หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่380 จบแล้ว

บทที่380 จบแล้ว

บทที่380 จบแล้ว

ตอนนี้!

หลินเฟยหรันหลับตาด้วยความเจ็บปวด ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นัยน์ตาก็ปรากฏความโหดเหี้ยม

“ถ้าข้าพูดเรื่องตอนที่ข้าวางยาพิษองค์ชายสี่ที่ป่าไผ่ว่าเจ้าก็อยู่ที่นั่นด้วย เจ้าคิดว่าจุดจบของเจ้าจะเหมือนกับข้าหรือไม่?”

ยู่หลิวซูหยุดฝีเท้าและยิ้มจางๆ แต่ไม่ได้หันหน้ากลับมา เพียงแต่ถอนหายใจเบาๆ

“ก็อาจจะ!”

“แม้ข้าจะเอาสิ่งนี้มาขู่ เจ้าก็โกหกข้าสักหน่อยก่อนข้าจะตายไม่ได้หรือไง?

ทำไม?

ยู่หลิวซู เจ้าก็รู้ว่าข้าทำไม่ได้ เจ้ากลับไม่โกหกข้า ทำไมต้องปล่อยให้ข้าตายไปพร้อมกับความเสียใจ?”

แววตาโหดเหี้ยมของหลินเฟยหรันได้หายไปแล้ว แต่สิ่งที่แทนเข้ามาคือความเสียใจและความพัวพันที่เจ็บปวด

ใช่!

เขาไม่ใช่หลิวซูที่อยู่ในจินตนาการ นางจะให้ยู่หลิวซูตัวจริง พูดคำพูดของยู่หลิวซูที่อยู่ในจินตนาการออกมาได้ยังไง?

ความคาดหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ในใจก็ได้ดับสูญไปแล้ว

“แม่นางหลิน ขอให้ชาติหน้าเจ้ามีแต่ความสุข”

พอพูดประโยคนี้จบ

ยู่หลิวซูก็ก้าวเท้าจากไปอีกครั้ง หลินเฟยหรันร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด มองเบื้องหลังสูงใหญ่ค่อยๆห่างไกลออกไป ในตอนสุดท้ายที่จะหายไป นางก็ร้องตะโกนเสียงดัง

“หลิวซู ข้าอยากเห็นเจ้าที่ลานประหารเป็นครั้งสุดท้ายอีกครั้ง แค่ครั้งสุดท้าย”

น่าเสียดาย……

ภาพเบื้องหลังที่แสนงดงามนั้นได้หายไปแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูด

นางนั่งลงไปที่พื้นทันที แล้วร้องสะอื้นด้วยความเจ็บปวด

วันต่อมา หลานจิ่นเอ๋อเสียชีวิตด้วยความเกลียดชังในห้องขัง

ได้ยินว่า นางได้พบหลานเฉินมู๋ก่อนเสียชีวิต แต่นางไม่ได้รอการปรากฏตัวของเย่แจ๋หยิ่งเลย

ช่าจื่อเย็นหงพูดติดตลกว่า คาดว่าหลานจิ่นเอ๋อคงจะถูกสิงปู้ช่างชูทรมานตาย อย่างไรก็เป็นการฆ่าแก้แค้น หลังจากถูกทรมานตาย ถึงได้บอกกับภายนอกว่าเสียชีวิตด้วยความเกลียดชัง

ที่จริง!

หลานเยาเยาเองก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับเรื่องตลกของพวกนาง

ก็เหมือนกับพวกนางสองคนที่พูดเล่นตลกกันในตอนแรก ตอนที่คิดว่าหลินเฟยหรันคือผู้ร้าย สิงปู้ช่างชูก็จะลงมือทรมานหลินเฟยหรัน ถ้าไม่ใช่เพราะองค์ชายรัชทายาทเย่หลีเฉินรีบมาถึง คาดว่าหลินเฟยหรันน่าจะตายไปนานแล้ว

แต่ตอนนี้

หลังจากที่รู้ว่าหลานจิ่นเอ๋อควบคุมอยู่เบื้องหลัง คาดว่าในตอนที่ไม่มีใครอยู่คงถูกทรมานตาย

ถึงอย่างไรถ้าฮ่องเต้รู้

คาดว่าก็คงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะถึงยังไงองค์ชายสี่ก็ตายไปแล้ว และเขาก็คือลูกชายแท้ๆของฮ่องเต้

สิงปู้ช่างชูทรมานหลานจิ่นเอ๋อตาย สำหรับฮ่องเต้แล้วมันก็เป็นการระบายความแค้นอย่างหนึ่ง

หลังจากผ่านไปสามวัน

จำนวนคนในเมืองหลวงเพิ่มขึ้นทุกวัน หน้าตาแปลกหน้ามากมายปรากฏเต็มถนนตรอกซอกซอย เมืองหลวงมีฝูงชนเนืองแน่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

แม้แต่ในช่วงกลางคืนที่ควรจะเงียบสงบ ก็ยังจ้อกแจ้กจอแจ ทำให้ผู้คนไม่สงบสุข

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคืนนึง หลานเยาเยาวางแผนจะข้ามกำแพงไปจัดการธุระ พอเพิ่งข้ามกำแพงออกมาก็ได้ยินเสียงร้อง “โอ๊ยๆ” ปรากฏว่านางไปเหยียบโดนหัวของคนสองสามคนที่นอนหลับพิงกำแพงอยู่

“······”

พอมาถึงถนนหลัก มันก็เยอะมากจนพูดไม่ออก

ทั้งสองฝั่งถนนเหมือนนกกำลังพักผ่อนในเวลากลางคืน นอนเป็นแถวๆอยู่สองฝั่ง แว็บแรกที่มองท่าทางการแต่งตัว ล้วนเป็นคนในยุทธภพทั้งนั้น

หลานเยาเยาทำได้เพียงแค่ย้อนกลับไปทางเดิม

ตอนที่มายังกำแพงด้านหลังลาน คนที่ถูกนางเหยียบก่อนหน้าก็ย้ายออกไปโดยอัตโนมัติ

ผ่านไปอีกหนึ่งวัน

วันนี้เป็นวันประหารหลินเฟยหรัน ที่ลานประหารมีคนมุงดูอยู่รอบๆ ต่างเงยหน้าขึ้นมอง รอดูหลินเฟยหรันถูกตัดหัว

เวลาเที่ยงใกล้เข้ามา

หลินเฟยหรันสวมชุดนักโทษ นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ด้านหลังมีป้ายตัวอักษรเขียนว่าตัดผูกอยู่

ผ่านไปครู่นึง

ก็มีเสียงแหลมสูงตะโกนขึ้นมาว่า: “เที่ยงแล้ว”

คนประหารก็คือสิงปู้ช่างชู หลังจากที่ได้ยินเสียงก็มองแสงบาดตาของพระอาทิตย์บนฟ้า จากนั้นก็หยิบป้ายลูกศรออกมาจากกระบอกพร้อมกับโยนลงพื้น

“เวลาเที่ยงแล้ว ประหาร!”

บนเวทีประหาร หลังจากป้ายที่มีตัวอักษรว่าตัดถูกนำออกไป หลินเฟยหรันเงยหน้ามองไปยังผู้คนมุงดู

นางมองไปรอบๆ ดูเหมือนจะไม่มีร่างที่นางอยากจะเห็น น้ำตาจึงไหลออกมาอีกครั้ง สุดท้ายท่ามกลางความพร่ามัว นางก็เหมือนเห็นคนนึงถอดหมวกงอบที่ล้อมไว้ด้วยผ้าดำโปร่งบางออก

เป็นเขา!

เขามาแล้ว······

เขามาดูนางเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว······

จากนั้นเพชฌฆาตก็ง้างมีดขึ้น ตัดแยกชิ้นส่วน เลือดพ่นออกมา แล้วก็จบชีวิตของหลินเฟยหรัน

ชายหนุ่มที่ถอดหมวกงอบที่ล้อมไว้ด้วยผ้าดำโปร่งบางอยู่ในฝูงชน ใส่หมวกงอบกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง หลังจากที่มองไท่ฟู่รอคนมาเก็บศพที่เวทีประหารอย่างโศกเศร้า เขาก็เดินถอยหายไปพร้อมกับฝูงชน

จากนั้นก็รีบมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

ค่อยๆผลักประตูห้องหรูแล้วเดินเข้าไป หลานเยาเยาที่อยู่ในชุดสีแดงเลือดยืนหลับตาพิงหน้าต่าง ริมฝีปากแดงขยับเล็กน้อย

“จบแล้วหรือ?”

“อื้ม!”ยู่หลิวซูตอบอย่างนิ่มนวล

“ดื่มชาเถอะ!”เรื่องที่ลานประหารนั้นค่อนข้างโหดร้าย การที่ต้องเห็นคนคุ้นเคยถูกตัดหัวกับตา ใจจะต้องไม่สงบแน่ “ถือเป็นเรื่องน่าตกใจ”

“ขอบพระทัยคุณหนู”

ยู่หลิวซูยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มรวดเดียวอย่างกับกินเหล้า ในใจไม่มีความรู้สึกหดหู่อะไรมากนัก

คาดว่าความเจ็บปวดจากการเผาประตูจวนจะเจ็บปวดกว่านี้เยอะ สำหรับการเห็นฉากนองเลือดของการตัดหัวที่เวทีประหารนั่น รู้สึกว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น

ขณะนั้น!

มีร่างร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา

คือจื่อเฟิง หลังจากที่มาถึงตรงหน้าหลานเยาเยา ก็รีบคำนับพูดว่า:

“คุณหนู ข่าวได้แพร่ออกไปแล้ว คาดว่าหลังจากวันนี้จะเกิดความปั่นป่วนโกลาหลทันที”

“ดี” หลังจากหลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย ก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

“ให้จื่อซีไปแจ้งทุกคนในจวนว่าให้ไปเตรียมเรื่องที่ข้ามอบหมายให้พร้อม หากไม่มีคำสั่งข้า ก็ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกตามอำเภอใจ”

ตอนนี้เมืองหลวงมีทั้งคนดีและเลวปะปนกัน ในมุมมืดมีหอกตั้งกี่ด้ามที่หันมายังตำหนักเทพธิดาของนาง

ดังนั้น!

ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังทะเลทราย จะต้องระมัดระวังทุกอย่าง

หลังจากจื่อเฟิงรับคำสั่งแล้วก็จากไป หลานเยาเยาหันไปมองยู่หลิวซู “เมื่อถึงเวลาก็ไปทะเลทรายกับข้า”

“ขอรับ คุณหนู”

หลังจากนั้นครู่นึง

ยู่หลิวซูก็จากไป

หลานเยาเยาหลับตาลงเงียบๆ คำนวณแผนเรื่องที่จะต้องทำต่อไป หลังจากที่คิดทุกอย่างเรียบร้อย

จู่ๆนางก็นึกถึงเย่แจ๋หยิ่ง

ตั้งแต่หลังจากคืนที่นอนร่วมกันเขาก็หายไปเลย ไม่ได้ยินข่าวคราวใดๆของเขา

เจ้าคนนี้……

ได้ประโยชน์แล้วก็หายไปเลย

แน่นอนว่าผู้ชายไม่ควรเอาใจมากไป ให้หิวตายไปเลย

หลักการ36อย่างก่อนหน้านั้นใช้ได้ที่ไหนกัน?

เมื่อตกดึก หลานเยาเยาก็กลับจวน

ภายในจวนสงบร่มเย็น พอเดินมาถึงหน้าห้องบรรทม ก็เห็นเย็นหงวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

“คุณหนู คุณหนู ดึกขนาดนี้แล้ว ช่าจื่อยังไม่กลับมาเลย”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นว่า:

“นางไปไหน?”

ไม่ใช่ว่าพูดไปแล้วหรือว่า หากไม่มีคำสั่งของนาง ไม่ว่าใครก็ห้ามออกไป?

ทำหูทวนลมกับคำพูดของนางรึไง?

“เรียนคุณหนู วันนี้เป็นวันตายของพ่อแม่ช่าจื่อ นางออกไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองมาเซ่นไหว้ นางบอกว่าจะกลับมาโดยเร็ว แต่ว่าจนถึงตอนดึกนี้······”

คำพูดของเย็นหงยังไม่ทันจบ หลานเยาเยาก็หมุนตัวจากไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท