หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 394 เย็นหงคนนี้คล้ายกับบุรุษ

บทที่ 394 เย็นหงคนนี้คล้ายกับบุรุษ

บทที่ 394 เย็นหงคนนี้คล้ายกับบุรุษ

พอตกต่ำความมืดก็เริ่มคืบคลานเข้ามา ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะมีฝนตกลงมา จึงทำให้ถนนหนทางไม่ได้คึกคัก ผู้คนที่เดินตามท้องถนนก็น้อยขึ้นเรื่อยๆ

ภายในตำหนักเทพธิดา

หลานเยาเยาได้ให้สาวใช้ที่สวมชุดสีเขียวอมฟ้าอย่างเย็นหงเข้ามาหาที่ห้อง จากนั้นเย็นหงก็ออกจากตำหนักไปอย่างเร่งรีบ

ราวกับว่ามีเรื่องสำคัญจะต้องไปจัดการเสียอย่างนั้น

เพราะว่าเป็นสาวใช้ หากต้องการออกไปทำธุระในยามเย็น การเดินทางนั้นจะเป็นแค่รถม้าธรรมดาเท่านั้น

แม้แต่คนบังคับม้าก็เป็นเพียงแค่องครักษ์ธรรมดาๆนายหนึ่งของตำหนักเท่านั้น

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ บนท้องฟ้าอันว่างเปล่าก็มีฝนตกโปรยปรายลงมา หลังจากที่เย็นหงไปซื้อของมากมายจากร้านค้าได้หลายแห่ง ก็เร่งรีบกลับขึ้นมายังรถม้า

หลังจากที่รถม้าค่อยๆเคลื่อนออกไปจากถนนอันคึกคัก ก็เคลื่อนเข้าไปยังเส้นทางที่ไร้ผู้คนผ่านไปมา

ทันใดนั้น!

“ตุ้ม······”

หลังจากที่ม้าร้องเสียงดังขึ้นมา รถม้าก็ส่งเสียงดัง “โครม”ขึ้นมา ไม่รู้ว่าไปเหยียบเข้ากับสิ่งใด จนรถม้าเกิดการกระแทกหลายครั้งจนรถม้าเกือบล้มลงไป

เย็นหงที่นั่งถือของสิ่งของมากมายอยู่ภายในรถ เมื่อถูกการกระแทกอย่างกะทันหันเช่นนี้ก็ชนเข้ากับผนังรถม้าอย่างรุนแรง สิ่งของที่ถืออยู่ในมือก็ตกลงไปยังพื้น เย็นหงดึงผ้าม่านออกเบาๆ ก่อนจะดึงตัวคนขับรถม้าที่ได้นอนล้มไปบนพื้นแล้ว โดยบนคอของเขามีบาดแผลอันใหญ่อยู่ซึ่งเลือดก็หลั่งไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

คนขับรถม้าที่นอนกองอยู่กับพื้นโดยไม่มีการขยับใดๆ ไม่รู้ว่าตายหรือยัง

บนพื้นมีก้อนหินเล็กๆใหญ่ๆขนาดไม่เท่ากัน แต่มันมีความแหลมคมอย่างมาก เรี่ยราดอยู่เต็มถนนไปหมด ด้านหน้าของหินแหลมคมพวกนั้นก็ยังมีลูกธนูอันแหลมคมเรียงรายอยู่เช่นกัน

เมื่อสักครู่นี้รถม้าเหยียบโดนก้อนหินเหล่านี้จนเกือบล้มลงไปข้างทาง ถ้าหากคนที่อยู่ด้านในรถม้าเกิดล้มออกมาด้านนอกก็คงจะถูกลูกธนูพวกนี้แทงเข้าไปเป็นแน่ ซึ่งหากไม่ตายก็คงจะต้องเจ็บหนัก

ทันใดนั้นเอง !

“ฟิ้วๆๆ······”

อาวุธลับนับสิบพุ่งมาด้วยความเร็วราวสายฟ้าผ่า ทะยานผ่านอากาศ เข้าไปยังรถม้าทั้งหมด

แล้วตามมาด้วยเหล่าคนชุดดำที่พุ่งออกมาจากที่ลับอีกห้าหกคน เพียงครู่เดียวทั้งหมดก็มาถึงยังรถม้า แล้วล้อมรอบรถม้าเอาไว้

เย็นหงสาวใช้ที่สวมชุดสีเขียวอมฟ้า ผมอันสระสวยถูกมัดเก็บเอาไว้ ค่อยๆยื่นหน้าออกมาจากด้านในรถม้า

คนชุดดำเหล่านั้นต่างก็พากันทำหน้าตกใจ

เบาะแสไม่ได้กล่าวว่าเย็นหงสาวใช้ข้างกายของเป็นเทพธิดาเป็นสาวใช้ที่ไม่มีวรยุทธ์หรอกหรือ?

เหตุใดอาวุธลับมากมายแทงเข้าไปด้านในรถม้าแต่นางกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดเลย?

นี่การรายงานมีความผิดพลาดงั้นหรือ?

สิ่งที่ยิ่งแปลกไปกว่านั้นก็คือ……

ในรายงานกล่าวไว้ว่าเย็นหงเป็นสตรีรูปร่างเล็กบอบบาง หน้าตาจัดอยู่ในระดับปานกลาง เหตุใดตอนนี้เย็นหงที่ปรากฏตรงหน้าถึงได้งดงามดูดียิ่งนัก เพียงแต่มันกลับเป็นความงดงามของบุรุษ

เย็นหงสาวใช้นางนี้ช่างมีความคล้ายคลึงกับบุรุษเกินไปแล้ว

แท้จริงแล้ว!

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือคนที่นั่งอยู่ในรถม้านั่นแท้จริงแล้วไม่ใช่เย็นหง แต่เป็นจื่อซีบุรุษที่แต่งกายเป็นสตรีเพื่อปลอมตัวเป็นเย็นหง

พลบค่ำของวันนี้ เย็นหงที่เข้าไปในห้องนอนของหลานเยาเยาแล้วได้เห็นกับจื่อซีบุรุษที่แต่งกายเป็นสตรีก็ถึงกับตะลึงงัน แต่หลังจากที่ได้รับรู้ถึงแผนการของหลานเยาเยาก็ได้ตกลงให้ความร่วมมือทันที

ดังนั้น คนที่เย็นนี้ออกมาซื้อของจึงเป็นจื่อซี

เหล่าคนชุดดำที่ไม่ทราบถึงเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เพียงว่าหากคนยังไม่ตาย พวกเขาก็เพียงแค่ต้องฆ่าให้ตาย จากนั้นก็ค่อยวางหลักฐานที่ได้เตรียมมาก่อนหน้าไว้ในที่เกิดเหตุก็เพียงพอแล้ว

แต่เพียงแค่คนที่พวกเขาเข้าใจว่าเป็น‘เย็นหง’แสดงฝีมือเท่านั้น พวกเขาต่างก็ถึงกับตกตะลึง

ไหนกันที่บอกว่าไม่มีวิชาการต่อสู้?

เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเขามีวรยุทธ์ขั้นสูง ซึ่งต่อให้จะมีพวกเขาหลายคนร่วมมือกันก็ยังไม่นับว่าเป็นคู่ต่อสู้ของเขา

จื่อซีกระโจนออกมาจากรถม้า ยังไม่ทันได้ถึงพื้นเขาก็ชักดาบออกมาแล้วฟาดดาบลงไป ทันทีที่เขากระโดดถึงพื้น ชายชุดดำสองคนที่อยู่ด้านหน้าก็ล้มลงไปบนพื้นเสียแล้ว

“ติดกับแล้ว หนี”

หลังจากที่รู้ถึงความผิดปกติ เหล่าคนชุดดำก็เตรียมตัวจะหนี จื่อซีไม่ได้ตามพวกเขาไป แต่กลับยืนอยู่กับที่ พร้อมกับเอามือทั้งสองกอดอกเอาไว้ มองดูท่าทางที่ดิ้นรนของพวกเขาอย่างเงียบๆ

ช่างโง่เสียจริงๆ!

คิดว่าถึงเวลานี้แล้ว จะยังหนีรอดได้อีกหรือ?

คนชุดดำที่เหลืออยู่อีกไม่กี่คน กำลังจะวิ่งหนีไป แต่ยังไม่ทันได้หนีเข้าสู่ที่ลับก็ต้องถูกบังคับให้หยุดก้าวเท้าอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะก้าวถอยหลังด้วยความเกรงกลัว

จื่อเฟิงที่สวมชุดสุดเท่เดินออกมาจากที่มืด ด้วยสีหน้าที่ไม่มีการแสดงอาการใดๆ

ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาจนคุ้นชินแล้ว จื่อซีจึงรีบโบกมือทักทายเขา

“เห้ย เฟิง คุณหนูบอกว่าให้เหลือไว้คนหนึ่ง”

หรือจะกล่าวอีกนัยว่า คนที่เหลือจื่อเฟิงอยากจะจัดการเช่นไรก็จัดการได้

จื่อเฟิงมองไปยังเขาอย่างเรียบเฉย แววตาแฝงด้วยความดูถูก ราวกับกำลังพูดว่า ‘ก็ได้รับคำสั่งจากคุณหนูพร้อมกัน เรื่องเช่นนี้ยังต้องให้เจ้ามาเตือนสติอีกหรือ?’

“······”

เอ่อ?

อะไรกัน นี่มันคือ?

จื่อเฟิงในค่ำคืนนี้ มองเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดเสียจริง ราวกับว่ารังเกียจเขาเสียอย่างนั้น

สายตาของจื่อเฟิงไม่ได้จ้องมองไปยังจื่อเฟิงนานนัก แล้วทันที่เขาใช้สายตามองไปยังเหล่าคนชุดดำ แววตาของเขาก็เย็นชาขึ้นมาไม่น้อย ไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำ เขาก็กวาดแกว่งกระบี่ที่อยู่ในมือ แสงกระพริบอันเยือกเย็นแวบขึ้นมา จากนั้นตรงคอของคนชุดดำสามคนก็มีเลือดไหลออกมา ทั้งบาดแผลยังอยู่ในบริเวณเดียวกันหมดเลย

หลังจากที่คนชุดดำทั้งสามล้มลงไปกองกับพื้น คนชุดดำที่เหลือเป็นคนสุดท้าย ก็ได้แต่เบิกตากว้าง

เมื่อรู้ว่าตนไม่มีทางรอด จึงกำดาบยาวที่อยู่ในมือแน่น หวังจะปลิดชีพตัวเองด้วยดาบเดียว

แต่ไม่ได้เป็นไปดังที่คาดไว้ เพราะทันทีที่เขายกดาบขึ้น ข้อมือของเขาก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดแทรกเข้ามา จนมือที่กำดาบแน่นเอาไว้หมดแรงแล้วดาบยาวที่อยู่ในมือก็ตกลงไปยังพื้นดัง“แคร้ง”

เขายังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ ดาบที่เปล่งประกายแสงอันเย็นเยือกก็วางจี้อยู่บนคอของเขาแล้ว……

ภายในตำหนักเทพธิดา

เย็นหงยังคงอยู่ในห้องนอนของหลานเยาเยา ซึ่งหลานเยาเยาในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวราวกับว่ากำลังหลับใหล แต่แท้จริงแล้วกำลังหลับตาสงบสติอารมณ์ เพื่อรอฟังผลสรุป

ส่วนเย็นหงที่อยู่ภายในห้องก็เดินวนไปมา แววตามีความกังวลซ่อนอยู่

จนเวลาผ่านไปกว่าสองชั่วยาม จื่อซีและจื่อเฟิงก็เดินตามกันเข้ามา คนที่เดินนำหน้ามีสีหน้าที่ยิ้มแย้มดังปกติ ส่วนคนที่เดินอยู่ด้านหลังก้ยังคงสีหน้าที่บึ้งตึงเรียบนิ่ง

“คุณหนู!”ทั้งสองพนมมือขึ้นพร้อมกัน

“เป็นอย่างไรบ้าง?”

หลานเยาเยาที่นอนอยู่บนเก้าอี้ยาว ค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูท่าทางของทั้งสอง ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องได้สำเร็จลุล่วงแล้ว

“รายงานคุณหนู ได้ส่งเขาไปยังคุกมืดแล้ว”

“อืม!”

หลานเยาเยาพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันไปมองเย็นหงด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน

“ฟ้าก็มืดแล้ว เย็นหง เจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะ!”

“เจ้าค่ะ เทพธิดา!”

สถานที่อย่างคุกลับนั้น คนส่วนมากไม่อาจที่จะเข้าไปได้ ถึงแม้ว่านางที่จะเป็นสาวใช้ข้างกายเทพธิดา แต่ก็เคยได้รับคำสั่งให้เข้าไปเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น นอกจากนั้นเวลาอื่นนางก็ไม่อาจจะเข้าใกล้ได้

วันนี้สามารถจับตัวผู้ที่ฆ่าช่าจื่อได้ นางเชื่อว่าเทพธิดาจะต้องมีวิธีที่จะใช้มือสังหารคนนั้นตามล่าฆาตกร จากนั้นแก้แค้นให้กับช่าจื่อ

หลังจากที่เย็นหงขอตัวกลับ

หลานเยาเยาพาจื่อซีกับจื่อเฟิงไปยังคุกมืด แต่ทันทีที่เดินออกมาจากประตูห้อง หลานเยาเยาก็หยุดชะงักในทันที ก่อนจะหันขวับไปอย่างรวดเร็ว

วึ่งบริเวณที่นางหันไปมองนั้นเป็นที่ที่มีต้นไม้โบราณตั้งอยู่หลายต้น

ต้นไม้โบราณเหล่านั้น มีใบไม้ที่เป็นพุ่มหนา เขียวชอุ่มและผลิไปตลอดทั้งปี ทั้งยังมีรูปลักษณ์ดั่งในบทกวี ดังนั้นในตอนที่ให้คนมาจัดแต่งสวน จึงได้ให้พวกเขาตัดแต่งต้นไม้โบราณเหล่านี้ด้วย

แต่ทว่า……

เมื่อสักครู่นี้คือภาพลวงตาหรือ?

เหตุใดนางถึงได้เห็นเงาคนแวบผ่านไป?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท