หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 384 เย่หลีเฉินถูกวางยาพิษ

บทที่ 384 เย่หลีเฉินถูกวางยาพิษ

บทที่ 384 เย่หลีเฉินถูกวางยาพิษ

เมื่อมืออุ่นมือหนึ่งที่เปื้อนคราบเลือดมาวางอยู่บนไหล่ของนาง นางจึงรู้สึกไม่สงบเล็กน้อย

รีบหันกลับคว้ามือนั้นไว้……

ไม่สิ เป็นการหันกลับไปคว้ามือที่อยู่บนไหล่

เตรียมที่จะงัดไม้ตายออกมา แต่กลับพบว่าเจ้าของมือนั้นเป็นคนขับรถม้าของตนเอง นางจึงรีบรั้งมือเอาไว้

คนขับรถม้ามีสีหน้าซีดเซียว เลือดไหลออกจากรูทวารทั้งเจ็ด และค่อยๆ อ้าปาก

“เทพธิดา เร็วเข้า……”

ยังไม่ทันพูดจบ คนขับรถม้าก็ล้มลงกับพื้น และสิ้นใจไป

หลานเยาเยาคุกเข่าลง พยายามแตะแขนของเขา แต่ในขณะที่แตะแขน คนขับรถม้าก็เหมือนอนุภาคน้ำแข็งเล็กๆ แหลกสลายไปในทันที จากนั้นก็ได้หายไป

คราวนี้

หลานเยาเยาลุกขึ้นยืนในทันที

ถอยหลังก้าวไปไม่กี่ก้าวอย่างไม่น่าเชื่อ ศีรษะค่อยๆ โงนเงนเล็กน้อย

“เป็นไปได้อย่างไรกัน”

นางเคยเห็นลักษณะการตายที่กลายเป็นอนุภาคน้ำแข็งและหายลับไปเช่นนี้มาก่อน

ในป่าที่มีพวกยิงจวนกระจายอยู่ เย่แจ๋หยิ่งก็เคยโจมตีนักฆ่าของยิงจวนด้วยพลังทรงกลมใส

หลังจากนักฆ่าเหล่านั้นเสียชีวิตลง ก็เหมือนกับลักษณะหลังจากคนขับรถม้าเสียชีวิต เมื่อกลายเป็นอนุภาคน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้หายไป

นี่คงเป็นภาพลวงตาสินะ!

ไม่น่าเชื่อ!

ความแปรปรวนที่คล้อยตามอารมณ์ของนาง และหมอกควันที่ปกคลุมไปรอบด้านเริ่มทำให้นางกระวนกระวายขึ้นมา เงาสีขาวก็ได้หายลับไปกลายเป็นหมอกควันลวงตาอีกครั้ง……

เห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาได้หายใจเข้าลึกๆ ทันที และปรับอารมณ์ของตนเองย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่า หลังจากละทิ้งเรื่องที่ทำให้นางไม่สบายใจเหล่านั้น หมอกควันก็ได้สงบลง เงาสีขาวก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ในไม่ช้าหลานเยาเยาก็มาถึงด้านหน้าประตูหินของสุสานหลัก เหลือบไปเห็นคราบเลือดนั่นบนประตูหิน ก็ได้เดินตรงเข้าไป

ภายในห้องสุสานมืดสนิทมาก อากาศก็ขุ่นมัวมาก แม้ยื่นมือออกไปก็มองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า

หลานเยาเยาได้หยิบมุกเย่หมิงออกมา ทันทีที่มุกเย่หมิงเปล่งแสงขึ้นมา นางก็มองเห็นรอยมือเปื้อนเลือดจำนวนมากมายอยู่บนผนัง ทั้งด้านซ้ายและขวา

มองไปยังรอยมือเปื้อนเลือดที่มีขนาดแตกต่างกันเหล่านั้น ดวงตาของหลานเยาเยาก็หรี่ลงอย่างอดไม่ได้

เมื่อดูจากระดับความแห้งของคราบเลือด มีบางรอยที่เป็นรอยเก่ามานานแล้ว มีบางรอยที่เพิ่งจะทิ้งไว้

ในบรรดารอยมือที่เปื้อนเลือด นึกไม่ถึงว่าจะยังมีของเด็กด้วย

เดินไปได้ไม่ไกล หลานเยาเยาก็ได้เห็นซากกระดูกชิ้นหนึ่งอยู่บนพื้น มือและเท้ากระจายอยู่ด้านข้าง บนพื้นยังมีคราบเลือดที่แห้งมานานแล้ว

คาดว่าในตอนแรกคงจะมีคนที่ตกใจจนเตลิด ได้หนีเข้ามาด้านในสุสานหลักของสุสานหลวง เนื่องจากมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่บนพื้น จึงได้เหยียบย่ำลงไปโดยตรง ทำให้ซากกระดูกมือและเท้าต่างกระจายไปด้านข้าง

เมื่อเดินไปถึงในห้องสุสานที่มีลักษณะโค้ง ฉากที่สูงตระหง่านใหญ่โตก็ปรากฏเข้าสู่สายตาในทันที

ทั้งสุสานหลักราวกับถูกชุบด้วยทองคำ เหลืองอร่ามแวววาว

ตรงไหนคือที่ฝังศพ

ที่นี่เหมือนกับสถานที่ของราชวงศ์เก่า——พระตำหนักกระดิ่งทองอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่ตำแหน่งที่ตั้งของโลงศพ และลวดลายที่แกะสลักอยู่บนผนังหิน และเครื่องใช้ทั้งหมดก็ดูเหมือนถูกลอกเลียนนำมาวางไว้

ทำให้คนคาดไม่ถึงเรื่องเหลือเชื่อนี้

แต่!

หลานเยาเยาไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมกับสิ่งเหล่านี้

และเมื่อมองไปรอบๆ ในไม่ช้า นางก็พบกับศพจำนวนหลายศพ

ในจำนวนนั้นมีโครงกระดูกสามโครงอยู่ใกล้กับกำแพงด้านซ้ายสุด พิงอยู่ซึ่งกันและกัน มีโครงกระดูกของผู้ใหญ่สองโครง และยังมีโครงกระดูกเด็กหนึ่งโครง อายุประมาณห้าหกขวบ

ดูจากเครื่องแต่งกายของพวกเขา คงจะเป็นคนเฝ้าสุสานของสุสานหลวง

นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาตายมานานขนาดนี้แล้ว

เพียงแค่……

ในเมื่อคนเฝ้าสุสานล้วนตายมานานขนาดนี้แล้ว เพราะเหตุใดฮ่องเต้จึงไม่ให้คนมาเฝ้าสุสานอีก

คำถามเหล่านี้แค่แวบเข้ามาในหัวเท่านั้น หลานเยาเยาไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้ จึงเริ่มตามหาเย่หลีเฉินในสุสาน

ค้นหาไปรอบๆ แต่กลับไม่พบเงาร่างของเย่หลีเฉินเลย

แต่หลานเยาเยากลับพบว่า ระดับความแปลกประหลาดของภายในห้องสุสานนี้ มีมากกว่าหมอกวันภายนอก

ในห้องสุสานแห่งนี้ นอกจากโลงศพทองคำที่ตั้งอยู่บนบันไดเก้าชั้นตรงด้านในสุดซึ่งเปิดอยู่ ที่เหลือก็จะเป็นโลงศพสองแถวที่ถูกตอกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

โลงศพทองคำน่ะหรือ!

เหอะ ฮ่องเต้ช่างมีรสนิยมมาก และวางแผนที่จะนอนในโลงศพทองคำหลังจากผ่านไปร้อยปี

หากโจรปล้นสุสานมาพบสถานที่นี้เข้า คาดว่าสิ่งแรกที่ต้องประสบก็คงจะเป็นโลงศพทองคำสินะ!

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงเดินไปที่โลงศพทองคำทีละก้าว เดิมทีนางจะไปตรงขั้นบันได

แต่กลับพบว่าขั้นบันไดทั้งสองข้างสะอาดอย่างผิดปกติ และบริเวณทางลาดที่เชื่อมบันไดทั้งสองด้านมีลวดลายเมฆอยู่ด้านบน บนลวดลายนั้นมีคราบเลือดอยู่ อีกทั้งเพิ่งแห้งได้ไม่นาน

ดูเหมือนว่า เย่หลีเฉินจะไม่ได้ซ่อนอยู่หลังโลงศพทองคำ หรืออาจจะซ่อนอยู่ในโลงศพทองคำ

ดังนั้น นางจึงไม่ได้ก้าวขึ้นไปบนบันได แต่เดินขึ้นจากทางลาดระหว่างบันไดทั้งสองด้าน

เดินตามคราบเลือดบนพื้นไป หลานเยาเยาก็ได้มาถึงด้านข้างโลงศพทองคำ เมื่อมองไปยังด้านใน ก็ได้เห็นเย่หลีเฉินที่มีใบหน้าซีดเซียวราวกับกระดาษ มุมปากของริมฝีปากที่กลายเป็นสีดำมีคราบเลือดอยู่

อีกทั้งดวงตาข้างหนึ่งก็มีเลือดไหลออกมา

เขาถูกวางยาพิษเข้าแล้ว!

หลานเยาเยาเม้มริมฝีปากแน่น และเอื้อมไปจับชีพจรของเขาทันที หลังจากรู้ว่ายังมีชีพจรอยู่

นางจึงได้หยิบเข็มเงินออกมาทันที และเจาะลงไปยังจุดเลือดลมของเย่หลีเฉิน

ผ่านไปไม่นาน เย่หลีเฉิน ก็ฟื้นขึ้นจากภวังค์ เมื่อเห็นว่าภาพที่ปรากฏขึ้นในดวงตาคือเทพธิดา

เขาค่อยๆ อ้าปาก

“เทพธิดาหรือ”

ไม่ได้ยินการตอบกลับ เย่หลีเฉินก็ยกมือขึ้นโบกไปมา หลังจากสัมผัสกับเส้นผมที่ร่วงลงมา

เย่หลีเฉินได้ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ด้วยความโล่งอก

“เข้าไม่ใช่ภาพลวงตาหรอกหรือ” เมื่อนึกถึงภาพลวงตาเหล่านั้นก่อนหน้านี้ เขายังคงมีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ในใจ “รีบหนีไป ที่นี่อันตราย”

“ยังมีแรงพูดก็ดี”

หลานเยาเยามองไปที่เย่หลีเฉิน พบว่าตอนนี้เสื้อผ้าขององค์ชายรัชทายาทได้ขาดรุ่งริ่ง บนร่างกายยังมีบาดแผลมากมาย ซึ่งมีความลึกที่แตกต่างกัน

โลงศพทองคำเต็มไปด้วยคราบเลือด

ดูเหมือนว่าเย่หลีเฉินไม่เพียงแต่ถูกวางยาพิษ แต่ยังติดอยู่ในภาพลวงตาของหมอกควันด้านนอก

ดังนั้น!

นางจึงหยิบยาเม็ดสีขาวเม็ดหนึ่ง ใส่เข้าไปในปากเขา

“อ้าปาก กินยาถอนพิษเข้าไป”

“ได้!”

เย่หลีเฉินอ้าปากอย่างว่าง่าย ขณะที่เขากำลังกินยาเม็ดเข้าไป สีหน้าเคร่งเครียดในทันที

ยื่นมือตรงออกไปคว้าข้อมือของหลานเยาเยา จากนั้นก็ออกแรงดึง และดึงหลานเยาเยาเข้าไปในโลงศพทองคำ

หลานเยาเยารู้สึกได้ถึงเจตนาของการฆ่า ขณะที่กำลังหันกลับ ก็ถูกเย่หลีเฉินดึงเข้าไปในโลงศพแล้ว ในขณะที่กำลังวิงเวียน ก็ได้ถูกเขากดเอาไว้ใต้ร่าง

“ฉึก!”

เสียงของคมมีดที่แทงเข้าไปยังเลือดเนื้อได้ดังขึ้น

หลานเยาเยาก็ได้เห็นท้องของเย่หลีเฉินที่ถูกคนแทงทะลุด้วยดาบยาว……

เลือดที่ปลายดาบไหลตามคมดาบหยดลงบนร่างกายของนางทีละหยด เมื่อเลือดที่อุ่นได้สัมผัสกับผิวหนัง กลับทำให้นางรู้สึกถึงความร้อนที่ผิดปกติ

“เย่หลีเฉิน เจ้า……อยากตายหรืออย่างไร”

พูดจบ!

เมื่อเห็นว่าคมมีดได้ถูกดึงออกไปแล้ว ผู้ที่ลอบสังหาร คงจะนึกไม่ถึงเช่นกันว่าคนที่ถูกแทงคือองค์ชายรัชทายาท จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หรือว่าจะตัดสินใจแทงไปอีกดาบ

ในตอนนี้ หลานเยาเยาได้พลิกตัวออกมาจากใต้ร่างของเย่หลีเฉินแล้ว

และได้โบกมือปล่อยเส้นไหมสีเงินออกไป พันรอบดาบยาวของผู้ที่ลอบสังหาร หลังจากนั้น ดาบของคนนั้นก็ตกมาอยู่ในมือของนาง

นางตัดสินใจที่จะจัดการกับผู้ลอบสังหารให้เสร็จสิ้น

คนผู้นั้นก็ตื่นตกใจ และรีบตะโกนเสียงดัง “ช้าก่อน!”

ยังไม่ทันรอให้หลานเยาเยาหยุดความเคลื่อนไหวในมือ เขาก็ได้ดึงผ้าสีดำที่ปกปิดใบหน้าออกก่อนแล้ว ใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

หลานเยาเยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท