หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 343 อ๋องเย่ละเมอ

บทที่ 343 อ๋องเย่ละเมอ

บทที่ 343 อ๋องเย่ละเมอ

เย่หลีเฉิน “……”

กลุ่มองครักษ์ “……”

นี่เป็นวิธีการบังคับสารภาพแน่หรือ คงไม่ใช่การตุ๋นเป็ดตุ๋นไก่ใช่ไหม

หากมีวิธีการทรมานเช่นนี้ คนที่ถูกทรมาน ก็คงจะต้องตายอยู่หลายครั้ง

นักฆ่าที่ถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนพื้น แม้ว่าจะไม่เชื่อในการทรมานประเภทนี้ แต่เขากำลังจะเป็นผู้ที่ถูกทรมาน ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดมาทรมานเขา สำหรับเขาแล้วก็ล้วนไม่ใช่เรื่องดี

“องค์ชายรัชทายาท เจ้าให้คนไปเอาหม้อใบใหญ่ๆ มา ยิ่งมากยิ่งดี หากตุ๋นด้วยน้ำแล้วยังใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องใช้น้ำมันทอดโดยตรง”

เสียงนั้นดูเหมือนจะล้อเล่น แต่คำพูดที่ออกมากลับทำให้คนตัวสั่น

บนหน้าผากของนักฆ่า ค่อยๆ ปรากฏเหงื่อออกมาจำนวนมาก ดวงตาก็จ้องมองพวกเขาอยู่ชั่วพริบตา

เย่หลีเฉินมองไปยังเทพธิดาที่อยู่ด้านข้าง หยุดไปชั่วครู่ ในที่สุดก็โบกมือให้กับองครักษ์คนหนึ่ง องครักษ์จึงทำตามคำสั่งของเขาทันที

หลังจากนำกระทะเหล็กใบใหญ่เข้ามา องครักษ์ส่วนหนึ่งก็ทำการจุดไฟ วางกระทะเหล็ก เทน้ำมันร้อนเข้าไป

องครักษ์คนอื่นๆ ก็ไปเตรียมเครื่องมือทรมาน

หลานเยาเยาได้นำมือที่ประสานกันไว้ในแขนเสื้อออกมา และหยิบมีดสั้นที่แหลมคมอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้ออกมา

ดูเหมือนจะรอเวลามานานแล้ว

นางเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงด้านหน้าของนักฆ่า

นักฆ่าในเวลานี้ เสื้อผ้าถูกปลดออกจนหมดจด หลานเยาเยายิ้มอย่างเย้ายวน พูดออกไปอย่างสงสัย

“จะปล่อยให้เลือดออกก่อนหรือจะถลกหนังก่อนดีล่ะ”

นักฆ่ามองดูท่าทางนั้น เหมือนจะไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ทั่วทั้งร่างจึงสั่นเทา

ในขณะที่มีดสั้นเข้าใกล้ผิวหนังบนร่างกาย เขาก็ตะโกนเสียงดังออกมาอย่างถล่มทลาย

“ข้าบอกแล้วข้าบอกแล้ว ข้ายอมบอกหมดทุกอย่าง”

“อย่าเลย! ในฐานะนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เจ้าจะต้องมีความมานะ และมีความหยิ่งในศักดิ์ศรี ดีที่สุดก็คือจะต้องยอมตายดีกว่าทำตาม”

หลานเยาเยาแนะนำเขา

นักฆ่าส่ายหน้าอย่างรุนแรงตลอด และมองไปยังเทพธิดาที่ยิ้มอย่างชั่วร้ายด้วยความหวาดกลัว

“ไม่……ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้ายอมพูดหมดทุกอย่าง พวกเจ้าต้องการจะถามอะไรก็ถามมา หากข้ารู้ข้าก็จะบอก”

“เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งพูด ไม่อย่างนั้นก็บอกนี้เถอะ! เจ้าให้ข้าได้ขีดข่วนสักครั้งสองครั้งก่อน จากนั้นเจ้าก็บอกในสิ่งที่เจ้ารู้มา ถ้าแบบนี้ ข้าก็รู้สึกสบายใจแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก สรุปได้ว่าเจ้าก็ได้กำไรแล้ว”

เมื่อเห็นเทพธิดากำลังจะใช้มีดอีกครั้ง นักฆ่าก็ร้องไห้ออกมา

“ฮือฮือฮือ……”

“เทพธิดาโปรดไว้ชีวิต ข้ายอมพูดหมดทุกอย่าง ฮือฮือ องค์ชายรัชทายาท องค์ชายรัชทายาท ข้ายอมพูดหมดทุกอย่าง……”

หลานเยาเยาดึงมีดสั้นกลับ และมองไปที่เย่หลีเฉิน “ไม่สนุกเลย ทำไมไม่รอให้ลงไปในกระทะก่อนแล้วค่อยพูดล่ะ! เจ้าก็จัดการไปตามสมควรเถอะ! ไปดีกว่า”

พูดจบ

หลานเยาเยาก็ได้เดินมาถึงด้านหลังของเย่หลีเฉินไป

เย่หลีเฉินอยากจะพูดอยากจะเขียนอะไร แต่เมื่อหันไปมอง กลับพบว่าเทพธิดาไม่อยู่แล้ว

เขามองไปที่องครักษ์อย่างสงสัย “เทพธิดาล่ะ”

“บินหายไปแล้ว……หรือ!”

พวกองครักษ์ก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่ละคนต่างทำตาปริบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ

พวกเขายืนอยู่ด้านหลังขององค์ชายรัชทายาทโดยตลอด หลังจากเทพธิดาเดินมาถึงด้านหลังขององค์ชายรัชทายาท นั่นก็คือยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขา

แต่!

ชั่วพริบตาเดียว เทพธิดาก็หายไปแล้ว

วรยุทธ์ที่มีความยอดเยี่ยมอย่างนี้ช่างเก่งกาจจริงๆ !

······

หลานเยาเยาที่ถูกผู้คนชื่นชม ในความเป็นจริงแล้วแสนเจ็บปวดยิ่งนัก

นางบินไปด้วยตนเองที่ไหนกัน! เห็นได้ชัดว่าได้ถูกลักพาตัวไป และในเวลานี้ก็ได้ถูกคนแบกไว้บนบ่า!

อีกทั้งเป็นการก่อเรื่องของคนที่คุ้นเคย

หลานเยาเยามองไปยังชายที่มีหน้าตาที่หล่อเหลาด้วยความหดหู่ใจ และพูดไปอย่างอ่อนแรง

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ก็เห็นดีๆอยู่ เจ้าลักพาตัวข้ามาทำไม อย่างไรก็ลักพาตัวมาแล้ว ไม่ต้องแรงจะได้ไหม กระเทือนจนข้าจะอาเจียนอาหารเย็นออกมาหมดแล้ว”

ลมหายใจที่เยือกเย็นของคนที่แบกนางอยู่แพร่กระจายไปทั่วตัวจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่สนใจนางอย่างสิ้นเชิง

นางตะโกนออกมาตลอดทาง เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ตอบกลับนางสักคำ บางครั้งก็ทำให้นางหงุดหงิด และยังเหลือบมองนางอย่างเย็นชา

จนกระทั่งแบกนางกลับไปที่ตำหนักเทพธิดา และแบกมาถึงบนเตียง หลังจากช่วยห่มผ้าให้กับนาง ก็ออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ออกไปแบบนี้เลยหรือ

และนางยังพบว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้สวมรองเท้าด้วยซ้ำ……

ดังนั้น!

หลานเยาเยาคลี่ผ้าห่มออก มองไปยังเท้าที่ไม่ได้สวมแม้แต่รองเท้า ลุกขึ้นลงจากเตียงด้วยความสงสัย และเดินตามไปอย่างเงียบๆ

เดินตามเย่แจ๋หยิ่งกลับไปที่ห้องบรรทมชั่วคราวของเขา เห็นเพียงเขาเดินเข้าไปยังอาคารชั้นใน ขึ้นไปบนเตียง จากนั้นก็หลับตานอน

เมื่อเห็นแบบนี้ หลานเยาเยาพูดไม่ออกบอกไม่ถูกในทันที

การละเมอนี้ต้องการที่จะลักพาตัวนางไป แทบจะไม่มีอะไรน่าระทึกเลย

หลานเยาเยาเดินมาถึงเตียง มองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่กำลังหายใจอย่างเงียบสงบ ยื่นมือออกไปลูบแก้มของเขาเบาๆ

ใบหน้าที่หล่อเหล่าเช่นนี้ ถ้าไม่สัมผัสให้เพียงพอก็เป็นการเสียเปล่า

และก็ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ขาก็ชา ทั้งตัวของหลานเยาเยาจึงโผล่เข้าหาเย่แจ๋หยิ่ง โชคดีในตอนที่จะชนเข้ากับเย่แจ๋หยิ่งนั้น มือทั้งสองของนางก็ค้ำไว้อย่างแน่นหนาทันที

“ฮู้ว……”

นางค่อยๆ ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น แขนข้างหนึ่งก็โอบรอบเอวของนางเอาไว้ จากนั้นนางก็ถูกดึงตัวให้ล้มลงไปบนเตียง แขนที่โอบเอวของนางนั้นยังไม่ได้ปล่อยออก

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าตื่นแล้วก็พูดออกมา อย่าแสร้งทำเป็นลิงหลอกเจ้า”

“นอนเถอะ! พรุ่งนี้จะทำปลาน้ำแดงให้เจ้ากิน” เย่แจ๋หยิ่งยังไม่ได้ลืมตา แต่เมื่อหลานเยาเยาลูบแก้มของเขาเขาก็ตื่นขึ้นแล้ว

“ข้ายังมีธุระ”

นางหายไปหายวัน วันนี้เพิ่งได้กลับไปที่ตำหนัก คืนนี้หานแสจะต้องมาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะรอนางอยู่ในห้องของนางแล้ว

อีกทั้งนางก็มีเรื่องที่จะปรึกษากับหานแสอยู่พอดี

“คืนนี้ไม่ต้องไปพบคนอื่นแล้ว”

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าอย่ามาเอาแต่ใจแบบนี้ ตอนนี้ข้าไม่อยากที่จะยุ่งกับเรื่องของเจ้า เจ้าก็ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของข้า”

ราชครูเทียนเวิงเป็นอาจารย์ของเย่แจ๋หยิ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกันหรือไม่ นางก็ไม่อยากจะไปยุ่ง และเรื่องที่นางต้องการจะทำ นางก็ไม่ต้องจะให้ใครมาขัดขวาง โดยเฉพาะเย่แจ๋หยิ่ง

เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองดูนางอย่างเงียบๆ

หลังจากเงียบอยู่นาน ก็ปล่อยนางไป

“เจ้าไปเถอะ!”

เสียงของเขาแหบเล็กน้อย และเดิมทีแล้วยังดูไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ใด

หลานเยาเยาลุกขึ้นยืน ลงจากเตียง และเดินไปที่ม่านของตำหนักชั้นใน หยุดลงชั่วครู่ เปิดม่านออกแล้วเดินไปยังประตู

ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงดัง “เอี๊ยด” จากนั้นก็เสียงปิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เอี๊ยด”

ตอนที่หันกลับ

หลานเยาเยาก็ตกใจเล็กน้อย

เพราะในขณะนี้หานแสที่อยู่ในชุดคลุมสีม่วงเข้ม ได้ยืนอยู่ในลาน เขามองมายังนาง ด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ได้

หลานเยาเยาไม่ได้พูดอะไร หานแสก็หันหลังกลับและเดินไป

เดินตรงไปยังศาลาแปดเหลี่ยมที่มีโคมไฟสองสามดวงแขวนอยู่ จึงหยุดฝีเท้า แต่กลับไม่ได้หันตัวกลับมา และหันหลังให้กับหลานเยาเยา

หลานเยาเยาก้าวเข้ามาในศาลา นั่งลงบนม้านั่งหินตัวหนึ่ง บนโต๊ะหินมีกาน้ำชาอยู่ คาดว่าน้ำชาในตอนนี้คงจะเย็นหมดแล้ว

“เจ้าของเรือมาเยี่ยมเยือนกลางดึก ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด”

“เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าข้าจะต้องมา” เสียงของหานแสแผ่วเบา แต่ดูเหมือนจะมีน้ำเสียงยิ้มเยาะเล็กน้อย

“ทำไมจะต้องเข้าไปในห้องของเขา” แม้แต่ข้าเดินตามอยู่ข้างหลังก็ยังไม่รู้ หลานเยาเยา ความระแวดระวังตัวของเจ้าแย่ลงเรื่อยๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท