หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 341 ปับปับปับคืออะไร

บทที่ 341 ปับปับปับคืออะไร

บทที่ 341 ปับปับปับคืออะไร

“อืม!” แน่นอนนางรู้ว่าเป็นนักฆ่าของยิงจวน เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงตามไล่ฆ่าสองคนนั้น “ไปช่วยสองคนนั้น จำไว้ว่า แอบช่วยอย่างเงียบๆ”

ไม่ว่าจะพูดอีกอย่างไร นางก็ถือว่าเป็นคนของเรือแห่งความสิ้นหวัง

และเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง——หานแส ก็เป็นพี่ใหญ่ของยิงจวน แน่นอนว่าการช่วยคนของนางนั้นไม่สามารถให้คนของยิงจวนรู้ได้ว่าเป็นนาง

“ใช่!”

จื่อเฟิงเป็นผู้นำทาง

หลานเยาเยาก็ขี่สวนหยู่ไปหลบอยู่ในความมืด……

แม้ว่าจื่อเฟิงจะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บภายใน แต่ก็ยังสามารถรับมือกับยิงจวนยายเมิ่งทั้งสองคนและยังจัดการกับนักฆ่าศพแห้งได้

สำหรับสิ่งนี้!

หลานเยาเยาก็ไม่ได้กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว

ตอนนี้นางนั่งอยู่บนพื้น พิงก้อนหินก้อนใหญ่ ที่ล้อมรอบไปด้วยใบเฮาเช่า ตราบใดที่ไม่ได้มายังด้านหน้าของหินก่อนใหญ่ ก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีนางอยู่อย่างแน่นอน

หลานเยาเยานั่งไขว่ห้าง

หลังจากเงียบสงบ ก็รู้สึกหิวแล้ว จึงได้ไปหาในช่องว่างของระบบ พบว่าของกินได้กินไปหมดแล้วตั้งแต่ที่อยู่ในวังหิมะแล้ว และแม้แต่เศษก็ไม่มีเหลือเลย

“เฮ้อ หิวมาก!”

การรอใครบางคนในสภาพที่หิวโหย เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเรื่องหนึ่ง

ดังนั้น นางจึงได้แต่หาคนมาคุยด้วยเท่านั้น

แต่ที่นี่นอกจากตัวนางเองแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นเลย นางจึงได้แต่สื่อสารกับระบบได้เท่านั้น

“เจ้าระบบ การจะไปถึงระดับห้าจำเป็นต้องทำภารกิจแบบใดให้สำเร็จ”

หลังจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เลื่อนระดับไปถึงระดับสี่ตั้งแต่สามปีก่อน ก็ไม่เคยได้รับการเลื่อนระดับขึ้นอีก นางจึงอยากรู้เล็กน้อยว่าจะต้องทำภารกิจใดถึงจะไปถึงระดับห้า

ใครจะรู้……

【เจ้านาย! ฉันเหนื่อยใจมากกับการที่จะต้องบอกท่านว่า ระบบได้เลื่อนระดับเป็นระดับห้ามานานแล้ว เครื่องมือทางการแพทย์และยาได้มีการแสดงให้ท่านแล้ว เพียงแต่ท่านไม่เคยตรวจสอบเลยเท่านั้นเอง】ระบบส่งเสียงที่น่าเบื่อหน่ายออกมา

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเบื่อ เดาว่าตนเองก็คงถูกลืมไปสุดขอบฟ้าแล้ว

อะไรนะ

เลื่อนระดับแล้วอย่างนั้นหรือ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน ทำไมตนเองไม่ได้รับข่าวสารใดๆ เลย

“คุณรีบพูดให้ชัดเจน จะต้องทำภารกิจอะไรจึงจะเลื่อนระดับได้ถึงระดับห้า ทำไมจึงรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลยก็มีการเลื่อนระดับแล้วล่ะ”

【……】เจ้าระบบปาดเหงื่อโดยไม่พูดอะไร

ยังไม่ได้ทำอะไรเลยหรือ

สิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ ก็ล้วนทำหมดแล้ว

“ทำไมไม่พูดล่ะ รีบพูดสิ! ตกลงว่ามันคือภารกิจอะไร

【ปับ ๆ ๆ!】

“เป็นบ้าอะไร”

【ก็คือจะต้องมีการปับปับปับกับคนกรุ๊ปเลือด A3! ไม่ได้ว่าท่านนะเจ้านาย ภารกิจแบบนี้ในระหว่างที่กระบวนการของภารกิจจะสำเร็จ ท่านไม่ควรจะมาปิดกั้นฉัน】

ฉากที่ดุเดือดขนาดนี้ ไม่เห็นว่ามันจะเป็นอันตรายเลยสักนิด น่าเสียดายที่สุด

“……”

ใบหน้าของหลานเยาเยาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ทำให้ฉากนั้นได้ปรากฏขึ้นมาในความคิดอีกครั้ง จมูกก็ร้อนขึ้นในทันที ราวกับรู้สึกว่าจะมีเลือดกำเดาไหล

หลานเยาเยารู้สึกไม่ดี

สลัดภาพที่สกปรกในความคิดออกไปทันที และไอขึ้นเบาๆ

“โธ่ ในเมื่อภารกิจระดับห้าได้สำเร็จแล้ว และยังสำเร็จจนยอดเยี่ยมอีกด้วย

อย่างนั้นคุณบอกฉันมา ว่าภารกิจในการเลื่อนระดับระบบของระดับห้าคืออะไร และยังต้องเลื่อนระดับอีกกี่ระดับ จึงจะถือว่าระบบเลื่อนระดับเสร็จสมบูรณ์”

หลานเยาเยาอาจจะตรวจสอบเครื่องมือทางการแพทย์และตัวยาที่เพิ่งเปิดใหม่แล้ว ทำให้นางตกใจมากจนไม่ไหวแล้ว

ทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นสูง เช่น หนึ่งในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง หากมีคนต้องการเปลี่ยนหัวใจ เพียงหาหัวใจที่เหมาะสมได้ จากนั้นนำไปใส่ไว้ด้วยกันกับคนก็ได้แล้ว

การทำงานอัตโนมัติทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ฝืนธรรมชาติ

แน่นอน!

สิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับการประคับประคองความเข้มแข็งทางจิตใจอย่างมหาศาล

นอกจากเครื่องมือทางการแพทย์ที่ชาญฉลาดแล้ว ตัวยาที่เพิ่งเปิดใหม่ ก็แทบจะเหมือนกับยาขนานวิเศษ

ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นทันที

ดังนั้น!

นางจึงอยากรู้ว่าภารกิจในการไปถึงระดับหกนั้นคืออะไร

คงจะไม่สามารถช่วยคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้จริงๆใช่ไหม

【เจ้านาย ฉันจะบอกปัญหาที่หนักหน่วงปัญหาหนึ่งให้กับท่าน ระดับถัดไป ก็คือภารกิจของการเลื่อนระดับสู่ระดับที่หกซึ่งเป็นภารกิจการเลื่อนระดับขั้นสุดท้าย

สำหรับภารกิจนั้นคืออะไร ฉันยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนในตอนนี้ และหลังจากการเลื่อนระดับขั้นสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์ จะเปิดเผยอะไรออกมาฉันก็ไม่อาจรู้】

เอ่อ……

แม้แต่การเลื่อนระดับขั้นสุดท้ายตัวระบบเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คงจะไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิดใช่ไหม

หากเป็นเช่นนั้น ก็คงจะไร้สาระเกินไป

เดิมทีหลานเยาเยาต้องการให้เจ้าระบบบอกลาไป แต่กลับพบว่า……เจ้าระบบจึงได้บอกลาอย่างตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ในขณะนั้นเป็นอย่างดี

“……”

เป็นจริงอย่างที่คิด!

หลังจากการเลื่อนระดับใหม่นั้น เจ้าระบบก็พูดจาไม่เป็นกลไกแล้ว สมองก็ยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เลวไม่เลว

หลังจากเจ้าระบบได้บอกลาไปเอง หลานเยาเยาก็รีบตรวจสอบสิ่งที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้งหมด ยิ่งตรวจสอบก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น

จึงหัวเราะออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ

“ฮ่าฮ่าฮ่า……”

เวลาผ่านไปเกือบจะครึ่งชั่วโมง หลานเยาเยาที่นั่งพิงก้องหินอยู่ก็ได้ยินเสียงของฝีเท้า

ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่าใครกลับมา นางจึงหยิบยาเม็ดที่เพิ่งเปิดใหม่ออกมาหนึ่งเม็ด และยืนขึ้นด้วยหน้าตาที่งดงามและมีเสน่ห์

ยังไม่ทันจะเอ่ยปาก

ก็ทำให้คนที่มาต้องตกใจราวกับไก่พองขน และถอยออกไปหลายก้าว

“……”

ไม่ใช่จื่อเฟิง

สายตาของหลานเยาเยากลายเป็นแหลมคมขึ้นทันที เมื่อได้เห็นคนที่ตกใจกลัวจนปิดบังใบหน้าของตนเองคนนั้นได้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง

หลานเยาเยาก็กลอกตาใส่โดยตรง

เขาเป็นคนคุ้นเคยที่กวนประสาท ก็คือโม่เหลียงเฉิน

โม่เหลียงเฉินซึ่งมีเงาร่างของเทพธิดาอยู่แต่เดิม ตอนนี้กลับมีใบหน้าที่ซีดเซียวหมดแล้ว

หลังจากยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นเทพธิดา เขาก็ปกปิดหัวใจของตนเองที่กำลังจะกระโดดออกมา

“เทพ เทพธิดา!”

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” หลานเยาเยาถาม

“ทำธุระนิดหน่อย” เพียงแต่ว่าถูกคนช่วงชิงไปก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยได้จัดการเรื่องต่างๆ

พูดจบ โม่เหลียงเฉินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และรีบถามไปอย่างสงสัยทันที “เทพธิดาคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนของยิงจวนใช่ไหม”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า”

หลานเยาเยามองไปยังโม่เหลียงเฉินอย่างดูแคลน มองเขาด้วยท่าทางที่กระอักกระอ่วน และยิ้มอย่างชั่วร้าย “ดูเหมือนว่าจะก่อเรื่องยุ่งมาสินะ!” เมื่อเห็นโม่เหลียงเฉินไม่ได้พูดอะไร หลานเยาเยาจึงได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“มีอะไรกินไหม”

“มี มี” โม่เหลียงเฉินได้หยิบเสบียงอาหารนิดหน่อยออกมาจากถุงเล็กๆ ที่แขวนอยู่ที่เอว หลังจากมอบให้กับเทพธิดา จึงรู้ตัวในทันที

ทำไมเขาจะต้องให้นางกินด้วยล่ะ

แต่ ก็ได้ยื่นมือออกไปแล้ว และทันทีที่ยื่นมือออกไป เสบียงอาหารนั้นก็ได้ถูกหยิบไปแล้ว

หลานเยาเยากินไปหนึ่งคำ แววตาก็เปล่งประกายขึ้น

“ได้สิ!เสบียงอาหารมีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย เอาสิ แบ่งให้เจ้า”

“โอ้ ดีเลย!”

เดิมทีโม่เหลียงเฉินไม่ได้รู้สึกหิว แต่เมื่อเห็นเทพธิดากำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็รีบหยิบมากินโดยสัญชาตญาณ

เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของเทพธิดา รวมทั้งรอยประทับรูปดอกไม้ที่สวยงามที่เบ่งบานบนใบหน้า ก็นึกขึ้นมาได้ถึงคำพูดที่เย่แจ๋หยิ่งได้พูดกับเขา

ดังนั้น!

หยิบเมล็ดแตงโม่ถุงเล็กๆ ออกมาจากแขนเสื้อ

“ต้องการสิ่งนี้ไหม”

ตอนนี้ หลานเยาเยาได้งอมุมปาก มองตรงไปยังดวงตาของโม่เหลียงเฉิน

“เจ้าก็รู้แล้วหรือ”

โม่เหลียงเฉินเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันของเย่แจ๋หยิ่ง อีกทั้งเป็นคนสนิทเย่แจ๋หยิ่ง และเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด เมื่อเห็นท่าทีนี้ของเขา ก็เดาได้ว่านางคือใคร

“เอ๊ะ”

โม่เหลียงเฉินไม่แน่ใจว่านางกำลังถามถึงอะไร

“ช่างเถอะ” หลานเยาเยาหยิบเมล็ดแตงโมถุงเล็กๆ ในมือ แทะเมล็ดแตงโมไปด้วยถามไปด้วยว่า “เจ้าเป็นคนมาช่วยอาฝูและโม่ซางหรือ”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท