หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 324 มงกุฎฟีนิกซ์?

บทที่ 324 มงกุฎฟีนิกซ์?

บทที่ 324 มงกุฎฟีนิกซ์?

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ เห็นชัดอยู่แล้วว่านี่คือภาพลวงตา จะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”หลายเยาเยาส่ายหน้าพลันพูดอย่างไม่เข้าใจ พลางจ้องมองไปยังเครื่องหมาย

เย่แจ๋หยิ่งที่เห็นความแปลกไปของนาง จึงรีบถามถึงสาเหตุทันที หลานเยาเยาจึงบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องเครื่องหมายออกมา

หลังจากที่พูดจบ หลานเยาเยาก็เห็นขมวดคิ้วแน่น บางทีนี่อาจเป็นมากกว่าภาพลวงตา

นางยังไม่ทันได้คิดให้เข้าใจ ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งทำหน้านิ่ง เดินไปยังทางของชายหนุ่มชุดขาว

ชายหนุ่มชุดขาวราวกับสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง ทันที่หันหลังกลับมา มือของเย่แจ๋หยิ่งก็แตะลงไปบนไหล่ของเขา

สักครู่จากนั้น……

ใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งก็ซีดเซียว เลือดกระอักพุ่งออกมาจากปาก จากนั้นก็เห็นเขาใช้มือข้างหนึ่งกุมหัวตัวเองเอาไว้ด้วยความทรมาน ส่วนมืออีกข้างก็จับไหล่ของชายหนุ่มชุดขาวไว้แน่น

แต่ชายหนุ่มชุดขาวราวกับไม่ได้สัมผัสถึงสิ่งใดทั้งสิ้น แล้วร่างที่เป็นภาพลวงตาก็เริ่มโปร่งใส แล้วหายไปในเวลาต่อมา

แล้วเสียงกู่ฉินก็หยุดลงไปในทันที

“เย่เจ๋หยิง……”

หลานเยาเยารีบวิ่งมายังข้างกายของเย่แจ๋หยิ่ง พร้อมกับจับชีพจรและตรวจร่างกายของเขา

แต่นอกจากจะรู้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเต้นเร็วแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีพบอะไรผิดปกติเลย

หมดหนทางแล้ว

ทางที่ดีนางควรจะใช้เครื่องมือในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมาแสกนตรวจดูแล้ว แต่น่าเสียดายที่ระบบกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ

แม่งเอ้ย

กล้ามาปิดระบบตอนเวลาสำคัญงั้นหรือ?

【เจ้านายโปรดระงับอารมณ์ ตัวข้าไม่ได้ปิดระบบ เพียงสนามแม่เหล็กในนี้นั้นมีมากเกินไป ซึ่งมันได้รบกวนระบบการทำงานปกติไปแล้ว】

สนามแม่เหล็ก?

สนามแม่เหล็กอีกแล้ว!

สนามแม่เหล็กอันนี้มีความข้องอันใดกับเย่แจ๋หยิ่งกัน?

【สิ่งนี้ สิ่งนี้ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน!อาจเป็นเพราะสนามแม่เหล็กนั้น ทำให้คนๆเดียวกันที่อยู่ต่างโลกมาเจอกัน จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้】

เอ่อ……

แล้วยังมีท่าทางที่ต่างกันด้วย?

แม่เจ้า!

เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือภาพลวงตา แล้วคนในภาพลวงตาและตัวจริงได้สัมผัสถึงกันก็เท่านั้น

【เจ้านายโปรดสงบก่อน ข้าเป็นเพียงระบบรักษาโรคภัยไข้เจ็บหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านวิชาการแพทย์ ส่วนการเข้าใจเรื่องสิ่งอื่นนั้นเป็นเพียงงานอดิเรกทีไม่สามารถใช้กล่าวอ้างอิงได้】

แม่งเอ้ย!

ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้?ดูแล้วจะเป็นการกวนประสาทเสียมากกว่า!

【……เป็นท่านที่ถามไม่ใช่หรือยังไง!ข้าถึงได้ยอมเสี่ยงตอบคำถามท่าน】ระบบพูดออกมาอย่างเบาๆ

หลานเยาเยากุมขมับเงียบทันที

หลังจากที่พึ่งพาระบบไม่ได้ ก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองแล้ว

แล้ว!หลานเยาเยาก็หยิบเข็มเงินออกมา ฝังเข็มให้กับเย่แจ๋หยิ่ง

ต้องปลดปล่อยความเจ็บปวดของเขาค่อยว่ากันอีกที

เพียงลนเข็มด้วยไฟได้เพียงครู่เดียว นางก็พบว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว แต่เขาก็ยังอยากที่จะให้นางฝังเข็มให้กับเขาต่อไป

หลังจากฝังเข็ม นางก็เก็บเข็มเงินกลับเข้าไปในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

จากนั้นก็จ้องมองไปยังเหงื่อที่ไหลออกมาบนหน้าผากของเขา แล้วถามเบาๆ

“ไม่เจ็บแล้วหรือ?”

เขาตอบอย่างแผ่วเบา“อืม”จากนั้นก็หันไปพูดกับหลานเยาเยาอย่างเรียบนิ่ง :“เยาเยา บางทีบนโลกใบนี้อาจจะมียาอายุวัฒนะก็เป็นได้”

ได้ยินแบบนั้น!หลานเยาเยาก็ถึงกับนิ่งงัน ด้วยความไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้พูดสิ่งนี้ออกมา

แล้วเขาก็ดึงมือเธอขึ้น พานางเดินไปยังข้างๆของพื้นน้ำแข็งที่ทำเครื่องหมายไว้ ก่อนจะวางมือของนางลงไปแล้วใช้แรงกดเข้าไป

แล้วหน้าน้ำแข็งก็ยุบเว้าเข้าไป

“โครม……”

หลังจากที่ราวกับกำลังมีวัตถุหนักบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว ช่องนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย เพียงไม่นาน ประตูน้ำแข็งก็ถูกเปิดออก

“ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”หลานเยาเยาถามด้วยความไม่เข้าใจ

“อีกเดี๋ยวประตูน้ำแข็งนี้ก็จะปิดลงแล้ว เราเข้าไปด้านในแล้วค่อยคุยกันเถอะ”

“อืม!”

หลังจากที่ทำการตกลงกันเรียบร้อย ก็พากันเดินเข้าไปด้านใน

เสียงดังโครมดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วประตูน้ำแข็งก็ปิดตัวลง

เดิมทีหลังจากที่ประตูน้ำแข็งปิดลง หลานเยาเยาก็กำลังจะถมเย่แจ๋หยิ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับตะลึงกับภาพอันงดงามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าแทน

ภาพพระราชวังน้ำแข็งอันเย็นเยือกตั้งสูงตระหง่านอย่างสง่างาม แล้วยังมีภูเขาหิน บันได ศาลาพลับพลที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และรูปปั้นเสมือนจริงจำนวนหนึ่งตั้งอยู่

หยกแกะสลักน้ำแข็งตั้งตระหง่านราวกับแดนสวรรค์ไม่มีผิด

“อุโมงค์ลึกนี้มีที่ที่งดงามเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”

สถานที่แห่งนี้ไม่ได้กำเนิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ แต่เป็นการใช้แรงงานคนสร้างขึ้นมา และต้องเป็นช่างฝีมือชั้นสูงเท่านั้นถึงจะทำได้สำเร็จ

“ไม่ทราบ”

เย่แจ๋หยิ่งตอบกลับอย่างกระชับได้ใจความ

“ที่นี่เป็นดั่งโลกน้ำแข็งหิมะ ดินแดนสวรรค์บนโลกมนุษย์ เพียงแต่ว่า…..มันเย็นกว่าเท่านั้น”

นอกจากความหนาวเย็นแล้ว ทุกอย่างที่นี่ล้วนดีไปหมด

แล้วในเวลานั้นเอง!จู่ๆมือก็อุ่นขึ้น แล้วมือใหญ่ก็กุมมือของนางเอาไว้ ไม่ทันได้ให้นางตอบกลับสิ่งใด เจ้าของมือใหญ่นั้นก็พานางเดินขึ้นบันไดเข้าไปยังพระราชวัง

ภายในพระราชวังนั้นแตกต่างกับสิ่งที่คาดคิดไว้

เดิมทีหลานเยาเยาคิดว่าทุกสิ่งที่อยู่ภายในพระราชวังจะต้องเป็นน้ำแข็ง แต่คาดไม่ถึงว่าด้านในถูกสร้างขึ้นมาด้วยคริสตัลใสทั้งหมด

ส่วนสิ่งของอย่างอื่นก็มีผ้าม่าน เครื่องนั่งเครื่องใช้ที่ทำจากไม้แดง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นของดีๆทั้งนั้น

ทันทีที่หลานเยาเยาเดินมาถึงห้องนอน ได้เห็นเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ทำมาจากหยกชั้นสูง ดวงตาก็เปล่งแสงแพรวพราว

ฮิๆ!

สิ่งของทุกอย่างของที่นี่ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า หากหยิบออกไปขาย ราคาต้องสูงมากแน่

ผู้ใดเป็นผู้ที่สร้างสถานที่แห่งนี้กันนะ?

ช่างร่ำรวยเกินไปแล้ว?

จากนั้น!หลานเยาเยาวิ่งตรงไปยังข้างเตียงหยก เอื้อมมือออกไปลูบอยู่สักพัก

ความตกตะลึงประกายขึ้นมาในแววตาของนาง เพียงครู่เดียวดวงตาก็ประกายอีกครั้ง

อุ่นจัง

เตียงหยกนี้มีความอุ่น

ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแช่แข็งตายแล้ว

หลานเยาเยาที่แทบจะทนความหนาวเหน็บไม่ได้แล้ว ก็ได้ถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปยังเตียงหยก แล้วความอบอุ่นของเตียงหยกก็แพร่เข้าสู่ร่างกายของหลานเยาเยา

แล้วร่างกายก็อุ่นขึ้นมาในทันที

“เย่แจ๋หยิ่ง รีบขึ้นมาเร็วเข้า เตียงนี้อุ่นมากยิ่งนัก”

เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าและเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มจางๆที่ริมฝีปากของเขา

เขาที่เพิ่งนั่งลงบนเตียงหยกได้ไม่นานนัก ก็ถูกหลานเยาเยาดึงมือเขาไปลูบแล้วลูบอีก แต่ดูเหมือนกับว่ามันยังไม่เพียงพอ หลานเยาเยาจึงเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเขา

จากนั้นก็ยิ้มออกมา

แล้วพูดด้วยความดีใจ“ตัวท่านเองก็อุ่นขึ้นมาแล้ว”

เมื่อมีความสุข นางก็รีบหันไปถามเย่แจ๋หยิ่งด้วยความสงสัย“จริงด้วย ท่านรู้ได้อย่างไรว่ากลไกอยู่หนใด?มีความเกี่ยวข้องกับชายชุดขาวในภาพลวงตางั้นหรือ?”

คงจะเป็นหลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งสัมผัสกับชายคนนั้น แล้วได้เห็นภาพนิมิตขึ้นมา

เช่นเดียวกับตอนที่นางเข้าไปในภาพลวงตาตอนอยู่ที่ต้นไม้บุพเพ และได้เห็นถึงความเป็นมาของต้นไม้บุพเพ

ปรากฏว่า!

เย่แจ๋หยิ่งตอบเพียง “อืม” คำเดียวออกมาเบาๆ

แล้วริมฝีแดงของนางก็ยกขึ้นอย่างมีความสุข“เช่นนั้นท่านก็น่าจะรู้ว่าจะออกไปอย่างไรอีกด้วย?”

ทันใดนั้น เย่แจ๋หยิ่งก็หันไปสบตากับนาง ด้วยแววตาที่ดูแปลกๆ ก่อนที่ริมฝีปากจะค่อยๆขยับ

“ข้าก็ไม่รู้!”

ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้หลานเยาเยาสนใจมากนัก แล้วจากนั้นนางก็หยิบเอาอาหารจำนวนหนึ่งออกมาจากระบบรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

“เวลาของพวกเราเหลือน้อยแล้ว”

เพราะอาหารในระบบนั้นเหลือน้อยเข้าไปทุกที ถึงแม้จะสามารถใช้กลูโคสในการยันชีวิตเอาไว้ได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะอยู่นาน

ซึ่งหนทางเดียวก็คือต้องเร่งหาทางออกแล้วหนีออกไปเสีย

ดังนั้นหลังจากกินอาหารเสร็จ พวกเขาก็ได้เดินไปสำรวจพระราชวัง พร้อมกับหาเบาะแสไปด้วย

แต่หามาเป็นเวลานาน เบาะแสสักอย่างก็หาก็ไม่พบ เพียงแต่หาเจอหีบไม้แดงขนาดใหญ่ในพระราชวังหลายใบ ที่ภายในบรรจุสมบัติล้ำค่าและเสื้อผ้าเครื่องประดับเอาไว้

และสิ่งที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจมากที่สุดก็คือ หนึ่งในบรรดาหีบไม้แดงนั้น หลานเยาเยาได้พบกับชุดอภิเษกสองชุดอยู่ด้านใน

มงกุฎฟินิกซ์!

แต่มันกลับงดงามกว่ามงกุฎฟินิกซ์ทั่วไปเป็นพันเท่าหมื่นเท่า……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท