หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่373 เจ้าไม่เข้าใจเขาเลย

บทที่373 เจ้าไม่เข้าใจเขาเลย

บทที่373 เจ้าไม่เข้าใจเขาเลย

ผู้คุมไม่กี่คนนั้นไม่ได้รู้สถานการณ์ด้านหลังเลย ยังคงพูดคุยกันต่อ ท่าทางน่ารังเกียจนั่นทำให้สิงปู้ช่างชูโมโหกัดฟันด้วยความโกรธ และเดินไปทันที

“ในสายตาพวกเจ้ายังมีกฎหมายปกครองบ้านเมืองอยู่ไหม?”

เสียงที่ดังกึกก้องทำให้ผู้คุมไม่กี่คนนั้นตกใจสุดขีด

ทันใดนั้นขาแต่ละคนก็อ่อนแรง ล้มลงไปอยู่กับพื้น ตัวสั่นคุกเข่าหน้าคว่ำอยู่ตรงนั้น

หลังจากที่เห็นกลุ่มใต้เท้า สีหน้าก็ขาวซีดราวกับกระดาษ มีสองคนที่รับไม่ไหว ตาขาวเป็นลมล้มลงไป

สิงปู้ช่างชูโบกแขน ไม่ให้โอกาสเหล่าผู้คุมได้ร้องขอให้ยกโทษ

“เอาสิ่งที่น่าอับอายเหล่านี้ออกไปโบยแปดสิบที”

“ขอรับ!”

โบยแปดสิบทีไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

หลังจากโบยเสร็จ แม้จะไม่ตายก็พิการ

หลังจากผู้คุมถูกจัดการเรียบร้อย

สิงปู้ช่างชูก็สั่งให้คนเอาหลานจิ่นเอ๋อไปที่ห้องไต่สวน

แม้หลานจิ่นเอ๋อจะเป็นตัวบงการเรื่องทั้งหมดแล้วก็มีพยาน แต่ก็สามารถพิสูจน์ได้เพียงว่าจุดประสงค์ของนางก็คือฆ่าองค์ชายสี่ แล้วโยนความผิดให้กับหลินเฟยหรัน

แต่เรื่องผ่านไปอย่างไม่มีใครรู้

แม้หลานเจิ่นเอ๋อจะถูกโทษประหาร แต่คดีใหญ่เช่นนี้เป็นธรรมดาที่จะต้องบันทึกทุกขั้นตอนของคดีไว้

แต่ว่า!

หลานจิ่นเอ๋อที่หลังจากถูกจับแล้วก็ไม่พูดอะไรเลย เพียงแต่พูดประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาว่า: “ข้าต้องการพบอ๋องเย่!”

ดังนั้น!

การที่เอาหลานจิ่นเอ๋อมาที่ห้องไต่สวนนี้ เพราะวางแผนว่าวันนี้ไม่ว่าจะยังไง ก็จะต้องให้หลานจิ่นเอ๋อพูดขั้นตอนของเรื่องออกมา

สิงปู้ช่างชูตั้งใจสั่งให้คนย้ายเก้าอีกมาสองสามตัว หลานเยาเยากับเย่หลีเฉิน แล้วก็ยังมีคนอื่นๆนั่งอยู่ข้างๆ มองคนของสิงปู้สอบถามหลานจิ่นเอ๋อ

“หลานจิ่นเอ๋อ เจ้าต้องโทษประหาร แม้จะไม่พูดอะไรเลย ก็ต้องตายเหมือนเดิม

เจ้ายังไม่รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้หรือ?

ผลที่ตามมาจากการไม่พูดของเจ้ามันทำให้ทั้งจวนแม่ทัพจะฝังเจ้า พ่อเจ้าถูกปลดออกจากตำแหน่ง

แต่การคิดร้ายต่อองค์ชายก็ต้องลงโทษเก้าชั่วโคตร ถ้าเจ้ายืนกรานจะไม่พูด ก็จะเกิดความระแวงในการปกป้องพ่อแท้ๆของเจ้า

เมื่อถึงเวลานั้น พ่อและแม่ของเจ้าก็จะถูกตัดหัวเช่นเดียวกับเจ้า คนอื่นๆในจวนก็จะถูกเนรเทศ ถูกเอาไปขาย

เจ้าทนดูพวกเขาตายไปกับเจ้าได้งั้นหรือ?”

สิงปู้ช่างชูไต่สวนด้วยตนเอง

เพราะมีคนดูอยู่จำนวนมาก ถึงแม้จะเกลียดหลานจิ่นเอ๋อเข้ากระดูก เขาก็ต้องเก็บความคิดที่จะทรมานหลานจิ่นเอ๋อไป

อย่างไรก็ตาม!

ใครจะไปรู้……

ว่าหลานจิ่นเอ๋อทำเหมือนกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดยังไงอย่างงั้น เพียงแต่พูดทีละคำว่า:

“ข้าต้องการพบอ๋องเย่!”

แม้น้ำเสียงจะดูนิ่งๆ แต่ก็หนักแน่น

ประโยคนี้ไม่รู้ว่านางพูดซ้ำไปมากี่รอบแล้ว แต่ก็ยังคงพูดซ้ำอยู่อย่างนั้น

“เจ้า……ดื้อยิ่งนัก”

สิงปู้ช่างชูโมโหจ้องตา สองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด แต่เขาก็ยังพยายามอย่างสุดขีดที่จะควบคุมตนเองไว้

แต่ต่อมา

ไม่ว่าจะสอบถามอย่างไร ถึงขนาดทรมานแล้ว หลานจิ่นเอ๋อก็ยังคงกัดฟันแน่นพูดประโยคเดิมซ้ำๆ

ถามซ้ำไปซ้ำมาก็ไร้ประโยชน์

สิงปู้ช่างชูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นก็สะบัดมือให้เจ้ากรมอาญามาไต่สวน เพราะเขากลัวว่าถ้ายังพูดต่อไปอีก จะบีบคอหลานจิ่นเอ๋อได้

จนเกือบจะหนึ่งชั่วยาม

แม้จะทรมานหลานจิ่นเอ๋อเบาๆ แต่ก็เป็นเวลานาน ทำให้นางรับไม่ไหวสลบไป

คนก็สลบไปแล้ว……

อยากจะทรมานให้ยอมรับผิดก็ไม่เป็นผล

ดูท่าวันนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้หลานจิ่นเอ๋อพูดขั้นตอนของคดีออกมาได้

สุดท้าย

สิงปู้ช่างชูที่หน้าแดงก่ำก็คำนับขอตัวเทพธิดา ในเมื่อสิงปู้ช่างชูไปแล้ว คนอื่นๆก็พากันขอตัวจากไป

ในที่สุดห้องไต่สวนก็เหลือเพียงแต่หลานเยาเยากับเย่หลีเฉิน แน่นอนว่ายังมีเจ้ากรมอาญาที่ถูกสิงปู้ช่างชูทิ้งไว้ให้คอยติดตามพวกเขา

ขณะนั้น!

เย่หลีเฉินก็ลุกขึ้น พูดกับเทพธิดาว่า

“เทพธิดา พวกเราก็ไปเถอะ!”

หลานเยาเยามองหลานจิ่นเอ๋อที่ถูกมัดไว้ด้วยสายตาที่สนใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า:

“ข้าจะรอก่อน!”

รีบร้อนอะไรกัน

นางยังมีคำที่อยากถามนะ!

“ได้ ข้าข้าจะรอเจ้าข้างนอก”

เย่หลีเฉินมองตามสายตาของนางไปมองหลานจิ่นเอ๋อ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับเจ้ากรมอาญา

หลังจากที่พวกเขาออกไป

หลานเยาเยายกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างเนือยๆ นางยื่นมือไปหยิบกาน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะหมายจะเทน้ำชามาดื่ม

แต่ก็พบว่า……

ไม่เพียงแต่น้ำชาจะเย็นแล้ว แต่กลิ่นในห้องไต่สวนยังรู้สึกน่าขยะแขยง

ดังนั้นนางจึงล้มเลิกความคิดที่จะดื่มชา

แล้วเอาสายตากลับมาอยู่ที่หลานจิ่นเอ๋อ

มองเส้นผมรุงรังของนางที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แก้มที่มอมแมมก็มีเหงื่อไหล คาดว่าความเจ็บปวดจากการถูกทรมานเมื่อครู่ยังคงเจ็บปวดอยู่ถึงตอนนี้

ดังนั้น!

จึงวางมือไว้บนพนักเก้าอี้ มือข้างเดียวยันหัวไว้แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า:

“แกล้งสลบเป็นวิธีที่ดี แต่ช่วยทำให้มันเหมือนหน่อย”

สีหน้าและท่าทางของการเป็นลมนั้นไม่มีอะไรจะพูด แต่การสั่นนิ้วมือทุกช่วงเวลาสั้นๆนี่คิดจะทำอะไร?

แต่ก็เช่นนั้น

คุณหนูที่แสนงดงามจะมาทนกับความเจ็บปวดได้อย่างไร?

หลานจิ่นเอ๋อสามารถแกล้งหมดสติหลอกไอ้เจ้าเล่ห์นั้นได้ก็ถือว่าไม่เลว

หลังจากนางพูดจบ

ก็เห็นว่าหลานจิ่นเอ๋อหมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยเงยหน้าที่ก้มอยู่ขึ้นมาช้าๆ สบตาเข้ากับหลานเยาเยา

มีรอยช้ำที่มุมปากของนาง แต่นางกลับพูดเรียบๆว่า

“ข้าต้องการพบอ๋องเย่”

“งั้นเจ้าก็ไปสิ!” ก็ไม่มีใครขวาง บอกนางแล้วจะมีประโยชน์อะไร? นางคงไม่ไปวิ่งเต้นแทนนางหรอก

เมื่อเห็นหลานจิ่นเอ๋อกระตุกมุมปากด้วยความโมโห หลานเยาเยาก็พูดต่อว่า:

“ยืนยันที่จะอยากเจอเขาขนาดนั้น ก็คงคิดให้เขาเห็นใจเจ้า สงสารเจ้าหลังจากนั้นหล่ะ? จะทำอย่างไรได้อีก? เขาไม่ช่วยเจ้าหรอก!”

หลานเยาเยาไม่เข้าใจ

คนทั่วไปก่อนจะตาย ก็จะไม่หวังให้คนที่ตนเองชอบมาเห็นสภาพจนตรอกของตนเองหรอกหรือ

หลานจิ่นเอ๋อรู้ว่าความเป็นไปได้ที่จะได้เจอเย่แจ๋หยิ่งเป็นศูนย์

แต่จะยังยืนหยัดไปเพื่ออะไร?

“เจ้าไม่ใช่เขา เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ช่วย?”

ในแววตาของหลานจิ่นเอ๋อไม่เพียงแต่แสดงความเป็นศัตรู แต่ยังมีความถากถาง จากนั้นก็พูดต่อว่า:

“เจ้าไม่เคยเข้าใจอ๋องเย่เลย บนโลกนี้ นอกจากข้าแล้ว ไม่มีใครเข้าใจเขาได้มากกว่าข้า

แม้แต่หลานเยาเยาพระชายาเย่ในตอนนั้นก็เหมือนกัน นางไม่เข้าใจอ๋องเย่เลย แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร

แต่ทำไมหล่ะ?

ก็เห็นอยู่ว่าข้าเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุด เขาถึงกลับไม่ยอมแม้แต่จะมองข้าตรงๆ

หลานเยาเยาเจ้ามีอะไรดี?

เจ้ามีอะไรดี?

ทำไมเขาถึงเอาใจใส่พวกเจ้า หรือเพราะหน้าตา?”

ประโยคก่อนหน้ายังดีอยู่ ส่วนมากหลานจิ่นเอ๋อก็พูดกับหลานเยาเยา แต่ประโยคหลังๆ นางพูดๆไปก็เริ่มเสียใจกับความผิดพลาดของตนเอง

จากนั้นก็เหมือนกับจมเข้าไปในคำพูดของตนเอง

“หน้าตาก็เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่ง คาดว่าอ๋องเย่ก็ชอบแบบนั้น”ใครจะไปรู้หล่ะ?

หลานเยาเยาคาดเดาหน่ะสิ!

เย่แจ๋หยิ่งเจอนางครั้งแรกก็ถูก‘ความงาม’ของนางทำให้ประทับใจ

พอสิ้นเสียงนาง

หลานจิ่นเอ๋อก็หันกลับมาทันที พูดเสียงเย็นด้วยความโกรธ:

“เจ้าพูดมั่วซั่ว เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดใส่ร้ายอ๋องเย่เช่นนี้ เขาตัดสินคนจากภายนอก

เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าเข้าใจเขา เจ้าคิดว่าเขาใกล้เจ้าก็เพราะชอบเจ้าจริงๆงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ”

ตั้งแต่หลังจากที่โฉมหน้าที่แท้จริงของหลานจิ่นเอ๋อถูกเปิดโปงออกมา ไม่ว่าจะคำพูดหรือแววตาที่มีต่อนางก็เต็มไปด้วยความแค้น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท