หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 404 ฮ่องเต้ ไม่ดีแล้ว

บทที่ 404 ฮ่องเต้ ไม่ดีแล้ว

บทที่ 404 ฮ่องเต้ ไม่ดีแล้ว

“เจ้าสำนักเฉลียวฉลาดยิ่งนัก!”

ผู้นำสองสามคนรับคำสั่งแล้วไปทำ

หลานเยาเยาหมุนตัวกลับมามองไปรอบๆ สุดท้ายก็พูดกับคนหนึ่งว่า:

“หายู่หลิวซูกับถิงเมี่ยนเจอรึยัง?”

“เรียนเจ้าสำนัก ยังไม่พบ”

“หาต่อไป หากมีชีวิตต้องพบคน หากตายต้องพบศพ แต่ด้วยความฉลาดปราดเปรื่องของพวกเขาน่าจะไม่ตาย หาดีๆก็จะเจอเอง”

“ขอรับ”

คนผู้นั้นกำลังวางแผนจะพาคนไปหา……

“ไม่ต้องหาแล้ว ไม่ต้องหาแล้ว พวกข้าอยู่นี่แล้ว!”มีน้ำเสียงที่รีบร้อนปนตื่นเต้นดังขึ้นมา

เสียงทุ้มนั้นอยู่ใกล้ๆ แต่หลานเยาเยาไม่เห็นคน นางมองไปรอบๆอย่างสงสัย แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยของพวกเขาเลย

ได้ยินเพียงแต่เสียง ไม่เห็นคน

แต่ฟังจากเสียงพวกเขาก็รู้ได้ว่าพวกเขาน่าจะไม่เป็นอะไร จิตใจที่เป็นกังวลของหลานเยาเยาจึงผ่อนคลายลง

“รีบออกมา ดาบมันไม่มีตานะ ที่นี่ยังมีการต่อสู้อีก!”

“พวกข้าก็อยากออกไปนะ! แต่ถูกพวกท่านเหยียบอยู่ใต้เท้า พวกข้าออกไปไม่ได้หรอก รบกวนพวกท่านช่วยขยับเท้าปล่อยพวกเราออกไปที”

ทุกคน:“……”

พวกเขาซ่อนอยู่ใต้พื้นงั้นเหรอ?

แต่ว่า เมื่อฟังเสียงอู้อี้แล้วก็ดังมาจากพื้นจริงๆ

หลานเยาเยารีบส่งสายตา ฝูงชนที่ยืนอยู่ก็รีบแยกย้ายทันที จากนั้นดวงตาทั้งสองก็จ้องมองลงไปที่พื้นอย่างสงสัย

พื้นราบเรียบปกติ เป็นฝุ่นดินทั้งหมด แล้วก็ยังมีรอยเท้าหลากหลายแบบ ถ้าบอกว่าที่พื้นนั้นขุดหลุมซ่อนคน หากไม่เห็นกับตา ก็คงไม่เชื่อจริงๆ

ทันใดนั้น!

หน้าพื้นดินที่เหมือนกับพื้นที่รอบๆก็ค่อยๆคลาย หลังจากนั้นก็เห็นแผ่นเหล็กที่เต็มไปด้วยฝุ่นดินชิ้นหนึ่งถูกคว่ำไว้

หลุมด้านในสามารถซ่อนได้ประมาณสองคน ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนก็มุดออกมาจากด้านในตามลำดับ

ท่าทางใบหน้าเปื้อนฝุ่นเปื้อนดินของพวกเขาแม้จะดูจนมุม แต่สีหน้าของพวกเขากลับแผ่กระจายความแวววาว

ท่าทางที่อบอุ่นดังสายน้ำของยู่หลิวซูหลังจากออกมา คำนับหลานเยาเยาอย่างนิ่งสงบ ด้านถิงเมี่ยนก็ยิ้มกว้างเห็นฟันขาว ทันทีที่ออกมาก็พูดอย่างดีใจว่า

“เทพธิดา ไม่ คุณหนู ไม่ไม่ไม่ เจ้าสำนัก ภารกิจของพวกเราสำเร็จแล้ว สำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะ? มีรางวัลหรือไม่นะ?”

เมื่อครู่พวกเขาอยู่ใต้พื้น แต่ก็รู้เรื่องเทพธิดาคือเจ้าสำนัก

“ไม่เลวจริงๆ!” หลานเยาเยาพยักหน้า “ต้องมีรางวัลแน่”

สำหรับพวกเขาสองคนที่รู้เรื่องว่านางเป็นเจ้าสำนัก นางนั้นไม่เห็นด้วย

อย่างไรจะช้าจะเร็วก็ต้องรู้ จะรู้เร็วหรือรู้ช้าก็ไม่ต่างอะไรมาก

หลังจากที่ได้ยินนางตอบยืนยัน ถิงเมี่ยนก็ชนไหล่ของยู่หลิวซูอย่างดีใจ เล่นหูเล่นตากับเขา

“เป็นยังไง? ข้าบอกแล้ว เจ้าสำนักหน่ะพูดง่ายมาก”

“อื้ม!”

ยู่หลิวซูพยักหน้าน้อยๆ แสดงถึงความเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด ด้วยนัยน์ตาที่มีความสุข

ความสุขนี้ไม่ใช่เพราะพวกเขาทำภารกิจสำเร็จ แต่เพราะเทพธิดาถือว่าเขาเป็นลูกน้องจากใจจริง ไม่ใช่พวกที่ใช้แล้วทิ้งแบบนั้น

ขณะนั้นเอง!

ผู้นำคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม และรายงาน

“เรียนเจ้าสำนัก ควันที่ทำให้คนสลบจำนวนมากได้ถูกปล่อยไปข้างในแล้ว คนด้านในพยายามจะวิ่งออกมา แต่พวกเราสำนักหงอีไม่ใช่พวกกินเจ ปิดตายพวกเขาไว้

เพียงครู่เดียว คนด้านในก็จะต้องสลบทั้งหมด”

“ดี ดีมาก คนพวกนี้ล้วนเป็นคนที่ซื่อสัตย์ของฮ่องเต้ อยากจะดึงเอามาเป็นพวกนั้นเป็นไปไม่ได้ หากสามารถจับเป็นได้ ก็พยายามจับเป็น ถ้าจับเป็นไม่ได้ ก็จัดการในคราเดียว”

“ขอรับ!”

คนที่มีชีวิตรอดนั้น นางไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามาสวามิภักดิ์ตนเอง เดิมวางแผนว่าจะทำลายพวกเขาให้ราบ

แต่พอคิดๆไป บางที เอาคนที่มีชีวิตรอดพวกนี้ไปยกให้ใครบางคน บางทีอาจจะมีประโยชน์ก็ได้!

สุดท้าย พลทหารและม้าทั้งหมดในหมู่บ้านนี้รวมกันแล้วก็เป็นหมื่นกว่าคน หลังจากโจมตีหมู่บ้านแล้ว ก็ได้ยึดอาวุธ อาหาร สมุนไพรชั้นยอดมา

แต่พลทหารและม้าที่หลานเยาเยาพาไปนั้นมีเพียงไม่กี่พันคน ไม่ถึงครึ่งของจำนวนคนในหมู่บ้านเลยด้วยซ้ำ และก็เก็บกวาดหมู่บ้านให้สะอาดหมดจด

ฟ้าใกล้จะสางแล้ว สนามรบที่น่าเวทนาเกินจะมองก็ถูกทำความสะอาด ร่องรอยส่วนมากก็ถูกลบไป มีร่องรอยบางอันที่ไม่สามารถลบได้ก็อำพรางเอาไว้ แม้ฮ่องเต้จะรู้ และส่งคนมาตรวจสอบ เมื่อตรวจเจอร่องรอยพวกนี้ก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร

เมื่อเรื่องนี้แพร่ไปถึงวัง ก็เป็นช่วงบ่ายของวันที่สองแล้ว

“ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่ไม่ดีแล้ว……”

มีตาเฒ่าคนหนึ่งได้รับข่าว ก็รีบร้อนวิ่งมาจากประตูวังมาจนถึงห้องหนังสือ และพุ่งตรงเข้ามา ลืมแม้กระทั่งเคาะประตู

เมื่อเห็นฮ่องเต้นั่งอยู่หน้าโต๊ะสีหน้าไม่ชัดเจน มองภาพวาดจนน้ำลายไหล

ตาเฒ่าก็ตัวสั่นเทานั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น

คิดไม่ถึงจริงๆว่าฮ่องเต้ผู้สง่าผ่าเผย จะมีท่าทางที่เจ้าชู้ไร้ศีลธรรม

เมื่อฮ่องเต้เห็นว่ามีคนพังประตูเข้ามา ก็รีบคลุมภาพแล้วเก็บสายตาละโมบ สีหน้าก็รีบเปลี่ยนเป็นเย็นชา

เขาตบโต๊ะอย่างโมโห:

“ลุกลี้ลุกลนอะไร? คนอยู่ไหน! มาเอาหมารับใช้ที่มันไม่รู้กฎ ลากออกไปโบยห้าสิบที”

ได้ยินดังนั้น

ตาเฒ่าก็ตกใจหน้าถอดสี “ปึ้ก” เสียงคุกเข่าลงกับพื้น รายงานหน้าซีดว่า:

“ฮ่องเต้โปรดอภัย ฮ่องเต้โปรดอภัย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ข้าน้อยมีเรื่องร้ายแรงมารายงาน และรีบร้อนจนลืมมารยาท โปรดฮ่องเต้ให้อภัย”

ตาเฒ่าร้อนรนเหงื่อออกเต็มหัว หลังจากที่ได้ยินฮ่องเต้จะโบยห้าสิบที สีหน้าก็ซีดเผือด

แต่เขาก็ต้องพูดเรื่องสำคัญออกมาก่อน

“รีบพูดมา เรื่องอะไรกันที่ทำให้เจ้าไม่เข้าใจแม้กระทั่งกฎ ถ้าพูดไม่ออก ข้าก็จะเอาหัวเจ้า”

“ฮ่องเต้ หมู่บ้าน……หมู่บ้านที่ใกล้กับศาลาชีลีเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

ทันทีที่พูดออกไป

คิ้วฮ่องเต้ขมวด สีหน้าครึ้มราวกับหมึก:

“เจ้าว่าอะไรนะ? ที่ไหนเกิดเรื่องอะไร?”

นั่นเป็นที่บ่มอำนาจลับของเขา ไม่เคยเกิดเรื่องใดมานานหลายปี ถ้าที่นั่นเกิดเรื่องนั่นมันไม่ปกติ

ฮ่องเต้เดินอ้อมโต๊ะมาไม่กี่ก้าว พอมาหยุดอยู่ตรงหน้าของตาเฒ่า ก็คว้าคอเสื้อของตาเฒ่าที่คุกเข่าอยู่กับพื้น และยกเขาขึ้นมาด้วยความโกรธ

นัยน์ตาเย็นชามืดสลัว พูดทีละคำทีละประโยคว่า:

“รีบพูด ว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่”

“คะ……คน……คนในหมู่บ้านถูกฆ่า ฆ่าจนหมด แม้แต่บ้านก็ถูกเผาจนหมด……”

“อะไร? คนหล่ะ? คนในนั้นหล่ะ?” ประโยคสุดท้ายฮ่องเต้แทบจะคำราม

“ตาย……แล้ว ตายหมดเลย……”

แต่ไหนแต่ไรมา ตาเฒ่าไม่เคยเห็นฮ่องเต้มีท่าทางเช่นนี้ ในตอนที่พูดพวกนี้ จิตวิญญาณเขาไม่มีความทรงพลัง

“เจ้ากล้าพูดอีกรอบสิ เชื่อไหมว่าข้าจะฟันหัวเจ้าซะ?”

“ฮ่องเต้โปรดไว้ชีวิต ฮ่องเต้โปรดไว้ชีวิต! ที่ข้าน้อยพูดนั้นเป็นความจริง ข้าน้อยเพิ่งได้รับรายงานมา ก็รีบมารายงานต่อท่าน

นายอำเภอตงเฉาตายแล้ว คนข้างกายเขาก็ตายหมด เรื่องนี่ถูกพบโดยองครักษ์ที่ไปยังหมู่บ้าน เพื่อส่งนางบำเรอของขุนนางวันนี้”

ตอนนี้ฮ่องเต้ปล่อยตาเฒ่า ใจลอยอดไม่ได้ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว และส่ายหัวไม่หยุด

รู้ไหมว่านี่เป็นพลทหารและม้าชั้นยอด ที่เขาเลี้ยงมาหลายปี

จะมาหายไปภายในคืนเดียวได้อย่างไร?

“เป็นใคร? ใครเป็นคนทำ? ใครให้ความกล้าพวกมันขนาดนั้น? ถึงกล้ามาทำอะไรคนของข้า ไปตรวจสอบมาให้ข้า ตรวจสอบให้ละเอียด ข้าจะต้องให้พวกมันชดใช้อย่างเจ็บปวด”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท