หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่377 ให้ท้ายอย่างไร้เหตุผล

บทที่377 ให้ท้ายอย่างไร้เหตุผล

บทที่377 ให้ท้ายอย่างไร้เหตุผล

พูดจบ

หว้างฉายก็สั่งลูกน้องที่ล้อมถิงเมี่ยนไว้: “ตีมันให้ตายทั้งเป็น ตีให้จนเละ ให้บรรพบุรุษของมันจำมันไม่ได้”

ตราบใดที่ถิงเมี่ยนตาย

ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาก็จะตกเป็นของเขาเอง

“ขอรับ!”

หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากพี่ใหญ่หว้างฉาย พวกเขาก็ยกมีดยกกระบอกในมือขึ้นมา ล้อมมาทางถิงเมี่ยน

ถิงเมี่ยนขมวดคิ้วอีกครั้ง เตรียมพร้อมที่จะสู้กับคนพวกนั้นที่เตรียมสู้สุดชีวิต

ในขณะนั้นเอง

ร่างของคนคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมากลางกลุ่มอันธพาล หมุนไปรอบกลุ่มแล้วก็แฉลบตัวออกมา

“เคร้ง เคร้ง……”

มีด กระบองในมือของอันธพาลก็ร่วงลงที่พื้น

หว้างฉายตกใจ!

ทุกคนก็ต่างตกใจ!

ขณะนั้นเอง!

ก็เกิดทางเดินเล็กๆจากกลุ่มคนที่มุงดู และหลานเยาเยาก็เดินมาพร้อมกับรอยยิ้มอันตรายบนมุมปาก

จื่อซีที่อยู่ด้านหลังนางก็ปัดๆแขนตัวเอง เห็นได้ชัดมากว่าคนที่ลงมือเมื่อครู่นี้คือเขา ยู่หลิวซูที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็นอันธพาลจำนวนมากรังแกฝ่ายที่มีน้อยกว่า นัยน์ตาประกายความรังเกียจ

“เทพธิดาเสด็จ”

“ถวายบังคมเทพธิดา!” ทุกๆคนทยอยกันคุกเข่าน้อมศีรษะ

หว้างฉายและอันธพาลของเขาก็คุกเข่าลงอย่างตื่นตระหนก น้อมหัวลงพื้นอย่างแรง

ดวงตาของถิงเมี่ยนก็เป็นประกายเล็กน้อย

หันไปคำนับหลานเยาเยา: “คุณหนู!”

ในสำนักหงอีหรือในสถานที่ที่ไม่มีคนสามารถเรียกเทพธิดาว่าเจ้าสำนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน พวกเขาเรียกนางว่าคุณหนู

“อื้อ!”

หลังจากให้คนที่มุงดูอยู่ทุกคนลุกขึ้น พวกเขาหว้างฉายกลับไม่กล้าลุกขึ้น คุกเข่าสั่นเป็นตะแกรงอยู่ที่พื้น

หลานเยาเยาเดินออกมาด้านหน้าแล้วพูดว่า: “คนของข้า ใครกล้าแตะเขาแม้แต่น้อย ข้าจะฆ่ามัน”

“เทพธิดาได้โปรดอภัย พวกข้าน้อยมิกล้า มิกล้าอีกแล้ว”

“เฮอะ!” หลานเยาเยาขี้เกียจจะสนใจพวกเขา แล้วก็เอาเรื่องนี้ยกให้ถิงเมี่ยนเป็นคนจัดการเอง “จะฆ่าจะแทงก็ได้ เกิดเรื่องมาข้ารับเอง”

เสียงจอแจ……

ทุกคนฮือฮาเสียงดังเกรียวกราว!

เทพธิดาไม่เคยพูดว่าต้องการตีหรือฆ่าใครมาก่อน ครั้งนี้เมื่อพูดออกมาในที่สาธารณะ ดูท่าแล้วการแตะต้องคนใต้บัญชาของเทพธิดา ก็เหมือนกับการล่วงเกินเทพธิดา

สีหน้าของถิงเมี่ยนซาบซึ้ง จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าของหว้างฉาย แล้วพูดอย่างภูมิใจว่า:

“ก็เคยบอกเจ้าแล้ว ว่าข้านั้นมีคนหนุนหลัง เจ้ากลับไม่เชื่อ”

“ถิงเมี่ยน นายท่าน นายท่านถิง ข้าน้อยผิดไปแล้ว ท่านเป็นคนใจกว้าง ครั้งนี้ได้โปรดปล่อยข้าไป”

ตอนที่หว้างฉายรู้ว่าคนที่หนุนหลังถิงเมี่ยนอยู่ก็คือเทพธิดา เขาก็ซีดเผือด แขนขาปวกเปียกอยู่ที่พื้น

ใครจะไปคาดถึงว่าถิงเมี่ยนที่เขาเกลียดเข้ากระดูก จะหาที่พึ่งได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกเศรษฐีนั้น เขายังสามารถสู้ได้ฆ่าได้

แต่นี่คือเทพธิดา!

ใครที่อยู่ในบัญชาของเทพธิดา ก็สามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างไม่เหลืออะไรเลย

“นายท่านถิง พวกข้าน้อยผิดไปแล้ว ท่านปล่อยพวกเราไปเถิด! วันหลังพวกข้าจะไม่หาเรื่องใส่ตัวอีก ข้าสัญญาว่าจะทำตัวดีๆ”

เดิมถิงเมี่ยนคิดอยากจะแกล้ง

เมื่อก่อนนี้เป็นเรื่องที่เขาชอบทำที่สุด แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันไม่จำเป็น จะทำหยิ่งยโสต่อหน้าพวกเขาไปทำไม?

ยังไงคนกลุ่มนี้ก็ปรับตัวไปเรื่อย ตอนนี้แกล้งทำเป็นน่าสงสาร จะกลับตัวเป็นคนดี แต่ทันทีที่พวกเขาไป คาดว่าก็จะหาคนบริสุทธิ์อ่อนแอมารังแกข่มเหง

“ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า แต่ก็จะไม่ปล่อยพวกเจ้าไป”

พูดจบ

เขาก็หันหน้าไปทางเทพธิดา: “คุณหนู สามารถเอาพวกเขาส่งเข้าห้องได้หรือไม่?”

“ได้!”

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาดีดนิ้วมือเสียงดังแล้วก็มีบางอย่างสั่นไหวอยู่กลางอากาศ ราวกับผ่ากลางอากาศไป

ใช้เวลาไม่นาน

ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่ก็พาพลทหารและม้ามา แล้วข้างๆก็มีคนเพิ่มเข้ามาหนึ่งคน——จื่อเฟิง

ที่แท้คนที่อยู่ในมุมมืดเมื่อครู่นี้ก็คือเขา

หว้างฉายและอันธพาลกลุ่มนั้นก็ถูกจับขึ้นมา

ขณะนี้ ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่เดินขึ้นมาคำนับแล้วกล่าวว่า: “เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ยังต้องรบกวนเทพธิดา เป็นความบกพร่องในหน้าที่ของข้าน้อย”

“ไม่เป็นไร อันธพาลกลุ่มนี้วางรากรุกล้ำเมืองหลวงมาหลายปี เป็นอันตรายต่อผู้คน ตอนนี้กำเริบเสิบสาน กล้าฆ่าคนกลางวันแสกๆ กำแหงเสียจริง

ตอนนี้มาแตะต้องคนของข้า ก็ได้เหตุกำจัดพอดี

แน่นอนว่ารัฐบาลก็มีประโยชน์ของรัฐบาล ยุทธภพก็มีประโยชน์ของยุทธภพถึงจะกำจัดไปให้หมดสิ้นไม่ได้ แต่พวกต่ำทรามพวกนั้นจะอยู่ต่อไม่ได้”

เมื่อพูดเช่นนั้นออกไป

ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่กับถิงเมี่ยนก็แอบโล่งใจ

ดูท่า เทพธิดานั้นเป็นคนฉลาดเข้าใจเรื่องราว

“ขอรับ กระหม่อมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

แม้คนในยุทธภพจะแสดงตัวไม่ได้ แต่พวกเขาก็กลายเป็นพันธมิตรด้านการทำการค้าในที่ลับ ที่จริงก็ต่างจากการทำการค้าแบบปกติไม่มาก

เพียงแต่ว่าธุรกิจที่ทำไม่สามารถบอกคนนอกได้ก็เท่านั้น

ในหมู่พวกคนต่ำทรามนั้นก็มีน้อยมาก

คนที่กล้าวางอำนาจบาตรใหญ่ในที่แจ้ง ที่จริงก็มีอยู่ไม่กี่คนนี่คือกฎ กฎของยุทธภพกับราชสำนัก

ยกตัวอย่างเช่นตลาดดำของท่านถิง

แม้เขาจะเป็นนักเลงหัวไม้ แต่ก็ไม่เคยรังแกกดขี่ผู้อ่อนแอ ในทางตรงกันข้าม เขากลับจัดการตลาดดำอย่างเป็นระบบระเบียบ เหรียญเงินที่ให้ราชสำนักในทุกๆปีก็ไม่น้อย

คนแบบนี้กำจัดออกไปไม่ได้

ไม่เช่นนั้นตลาดดำก็จะเละเทะ

แต่คนที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างหว้างฉาย แน่นอนว่าต้องลงโทษตามกฎหมายเพื่อระบายความโกรธของประชาชน

คิดไปครู่นึง

ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่ก็รู้ว่าจะต้องจับกุมคนไหน

พวกเขามาอย่างรวดเร็ว และก็จากไปอย่างรวดเร็ว

พวกเขาหลานเยาเยาก็กลับไปกินข้าวต่อที่ร้านอาหาร ถ้าไม่ใช่เพราะด้านนอกยังมีประชาชนยืนมุงล้อมกันอยู่ เรื่องเมื่อครู่นี้ก็ดูเหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้น

จื่อเฟิงเดิมทีก็นั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ แต่จะทำอย่างไรเมื่อถูกคนกลุ่มใหญ่จ้อง เขารู้สึกอึดอัด จึงหยิบถ้วยตะเกียบมาคีบกับข้าว ไม่พูดอะไรกับเทพธิดาสักอย่างแล้วก็เดินไปยังมุมมืดโดยไว

ถิงเมี่ยนกับยู่หลิวซูต่างพากันมองมาทางหลานเยาเยา ก็พบว่าเทพธิดาดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้

นี่……

จื่อซีที่อยู่ข้างๆก็พูดอธิบายว่า:

“เฟิงผู้นั้นก็เป็นเช่นนี้ ไม่ชอบคนเยอะแล้วก็ยิ่งไม่ชอบการมุงดู คุณหนูก็ชินแล้ว”

ตั้งแต่หลังจากที่พวกเขาติดตามหลานเยาเยามา

หลานเยาเยาก็ไม่ได้เปลี่ยนชื่อให้พวกเขา แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ชื่อดั้งเดิมของพวกเขา ดังนั้นจึงเรียกแต่คำสุดท้าย

“ที่แท้เขาก็ชื่อว่าเฟิง!”

ถิงเมี่ยนพูดอย่างเลื่อมใส

ศิลปะการต่อสู้ของเขาเก่งที่สุดในบรรดาผู้ที่อยู่ใต้ของเทพธิดา คิดไม่ถึงว่าจะเย็นชาขนาดนี้ ดูท่าไม่น่าสนิทด้วย

ส่วนผู้ที่อยู่ด้านข้างนี้ ดูเหมือนจะเป็นคนพูดเก่ง ศิลปะการต่อสู้ก็สูง วิชาการรักษาก็ได้การถ่ายทอดมาจากเทพธิดา มีความรู้ความสามารถในการเป็นองครักษ์!

มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

ในไม่ช้า ถิงเมี่ยนก็พูดคุยกับจื่อซีอย่างคึกคักสนุกสนาน

ส่วนยู่หลิวซู เห็นได้ชัดว่าสายตามองไปทางมุมมืด

เขาคีบกับข้าวเสร็จ ก็พุ่งตัวไปทางมุมอย่างไวเช่นกัน

เพียงแต่ว่า เขาไปเพียงครู่เดียวก็ต้องพุ่งออกมาด้วยความหดหู่ จากนั้นก็มานั่งกินข้าวนิ่งๆอย่างไม่รู้ไม่ชี้

ไม่น่าคบด้วยจริงๆ!

แต่นั่นก็ไม่คณามือเขายู่หลิวซู

หลังจากกินข้าวออกมา ถิงเมี่ยนต้องการไปจัดการธุระของตลาดดำ ส่วนยู่หลิวซูก็ต้องกลับไปที่ตึกฟังงิ้ว

เขาก็ต้องจัดการธุระเช่นกัน

เพียงแต่พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตึกฟังงิ้วก่อนหน้านี้ เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้. ทันทีที่ขมวดคิ้ว เสียงที่มีเสน่ห์ของเทพธิดาดังขึ้นมาข้างหู

“ไปฟังงิ้วที่ตึกฟังงิ้ว!”

ขณะนั้น

ยู่หลิวซูก็หันไปมองทันที อารมณ์แปลกๆก็ฉายขึ้นมาในแววตา

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท