หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 395 จื่อซีเครื่องประทินโฉมของเจ้าเลอะแล้ว

บทที่ 395 จื่อซีเครื่องประทินโฉมของเจ้าเลอะแล้ว

บทที่ 395 จื่อซีเครื่องประทินโฉมของเจ้าเลอะแล้ว

จื่อซีและจื่อเฟิงรู้สึกถึงความผิดปกติของนาง จึงรีบหันไปมองยังทิศทางที่สายตาของจ้องไป สังเกตอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับไม่พบความผิดแปลกอะไร

จื่อซีหันไปถามโดยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“คุณหนูท่านเป็นอะไรไป?มีสิ่งใดผิดปกติงั้นหรือ?”

“เมื่อสักครู่นี้พวกเจ้าเห็นคนอยู่ตรงนั้นหรือไม่?”

หลานเยาเยาไม่มั่นใจกับเงาที่ได้เห็นเมื่อสักครู่นี้ เพราะมันเป็นเพียงภาพที่แวบผ่านไป ซึ่งเห็นมันจากแสงภายนอกอีกต่างหาก

“ไม่เห็นขอรับ!”

หลังจากที่จื่อซีตอบกลับไป เขาก็ได้หันกลับไปมองยังต้นไม้โบราณอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งสำรวจไปยังบริเวณโดยรอบ แต่ก็ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ

แม้แต่จื่อเฟิงเองก็ได้แต่ส่ายหย้าอย่างสงสัย

เขาเองก็ไม่เห็นความผิดปกติอันใด

“จื่อซี เจ้าเข้าไปในคุกมืดกับข้า จื่อเฟิงเจ้าไปให้คนในตำหนักเพิ่มการคุ้มกันให้มากขึ้น และคืนนี้ให้เฝ้าระวังห้องของเหล่าตาเฒ่าและเย็นหงเอาไว้ พอฟ้าสาง เจ้าค่อยไปพักผ่อน”

จู่ๆนางก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ราวกับว่าค่ำคืนนี้จะต้องมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น

“รับทราบ!”จื่อเฟิงรับคำสั่งแล้วก็จากไป

ทันใดนั้นจื่อซีก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกเกี่ยวกับท่าทางที่ตื่นตัวของหลานเยาเยา

คุณหนูไม่เคยที่จะประหม่าเช่นนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท่าทางระมัดระวังตัวของนาง อีกทั้งคิ้วของนางก็ขมวดจนเห็นความกังวล

นี่จะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆเช่นนั้นหรือ?

เมื่อมายังคุกมืด

ชายชุดดำที่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ ตอนนี้เสื้อดำตัวนอกได้ถูกถอดออกมาจนหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงแต่เสื้อขาวตัวด้านใน

หลานเยาเยาหันไปดูอาวุธลับหลายอัน เสื้อคลุมสีดำ ยาพิษที่ยังอยู่ในกระบอก และดาบยาวที่เรืองแสงวิบวับวางอยู่บนโต๊ะ

ซึ่งบนปลายดาบยังมีคราบเลือดอยู่เล็กน้อย คงน่าจะเป็นเลือดของชายชุดดำคนนี้ที่หวังจะปลิดชีพตัวเอง

ซึ่งในตอนนี้มือสังหารผู้นั้นก็ได้ถูกตีจนสลบไปแล้ว

“คุณหนู บนตัวเขานอกจากของเหล่านี้แล้วก็ไม่มีเบาะแสอื่นใดเลย”

สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่มือสังหารใช้กันทั่วไป ไม่นับว่าเป็นเบาะแสใดได้

“ไม่เป็นไร อีกสักครู่เขาก็พูดออกมาเอง”สำหรับคนที่ปากแข็งนั้น นางมีวิธีของตัวเองที่จะทำให้เขายอมพูดออกมา “ปลุกเขาให้ตื่นเถอะ!”

“ขอรับ!”

จื่อซีพนมมือรับทราบ จากนั้นกีบเดินไป จนถึงตรงหน้าถังไม้อันใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำ ก่อนจะใช้ขันตักน้ำตักน้ำขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าของมือสังหารดัง “พรืบ”

น้ำขันที่หนึ่งสาดลงไป แต่มือสังหารกลับยังไม่ฟื้นคืนสติ

หลานเยาเยาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างติดตลก:“ผู้ใดลงมือหนักถึงเพียงนี้กัน?น้ำหนึ่งถังยังไม่สามารถปลุกเขาขึ้นมาได้ คงไม่ใช่เจ้าหรอกนะ?จื่อซี”

นางรู้สึกสงสัย แต่ว่าจื่อซีเป็นหมอ ถึงวรยุทธ์จะแกร่งกล้า แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็ยังคงเป็นวิชาการรักษา

ยังไงเสียหมอก็ยังมีความเมตตา!

หากเป็นจื่อซีแค่ทำให้คนสลบก็น่าจะพอแล้ว ไม่น่าจะลงมือหนักถึงเพียงนี้ คนที่สามารถใช้มีดเดียวทำให้คนสลบแล้วสลบอีกก็มีเพียงจื่อเฟิงเท่านั้น

อย่างที่คาดไว้!

“คุณหนู ข้านั้นเป็นจิตใจดี จะไปลงมือหนักถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน ต้องโทษจื่อเฟิง ไม่รู้ว่าวันนี้ไปกินยาอะไรผิดมา ถึงได้สังหารพวกคนชุดดำเหล่าด้วยดาบเดียวเท่านั้น หากเวลาปกติให้เขาจัดการคนคนหนึ่งให้สลบ เขาก็ไม่ได้ลงมือหนักถึงเพียงนี้ แต่วันนี้กลับลงมืออย่างหนัก”

จื่อซีนึกถึงสายตาที่จื่อเฟิงมองเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุก

เอ่อ……

ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?

หลานเยาเยาที่ใช้สายตามองไปยังร่างกายของจื่อซี พอเห็นตัวเขาที่ยังคงแต่งกายเป็นสตรีอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมออกมา

“แค่กๆ!”

“จื่อซี เครื่องประทินโฉมของเจ้า……มันหลุดออกแล้ว”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาหรือเปล่า จื่อซีที่เดิมทีไม่ได้แต่งหน้าเด่นชัดมากนัก ในตอนนี้แค่มองก็เห็นผิวขาวอมชมพู ทั้งที่ผิวนั้นเนียนละเอียด แต่กลับสิ่งเหล่านี้กลับอยู่บนใบหน้าของบุรุษ ทั้งเครื่องประทินโฉมยังหลุดออกมาแล้วด้วย ……

เอ่อ?

อย่าว่าแต่จื่อเฟิงที่มีอารมณ์โกรธอยากระบายความไม่พอใจออกมาเมื่อได้เห็นเลย

แม้แต่นางที่พอได้มองอย่างละเอียดแล้ว ก็ยังอยากลงมือทุบตีด้วยเลย

หลุดแล้ว?

จื่อซีที่ไม่เข้าใจ จึงเดินไปถังน้ำ แล้วมองเงาสะท้อนของตัวเองในน้ำ เมื่อได้เห็นใบหน้าของตัวเองที่ยากเกินจะอธิบายออกมาได้ เขาก็ถึงกับตกใจอย่างมาก

“ไอ้ย๊า!ไอ้ย๊า……”

จื่อซีร้องตกใจออกมาเสียงสูง

เขาได้ลืมเลยว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นบุรุษที่แต่งกายเป็นสตรี ทั้งยังลืมอีกว่าตัวเองยังแต่งหน้าอยู่

ดังนั้นก่อนหน้านี้เพื่อที่จะจับมือสังหาร พอเหนื่อยเลยเช็ดหน้าโดยไม่ได้สนใจอะไร คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ตัวเองมีใบหน้าที่น่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้

ไม่แปลกเลยที่จื่อเฟิงจะจ้องมองเขาอย่างเหยียบหยาม……

ไม่น่าแปลกเลยที่คุณหนูจะมองเขาด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย……

ที่แท้เขาได้ทำเรื่องขายหน้าเอาไว้!

ฮือๆๆ……

ในอนาคตข้างหน้าเขาหวังจะแต่งงาน ถ้าหากสตรีที่เขาปลงใจด้วยได้รับรู้ถึงความอัปลักษณ์นี้ของเขา นางจะหัวเราะเยาะเขาอย่างไรกัน!

จื่อซีตักน้ำขึ้นมาด้วยความเขินอาย เพิ่มด้วยพละกำลังแล้วสาดลงไปยังใบหน้าของมือสังหาร

“พรืบ……”

น้ำขันนี้จื่อซีได้เพิ่มกำลังไปอย่างเต็มที่ หากยังไม่ฟื้นขึ้นมา เขาจะหยิบมีดขึ้นมาเพื่อระบายอารมณ์แล้วจริงๆ

ทันทีที่น้ำถูกสาดลงไป มือสังหารก็ขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อยๆลืมตาขึ้น หลังจากที่เห็นหลานเยาเยา เขาก็หลุดปากเรียกออกมา “เทพธิดา”

“ดีมาก ดูเหมือนว่าจะรู้จักข้าเทพธิดาคนนี้เสียแล้ว”

หบานเยาเยายกมุมปากขึ้นด้วยสีหน้าที่ได้เปรียบ ก่อนจะเดินไปข้างหน้าแล้วใช้สายตาที่เย็นชามองไปยังมือสังหาร“สาวใช้ช่าจื่อคนสนิทของข้า พวกเจ้าก็เป็นผู้สังหารใช่หรือไม่?”

มือสังหารถึงกับร้อนรน สายตาว่อกแว่กไม่มั่นคง แต่เขากลับไม่ยอมพูดสิ่งใดออกมา เอาแต่นิ่งเงียบ ให้ความรู้สึกราวกับว่าอยากจะฆ่าอย่างไรก็รีบลงมือเถอะ

หลานเยาเยาเปล่งเสียงออกมาอย่างเยือกเย็น

“หวังว่าอีกสักประเดี๋ยวเจ้าจะยังมีท่าทีเช่นนี้”พูดไปนางก็พลางหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อขวดหนึ่ง

“เจ้าอย่าได้ร้องไห้ขอร้องวิงวอนที่อยากจะพูดออกมาแล้วกัน”

ในฐานะของมือสังหารก็ต้องทำตามกฎของมือสังหาร เมื่อรับเงินมาจากผู้ว่าจ้างแล้วก็ต้องเป็นตัวแทนกำจัดภัยให้กับเขา ไม่อาจเปิดเผยตัวตนของผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้

ดังนั้นมือสังหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จะมีพิษซ่อนในปาก เมื่อทำภารกิจไม่สำเร็จแล้วยังไม่อาจที่จะหนีรอดได้ก็จะใช้วิธีการนี้ในการลงโทษตัวเอง

แต่คนล้วนแต่มีจุดอ่อนของตัวเอง

สิ่งที่หลานเยาเยาหยิบออกมานั้นคือยาผงชนิดหนึ่ง แล้วนางก็โรยผงใส่หน้าของมือสังหาร

“ไม่ต้องกลัวไป นี่เป็นเพียงผงยาชนิดหนึ่งเท่านั้น คุณสมบัติของมันคือไร้สีไร้กลิ่น เพียงพอที่จะดึงดูดเหล่าแมลงนับร้อยได้ ไม่ว่ามันจะมีพิษหรือไม่มีพิษ อีกประเดี๋ยวเจ้าก็ลองรับรู้เอาเอง”

มือสังหารไม่ได้สนใจสิ่งใด ทั้งยังทำตัวแข็งกระด้างขึ้นอีก

หลังจกที่โปรยยาใส่มือสังหาร หลานเยาเยาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วไปนั่งรอข้างๆอย่างเงียบๆ

ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นฝูงมดกลุ่มหนึ่ง คลานเข้ามายังภายในคุกมืด ซึ่งเป้าหมายเดียวของพวกมันก็คือ ‘เจ้าอาหาร’ที่มีกลิ่นหอมอันเย้ายวนนั่นเอง

แล้วตามมาด้วยฝูงผึ้งพิษ จากนั้นก็ตามมาด้วยงูหลากชนิด……

จนทำให้รู้สึกขนลุก

เหล่าแมลงพิษเหล่านั้นยังไม่ทันได้เข้าใกล้ตัวเขา สีหน้าของมือสังหารก็ได้ซีดไปก่อนเสียแล้ว

ความตายนั้น เขาไม่ได้กลัว

แต่จะให้ถูกแมลงค่อยๆแทะเล็มกัดกินแล้วค่อยๆตายไป นี่มันมีความแตกต่างอะไรกับการตายทั้งเป็น?

เมื่อเขาสังเกตเห็นมดจำนวนมากคลานขึ้นมายังเท้าของเขา ความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกมดนับหมื่นกัดก็แล่นเข้ามา

“อ๊า……”

แล้วร่างกายของเขาก็ค่อยๆถูกผึ้งพิษต่อยทีละตัวๆ เขารู้สึกเจ็บปวดทรมานจนตัวสั่น เขาปิดตาลงดิ้นรนอย่างหนัก

ผ่านไปเพียงไม่นาน

เขาก็ทนไม่ได้กับความทรมานนี้แล้ว

แล้วเขาก็รู้สึกถึงความเย็นจากงูตัวหนึ่ง กำลังคลานเข้ามาในกางเกงของเขา ค่อยคลานขึ้นมาอย่างเชื่องช้าตามขาของเขา ราวกับว่ากำลังตามหาอะไรบางอย่างที่จะมุดเข้าไปอยู่นั้น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท