หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 393 หาตัวมือสังหารออกมา

บทที่ 393 หาตัวมือสังหารออกมา

บทที่ 393 หาตัวมือสังหารออกมา

ในขณะที่หลานเยาเยากำลังจมอยู่ตัวตนของเย่แจ๋หยิ่ง เย่แจ๋หยิ่งก็ได้จากไปโดยที่นางไม่ทันได้รู้ตัว

ทว่า

หลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งพดเกี่ยวกับตัวตนของตัวเองเสร็จยังพูดออกมาอีกประโยค เหมือนจะพูดว่า:“หลานเยาเยา ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่ควรค่าแก่การอาลัยอาวรณ์อยู่”

ใช่ เหมือนจะพูดเช่นนี้

แต่ถึงอย่างนั้นนางที่ได้รับรู้ถึงตัวตนที่น่าตะลึงของเขา นางก็นิ่งงันถึงตัวตนของเขาจึงไม่ทันได้ตอบกลับเขาใดๆ

ไม่ใช่ว่าเย่แจ๋หยิ่งจากไปพร้อมความโกรธหรอกนะ?

ว่าแต่……

สิ่งของที่ควรค่าแก่การอาลัยอาวรณ์ เย่แจ๋หยิ่งหมายถึงตัวเขานั้นหรือ?

……

ตำหนักเทพธิดา

หลานเยาเยาลงจากรถม้า คนขับรถม้าคนนั้นก็บินหนีไป องครักษ์ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเมื่อเห็นคนบังคับม้าอยู่ๆก็บินหนีไป และได้เห็นอีกว่าบริเวณหน้าผากและมือของเทพธิดาเต็มไปด้วยบาดแผล จึงได้หันไปสบตากับอีกฝ่ายแล้วกล่าวถาม

“เทพธิดา ท่านเป็นอะไรหรือไม่?คนผู้นั้นคือใครกัน?”

“เหมือนเขาจะไม่ใช่คนขับรถม้า จะให้พวกเราตามไปหรือไม่?”

หลานเยาเยา สะบัดพร้อมกับพูดกับเรียบนิ่ง :“ไม่ต้องแล้ว”

ทันทีที่เดินเข้ายังลานด้านหน้า ก็มีร่างของชายหนุ่มสวมชุดสีม่วงเข็มแวบเข้ามาในสายตา เขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์แห่งความรู้สึกเจ้าเล่ห์และอันตราย แล้วข้างกายของเขายังมีชายหนุ่มที่เกือบจะเปลือยอกและชายวัยกลางคนที่ไว้เคราซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีอายุยืนอยู่ด้วย

พวกเขาทั้งสามยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันอยู่

หลานเยาเยาเดินก้าวไปด้านหน้า ด้วยสีหน้าที่คิ้วขมวดอย่างอดไม่ได้

พวกเขา!

หานแส ป่ายเม่ยเซิงแล้วก็ซาหมั่นเฉิง

ตั้งแต่หลังจากที่ไม่ได้ซาหมั่นเฉิงเข้าครัวทำอาหาร นางก็ไม่ได้เห็นเงาของเขาอีกเลย หรือแม้จะสั่งให้เขาออกไปทำธุระแทนนางก็ไม่เคยได้รับข้อมูลใดๆมาเลย

ส่วนป่ายเหม่ยเซิงนั้นยิ่งหนักกว่า คือบอกว่ามาเพื่อช่วยเหลือนาง แต่กลับทำตัวลึกลับ นานๆทีกว่าจะได้เห็นหน้าครั้งหนึ่ง

และส่วนหานแสนั้น ตั้งแต่หลังที่ฝ่ายของยิงจวนได้พบกับเขาเข้า เขาก็ไม่เคยมาให้นางได้พบหน้าอีกเลย

วันนี้เมื่อได้พบหน้ากันอีกครั้ง นอกจากแววตาที่ดูลึกล้ำขึ้นเล็กน้อย อย่างอื่นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากปกติ

หลังจากที่ทั้งสามหันมาเจอนาง ต่างก็พากันจ้องมองมายังตัวนาง

หานแสยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ ส่วนซาหมั่นเฉิงและป่ายเหม่ยเซิงนั้นทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็กุมมือคารวะต่อหานแสพร้อมกันก่อนที่จะบินออกไป

หืม?

หานแสเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวังคนนี้ ให้พวกเขาทำเรื่องไม่ดีอะไรอีกแล้ว?

หลานเยาเยาเดินตรงไปยังพวกเขา ด้วยสีหน้าปกติ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ไม่ได้เจอกันนาน ไม่ทราบว่าลมอะไรพัดเจ้าของเรือมาที่นี่?”

“ไม่ได้เจอกันนาน?เยาเยา นี่เจ้ารอคอยการมาของข้าอยู่ตลอดเลยงั้นหรือ?”หานแสยกมุมปากขึ้น มองมายังนางด้วยความหมอง

ไม่รู้ว่าเหตุใด น้ำเสียงของหานแสนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากปกติ แต่นางกลับรู้สึกว่ามันแปลกๆ

เพียงแต่ว่ามันแปลกตรงส่วนไหนนางก็อธิบายออกมาไม่ได้เท่านั้น

“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก แต่เพราะได้ตรวจพบเบาะแสสำคัญ ต้องแจ้งให้กับเจ้า”

“พูดสิ?”หานแสยักคิ้ว

“ช่วงนี้เพิ่งได้พบกับเบาะแสว่าราชครูเทียนเวิงนั้นไม่ได้เพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่เพียงแค่ในหมู่บ้านชนเผ่าหยินไห่เท่านั้น ยังมีอีกที่ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณวังหลวงแห่งนี้”

นี่เป็นสิ่งที่เย่แจ๋หยิ่งบอกกับนาง

แต่ว่าหานแสกับเย่แจ๋หยิ่งนั้นเป็นคู่แข่งกัน ถ้าหากให้เขารู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นคนบอกให้นาง คาดว่าเขาก็คงจะต้องพูดกระแนะกระแหนนางเป็นแน่

หานแสได้ยินอย่างนั้น ก็ทำสีหน้าปกติ พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ

“อยู่แห่งใด?”

“สวนว่างฮัวอันมีชื่อเสียงที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวง ที่นั่นมีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี ทั้งยังมีกลิ่นหอมตลบอบอวล แต่กลับมีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเก็บซ่อนเอาไว้ ไม่เพียงแต่ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าไปแล้ว ยังมีการคุ้มกันเอาไว้อย่างแน่นหนาอีกด้วย ข้าคิดว่าดอกกระดูกขาวที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่จะถูกปลูกเอาไว้ในนั้น”

เพียงแต่ไม่รู้ว่า ใต้ดอกกระดูกขาวเหล่านั้นมีศพฝังอยู่มากเพียงใด······

ด้วยความเกลียดชังของหานแสที่มีต่อราชครูเทียนเวิง ในเวลานี้เมื่อรู้ว่าราชครูเทียนเวิงยังมีที่เพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่อยู่อีกแห่ง ไม่ช้าเขาจะต้องมีการลงมือแน่นอน

เป็นไปอย่างที่คาดไว้!หานแสประหลาดใจอย่างมากกับเรื่องนี้ มือกำหมัดขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะที่กำลังจะจากไป เขากลับเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก่อนหยุด แล้วใช้สายตาจ้องมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์

“นี่เจ้าส่งคนไปตรวจหาหรือว่า……”

“เจ้ายังไม่เชื่อใจในความสามารถของข้างั้นหรือ?”

หลานเยาเยารู้ว่าเขากำลังจะพูดสิ่งใด ดังนั้นจึงรีบพูดตัดบทเสียก่อน

“เยาเยาแน่นอนว่าเจ้าเป็นคนที่มีความสามารถ แต่ก็คงไม่มีความสามารถถึงขนาดเพียงเวลาไม่ถึงสิบวันก็สามารถตรวจพบที่เพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่อีกที่หนึ่งของราชครูเทียนเวิงได้ ได้ข่าวว่าช่วงนี้เจ้ามีความใกล้ชิดกับอ๋องเย่อย่างมาก คงมิใช่ว่ากำลังรื้อฟื้นความรู้สึกเก่าๆหรอกนะ?

เยาเยา เจ้าอย่าได้ลืมเป็นอันขาดว่าเขาเคยใช้ดาบแทงเจ้าอย่างไร?และผลักเจ้าลงจากหน้าผาให้ตกไปสู่ทุ่งดอกกระดูกขาวอย่างไร?อ๋องเย่คนนี้มีความเจ้าเล่ห์เพทุบาย มีการวางแผนอยู่ตลอดเวลา เจ้าอย่าได้ยอมกลับไปเป็นหมากของเขาอีกเลย มิเช่นนั้นเมื่อถึงเวลานั้นข้ากลัวว่าเจ้าจะรับไม่ได้ที่ถูกทอดทิ้งเป็นครั้งที่สอง”

หลังจากที่ตระหนักถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา หานแสก็เกิดความทุกข์ใจขึ้นมาในหัวใจ

เขาจ้องมองดวงตาของนางอย่างจดจ่อ ราวกับว่ากำลังเค้นหาความในใจของนางออกมา แต่แล้วมันกลับไม่มีอะไรเลย

เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลานเยาเยาที่เก็บความรู้สึกไว้ลึกเกินไปหรือว่าทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็จะต้องขัดขวาง

หลานเยาเยาเป็นถึงหมากตัวหนึ่งของเขา เป็นทั้งสหายของเขา และยิ่งไปกว่านั้นอย่างสตรีที่เขายอมเข้าใกล้ด้วย

นางแตกต่าง

แตกต่างจากคนอื่นๆ!

ดังนั้น เขาจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันเป็นแน่

“วางใจได้ ข้ามีขอบเขตของตัวเอง”ดวงตาของหลานเยาเยาจ้องมองไปยังหานแสอย่างไม่ละเช่นกันก่อนจะขยับริมฝีปากพูด

“ช่วงนี้ในตำหนักเทพธิดาเกิดปัญหาอยู่ไม่เว้น ไม่ทราบว่าเจ้าของเรือมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

ซาหมั่นเฉิงกับป่ายเหม่ยเซิงทั้งสองพักอาศัยอยู่ในตำหนักเทพธิดาของนาง พวกเขาไม่เพียงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะคอยจับตามองนางเสียมากกว่า ซึ่งดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของหานแสตอนนี้แล้ว คาดว่าพวกเขาทั้งคงจะต้องถูกหานแสนำตัวกลับไปด้วยแน่นอน

“อ๋อ?ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย ดูแล้วเยาเยาเจ้าจะต้องเพิ่มการป้องกันให้ตำหนักเทพธิดาเสียแล้ว”

“แน่นอน!”

หลังจากที่หานแสจากไป

สาวใช้ก็รีบเข้ามารายงาน ว่าคุณชายทั้งสองที่พักอยู่ห้องรับรองแขกได้จากไปแล้ว ทั้งยังได้กล่าวไว้อีกด้วยว่าจะไม่กลับมาพักที่นี่อีก

พวกนางล้วนเข้าใจว่าไปสร้างเรื่องไม่น่าพึงพอใจแก่คุณชายทั้งสอง จึงทำให้พวกนางรู้สึกกระวนกระวายใจ

หลานเยาเยารู้ว่าที่สาวใช้พูดถึงนั้นคือป่ายเหม่ยเซิงกับซาหมั่นเฉิง

นางจึงสะบัดมืออย่างไม่ได้สนใจ

“ไปก็ไปเถอะ!”

อย่างไรเสียพวกเขาก็มาอยู่ในตำหนักเทพธิดาได้หลายวัน วันนี้ไปแล้ว เพียงแค่เก็บกวาดให้เรียบร้อยคงเดิมก็เพียงพอแล้ว

“เทพธิดา เป็นเพราะพวกข้าปรนนิบัติได้ไม่ดีหรือไม่?”สาวใช้ถามอย่างระมัดระวัง

เหล่าสาวใช้ในตำหนักล้วนเป็นสตรีที่ถูกซื้อออกมาจากตลาดดำ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะออกมาจากตลาดดำทะเลแห่งความขมขื่นนั้นได้ และได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายในตำหนักเทพธิดา มาวันนี้ทั้งสองที่นับว่าเป็นแขกและคุณชายทั้งสองยังนับว่าเป็นคนของตำหนักเทพธิดาอยู่ๆก็จากไปอย่างกะทันหัน พวกนางที่เป็นสาวใช้ต่างก็เกิดความกังวลใจ ว่าเป็นเพราะพวกนางปรนนิบัติดูแลได้ไม่ดีหรือได้ละเลยพวกเขา หากเทพธิดาเกิดโกรธเคืองพวกนางขึ้นมา

……

นางแค่คิดก็รู้สึกกลัวเสียแล้ว

“ไม่ใช่หรอก พวกเขาเพียงแค่มีธุระอื่นที่ต้องไปจัดการ เลยไม่จำเป็นต้องพักอยู่ที่นี่แล้วก็เท่านั้น”

เมื่อมองดูสาวใช้คนนั้น หลานเยาเยาก็นึกถึงช่าจื่อขึ้นมา

ทันทีที่คิดถึงการตายของนาง คิ้วของหลานเยาเยาก็ขมวดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

แท้จริงผู้ใดคือคนที่ฆ่าช่าจื่อกันแน่?

ฮ่องเต้?

ราชครูเทียนเวิง?

หรือผู้ที่ภักดีต่อองค์ชายสี่?

แต่อีกประการหนึ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คือเย่แจ๋หยิ่ง เขาไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องทำเช่นนั้น เพื่อที่จะทำร้ายตัวเอง

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาก็คงจะเป็นแยกนางออกจากเย่แจ๋หยิ่ง แล้วให้พวกเขาหันมาฆ่ากันเอง

ถึงอย่างนั้น!

คืนนี้นางจะต้องล่อคนออกมา เพื่อเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าฆาตกร

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท