หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 327 กู่ฉินมีวิธีการของตัวมันเอง

บทที่ 327 กู่ฉินมีวิธีการของตัวมันเอง

บทที่ 327 กู่ฉินมีวิธีการของตัวมันเอง

แต่ว่า จะเป็นไปได้อย่างไร?มงกุฎฟินิกซ์จะถูกสร้างมาพอดีกับนางได้อย่างไร?แล้วเหตุใดที่ทำให้เย่แจ๋หยิ่งมั่นใจได้ถึงเพียงนี้?

สมองของหลานเยาเยาก็เริ่มสับสน

มีคำถามมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของหลานเยาเยา นางจึงรีบสวมมงกุฎให้เรียบร้อย แล้วเดินออกไป

หลังจากที่ออกมา

นางก็ต้องตะลึงอีกครั้ง

เพราะที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางก็คือเย่แจ๋หยิ่งที่ไปเป็นอีกคนแล้ว

เถอดชุดสีดำโดดเด่นออกไป ดวงตาที่เย็นชาและแข็งกระด้างก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลและอ่อนโยนแทน พร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า

เขาสวมชุดอภิเษกแล้ว……

เสื้อคลุมผ้าปักดิ้นทองสีแดงสดขอบดำ ปักด้วยลวดลายที่โดดเด่นและมีชีวิตชีวา บริเวณเอวคาดด้วยเข็มขัดหยกสีทอง ทำให้เย่แจ๋หยิ่งที่มีราศีของราชาผู้สง่างามให้ดูผ่าเผยยิ่งขึ้น

สวรรค์!

ราวกับเทพเจ้าที่อยู่บนดินก็ไม่ปาน

ในหีบนี้ยังมีชุดอภิเษกของบุรุษอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดที่คู่กับชุดคู่มงกุฎฟินิกซ์ที่นางสวมใส่อยู่ในตอนนี้

เดิมที่นางคิดว่าชุดมงกุฎฟินิกซ์ที่ตัวเองสวมนั้นเหมาะกับตัวแล้ว

คิดไม่ถึงว่า เย่แจ๋หยิ่งที่สวมชุดนั้นแล้วยิ่งทำให้เห็นชัดว่ามันเหมาะสมจริงๆ

ตอนนี้นางได้แต่อดไม่ได้ที่จะยืนมองเย่แจ๋หยิ่งอย่างเหม่อลอย ซึ่งในเวลานี้ นางเกิดอาการสับสนแล้วจริงๆ

“หล่อยิ่งนัก จริงๆ”

หลานเยายาดูเหมือนจะรู้สึกถึงความร้อนไหลที่ในจมูกของนาง นางจึงเอื้อมมือไปปิดจมูกของตัวเองทันที

แย่แล้ว!

กำลังจะเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว

ทว่า ในขณะที่ชื่นชมชายหนุ่มรูปงามอยู่นั้น หลานเยาเยาก็สูญเสียความรู้สึกนึกคอดไปโดยสิ้นเชิง นางจึงรีบตะโกนออกมาทันที

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านหันหลังไป ข้าอยากจะชื่นชมแผ่นหลังของท่านสักหน่อย”

เย่แจ๋หยิ่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ก่อนจะหันหลังกลับมา

หลานเยาเยาจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บเช็ดเลือดบนจมูกออก แล้วพ่นยาเพื่อหยุดเลือด

หลังจากที่ทำทุกอย่างเรียบร้อย

นางก็รีบเดินไปหาเย่แจ๋หยิ่งพลันถามอย่างจริงจัง

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?นี่พวกเราอยู่ในภาพลวงตางั้นหรือ?”

ชุดอภิเษกในหีบนั้น ราวกับว่าถูกจัดมาให้พอเหมาะกับพวกเขาเสียอย่างนั้น

สิ่งนี้มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป นอกจากจะเป็นภาพลวงตา ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ยากที่จะอธิบายแล้วจริงๆ

“อยากรู้งั้นหรือ?”

เย่แจ๋หยิ่งเอื้อมมือไปลูบหัวของนาง แล้วจ้องมองนางด้วยความเอ็นดู หลังจากที่เห็นนางพยักหน้า เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“พวกเราไปไหว้ฟ้าดินกันเถอะ!”

“……นี่เกี่ยวข้องสิ่งใดกับสิ่งที่ข้าอยากรู้งั้นหรือ?”

เจ้าคนนี้จะต้องหลอกให้นางไปไหว้ฟ้าดินเพื่ออภิเษกกัน นางไม่มีทางยอมหลงกลหรอก

“ไม่เกี่ยวข้อง!”

“……”ไม่เกี่ยวข้องแล้วจะยังให้ไปไหว้ฟ้าดิน

ที่แท้ก็อยากหลอกให้นางอภิเษกด้วย พอถูกจับได้ ก็ยังจะมาทำตัวไม่มีมั่นใจไม่รู้ร้อนอะไรอีก

หื้ม!

เจ้าหมอนี่ ยิ่งนานก็ยิ่งร้ายขึ้นเรื่อยๆเลย

“ก็ได้ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง”

พูดไป มือของหลานเยาเยาก็ถูกมือของเย่แจ๋หยิ่งจับเอาไว้ แล้วพานางเดินออกไปนอกพระราชวัง

“เดี๋ยวก่อน ข้าจะไปเอากู่ฉิน”

หลานเยาเยาสะบัดมือของเย่แจ๋หยิ่งออก“ตุบๆๆ”วิ่งกลับไป

เดิมทีไม่ความจำเป็นใดจะต้องเอากู่ฉินไปด้วยแต่ด้วยความที่หลานเยาเยากลัวจะหลงใหลให้กับความน่าดึงดูดของเย่แจ๋หยิ่งจนควบคุมใจตัวเองไม่ได้

ไปเอากู่ฉินเป็นเรื่องโกหก แต่เลี่ยงที่จะถูกเย่แจ๋หยิ่งจับมือนั้นเป็นเรื่องจริง

จากนั้น!

หลานเยาเยาที่ถือกู่ฉินเอาไว้ เดินตามเย่แจ๋หยิ่งมาก่อนจะหยุดลงกำแพงน้ำแข็งที่เรียบและโปร่งใส

นางดูแล้วดูอีก แล้วก็หันหลังกลับไปดูอยู่หลายครั้ง ก็ยังคงไม่เห็นจะมีความลับอันใด

อีกทั้ง!

กำแพงอันนี้นางเห็นมาก่อนแล้วในตอนที่กำลังตามหาทางออก แต่มันก็ไม่ได้มีความพิเศษใดๆ

แต่เย่แจ๋หยิ่งคงไม่พานางมาที่นี่อย่างไร้สาเหตุแน่ ดังนั้นนางจึงต้องสังเกตมันใหม่อีกครั้งเสียแล้ว

ความโปร่งใสของกำแพงน้ำแข็งนี้ ราวกับกระจกบานใหญ่

นอกจากมองเห็นภาพสะท้อนของนางกับเย่แจ๋หยิ่งที่กำลังสวมชุดอภิเษกอยู่นั้น ก็ราวกับว่าไม่มีสิ่งอื่นใดที่ดูพิเศษอันใด

หลังจากที่ตรวจดูอีกครั้งอย่างละเอียดแล้ว ก็ยังไม่พบสิ่งใด นางจึงขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้จ้องมองไปยังเย่แจ๋หยิ่ง

“ที่นี่มีช่องลับซ่อนอยู่งั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินความสงสัยของหลานเยาเยา เย่แจ๋หยิ่งก็มองเข้าไปในโพรงประตูทรงกลม ก่อนจะหันมามองหลานเยาเยา

“อืม มี”

เพียงแค่นางมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง

และแล้ว!

เขาก็เอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสกับกลไก

“โครม……”

ทันใดนั้นกำแพงก็แตกออกราวกับใยแมงมุมและประตูน้ำแข็งทรงกลมก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

“โต๊ง……”

จิ่วเซียวหวงเพ่ยในมือของหลานเยาเยาอยู่ๆก็ส่งเสียงอันรุนแรงออกมา จนหลานเยาเยาต้องเอามือปิดหูเอาไว้

ว้าว!

ปฏิกิริยานั้นแรงขนาดนี้เลยหรือ?น่าตกใจยิ่งนัก

“ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เย่แจ๋หยิ่งถามด้วยความห่วงใหญ่

หลานเยาเยาส่ายหัวที่ข้างในหูยังคงส่งเสียงหึ่งๆ,“ไม่เป็นอะไร เข้าไปดูข้างในเถอะ”

หลังจากที่ทั้งสองสบตา ก็พากันเดินตามกันเข้าไป

ทันทีที่เข้าไปด้านใน

แล้วโพรงประตูน้ำแข็งทรงกลมก็ปิดลงโดยไม่มีสัญญาณเตือน.fq

พระเจ้า!

หลานเยาเยามองดูประตูน้ำแข็งที่ปิดตัวลง แล้วหันกลับไปมองใบหน้าที่นิ่งสงบของเย่แจ๋หยิ่ง

ดูแล้วเขาน่าจะเคยเข้ามาแล้ว

ด้านในก็คงจะไม่มีอะไรที่เป็นอันตราย ดังนั้นนางถึงสงบใจลงมาได้

ทันทีประตูน้ำแข็งปิดตัวลง แสงตะเกียงน้ำมันในอุโมงค์ก็ส่องแสงริบหรี่ขึ้นมา

อุโมงค์ทางเดินนั้นสั้นมาก เดินเพียงสิบกว่าเมตรก็มาถึงทางออกแล้ว จากนั้นสิ่งที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าก็คือถ้ำน้ำแข็งรูปทรงกลม

ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้โปร่งแสงอย่างมาก และตามผนังถ้ำก็ถูกสลักด้วยลวดลายต่างๆเอาไว้ ซึ่งลวดลายเหล่านี้ล้วนดูมีชีวิตจริง

แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ มีลวดลายบางอย่างที่พวกเขารู้สึกคุ้นเคยเอามากๆ

หลังจากที่เข้ามาในนี้

จิ่วเซียวหวงเพ่ยที่หลานเยาเยาแบกไว้อยู่นั้นเกิดการกระสับกระส่ายไปมา ราวกับว่ามีชีวิต

ตอนอยู่ในอุโมงค์ นางยังพอที่จะแบกเอาไว้ได้

แต่ทันทีที่เข้ามาในถ้ำน้ำแข็ง จิ่วเซียวหวงเพ่ยก็หลุดออกไปจากอ้อมแขนของนาง แล้วบรรเลงบทเพลงขึ้นมาต่อหน้าของนาง

เสียงกู่ฉินอันหน้าน่าสลดโศกเศร้า ดังขึ้นๆลงๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ท่วงทำนองฟังดูไพเราะ แต่มันก็ทำให้ผู้ที่ได้ฟังรู้สึกเศร้าใจ

เอ่อ……

จิ่วเซียวหวงเพ่ยมีความต้องการของตัวเอง เช่นนั้นหลานเยาเยาก็ทำอะไรไม่ได้

ทันใดนั้นหลานเยาเยาก็ไม่ได้สนใจกับลวดลายภาพที่อยู่บนกำแพงน้ำแข็ง เพียงแต่นั่งลง แล้วดีดบรรเลงตามจังหวะของกู่ฉิน

ทันทีที่วงจังหวะประสานกัน

ในแววตาของหลานเยาเยาก็ปรากฏภาพเปลวไฟอันโชกโชนขึ้นมาทั้งสองทาง แล้วทันใดนั้นเองตัวของหลานเยาเยาก็อยู่ท่ามกลาง

เปลวไฟที่ลุกโชนนั้น……

รอบๆเป็นเปลวไฟเต็มหมด……

และนางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากเปลวไฟที่แผดเผาผิวหนังของนาง โดยเฉพาะบริเวณท้อง

นางก้มหน้าลงไปดู ก็เห็นตรงท้องมีบาดแผลอยู่ โดยที่บาดแผลมีกระบี่ยาวเสียบคาอยู่ แล้วเลือดก็ไหลล้นออกมา

เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็เผชิญหน้ากับดวงตาที่เย็นชาของเย่แจ๋หยิ่ง

เย่แจ๋หยิ่ง?!

ไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่งในตอนนี้อีกแล้ว แต่เป็นเย่แจ๋หยิ่งที่จิตใจเยือกเย็นเมื่อสามปีก่อนคนนั้น

เหตุการณ์นี้นางรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก……

ที่นี่เป็นภายในของหุบเขาจิ้นของชนเผ่าหยินไห่ แล้วหน้าผาก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของนางต้องตกอยู่ในห้วงแห่งฝันร้าย

สามปี……

สามปีกว่าแล้ว

เสียงอบอุ่นที่ตัวเองคุ้นเคยก็ดังขึ้นมา “เย่……แจ๋หยิ่ง นับว่าท่านโหดร้าย ข้าหลานเยาเยาถึงได้ตกอยู่ในกำมือของท่านตลอด ถือเสียว่าข้าตา ……บอด ถ้าหากเริ่มต้นใหม่ได้……”

ความเจ็บปวดอันสิ้นหวังและความเกลียดชัง จากช่วงเวลานี้ไปมันจะทวีคูณมากขึ้นเรื่อยตามวันเวลา

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ไร้ความปรานีอันคุ้นเคย หลานเยาเยาก็รู้ได้เลยว่าเขาจะพูดสิ่งใดต่อไป

เพราะว่าประโยค นางได้จดจำเอาไว้สุดหัวใจ ซึ่งเป็นคำที่ทั้งชีวิตนี้ไม่สามารถลบออกจากใจได้

และแล้ว!

“มีเพียงวันนี้เท่านั้น ไม่มีเริ่มต้นใหม่”เสียงอันโหดร้ายเลือดเย็นดังออกมา

นางก็รู้สึกถึงกระบี่ที่ถูกดึงออกไปจากท้อง ก่อนที่นางจะร่วงลงไปใต้หน้าผา แล้วนอนกองลงกลางทุ่งดอกกระดูกขาวที่กำลังเบ่งบาน

ความเจ็บปวดบนร่างกาย……

ความสิ้นหวังในจิตใจ…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท