หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 396 มือสังหารมีสองกลุ่ม

บทที่ 396 มือสังหารมีสองกลุ่ม

บทที่ 396 มือสังหารมีสองกลุ่ม

เขาก็เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว เขามีความรู้สึกราวกับว่างูตัวนั้นได้หาเจอทางเข้าแล้ว และกำลังจะเข้าไปในร่างกายของเขา เขาจึงรีบตะโกนออกมาอย่างสุดชีวิต

“ข้าพูด ข้าจะพูดหมดเลย ขอร้องท่านได้โปรดปล่อยข้าเถอะ รีบปล่อยข้า ข้าจะพูดทุกอย่าง ……”

“เร็วเข้า ข้าขอร้องท่าน ข้าจะพูดทุกอย่างจริงๆ ข้าไม่อยากตายเช่นนี้ ได้โปรด ……”

มองดูมือสังหารตะโกนออกมาอย่างสุดชีวิต จื่อซีที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลานเยาเยา ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังคุณหนูของตัวเองด้วยความสงสัย

เขาพูดด้วยความสงสัย:“คุณหนู ยานั่นเป็นยาผงที่สามารถดึงดูดแมลงได้จริงหรือ?”

ทั้งที่แท้จริงแล้วบนร่างกายของมือสังหารไม่ได้มีสิ่งใดเลย แต่เอากลับดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด ราวกับว่าเขาได้พบเห็นกับเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก ……

ได้ยินเช่นนั้น!

มุมปากของหลานเยาเยาก็กระตุกขึ้น

หันหน้าไปมองจื่อซีเล็กน้อย แล้วพูดออกมาอย่างสงบนิ่ง:“เจ้าคิดว่าอย่างไรหล่ะ?”

“ถ้าให้ข้าน้อยพูด นี่คงจะเป็นยาหลอนประสาท”

เขาอยู่ข้างกายหลานเยาเยามาได้หลายปี ทักษะวิชาการรักษาการก้าวหน้าไปไม่น้อย สำหรับยาหลอนประสาทเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะมองไม่ออก

“เจ้าอยากจะลองหรือไม่?ข้าจะได้เห็นว่า ความกลัวที่อยู่ในจิตใจของเจ้าคือสิ่งใด?”หลานเยาเยาเลิกคิ้ว มองไปยังจื่อซีอย่างจริงจัง

จื่อซีที่ได้ยินเช่นนั้น

ก็รีบสะบัดมือ“ไม่เอาไม่เอา”

ถึงแม้เขาจะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดคืออะไร แต่เขาที่ได้อยู่ข้างกายเทพธิดานั้นได้ใช้ชีวิตตามอำเภอใจอย่างสง่า นอกจากการใช้ชีวิตที่น่าตื่นเต้นเล็กน้อย ในเวลาอื่นๆนั้นค่อนข้างที่จะอิสระและเรียบง่าย

ถ้าหากรับยาหลอนประสาทมาแล้ว เขาเกิดทำตัวอัปลักษณ์ออกมา แล้วจากนี้จะพบปะผู้คนได้อย่างไร?

“กลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?”

เดิมทีนางไม่ได้คิดจะใช้ยาหลอนประสาทกับจื่อซีอยู่แล้ว เพียงต้องการกลั่นแกล้งเขาเท่านั้น หลังจากได้เห็นการตอบสนองของเขาแล้ว หลานเยาเยาก็ไม่ต้องการที่จะล้อเล่นเขาอีก

ท้ายที่สุด ก็กลับมายังเรื่องสำคัญ

นางหยิบขวดยาสีม่วงอ่อนออกมายื่นให้กับจื่อซี “นี่เป็นยาถอนพิษยาหลอนประสาทนั่น เอาไปถอนฤทธิ์ยาให้เขาเถอะ ไม่เช่นนั้นเขาจะทนไม่ไหวจนตาย”

“รับทราบ!”

หลังจากที่จื่อซีถอนพิษให้กับมือสังหารแล้ว มือสังหารที่ยังคงหลวดกลัวก็ได้บอกความจริงเรื่องของผู้บงการเบื้องหลังพวกเขาออกมา

ที่แท้ เหล่ามือสังหารพวกนั้นได้รับการจ้างมาจากกงกงที่อยู่ในพระราชวัง ซึ่งกงกงผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่เป็นขันที่ใหญ่ที่อยู่ข้างกายของฮ่องเต้ และเขาจะรับคำสั่งจากฮ่องเต้เท่านั้น

เมื่อถามถึงเรื่องการฆ่าช่าจื่อ มือสังหารเองก็ยอมรับสารภาพเร่องนี้เช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ พวกเขาไม่ได้ฆ่าช่าจื่อจนตาย เพราะปล่อยให้นางหนีไปได้

“ดังนั้นช่าจื่อไม่ได้ตายด้วยฝีมือของพวกเจ้า?”หลานเยาเยาขมวดคิ้ว

“อืม นางได้รับบาดเจ็บแล้วหนีไป”

“ดูแล้วยังมีกลุ่มคนอื่นแน่นอน”

จากนั้นมือสังหารรยังบอกอีกว่าหากพวกเขาฆ่าช่าจื่อได้ ก็คงจะต้องมีการนำหลักฐานที่ได้เตรียมเอาไว้ล่วงหน้ามาวางไว้เพื่อใส่ร้ายอ๋องเย่ ดังเช่นที่ทำในวันนี้

จากนั้น หลังจากที่หลานเยาเยาและจื่อซีออกมาจากคุก

จื่อซีก็ถามด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหนู มือสังหารคนนั้นจะพูดเท็จหรือไม่?”

หลานเยาเยาที่ใช้มือเท้าคางเอาไว้ พร้อมกับเดินไปวิเคราะห์ไปด้วย เมื่อได้ยินความสงสัยของจื่อซี นางก็ส่ายหัว

มือสังหารไม่ได้พูดปด!

ก่อนที่ช่าจื่อจะตาย ได้บอกเอาไว้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นคนฆ่านาง แสดงว่าก่อนที่นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย คงจะได้เห็นเย่แจ๋หยิ่งแน่นอน เพื่อที่จะให้ช่าจื่อกลับมาบอกข่าว ดังนั้นคนที่ฆ่าช่าจื่อตัวจริงถึงไม่ได้ฆ่าช่าจื่อให้ตายคาที่

ดังนั้นนางสามารถสรุปได้เลยว่า มือสังหารรับจ้างจากฮ่องเต้และมือสังหารที่ฆ่าช่าจื่อตัวจริง ไม่ใช่คนๆเดียวกัน แต่เป้าหมายของพวกเขานั้นเหมือนกัน

ก็คือฆ่าช่าจื่อให้ตาย แล้วโยนความผิดให้กับเย่แจ๋หยิ่ง

จะว่าไปเย่แจ๋หยิ่งนั้นเป็นถึงอ๋องเย่เทพเจ้าแห่งสงคราม ในมือมีทั้งกำลังทหาร และความเป็นมหาอำนาจ

หากมารวมตัวกับเทพธิดาผู้มีความลึกลับอย่างนาง ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะได้

สิ่งนี้คือสิ่งที่ศัตรูผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่ต้องการเห็นมากที่สุด

ดังนั้นจึงได้มีอุบายการฆาตกรรมนี้ขึ้นมา

เพียงแต่ว่า······

หลายปีมานี้ศัตรูของนางมีมากมายขนาดนั้น ซึ่งต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดทั้งนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง แต่ต่างก็เฝ้ารอโอกาสที่จะลงมือทั้งนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพวกเขา

ถึงแม้ความเป็นไปได้จะน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความจะเป็นไปไม่ได้เลย

แล้วผู้ที่ไม่ต้องการเห็นนางและเย่แจ๋หยิ่งอยู่ร่วมกัน ก็คือฮ่องเต้และราชครูเทียนเวิง

สามารถตัดฮ่องเต้ออกไปได้ เพราะมือสังหารที่เขาส่งมานั้นทำการสังหารไม่สำเร็จ เช่นนั้นก็มีเพียงราชครูเทียนเวิงแล้ว

ไม่สิ!

ราชครูเทียนเวิงไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องลงมือกับสาวใช้ของนาง ถ้าหากเขาอยากจะลงมือคงจะเลือกเพียงคนที่เก่งกาจ อย่างจื่อซีและจื่อเฟิง แล้วก็เหล่าตาเฒ่าพวกนั้น

คนที่ลงมือคนนั้น เลือกเพียงแต่ผู้ที่อ่อนแอข้างกายนาง แต่มีอิทธิพลสำหรับนาง

ราวกับว่า······

ต้องการที่จะแบ่งระยะห่างของนางกับเย่แจ๋หยิ่ง แต่ไม่ได้ต้องการกับผู้ช่วยที่เป็นดั่งแขนซ้ายขวาของนาง ซึ่งคนที่สามารถใช้วิธีการเหล่านี้ นางได้คิดถึงคนคนหนึ่ง

“คุณหนู ในเมื่อสิ่งที่มือสังหารเป็นเรื่องจริง ดูแล้ว ······”

จื่อซียังไม่ทันได้พูดจบ ก็เห็นองครักษ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“รายงานคุณหนู มีมือสังหารเข้ามาในตำหนัก!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น แววตาของหลานเยาเยาก็เย็นชาลงมาทันที ส่วนจื่อซีเองก็ทำท่าจริงจังขึ้นมา

“เดินไปพูดไปแล้วกัน”

หลานเยาเยาพาจื่อซีเดินไปยังลานด้านหลัง ซึ่งระหว่างนั้นองครักษ์ก็ได้กล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้น

หลังจากที่นางพาจื่อซีเข้าไปยังคุกมืด มือสังหารก็เข้ามา ทั้งยังไม่ได้มือสังหารเพียงคนเดียวอีกด้วย

พวกเขาแบ่งกันออกไปยังห้องนอนของเย็นหงและไปยังห้องของเหล่าผู้เฒ่า ที่ห้องผู้เฒ่านั้นพวกเขาทำการวางเพลิง ส่วนที่ห้องเย็นหงนั้นพวกเขาลงมือฆ่าโดยตรง

เป็นอย่างที่คิดไว้!

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นไม่ได้ต้องการทำร้ายผู้ช่วยของนาง ส่วนเหล่าผู้เฒ่าเองก็มีวรยุทธ์ ซึ่งวรยุทธ์ของแต่ละคนนั้นก็ถือว่าไม่เลว หากแค่วางเพลิง พวกเขาสามารถที่จะหนีออกมาจากเปลวเพลิงได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว

แต่ว่าเย็นหงนั้นต่างไป

คนผู้นั้นต้องการฆ่าเย็นหง จากนั้นก็ทำการโยนความผิด เพียงแค่จื่อเฟิงมาเห็นได้ทันเวลา มือสังหารจึงทำการไม่สำเร็จ

เมื่อมาถึงยังห้องของเย็นหง ก็พบว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแค่ตกใจเท่านั้น

เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา เย็นหงก็ร้องไห้รั้งนางเอาไว้ :“เทพธิดา คนที่ฆ่าข้านั้น เขาสวมชุดสีดำ รูปร่างหน้าตาราวกับอ๋องเย่ แต่ข้าน้อยกล้ารับรองเลยว่าคนผู้นี้ไม่ใช่อ๋องเย่แน่นอน มีคนสวมรอยเป็นเขา”

เย็นหงเคยเจอกับอ๋องเย่มาก่อน ลมปราณของอ๋องเย่นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก จนทำให้นางไม่กล้าที่จะสบตาด้วย

เมื่อสักครู่นี้ นางคิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างแน่นอน จึงอยากจะเห็นว่าผู้ที่อยากจะข้านางแท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่

หลังจากที่ได้เห็นอ๋องเย่ นางก็ถึงกับตะลึงงัน

คนที่ฆ่าช่าจื่อเป็นอ๋องเย่จริงงั้นหรือ?

แต่เทพธิดาเชื่อมั่นในตัวเขาถึงเพียงนี้ ดังนั้นนางจึงจ้องมองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้รู้ว่าบุคลิกและแรงกดดันจากตัวเขาคนนั้นแตกต่างจากอ๋องเย่ไปโดยสิ้นเชิง แถมนางยังได้พบอีกว่าคนผู้นั้นไม่ได้เร่งรีบที่จะฆ่านาง แต่ให้นางได้เห็นเขาอย่างละเอียดเสียก่อนจากนั้นค่อยฆ่านาง ดังนั้นนางถึงได้มั่นใจอย่างมากว่าคนที่ต้องการจะฆ่านางไม่ใช่อ๋องเย่แน่นอน

“เช่นนั้นหากได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก สิ่งแรกที่เจ้าจะต้องทำคือช่วยเหลือตัวเอง ไม่ใช่การมองดูรูปร่างลักษณะของมือสังหาร นั่นมันไม่คุ้มค่า เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

สาวใช้สองคนที่นางคัดเลือกมาอย่างดี อีกคนไม่ชอบอยู่นิ่งอีกคนเงียบสงบ อีกคนมีวรยุทธ์การต่อสู้ ส่วนอีกคนก็มีความรู้ฉลาดหลักแหลม

ช่าจื่อที่มีวรยุทธ์การต่อสู้ก็ได้ตายไปแล้ว ส่วนเย็นหงที่ค่อนข้างมีสมองก็เกือบจะถูกฆ่า แต่คิดไม่ถึงเลยว่าก่อนที่เย็นหงจะตายนางกลับทำเรื่องการชี้ตัวมือสังหารอย่างละเอียด ไม่ใช่การเอาตัวรอด

นางช่างเป็นคนที่ใจรักภักดีจริงๆ!

“เจ้าค่ะ เทพธิดา ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

หลานเยาเยาปลอบนางอยู่หลายประโยค ก่อนที่จะออกมา แล้วได้เห็นเหล่าผู้เฒ่าที่ออกมาจากเปรียวเพลิงอย่างพอดี

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท