หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่378 ถูกยู่หลิวซูมอมเมา

บทที่378 ถูกยู่หลิวซูมอมเมา

บทที่378 ถูกยู่หลิวซูมอมเมา

ตึกฟังงิ้ว。

ในช่วงที่ยู่หลิวซูไม่อยู่ไม่กี่วันนี้ ด้านในคนยังเนืองแน่น ทุกวันที่เต็มไปด้วยแขกก็เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น

ก็คือให้ยู่หลิวซูออกมาร้องงิ้ว

“เฮ้ เขาเป็นนักแสดง พูดเพราะหน่อยก็เป็นหัวแรงใหญ่ พูดไม่เพราะหน่อยก็เป็นคนเล่นงิ้ว ถูกพูดอะไรหน่อยก็ทำลับๆล่อๆ ไม่กล้าออกมาพบผู้คนแล้ว ไม่มีเหตุผลเสียจริง”

“ใช่ ใช่ คิดว่าซ่อนหัวซ่อนหางเหมือนเต่าแล้วพวกเราจะไม่ไล่เขาออกจากเมืองหลวงรึไง? ตราบใดที่ไม่ไล่เขาออกจากเมืองหลวง พวกเราก็จะก่อความวุ่นวายที่นี่ ก่อความวุ่นวายจนเขาฆ่าตัวตาย”

“เขานะ ไม่กล้าออกมาแน่ๆ ไป พวกเราทุกคนบุกไปทางด้านหลัง ไปจับเขาออกมาโยนออกไปจากเมืองหลวง”

“ไปไปไป พวกเราไปด้วยกัน เซียวซื่อจื่อเจ้าจะยังรังแกพวกเราเหล่าประชาชนอีกหรือ?”

เรื่องยิ่งวุ่นวายยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

บรรดาคนฟังงิ้วก็อยากจะลอง แต่เพราะเซียวซื่อจื่อนั่งมองพวกเขาอยู่จากบนชั้นสอง พวกเขาจึงไม่ค่อยกล้านัก

ที่บนชั้นสอง

เซียวจิ่นหยูผู้สุภาพเรียบร้อยขมวดคิ้วแน่น น้ำชาที่เย็นแล้วในมือก็ถูกบีบแน่นเรื่อยๆ

องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังเขาพูดด้วยความโกรธว่า:

“มาทุกวัน มาทุกวัน องค์ชาย ประชาชนพวกนี้ยิ่งนับวันยิ่งคลั่งขึ้นเรื่อยๆ แม้จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์จะไม่ถามเรื่องในราชสำนัก

แต่ท่านเจ้าพระยากับคุณชาย ท่านก็ดีกับพวกเขามาก แต่พวกเขากลับกล้ามาก่อความวุ่นวาย มีอย่างที่ไหนกัน ข้าน้อยจะสั่งคนให้ไปขับไล่พวกเขาอีกครั้ง”

“ไม่ต้อง!”

เซียวจิ่นหยูโบกมือเบาๆ พูดเสียงเย็นชา

เทพธิดานะเทพธิดา ยืมคนไปแล้วตั้งสองสามวันยังไม่ส่งกลับมาอีก อยากจะรอให้คนกลุ่มนี้รื้อตึกฟังงิ้วของเขาก่อนแล้วถึงกลับมาได้หรือไง?

ดูท่าแล้ววันนี้เขาก็ยังไม่กลับมา

งั้นเขาก็จะใช้วิธีของตนเองแก้ไขเรื่องนี้

ตอนนั้นเอง!

คนรับใช้คนหนึ่งก็วิ่งมาด้วยความเร็ว แล้วพูดอยู่ข้างหูพวกเขาไม่กี่ประโยค

มุมปากของเซียวจิ่นหยูกระตุกขึ้น

“ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็เป็นการดีที่จะจัดการเรื่องตอนนี้ให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้น……”

ห้องโถง ณ ขณะนี้

ความโกรธของฝูงชนพุ่งขึ้น จำนวนผู้ที่ไม่สงบก็ยิ่งรวมกันมากขึ้น ขาดก็แต่เพียงผู้นำที่พุ่งออกไป

ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนโดดออกมาจากในฝูงชน:

“บุก!”

น้ำเสียงอันทรงพลังก็ยิ่งทำให้ความโกรธของทุกคนที่อยู่ในห้องโถงพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด พวกเขาก็เฮโลพุ่งเข้าไปแยกแถวคนรับใช้ที่ขวางอยู่ตรงหน้า

“ตึ้ง……”

จู่ๆในห้องโถงก็มีเสียงกลองรบดังขึ้น เสียงดังกึกก้องทำเอาทุกคนล้วนตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น?”

“กลองรบดังขึ้นได้อย่างไร?”

“ไม่รู้!”

“……”

ทุกคนต่างสงสัยขึ้นมา ต่างพากันเงยหน้าขึ้นไปมองเวที

จู่ๆเวทีที่มืดสลัวก็สว่างขึ้นในทันที ผ้าม่านบางเบาก็ค่อยๆเปิดออกช้าๆ ยู่หลิวซูในชุดงดงาม โดดเด่นน่าเกรงขามก็ยืนอยู่กลางเวที

เขาที่มีออร่าต่างกันกับแต่ก่อนราวฟ้ากับเหว ถือพิณหนึ่งตัว พิณนั้นเป็นพิณที่ยู่หลิวซูดีดจนสายขาดมาก่อน มันได้รับการซ่อมแซมแล้ว

ทุกคนต่างส่งเสียงจอแจอยู่ในความโกลาหล!

เพราะยู่หลิวซูในตอนนี้ ไม่มีท่าทางนักแสดงเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นเหมือนคุณชายเศรษฐีที่มาจากคุณชายตระกูลขุนนาง มีออร่าที่น่าทึ่ง

“ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง……”

เสียงกลองสงครามที่หนักแน่นดังขึ้นอีกครั้ง สถานการณ์ก็ดูตึงเครียดมาก ราวกับกำลังจะเกิดการต่อสู้ในสนามรบใกล้ๆ

“ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง……”

จากนั้นเสียงพิณก็ดังขึ้น……

แต่เสียงพิณนี้ไม่ใช่พิณหนึ่งตัว แต่เป็นสองตัว

ยู่หลิวซูหันไปมองผ้าม่านเวทีด้านหลังเล็กน้อย จากนั้นก็จดจ่อตั้งใจดีดพิณ

เสียงดังคู่ขึ้นมากับกลองสงคราม ทันใดนั้นทุกคนจมดิ่งเข้าไปในสนามรบ ราวกับไปอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ

เจ้าพระยาวัยกลางคนที่ดูทรงพลัง ถือหอกสีแดงเข้ม มาพร้อมกับเด็กหนุ่มชุดขาวที่ตามอ๋องเทพสงครามผู้มีความสามารถพุ่งเข้าไปที่ค่ายทหารศัตรู

อ๋องเทพสงครามกับเด็กหนุ่มชุดขาวต่างดูท่าทางยังเป็นเด็กหนุ่มวัยเยาว์อยู่ แต่พวกเขาดูเที่ยงธรรม สายตาเฉียบแหลม แม้เนื้อตัวของพวกเขาจะมีบาดแผลเต็มไปหมด แต่พวกเขาก็ยังคงสู้กับศัตรูอย่างอาจหาญ

จำนวนของฝ่ายศัตรูเยอะกว่าพวกเขาหลายเท่า

อีกอย่างพวกเขารบมาแล้วสองวัน เสบียงเสริมของพวกเขาก็ถูกตัดขาด ตอนนี้แม้แต่หญ้ายังไม่มี วิธีเดียวก็คือต้องพยายามกำจัดค่ายทหารหลักของศัตรูในคราเดียว ถึงจะมีโอกาสรอด

เสียงกลองรบที่หนักแน่นดังก้องไปทั่วผืนดินที่เปื้อนเลือด

กองทัพยังคงกำลังต่อสู้กันอย่างห้าวหาญ ไฟสงครามยังคงโหมกระหน่ำไม่หยุด เสียงฟาดฟันของอาวุธสงครามและเสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วฟ้า

มีเสียง “ระวัง”

เจ้าพระยาเข้ามารับมีดที่หมายเอาชีวิตแทนชายหนุ่มชุดขาว และล้มลงไป

“ท่านพ่อ!”

ชายหนุ่มชุดขาวร้องตะโกน ฆ่าฝ่ายศัตรูไปสองสามคนแล้วพุ่งไปยังตรงหน้าเจ้าพระยาที่ล้มลงไปกับพื้น พร้อมกับพยายามห้ามเลือดที่ไหลออกมาอย่างสุดความสามารถ

“ท่านพ่อ ท่านต้องทนไว้ อีกเดี๋ยวมันก็จะจบแล้ว”

“ไม่ต้องมาสนใจข้า ไปเถอะ! ไปปกป้องอ๋องเย่ให้ดี ปกป้องอ๋องเย่ให้ดีแล้วก็ต้องปกป้องประชาชนประเทศก่วงส้าของพวกเราไว้ให้ดี เขาเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเราประเทศก่วงส้า รีบไป”

เจ้าพระยาเพิ่งพูดจบ ก็ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัวเสียงดัง:

“ระวัง!”

เมื่อศัตรูสองคนเห็นพวกเขาเสียสมาธิ ก็จะฉวยโอกาสมาฆ่า

ขณะนั้นเอง กระบี่ยาวด้ามหนึ่งก็พุ่งมา ทันใดนั้นก็ตัดไปที่หัวของฝ่ายศัตรู ท่านอ๋องหนุ่มก็เดินมาข้างหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความกังวล แต่กลับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นผิดปกติ:

“จิ่นหยู เจ้าต้องช่วยเจ้าพระยา ต้องช่วยเหล่าทหารที่ยังไม่ตาย พวกเราจะต้องฆ่าศัตรูทั้งหมดด้วยความรวดเร็วที่สุด พวกเขาถึงจะอยู่รอด เข้าใจไหม?”

ชายหนุ่มชุดขาวเงยหน้ามองท่านอ๋องหนุ่ม แล้วพยักหน้าหนักแน่น

ด้วยเหตุนี้!

พวกเขาจึงสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ฆ่าศัตรูนับไม่ถ้วน ท้ายที่สุดก็ได้รับชัยชนะด้วยการแลกเปลี่ยนที่น่าเวทนา

ท้ายที่สุด สนามรบก็เต็มไปด้วยเลือดเนื้อซากศพ คนที่โชคดีรอดชีวิตกรีดร้องอย่างเยือกเย็น ผืนทรายกลางเป็นสีแดงเลือดอย่างน่าตกใจ

อ๋องเย่หนุ่มยืนอยู่บนซากศพขาวโพลน ในมือถือกระบี่ยาวที่ยังมีเลือดหยดอยู่ พร้อมกับฟันธงรบของฝ่ายศัตรู

“แผ่นดินประเทศก่วงส้า เจ้ากล้ามารุกราน? มาคนเดียวก็จักต้องฆ่า มาเป็นคู่ก็จักต้องสังหาร มาเป็นกลุ่มก็จักต้องทำลาย”

หลังจากนั้น

แม่ทัพหนุ่มก็ประคองทหารนายหนึ่งที่บาดเจ็บหนัก ชายหนุ่มชุดขาวประคองเจ้าพระยา ผู้ที่บาดเจ็บน้อยประคองผู้ที่บาดเจ็บหนัก และพาเดินเข้าไปในกระโจมของฝ่ายศัตรู……

“ตึ้ง……”

เสียงกลองรบค่อยๆหายไป เสียงพิณก็ค่อยๆหยุดลง

ทุกคนต่างตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ต่างละอายใจ บางคนก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ

ใช่สิ!

ตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรอยู่?

แผ่นดินผืนนี้ ในตอนนั้นได้อ๋องเย่และพวกเขาสองพ่อลูกท่านเจ้าพระยาปกป้องเอาไว้

และเพราะการต่อสู้ที่น่าเศร้าสลดนั้น ท่านเจ้าพระยาจึงบาดเจ็บหนัก แม้จะรอดชีวิตแต่ก็เหลือแต่ร่างกายที่พิการ นับตั้งแต่นั้นก็ไม่รบ ไม่ถามเรื่องของราชสำนักอีก

แต่ตอนนี้……

พวกเขากำลังจะพังตึกฟังงิ้วของเซียวซื่อจื่อ นี่มันจะต่างอะไรกันกับสัตว์ร้ายที่เนรคุณ?

แล้วยู่หลิวซูหล่ะ?

เขาทำอะไรผิด?

เขาอยู่ที่ตึกฟังงิ้วดีๆ มีเหล่าคุณหนูมาชอบ แล้วก็ยั่วยุให้เกิดปัญหา พูดขึ้นมาเขาเองก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน

ทำไมพวกเขาต้องรวมตัวกันต่อต้านโจมตีด้วย?

ขณะนั้นเอง!

มีคนในฝูงชนเห็นว่าสถานการณ์มันไม่ถูกต้อง ก็รีบพูดขึ้นมาเสียงดังว่า:

“พวกเจ้าอย่าถูกเขาหลอกนะ ตอนแรกฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรันก็ถูกเสียงพิณของเขาทำให้งวยงงเหมือนกัน พวกเจ้าอย่าผิดซ้ำรอยเดิม”

อีกคนนึงก็โวยวายตามขึ้นมา:

“ใช่ พวกเราทุกคนต่างถูกวิชามอมเมาของนักแสดงคนนี้หลอกหรอก พวกเราจะไม่เปลี่ยนความปรารถนาเดิมที่จะไล่เขาออกจากเมืองหลวง เพียงเพราะเพลงบทเดียว”

“ใช่! มันคือวิชามอมเมา ไม่เช่นนั้นจะมอมเมาคุณหนูที่แสนสวยสองคนนั้นได้อย่างไร!”

“ใช่! อย่าถูกหลอกนะ พวกเรามาไล่เขาไป”

“……”

แล้วเสียงโวยวายสองสามเสียงก็ตามขึ้นมา

แต่นอกจากสองสามคนนั้นแล้ว คนอื่นๆก็ไม่พูดอะไร และทั้งหมดก็มองมาที่พวกเขา……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน