หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 381 นางตั้งครรภ์แล้ว

บทที่ 381 นางตั้งครรภ์แล้ว

บทที่ 381 นางตั้งครรภ์แล้ว

เมื่อมาถึงลานด้านหน้า หลานเยาเยาได้เรียกตาแก่เข้ามา ให้เขาส่งองครักษ์ของตำหนักบางส่วนออกไปตามหา

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

ท่ามกลางการรอคอยอันยาวนาน องครักษ์คนหนึ่งได้อุ้มช่าจื่อที่กำลังใกล้ตายกลับมาแล้ว

ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่กลับมีบาดแผลแค่บาดแผลเดียว

อีกทั้งบาดแผลอยู่ตรงตำแหน่งที่อันตรายถึงชีวิต มองไปยังเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจของนาง ทำให้เสื้อผ้าบนหน้าอกของนางถูกย้อมกลายเป็นสีแดง

สีหน้าของหลานเยาเยาจู่ๆ ก็เยือกเย็นลง

“วางตัวนางลง!”

องครักษ์ได้วางตัวช่าจื่อลงบนพื้นอย่างช้าๆ หลานเยาเยาได้คุกเข่าลงจับชีพจรของนางอย่างรวดเร็ว

ขณะที่จับชีพจรของนาง เพียงครู่เดียวหัวใจของนางก็เบาลง

หัวใจที่ถูกแทงทะลุผ่าน การที่มีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก

แต่!

หลานเยาเยายังได้สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบยาที่ดีที่สุดออกมาเพื่อใช้หยุดเลือดให้กับช่าจื่อ

แต่ ช่าจื่อกลับอ่อนแอจนทำได้เพียงส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะมีเรื่องราวที่ร้อนรนบางอย่างอยู่สายใจและต้องการที่จะพูดออกมา

นางปฏิเสธที่จะพันแผล

เมื่อเห็นว่านางต้องการที่จะพูด หลานเยาเยาก็ก้มหน้าลง เข้าไปใกล้ปากของนาง

นางค่อยๆ พูดออกออกมาได้สองสามคำ “อ๋อง……เย่……ฆ่าข้า……”

ดูเหมือนว่าพยายามจะพูดออกมาไม่กี่คำ พูดจบก็หมดลมหายใจ

เมื่อได้ยินคำพูดไม่กี่คำเหล่านั้น หลานเยาเยาได้ตกตะลึง ราวกับถูกฟ้าผ่าลง แต่บนใบหน้าของนางกลับแสดงออกถึงความสงบเป็นอย่างมาก

จากนั้น นางก็ปล่อยช่าจื่อออกอย่างนิ่งๆ และค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หลับตาลงอย่างเงียบๆ

เย็นหงที่อยู่ด้านข้างได้คุกเข่าลงทันทีเข้าไปโอบกอดช่าจื่อและร้องไห้

ตาแก่ก็ถอนหายใจลึกๆ เช่นกัน

จากนั้นได้สั่งองครักษ์ให้เขาไปอุ้มศพของช่าจื่อขึ้นมา และเดินไปยังลานด้านหลัง

หลานเยาเยาที่ยืนอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ค่อยๆ ห่างออกไป นางจึงแอบถอนหายใจ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น

อ๋องเย่ฆ่าข้า……

เย่แจ๋หยิ่งนะหรือ

แน่นอนว่าทางแห่งความสุขนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค ในวันนี้ก็คงจะมาถึงแล้ว เพียงแต่มันเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก

หลังจากวันนี้

ตำหนักเทพธิดาแห่งนี้ของนางก็คงจะไม่สงบสุขอีกต่อไป

แสงดาบเงากระบี่ และแผนชั่วร้ายอย่างลับๆ ล้วนถูกผลัดกันขึ้นแสดง……

หลังจากยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

หลานเยาเยาไปที่ห้องของฮัวหยู่อัน

ไม่กี่วันมานี้ ฮัวหยู่อันได้ฟื้นขึ้นแล้ว นางให้ความร่วมมือในการรักษาด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ไม่มีการต่อต้านเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม นางเป็นคนไม่ชอบพูด

นอกจากพูดกับอาฝูและโม่ซางเพียงไม่กี่ประโยค คนอื่นที่เหลือนางก็ไม่เคยพูดจากับใครเลย แม้แต่โม่เหลียงเฉินก็เช่นกัน

แต่สำหรับนางแล้ว

นอกจากพยักหน้า ส่ายหน้า หรือพูดคำง่ายๆ อย่าง “อืม ใช่ ไม่ใช่” เพื่อตอบกลับแล้ว ที่เหลือฮัวหยู่อันก็ได้แต่แกล้งหลับ

เมื่อมาถึงด้านหน้าประตูห้องของฮัวหยู่อัน หลานเยาเยาทำสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นยกมือขึ้นเคาะประตู

“ตึง ตึง ตึง ……”

ไม่มีเสียงดังออกมาจากในห้อง ดูเหมือนว่าคนข้างในได้หลับไปแล้ว

แต่!

หลานเยาเยารออยู่เพียงครู่เดียว ไม่ได้เคาะประตูอีก ก็ได้ผลักประตูเข้าไปเบาๆ

เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ภายในห้องมืดสลัวมาก จึงมองสภาพการณ์ภายในได้ไม่ชัดเจน

นางเดินไปที่ด้านหน้าของเชิงเทียน และหยิบห่อจื๋อจื่อขึ้นมาจุดเทียนให้สว่าง

เมื่อแสงเทียนสว่างไสวเต็มไปทั่วห้องในทันที ฉากที่น่าประหลาดใจฉากหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้น เบื้องหน้าของหลานเยาเยาก็คือด้านหลังของเชิงเทียน เป็นใบหน้าซีดเผือดใบหน้าหนึ่ง

ผู้หญิงคนหนึ่งถือมีดสั้นยกขึ้นเหนือศีรษะ มีท่าทางที่กำลังจะฆ่าคน นางเม้มริมฝีปากเน้น มองมายังนางด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น……

นางคือฮัวหยู่อัน!

ได้มองเห็นฉากนี้ในกลางคืน

ท่าทางของฮัวหยู่อันในขณะนี้ ทำให้คนตกใจ

แต่ทว่า หลานเยาเยากลับหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็หันกลับมา และนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยตนเอง

เมื่อเห็นว่าเป็นนาง ฮัวหยู่อันก็เก็บมีดสั้นไว้ เดินเข้ามาทางนางทีละก้าว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามนาง

ฮัวหยู่อันไม่ได้พูดอะไร

ดูเหมือนจะรอให้นางพูด

เดิมทีหลานเยาเยามาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องจะพูด ดังนั้น ทันทีที่ฮัวหยู่อันนั่งลง นางก็พูดว่า

“ช่าจื่อสาวใช้คนสนิทของข้าเพิ่งจะตายไป นางถูกคนฆ่าตาย แล้วยังตายต่อหน้าฆ่า”

น้ำเสียงของหลานเยาเยาเรียบนิ่งและเชื่องช้า ราวกับว่าผู้ตายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับนางเลย

ได้ยินดังนั้น!

แววตาของฮัวหยู่อันได้เปล่งประกายออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่เป็นเพียงประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น

สาวใช้คนนั้นนางเคยเห็นมาก่อน ดูจากลักษณะแล้ว เหมือนจะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และภักดีมาก

“เป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ” ฮัวหยู่อันไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป

“ไม่ใช่ เป็นเพราะข้า”

หลานเยาเยารินชาสองถ้วย เดิมทีแล้วต้องการจะยื่นให้ฮัวหยู่อันหนึ่งถ้วย จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่านางเพิ่งจะกินยาไปไม่นาน ไม่สามารถดื่มชาได้ จึงได้ยกเลิกไป

พูดขึ้นอีกครั้ง “ตำหนักเทพธิดาไม่ปลอดภัยอีกแล้ว”

“พรุ่งนี้ข้าต้องไปแล้ว คงจะไม่ต้องรบกวนอีก”

“เมืองหลวงก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน!” นางกล่าวต่อไป

นางรู้ ว่าฮัวหยู่อันไม่สามารถออกจากเมืองหลวงได้ เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าราชครูใหญ่ของราชวงศ์เก่าก็คือราชครูใหญ่คนปัจจุบัน นางต้องการจะแก้แค้น แล้วจะออกไปได้อย่างไร

เป็นไปอย่างที่คิด!

“ความแค้นยังไม่ได้ชำระ ข้าไม่มีทางจะออกจากเมืองหลวงเด็ดขาด” สีหน้าที่แน่วแน่ปรากฏอยู่ในดวงตาของนาง

“นางตั้งครรภ์แล้ว”

“อะไรนะ” ฮัวหยู่อันไม่เข้าใจเล็กน้อย

“อาฝูตั้งครรภ์แล้ว ตอนนี้ก็ใกล้สามเดือนแล้ว แต่ทารกในครรภ์ไม่ค่อยคงที่” นางก็รู้โดยบังเอิญเช่นกัน

ตอนที่รักษาอาการป่วยให้ฮัวหยู่อัน จริงๆ แล้วนางต้องการที่จะรับผ้าขนหนูร้อนที่อาฝูยื่นมาให้ แต่กลับไปคว้าโดนข้อมือของนางโดยไม่ทันระวัง

นางแอบประหลาดใจ!

ทำไมมีครรภ์แล้วยังวิ่งไปมาโดยรอบอีก หรือนางยังไม่รู้ตัว

แต่!

เมื่อเห็นท่าทางที่หลบหลีกของอาฝู นางก็รู้ ว่าอาฝูรู้อยู่แล้ว

ข่าวดีก็คือ โชคดีที่การบาดเจ็บครั้งก่อน ไม่ได้ทำให้นางต้องสูญเสียลูกในท้องไป

เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ ฮัวหยู่อันกลับหัวเราะและหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด สีหน้ามีความเศร้าโศกและตำหนิตนเอง

“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า ไม่ควรให้พวกเขาต้องมาตกอยู่ในอันตรายกับข้า”

นางเคยทำให้พวกเขาไปมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องสนใจนาง แต่เป็นตายอย่างไรพวกเขาก็ไม่เต็มใจ ต้องการที่จะแบ่งปันความทุกข์ยากกับนาง

หากเด็กที่อยู่ในท้องของอาฝูเกิดเป็นอะไรไป อย่างนั้นนาง……ก็จะเป็นคนบาป

“ออกไปจากที่นี่เถอะ! ไปหลบอยู่ที่สำนักหงอี”

“ข้า……”

ฮัวหยู่อันรู้ดี ว่าเทพธิดาดีต่อพวกเขา แต่นางไม่อยากที่จะไป นางยังมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องทำ

ยังไม่ทันจะพูดจบ หลานเยาเยาก็ได้ขัดจังหวะคำพูดของนาง

“เจ้าไม่ไป พวกเขาก็ไม่ไป พวกเขามีความชอบธรรม เจ้าไม่สามารถที่จะไร้ความปรานีได้ อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะนึกถึงลูกของพวกเขา”

ฮัวหยู่อันหลับตาลง ใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจ ขณะที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาก็ไหลออกมาหยดหนึ่ง

“……ข้า ข้ารู้แล้ว”

“พรุ่งนี้เช้ามืดจะออกเดินทาง ประตูหลังของตำหนักเทพธิดาจะมีรถมาสีน้ำตาลหนึ่งคันจอดอยู่ คนขับรถม้าเป็นคนของข้า เขาจะไปส่งพวกเจ้าที่สำนักหงอี ที่นั่นเป็นที่ปลอดภัย”

“ขอบคุณมาก” ฮัวหยู่อันกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง

“ไม่เป็นไร”

มีอะไรจะต้องขอบคุณ

ไม่ว่าฮัวหยู่อันจะช่วยแก้แค้นให้กับคนในเผ่า หรือเพื่อแก้แค้นให้นาง ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า ฮัวหยู่อันเป็นสหายคุ้มค่าที่จะคบหา

นางต้องการที่จะให้นางมาอยู่ข้างกาย

แต่จะทำอย่างไรได้……

อยู่ข้างกายนางเป็นการไม่ปลอดภัย และอาจจะตายได้ทุกที่ทุกเวล

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท