บทที่ 335 ง่ายมาก ดูถูกดูแคลนเจ้า
นางเดินไปพลางแล้วก็ถามคำถามบางอย่างกับเจ้าอาวาสที่อยู่ด้านหลังไปพลาง
แน่นอน!
ที่นางถามทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นขณะที่นางหายตัวไปในไม่กี่วันนี้
……
ในวัด ด้านนอกห้องโถงของเทพธิดา
จื่อซีที่มีบาดแผลทั่วร่าง ยืนนิ่งๆอยู่ที่ประตูห้องโถง ไม่อนุญาตให้ทุกคนเหยียบเข้าไป ถึงแม้ว่าหลานเยาเยาไม่ได้อยู่ด้านใน
คืนวันนั้นที่หลานเยาเยาหายตัวไป เขาก็โดนลอบสังหาร ฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมาก และไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มเดียว
โชคดีที่คุณหนูของเขาวางแผนการอันแยบยลหลักแหลม คาดเดาว่าต้องมีคนลอบสังหารเป็นแน่ ดังนั้นจึงให้ยาพิษอาวุธลับมากมายแก่เขา เพื่อเตรียมไว้ในเวลาที่ต้องการ
และยังมีคนจากสำนักหงอีที่มาทันเวลา ไม่เช่นนั้นเกรงว่าเขาคงไม่สามารถถอยออกมาได้แล้ว
คุณหนูบอกไว้แล้ว นางอาจจะหายตัวไประยะเวลาหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าจะหายตัวไปจริงๆ!
ทั้งหายตัวไปพร้อมกับอ๋องเย่
แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่เขาก็ไม่ได้ทำแผลเลย เขากำลังรอข่าว
บาดแผลของจื่อเฟิงยังหายไม่สนิท แต่หลังจากที่ได้ข่าว ก็รีบมาทันที เขาอยู่ในที่ลับสืบข่าวด้วยกันกับคนของสำนักหงอี
และเขา จำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่นี่
ในเวลานี้!
มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าเขา มีองครักษ์วังหลวงของเมืองหลวง มีคุณชายคุณหนูของแต่ละบ้าน ยังมีคนบางคนที่มาร่วมมุงดูด้วย
องครักษ์วังหลวงของเมืองหลวงมาที่นี่เป็นครั้งที่สี่แล้ว พวกเขาพร้อมกับวันที่ผ่านเลยไปแต่ละวัน ท่าทางยิ่งไม่เกรงใจขึ้นเรื่อยๆ
องครักษ์วังหลวงล้วนเป็นคนของฮ่องเต้
เมื่อเห็นเทพธิดาหายตัวไปหลายวันขนาดนี้ และดูจากศพมากมายขนาดนั้นที่อยู่ใต้ต้นบุพเพ เทพธิดาก็อาจจะโชคไม่ดีแล้ว
แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นหรือตาย ดังนั้นสองสามวันแรก องครักษ์วังหลวงของเมืองหลวงยังให้ความเกรงใจต่อจื่อซี
แต่ตอนนี้หลายวันขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีข่าวของเทพธิดาสักนิด
ต้องตายแล้วอย่างแน่นอน
เทพธิดาก็ตายแล้ว คนติดตามที่มีบาดแผลทั่วร่างจะอยู่ในสายตาพวกเขาได้เช่นไร?
ดังนั้น!
เวลานี้พวกเขาพูดจาโดยไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย
“เจ้าทาสรับใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ยังไม่รีบหลีกทางอีก? ข้ารับคำสั่งให้มาค้นหาที่ห้องโถงนี้ เจ้าก็ขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่า หรือว่าด้านในมีของอะไรน่าอับอายที่ให้ผู้อื่นรู้เห็นไม่ได้?”
ผู้บัญชาการทหารขององครักษ์วังหลวงพูด เขาเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ และเป็นทั้งผู้บัญชาการทหารขององครักษ์วังหลวง เป็นคนเก่งที่อยู่ในระดับสูงเป็นธรรมดา
แต่กลับโดนขัดขวางไว้หลายครั้งโดยทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าสุนัขรับใช้ตัวหนึ่ง
หากเขาไม่ได้มีวิทยายุทธสูงส่ง และมีเจ้านายเป็นเทพธิดา เขาจะถ่อมตัวอ่อนข้อให้ได้เช่นไร?
หึ!
เพียงสามัญชนที่ไม่มียศไม่มีตำแหน่งผู้หนึ่งเท่านั้น ฮ่องเต้ก็ได้คาดว่าเทพธิดาได้ตายอย่างแน่นอนแล้ว ต่อกรกับสุนัขรับใช้ที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสผู้หนึ่ง เขาจะกลัวหรือ?
เขาเป็นถึงข้าราชการมียศถาบรรดาศักดิ์
“โปรดระวังคำพูด จะใส่ร้ายเทพธิดาไม่ได้”
จื่อซีรู้อยู่แล้ว พวกเขามาสืบหาเบาะแสที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าจะมาดูว่าคุณหนูของเขาเอายาวิเศษหรือสมบัติล้ำค่าหายากวางไว้ที่นี่หรือไม่
แม้ว่า!
คุณหนูอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งวัน แต่ หายตัวไปกะทันหันเช่นนี้ ของที่วางไว้ด้านในต้องหยิบไปไม่ทันเป็นแน่
พวกเขาเพียงแค่แอบอ้างใช้ชื่อการค้นหา มาในบ้านเพื่อจับแพะ
“หึ! เทพธิดา? หากว่านางศักดิ์สิทธิ์จริงเช่นคำร่ำลือ จะหายตัวไปได้เช่นไร? และยังหายตัวไปนานขนาดนี้
นิสัยนางที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา คงมีไม่น้อยที่ไปทำให้คนเกิดความไม่พอใจเข้า?
พูดให้ดีหน่อยก็คือหายตัวไป พูดให้น่าเกลียดหน่อยก็คือศพและโครงกระดูกก็ไม่เหลือ เห็นว่าวิทยายุทธของเจ้าไม่เลว อีกทั้งยังชอบเป็นทาสขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นมาติดตามข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกระดูกกิน”
ได้ยินดังนั้น!
จื่อซีสีหน้าเย็นยะเยือก คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ
“กระดูกยังไงเจ้าก็เหลือไว้กินเองเถอะ! ไม่เช่นนั้นไม่มีแล้วก็จะไม่มีที่ให้เอา”
เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก้มหัวมองดูบาดแผลบนร่างกายแวบหนึ่ง
หลายที่ล้วนเป็นบาดแผลที่ผิวหนัง บาดแผลมีลึกมีตื้น แม้ยังไม่ได้พันแผล แต่ปากแผลก็ได้แข็งตัวไปนานแล้ว มีปากแผลบางที่ที่ยังตกสะเก็ดเองแล้ว
เขารู้ นี่เกี่ยวข้องกับยาลูกกลอนที่คุณหนูให้พวกเขากินเป็นลูกอมประจำ
ยาลูกกลอนเหล่านั้น ไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มพลัง ยังสามารถต่อต้านสารพิษบางชนิดได้
ดูจากตอนนี้แล้ว ยังสามารถทำให้บาดแผลตกสะเก็ดเร็วขึ้นด้วย
คุณหนู หายตัวไปพอแล้วก็กลับมาเถอะ!
ไม่เช่นนั้น เขาอยากที่จะฆ่าคนครั้งใหญ่จริงๆแล้ว
“เจ้า……คนติดตามที่ต่ำต้อยผู้หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะกล้าดูหมิ่นข้า ตอนนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนเทพธิดา”
“แทน? เจ้าไม่มีคุณสมบัติ” จื่อซีหัวเราะออกเสียงอย่างเยือกเย็น
แม้แต่เส้นขนของคุณหนูยังเทียบไม่ได้ ยังกล้าจะป่าวประกาศมั่วซั่ว?
ผู้บัญชาการทหารขององครักษ์วังหลวงมองจื่อซีที่บาดเจ็บทั้งตัว ในตาเต็มได้ด้วยความดูหมิ่น
เขาไม่เชื่อ เขาจะสู้คนที่บาดเจ็บสาหัสทั้งร่างกายไม่ได้
เขาถ่มน้ำลาย ชักดาบพกที่อยู่ตรงเอวออกมาทันที มาถึงด้านหน้าของจื่อซีทันใด คิดอยากจะเพิ่มร่องรอยเข้าไปบนร่างกายของจื่อซีอีก
แต่กลับไม่รู้……
จื่อซีได้แฉลบตัวมาอยู่ด้านหลังเขานานแล้ว และไม่ได้ลงมือ
เมื่อเห็นผู้บัญชาการทหารมองซ้ายมองขวาสองครั้ง หาคนไม่เจอ เขาก็ตีที่บ่าของเขา เตือนด้วยความหวังดี
“อยู่ด้านหลังนี่!”
เหมือนกับว่าผู้บัญชาการทหารได้รับการดูถูกเป็นอย่างมาก หันมาด้วยความเกรี้ยวกราด ดึงกำลังภายในออกมาแปดส่วนทันที โจมตีไปทางจื่อซี
แต่ทว่าจื่อซีก็หลบอีกครั้ง หลบออกไปด้านข้าง
เป็นเช่นนี้หลายครั้ง
จื่อซีเพียงแค่หลบหลีกเท่านั้น และไม่ได้ลงมือ
ผู้บัญชาการทหารที่รู้สึกเหมือนกับว่าโดนแกล้งเล่นอยู่โกรธจนหน้าเขียว เขามองไปที่กลุ่มคนแวบหนึ่งด้วยความโกรธและอับอาย
พบว่าคุณชายและคุณหนูเหล่านั้นก็ชี้ไปชี้มาทางเขา ราวกับว่ากำลังเยาะเย้ยที่เขาไร้ความสามารถ ฉับพลันนั้นโทสะพล่านจนเลือดขึ้นหน้า
คราวนี้เขาไม่เหลือทางถอยให้สักนิด คิดจะสังหารทุกท่วงท่า แต่ละก้าวต้องการชีวิต
ก็ทำอะไรไม่ได้ยังโดนจื่อซีหลบหลีกตลอด
ผู้บัญชาการทหารแอบสิ้นหวัง
คิดไม่ถึงว่าบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ยังจะเก่งกาจได้เพียงนี้
บ้าเอ๊ย!
“ทำไมเจ้าไม่โต้ตอบ?” น้ำเสียงของผู้บัญชาการทหารแทบจะกัดฟันกัดลิ้น
“ง่ายมาก ดูหมิ่นดูแคลนเจ้า”
ความจริงคือไม่อยากลงมือ เมื่อลงมือบาดแผลก็จะปริ ไม่คุ้ม
นอกจากนี้!
เขาเชี่ยวชาญด้านวิชาการรักษา ติดตามอยู่ข้างกายหลานเยาเยาสองสามปีนี้ วิชาการรักษายิ่งพัฒนาหลักแหลมขึ้นเรื่อยๆ วิชาด้านยาพิษก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เมื่อครู่ขณะที่ตีบ่าของผู้บัญชาการทหาร เขาได้แอบลงมือไปนานแล้ว ผู้บัญชาการทหารยิ่งโกรธเขาก็ยิ่งดีใจ
ก็เหมือนที่คุณหนูพูด
สามารถนั่งได้จะไม่ยืนเด็ดขาด สามารถนอนได้จะไม่นั่งเด็ดขาด สามารถวางยาพิษได้จะลงมืออีกทำไมล่ะ? เช่นนั้นก็จะเปลืองแรงเปล่าๆไม่ใช่หรือ?
คาดว่าคำพูดของเขายั่วโทสะผู้บัญชาการทหารอีกครั้ง ทำให้เส้นโลหิตดำที่คอของผู้บัญชาการทหารแตก แววตาเต็มไปด้วยโหดเหี้ยมอย่างฉับพลัน
“ว่าร้ายองครักษ์วังหลวงก็เหมือนกับการว่าร้ายฮ่องเต้ ในฐานะผู้บัญชาการทหาร สามารถฆ่าก่อนแล้วค่อยรายงานได้”
ผู้บัญชาการทหารที่ใจคิดอยากจะฆ่าอยู่นานแล้ว ไฟโทสะโจมตีไปที่หัวใจ คำพูดอะไรก็สามารถพูดออกมาได้อย่างเปิดเผย
เขายกดาบขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพุ่งไปที่จื่อซี
แต่กลับเดินได้ไม่กี่ก้าว ตัวก็เซ ใช้ดาบปักไปบนพื้นโดยตรง คุกเข่าลงข้างหนึ่งบนพื้น หายใจหอบอย่างหนัก
“เจ้า เจ้าทำอะไรกับข้า?”
ผู้บัญชาการทหารจ้องตากว้างโปร ราวกับว่าสามารถกระโดดออกมาได้ทุกเมื่อ
“ชิ! ใครจะอยากทำอะไรกับคนไร้ความสามารถสุนัขที่กัดไปทั่ว ให้เปรอะเปื้อนมือของข้าเช่นนั้นเล่า?”
เขาได้เรียนรู้การเบิ่งตาพูดไปเรื่อยของหลานเยาเยามาอย่างลึกซึ้งนานแล้ว พูดไปเขายังคิดจะเอามือสองข้างกอดอก เอนพิงประตูแสดงความเท่สักรอบแน่ะ!
ใครจะรู้……
ผู้บัญชาการทหารค้ำดาบไว้แล้วลุกขึ้นมาอีกครั้ง ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงดุด่าด้วยความโกรธ
“พวกเจ้าเป็นคนตายหรือไง? รีบไป เอาเจ้านี่ที่ว่าร้ายองครักษ์วังหลวง ประชาชนชั้นต่ำที่ดูถูกฮ่องเต้ประหารตรงนี้”
“ขอรับ!”
พวกลูกน้องเห็นจื่อซีไม่ตอบโต้ ทำเพียงแค่หลบหลีก ยังคิดว่าเขากลัวแล้ว จะทำอย่างไรได้ผู้บัญชาการทหารไม่ออกคำสั่ง ไม่เช่นนั้นพวกเขาอยากจะเข้าไปตั้งนานแล้ว
ยังไงซะคนมากกว่าก็ได้เปรียบนี่!
จู่โจมรังแกคนที่ไม่กล้าต่อต้านผู้หนึ่ง เพียงพอ
จากการนำของผู้บัญชาการทหาร พวกเขาพุ่งเข้าไปพร้อมกัน
คราวนี้ จื่อซีขมวดคิ้ว ในที่สุดก็จริงจังขึ้นมากแล้ว เขาชักดาบที่เอวออกมา และไม่สนใจว่าจะบาดแผลจะฉีกหรือไม่
ในเวลาที่พวกเขาพุ่งเข้ามาตรงหน้าเขา ด้านเงินยาวๆเล็กๆเส้นหนึ่งก็ลอยพุ่งเข้ามา..