก็เป็นได้

“อย่ามาลูกไม้ดีที่สุด”

พอเห็นสายตานางที่มีแววบางอย่างพาดผ่าน หานแสรู้สึกว่านางต้องกำลังคิดแผนร้ายอยู่แน่ๆ

“ท่านเจ้าของเรือโปรดวางใจ ท่านยังไม่รู้ตัวตนของข้าหรือ”

“เพราะข้ารู้ตัวตนของเจ้า จึงได้เตือนเจ้า ทางที่ดีอย่าคิดจะลองจับคนไป”

“……”

หลานเยาเยารู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

นางเป็นคนเช่นนั้นหรือ

เดิมทีหานแสคิดว่าหลังจากนี้สามวัน จึงจะให้นางพบกับหลานชิวหยุน

ท้ายที่สุด ภายใต้การหว่านล้อมของนาง หานแสจำใจต้องตอบตกลงให้พบกันในวันทีสอง

ก่อนจากกัน

หลานเยาเยาถามหานแส “ตอนนี้ท่านชอบสวมชุดสีม่วงแล้วหรือ”

เขาตอบว่า “สีแดงเหมาะกับเจ้ามากกว่า ”

……

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หลานเยาเยายังคงอยู่ที่ห้องอาหาร มองท้องฟ้าที่มืดสนิท กำลังคิดว่าจะกลับไปนอนที่ห้อง

แต่กลับนึกบางอย่างขึ้นได้กะทันหัน รีบเรียกจื่อซีมาถาม

“ท่านอ๋องเลือกห้องไหน”

“เรียนคุณหนู ท่านอ๋องไม่ได้เลือกห้องรับแขก แต่เป็น……ห้องนอน ”

“อะไรนะ ห้อง ห้องนอน”

หลานเยาเยาตะลึง

นี่มัน

หากเป็นเรือนรับแขกห้องหนึ่ง เช่นนางนางคงตามใจเขา แต่เขากลับเลือกห้องนอน จะได้อย่างไร

พูดจบ

นางก็ถลกแขนเสื้อขึ้น ยกท้าวก้าวออกไปนอกประตูทันที

“คุณหนู คุณหนู ท่านไปที่ใด รอข้าด้วย ข้ายังพูดไม่จบ”

แต่ว่า ไม่เห็นแม้แต่เงาคนแล้ว

จื่อซีวิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิต แต่หลานเยาเยาก็วิ่งได้ว่องไวเหลือเกิน

ตอนที่เขาวิ่งไปถึงห้องนอนที่ท่านอ๋องเลือก กลับพบว่าคุณหนูของตนไม่อยู่ เข้าใจในทันที

ใช่แล้ว

คุณหนูไม่รู้ว่าอ๋องเย่เลือกที่ไหนเป็นห้องนอน

ฉะนั้น

“คุณหนูนี่ท่านจะวิ่งไปที่ไหน”

ไม่เพียงแต่วิ่งผิดทิศทาง แม้แต่ความคิดของหลานเยาเยาก็ผิดไปด้วย บัดนี้มายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของตนด้วยอาการหอบหายใจ

ก็ไม่รู้ว่าเพราะวิ่งเร็วเกินไป หรือเพราะว่าโกรธมากไป เสียงต่ำของนางก็เปลี่ยนไปแล้ว

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าออกมานะ”

ในความคิดของหลานเยาเยา จวนเทพธิดาคงมีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น ห้องอื่นๆ นางไม่คุ้นเคยจริงๆ เย่แจ๋หยิ่งไม่เลือกห้องรับแขก แต่เป็นห้องนอน

เห็นได้ชัดว่า

เย่แจ๋หยิ่งนั้นอยากจะครอบครองห้องนอนของนาง แย่งจวนเทพธิดาของนางไป จากนั้นก็กวาดนางออกไป……

“คุณหนู อ๋องเย่ไม่ได้นอนห้องเดียวกับท่าน ”คนที่ตอบนางเป็นจื่อเฟิงที่สีหน้าไร้ความรู้สึก

“ไม่อยู่ที่นี่ แล้ว แล้วเขานอนที่ไหน”

ถูกคำพูดที่แสนจะตรงไปตรงมาของจื่อเฟิงทำเอาตกใจ ที่สุดสติปัญญาก็คืนสู่สมองของหลานเยาเยา ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว

ไม่คิดว่าจะชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ กำแพงมนุษย์ยังมีกลิ่นหอมที่คล้ายจะคุ้นเคยอยู่บ้าง

“ข้านอนห้องข้างๆ”

น้ำเสียงดึงดูและมีเสน่ห์ดังขึ้นข้างหู ทำเอานางตกใจจนตัวสั่นกะทันหัน

นางรับรู้ได้ว่าริมฝีปากบางของเย่แจ๋หยิ่งอยู่ข้างหูของนาง ลมหายใจอุ่นที่เป่ารด เหมือนจะสามารถติดต่อกันได้ ไม่นานก็ทำให้นางอุ่นร้อนไปทั้งร่าง

“ห่างจากข้าให้ไกลหน่อย”หลานเยาเยาหรี่ตาลงแวบหนึ่ง น้ำเสียงมีแววต่ำลึก

ความรู้สึกแบบนี้เหมือนเคยรู้จัก……

นางไม่ชอบ

“หึ เทพธิดาคงลืมไปกระมัง”

“อะไร”

“เป็นท่านที่ใกล้เข้ามา”เย่แจ๋หยิ่งยืนนิ่งไม่ขยับ

“เจ้า……”

ไม่พูดไม่ได้ว่า ที่เย่แจ๋หยิ่งพูดนั้นเป็นเรื่องจริง

ช่วยไม่ได้ นางไม่ชอบถูกกลิ่นอายของเย่แจ๋หยิ่งห้อมล้อมเอาไว้ มันทำให้นางคิดถึงความทรงจำบางอย่างที่นางอยากจะลบทิ้งไป

และแล้ว

หลานเยาเยาก็ถอยออกไปหลายก้าว เก็บท่าทีเย็นชาไว้ หมุนตัวกลับไปด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์

“ดึกมาแล้ว ท่านอ๋องยังไม่พักผ่อน มาที่ห้องนอนของข้าทำไมกัน“

“หากข้าฟังไม่ผิด น่าจะเป็นเทพธิดาให้ข้าออกมา”

เย่แจ๋หยิ่งสองมือไขว้หลัง มองนางอย่างสูงส่งเย่อหยิ่ง เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มและเปิดปากขึ้นอีกครั้ง

“เทพธิดาคงไม่คิดว่าข้าจะอยู่ที่ห้องนอนของท่านหรอกนะ”

ตอนนี้ หลานเยาเยายกมุมปาก

เจ้าบ้านี่

ต้องจงใจแน่ๆ

“หากเป็นเช่นนั้นจริง ท่านอ๋องก็รอชื่อเสียงป่นปี้เถอะ”

พรุ่งนี้ ข่าวเรื่องอ๋องเย่เข้าอยู่ที่จวนนาง ตอนแพร่ออกไปแน่นอน อีกทั้งยังมีข่าวลือมากมาย หากยังมีเรื่องที่เย่แจ๋หยิ่งนอนห้องเดียวกับนางแพร่ออกไปอีก นอกจากฮ่องเต้อาจจะเป็นบ้า เย่แจ๋หยิ่งเองก็ชื่อเสียงป่นปี้เช่นกัน

พูดจบ

หลานเยาเยากระแอมเสียงเย็น ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม

แม้แต่ตัวนางเองยังฟังไม่ออก นางพูดเล่น หรือพูดจริงกันแน่

“ท่านอ๋องพักผ่อนเช้าหน่อยเถอะ”

พูดจบ

ก็ไม่สนว่าสีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งจะเป็นอย่างไร นางเดินไปยังห้องนอนของตน

“ปัง……”

ประตูห้องนอนถูกผลักออกอย่างแรง

แล้วก็ “ปัง”อีกเสียง ประตูห้องนอนถูกปิดลงอย่างแรง

หลังจากประตูห้องนอนปิดลง หลานเยาเยาพิงอยู่ที่ประตูอย่างหมดสภาพ รอยยิ้มประจำตัวบนหน้าหายไปจนสิ้น จากนั้นก็ค่อยๆนั่งลง ม้วนตัวเองเป็นก้อน……

เย่แจ๋หยิ่งที่ยืนอยู่ข้างนอก กลับคืนท่าทีเย็นชา

เขามองไปที่ประตูห้องนอนอย่างนิ่งๆ กำหมัดไว้แน่น

ตอนที่นางหมุนตัวกลับห้อง เขามองเห็นความเกลียดชังในสายตานาง

นางเกลียดเขา

……

รุ่งเช้าของวันที่สอง

“จิ๊บจิ๊บจิ๊บ……”

“จิ๊บจิ๊บจิ๊บ……”

นกน้อยนอกหน้าต่างร้องอย่างมีความสุข รบกวนหลานเยาเยาที่กำลังนอนหลับอยู่

เสียง“ปัง”ดังขึ้น รองเท้าปักลายดอกไม้สีแดงสดข้างหนึ่งลอยออกไปนอกหน้าต่าง โดนยอดต้นไม้ ทำเอานกน้อยตกใจจนเกือบลืมไปว่าตัวเองบินได้

ไม่มีเสียงรบกวนของนกแล้ว

หลานเยาเยายังคิดว่าตัวเองจะสามารถนอนเพื่อความงามได้อีก

ใครจะรู้

กลิ่นอาหารเย้ายวน โชยมาจากนอกหน้าต่าง

กลิ่นแล้วกลิ่นเล่า อีกทั้งกลิ่นอาหารยิ่งอยู่ก็ยิ่งเข้มข้น

ไก่ขอทาน……

ปลาน้ำแดง……

ขาหมูพะโล้……

เป็นถึงนักกินมือฉมัง ความสามารถด้านการได้กลิ่นก็รู้ชื่ออาหารเป็นเรื่องที่นางฝึกฝนจนเป็นสุดยอดแล้ว

เดิมที่ท้องที่ยังไม่หัว ก็เริ่มร้อง“จ๊อกจ๊อก”ต่อต้านนาง

“น้องเจ้าสิ เช้าขนาดนี้ กินดีขนาดนี้ทำไมกัน ”

ตั้งแต่ตอนที่ได้กลิ่นอาหาร หลานเยาเยาก็รู้ว่าตนเองนอนไม่หลับแล้ว

นางรีบลุกจากเตียง ติดตามกลิ่นหอมมาจนถึงห้องนอนห้องข้างๆ

กลิ่นหอมของอาหารลอยมาจากข้างใน

“ที่แท้ก็เป็นเขา”

วางแผนจะเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อจะใช้อาหารหลอกล่อนาง

ชิ

นางไม่มีวันหลงกล

และแล้ว

นางยกเท้าเดินไปยังห้องนอนชั่วคราวของเย่แจ๋หยิ่ง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท