หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 283 ไม่ต้องเกรงใจ จัดการเขาเลย

บทที่ 283 ไม่ต้องเกรงใจ จัดการเขาเลย

บทที่ 283 ไม่ต้องเกรงใจ จัดการเขาเลย

แต่อย่างไรก็ตาม

ในเรือแห่งความสิ้นหวัง ไม่มีคำว่ายอมแพ้สองคำนี้

แต่ชายร่างใหญ่ให้ตาย ก็ไม่ยอมประลองต่อรอบสามแล้ว

เขาเลือกร้องขอความเมตตา: “ท่านวีรบุรุษ ละเว้นข้าเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว”

“ ไม่ได้ !”

ผู้โจ้เจิ้งที่รับผิดชอบมีนิสัยเฉียบขาดอย่างมาก

ร้องขอความเมตตาไม่ได้ผล ชายร่างใหญ่จึงทำเสียงเล็กเสียงน้อย ออดอ้อนออเซาะฉอเลาะว่า:

“เห็นแก่ความสวยน่ารักของคนเค้าหน่อยจิ พวกเราไม่ประลองกันแล้วเถอะนะ! ดีมั้ยอ่ะ พี่ชาย!”

ดูมันทำ!

ไม่ต้องพูดถึงผู้โจ้เจิ้ง คนดูที่อยู่รอบๆ ต่างก็ถูกความน่าคลื่นไส้นี้ โจมตีจนอ้วกแตกอ้วกแตนกันไปถ้วนหน้า

“พี่ชายล่ะก้อ คนเค้าได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้แล้วอ่ะ เจ้าดูตรงนี่สิ คนเค้าเจ้บเจ็บเลยอ่ะ! ขอแค่ตะเองเห็นด้วยให้เค้ายอมแพ้นะ หลังจากวันนี้ไปเค้าก็เป็นคนของตะเองแล้วไง จะปรนนิบัติรับใช้ตะเองทุกวันทุกคืนเลยนะฮ๊า!”

หนุ่มล่ำผู้มีกล้ามใหญ่ไปทั่วตัวรู้สึกมีความหวัง น้ำเสียงของเขายิ่งออดอ้อนออเซาะมากขึ้น

ผู้ชม: “แหว่ะ….. ”

ผู้โจ้เจิ้งมองเขาด้วยสีหน้า ประหนึ่งว่าเจอผีก็ไม่ปาน ฝืนกัดฟันกลั้นใจไม่เข้าไปซัดเขาซักพลั๊วะ เอ่ยตอบตามหลักการ:

“…ไม่ได้!”

ทำตัวออดอ้อนออเซาะไม่ได้ผล ชายร่างใหญ่จึงแหกปากร้องไห้ดัง “แง้!…” ด้วยน้ำเสียงระคายหูจนสุดจะทานทน

“ ทนไม่ไหวแล้วโว้ย” ผู้โจ้เจิ้งกัดฟันยกกำปั้นขึ้น แล้วเหวี่ยงออกไป

คนดูในห้องต่างก็ยกหมัดขึ้นพร้อมกัน. …

เมื่อหลานเยาเยา และเย่แจ๋หยิ่ง เข้ามาในห้องกำลังภายในขั้นสุดยอดนั้น พวกเขาก็เห็นพวกคนดูต่างกำลังรุมล้อมชายร่างใหญ่ ซัดเขาคนละตุ๊บคนละตั๊บ สับสนอลหม่านอย่างยิ่ง

หลานเยาเยา: “….. ”

แน่ใจหรือว่าพวกเรามาไม่ผิดที่?

ท้ายที่สุดแล้ว!

“ ปึง ปึง ปึง ….. ”

นางจงใจเคาะประตูหลายครั้ง: “ต้องให้ข้าเข้าร่วมด้วยหรือไม่?”

ผู้คนโดยรอบเงียบกริบ ทุกคนก็หันหน้ากลับมาโดยพร้อมเพรียง

หลังจากเห็นเย่แจ๋หยิ่ง แต่ละคนที่อยู่ข้างในต่างก็พากันกลั้นหายใจ ยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างยิ่ง

สวรรค์โปรดช่วยลูกช้างด้วย!

อ๋องเย่มา

ผู้โจ้เจิ้งที่ประจำอยู่ห้องนี้ มีอันต้องพบความอเนจอนาถแน่แล้ววันนี้

ในห้องอันโอ่โถงหรูหรา ที่ใช้ประลองกำลังภายในแห่งนี้ โจ้เจิ้งที่เจ้าของเรือจัดไว้ ย่อมเป็นคนที่มีกำลังภายในสูงส่งอย่างยิ่ง ไม่ใช่คนที่คนธรรมดาจะสามารถล้มได้ง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม ในโลกใบนี้มีคนที่มีความสามารถมากมาย จนถึงขณะนี้ ผู้โจ้เจิ้งที่มารับผิดชอบหน้าที่นี้ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปกี่รุ่นต่อกี่รุ่นแล้ว

เมื่อผู้โจ้เจิ้งเห็นเย่แจ๋หยิ่งเข้า ท่าทางของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป สีหน้าก็ซีดขาวลงทีละน้อยๆ

ได้ยินมาว่าครั้งก่อนที่อ๋องเย่มา คือเมื่อสามปีที่แล้ว การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ผู้โจ้เจิ้งก็เส้นลมปราณขาดสะบั้นทั่วกาย สิ้นใจตายไปเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น ผู้โจ้เจิ้งในห้องส่วนตัวนี้ จึงยังรู้สึกมีเงามืดในใจต่ออ๋องเย่ไม่น้อย มาตอนนี้กลับได้เจอตัวเป็นๆเข้าให้จังๆอีกด้วย

ขายังมีแรงยืนได้อยู่นี่ ก็ถือว่าร้ายกาจมากแล้ว

ถึงแม้ว่าในเรือแห่งความสิ้นหวังนี้ จะไม่จำเป็นต้องคุกเข่าก้มหัวทำความเคารพใดๆ แต่ผู้ชมในห้องนี้ก็ยังแสดงถึงความเคารพที่มีต่อเขาดังเดิม

“คารวะท่านอ๋องเย่”

“ท่านอ๋องเย่เชิญนั่งขอรับ”

“ ท่านอ๋องเย่ต้องการดื่มชาหรือไม่ขอรับ?”

“….. ”

เย่แจ๋หยิ่งสุ่มหาเก้าอี้และนั่งลง

ผู้โจ้เจิ้งมองเขาด้วยอาการ เหมือนเส้นประสาทตึงเปรี๊ยะ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรว่า:

“ท่านอ๋องเย่ต้องการประลองอย่างไรหรือ?”

เย่แจ๋หยิ่งยกถ้วยชาขึ้นจิบ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแผ่วเบาว่า “ไม่ต้อง!”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา

เห็นได้ชัดว่า ผู้โจ้เจิ้งโล่งอกจนระบายลมหายใจออกมาเลยทีเดียว หันขวับไปมองชายร่างใหญ่ ที่ยังนอนแกร่วอยู่ที่พื้น ทั้งยังมีอาการเหมือนสติยังไม่ฟื้นคืน

“การประลองรอบที่สามกำลังจะเริ่มแล้ว โปรดเตรียมตัวให้พร้อม”

เพียงพริบตานั้นเอง

ชายร่างใหญ่ลืมตาตื่นขึ้นมาในทันที ร้องห่มร้องไห้ทำเสียงเล็กเสียงน้อยพูดขึ้นว่า:

“ไม่เอาแล้วง่า! ไม่เอาแล้ว ! คนเค้ายอมแพ้แล้วนี่นา ก็คนเค้าไม่อยากประลองต่อแล้วอ่า! ฮือ ฮือ ฮือ…. ”

เย่แจ๋หยิ่ง: “….. ”

มุมปากหลานเยาเยาถึงกับกระตุก เอ่ยขึ้นว่า “ขอตัว!”

หลังจากนั้นจึงจากไปทันที

ถ้านางยังไม่ไปอีกล่ะก็ คงอดไม่ไหว ต้องซัดออกไปซักพลั๊วะเป็นแน่

ทันทีที่หลานเยาเยาจากไป เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้อยู่ต่อเช่นกัน เพียงลุกขึ้นและออกจากห้องไป

ประตูห้องประลองถูกปิดลงพลัน

ทุกคนกำหมัดแน่นอีกครั้ง พากันพุ่งตัวกรูเข้าไปหาชายร่างใหญ่ ……

“ดูเลย ดู ! ท่านอ๋องเย่ถูกเจ้าทำจนตกใจหนีไปแล้วเห็นมั้ย!”

“ ข้าจะฟังซิว่าเจ้าจะพูดอะไร!”

“ให้เจ้าเสแสร้งไปเถอะ จอมยุทธทั้งหลายไม่ต้องเกรงใจ จัดการเขาเลย!”

…………………………………

ในห้องประลอง ปรากฏเสียงโหยหวนที่แตกต่างออกไปดังแว่วมา เย่แจ๋หยิ่งมองไปที่ปลายสุดของระเบียงทางเดิน สีหน้าค่อนข้างคล้ำมืดสลัว

เป็นเพราะที่ระเบียงทางเดินนั้น หลานเยาเยาจากไปจนไม่เห็นแม้เงาตั้งนานแล้ว

นางมาที่นี่ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

หรือว่าเป็นเพราะ ต้องการพบคนที่แอบเข้าไปในจวนของนางเมื่อคืนก่อน อย่างนั้นหรือ?

เมื่อนึกถึงรูปลักษณ์อันทรงเสน่ห์ร้ายกาจอย่างถึงที่สุดของหานแส คิ้วของเขา ก็พลันขมวดมุ่นเป็นปมอย่างห้ามไม่อยู่

ฝ่ายหลานเยาเยาผู้ที่ถูกอ๋องบางคนทายใจได้ตรงเผง หลังจากหลบเลี่ยงเย่แจ๋หยิ่งมาได้แล้ว ก็กำลังอยู่บนระหว่างทางเดินพิเศษเฉพาะ ที่ใช้ไปยังห้องของเจ้าของเรือแต่เพียงผู้เดียวอยู่

ในขณะที่นางเดินๆอยู่นั้น นางก็ค่อยๆเอียงศีรษะมองไปด้านหลัง ในแววตาพลันปรากฏประกายวาววับ มุมปากหยักยกขึ้นแย้มยิ้ม

เมื่อมาถึงห้องของหานแส

จึงเห็นว่าประตูถูกแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง นางผลักเปิดประตูเดินตรงดิ่งเข้าไปข้างใน แล้วดึงปิดประตูตามหลัง

แทบจะในทันทีนั้น เงาร่างของคนผู้หนึ่ง ก็มาปรากฏที่หน้าประตูห้อง เมื่อมองผ่านช่องว่างของหน้าต่างเข้ามา ก็เห็นชายหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่งกำลังรื้อค้น เสาะหาอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน

เขาพังประตูเข้าไปทันที ซัดอาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในมือออกไปไม่รอช้า ….

แต่ทว่า หลานเยาเยาที่กำลังรื้อค้นบางอย่าง ก็ได้พบหนังสือที่กำลังหาเข้าพอดี ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้

เงาร่างพลันนั้นไหววูบ เพียงพริบตาเดียว ก็เข้าไปนั่งยังตำแหน่งที่มีเพียงเจ้าของเรือเท่านั้น ที่จะสามารถนั่งได้

จากนั้นจึงหันไปมองดูคนที่โจมตีนางด้วยท่าทางสบายๆ

เป็นเขานั่นเอง!

ผู้ต้อนรับประจำเรือที่จ้องมองนางไม่วางตา ก่อนนางจะขึ้นเรือคนนั้น ในเวลานี้ดวงตาของเขาทอประกายดุร้าย ราวกับว่าเขาอยากจะสับนางให้เป็นหมื่นๆ ชิ้นอย่างไรอย่างนั้น

“โย่! เป็นเจ้าเองหรือนี่! วรยุทธไม่เลวเลยนะเนี่ย!” หลานเยาเยาเลิกคิ้วขึ้น

“เจ้ามีปัญหาอย่างที่คิดจริงๆเสียด้วย”

ตั้งแต่ขึ้นเรือมา เขาก็เริ่มจับตามองนางไว้แล้ว หากไม่ใช่เพราะผู้ดูแลโจ๋บอกว่า เจ้าของเรือกำลังตามหาเขา เขาย่อมไม่ปล่อยให้นางได้เข้าไปในเรือเด็ดขาด

แต่ว่า!

เจ้าคนตรงหน้านี้ จะไร้ยางอายเกินไปหน่อยแล้ว!

ถึงกับกล้าเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่นั่งเจ้าของเรือ ช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก

ดังนั้นเขาจึงกำหมัด ถ่ายเทกำลังภายใน รวบรวมปราณไปที่ฝ่ามือเงียบๆ แล้วโจมตีเข้าใส่หลานเยาเยาโดยตรง คล้ายต้องการให้นางต่อให้ไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก

น่าเสียดาย……

ลมปราณของเขา ยังมาไม่ถึงตรงหน้าหลานเยาเยาด้วยซ้ำ นางก็ไปปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขาเรียบร้อยแล้ว ระดับความรวดเร็วนี้ ทำเอาเขายากจะเชื่อลงเลยทีเดียว

ความหนาวเหน็บสายหนึ่ง แผ่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาหนาวจนสั่นสะท้าน ไอปราณอันน่าหวาดหวั่นอันตราย เข้ากดทับเขาจนกระทั่งหายใจไม่ออก

เดิมคิดว่าคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่แล้ว

ใครจะรู้ว่า คนที่อยู่ข้างหลังเขา เพียงแค่ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วจึงก้าวเท้ากลับไปยังที่นั่งของเจ้าของเรือ “ เป็นอย่างไรล่ะ? รู้ถึงความห่างชั้นของพละกำลัง ความแข็งแกร่งแล้วใช่ไหม?”

ชายคนนั้นประหลาดใจเล็กน้อย กับการลงมือที่ยังถือว่าเมตตาปรานีของนาง

แต่ทว่า!

ไม่นานเขาก็ตื่นจากความประหลาดใจ กำลังคิดว่าจะส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ บนเรือรู้ว่าเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นแล้ว

แต่กลับถูกหลานเยาเยาเอ่ยปากหยุดยั้งไว้ตรงๆ

“ถ้าข้าเป็นเจ้านะ ข้าจะไม่ทำอะไรผลีผลามเด็ดขาด” หลังจากพูดจบ นางยังไม่ลืมปรายตามองไปที่มือของชายคนนั้นวูบหนึ่ง

เป็นดั่งที่คิดจริงๆ!

หลังจากที่นางพูดเช่นนั้น

ผู้ต้อนรับประจำเรือ รู้สึกถึงการขู่เข็ญอันรุนแรงหนักหน่วง จึงหยุดการเคลื่อนไหวที่มือของตนลงในที่สุด

“เจ้าเป็นใครกันแน่ ? มีจุดประสงค์อะไร?”

ก่อนหน้านี้มาพร้อมกับอ๋องเย่ หรือจะเป็นคนที่อ๋องเย่ส่งมาอย่างนั้นหรือ?

“ถามเรื่องพวกนี้ทำไมไม่ทราบ? เจ้าควรจะคิดให้ดีหน่อยว่า ผู้ดูแลโจ๋ เป็นคนละเอียดรอบคอบ รู้จักระมัดระวังถึงเพียงนั้นแท้ๆ เรื่องที่เจ้ายังมองออกว่ามีปัญหา เขาจะมองไม่ออกเลยเชียวหรือ?”

นี่ถ้าไม่เห็นว่าหานแสยังไม่มาล่ะก็

นางอาจจะเบื่อหน่ายจนต้องมาคุยเจ๊าะแจ๊ะกับคนนี้ที่นี่?

ช่างแมร่งเหอะ!

หาคนคุยเล่นสักคน เพื่อกำจัดความเบื่อหน่ายไปแล้วกัน

ทันทีที่นางพูดออกไป

ชั่วขณะนั้น ผู้ต้อนรับประจำเรือก็เกิดความรู้สึกสงสัย ขมวดคิ้วมุ่นเป็นปม:

“ เป็นเพราะเจ้าเจ้าเล่ห์เกินไปล่ะสิ”

“ ผิดแล้ว เป็นเขาจงใจเปิดทางปล่อยผ่าน!”

“เป็นไปไม่ได้ ผู้ดูแลโจ๋ไม่มีทางทรยศต่อท่านเจ้าของเรือ เจ้าไม่ต้องมายุแยงตะแคงรั่ว ให้พวกเราเกิดความแตกแยก ไม่ลงรอยกันไปหน่อยเลย! ” ผู้ต้อนรับประจำเรือสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธขึ้ง

เขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าเป็นผู้ดูแลโจ๋ตั้งใจเปิดทางให้

แต่ว่า…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน