หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 408 ตบหน้าเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ

บทที่ 408 ตบหน้าเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ

บทที่ 408 ตบหน้าเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ

แม้เสียงของชุนซวงจะไม่ได้ดุดันเหมือนกับที่พูดกับคนใช้ก่อนหน้า แต่แววตายโสและน้ำเสียงคุกคามนั้นเผยออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

ในห้องหรู

มือของจื่อเฟิงจับกระบี่ไว้แน่น

จื่อซีก็มองไปยังประตูที่เคาะปั้งๆอย่างรังเกียจ และเขาก็มองหลานเยาเยาอีกครั้ง

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูขวางไว้ คาดว่าเขาคงได้พุ่งออกไปจับสาวใช้ที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงสองคนนั่นโยนออกนอกหน้าต่างไปแล้ว

เขาคิดจะพูดอะไร?

ก็ถูกหลานเยาเยายื่นมือมาดึงไว้

ส่วนองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างมีแววตาที่ไม่อดทน รีบก้าวขึ้นมาด้วยความขุ่นเคือง: “เทพธิดา สาวใช้ของจวนเฉิงเสี้ยงนั้นไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ข้าน้อยจะไปสั่งสอนพวกนางซะ”

“ไม่ต้อง ปล่อยให้พวกนางโวยวายไป”

หลานเยาเยายกมุมปากขึ้น แววตาฉายความเจ้าเล่ห์

จวนเฉิงเสี้ยงงั้นเหรอ?

ดีสิ!

ถังเฉิงเสี้ยงขุนนางที่ภักดีที่สุดของฮ่องเต้ ส่วนนางก็เป็นเป้าหมายที่ฮ่องเต้ต้องการจะดึงมาเป็นพวก ถ้าทำเรื่องนี้ให้มันวุ่นวาย เฉิงเสี้ยงจะว่ายังไง? แล้วฮ่องเต้จะทำยังไง?

เมื่อคนด้านนอกไม่ได้ยินการตอบรับใดๆจากด้านใน พวกนางก็นึกว่าคนด้านในนั้นกลัวพวกนาง

ดังนั้นสาวใช้ที่ชื่อชุนซวงก็ยิ่งตบประตูห้องอย่างไม่เกรงกลัว เสียงเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและถากถาง:

“ได้ยินหรือไม่ พวกข้าคือคนของจวนเฉิงเสี้ยง แย่งห้องหรูไปแล้วคิดว่าจะซ่อนตัวเป็นเต่าหดหัว แล้วพวกข้าจะหมดปัญญากับพวกเจ้างั้นรึ?

คุณหนูของพวกเราใกล้มาแล้ว อีกเดี๋ยวจะสั่งให้คนพังประตูเข้าไป และโยนพวกเจ้าออกจากร้านประมูลเสินตูไปซะ ให้พวกเจ้ากลายเป็นที่น่าขันของคนอื่น”

ชุนซวงนั้นชินกับการทำตามอำเภอใจแล้ว แต่ในตอนที่นางอยู่ข้างกายถังมู่หวั่น ก็ไม่ได้มีท่าทางแบบนี้

ขณะนี้!

คนใช้ที่ถูกเตะไปสองสามที ก็ไม่สนใจทำความสะอาดน้ำชาและขนมที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแล้ว

หลังจากมีปฏิกิริยาโต้ตอบ ก็รีบวิ่งมายังหน้าประตูห้อง รีบร้อนมาขวางพวกนางไว้:

“แม่นางทั้งสอง มิได้ ด้านในเป็นแขกผู้มีเกียรติของพวกเราร้านประมูลเสินตู ขอให้พวกท่านอย่าก่อกวนที่นี่เลย รีบไปเถิด……”

“เพี๊ยะ……”

คนใช้ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกชุนซวงตบเข้าที่หูอย่างแรง

“พวกท่าน……พวกท่านรังแกคนอื่นเกินไป”

ชุนซวงเตะคนใช้อย่างแรง มองลงไปข้างล่างแล้วเอาเท้าเหยียบบนท้องคนใช้ไว้

“เจ้าเป็นใคร แล้วคนข้างในหน่ะเป็นใคร? เทียบกับคุณหนูของจวนเฉิงเสี้ยงได้หรือ?

เจ้าไม่คิดดูหล่ะ คุณหนูของพวกเรานั้นเป็นกิ่งทองใบหยก เป็นดั่งไข่มุกที่อยู่ในมือของใต้เท้าเฉิงเสี้ยง ถ้าดูแคลนนาง เจ้าจะมีชีวิตรอดอีกกี่ชีวิต?

ข้าว่าเจ้าคงถูกตีจนโง่ไปแล้ว! ข้าว่าจะต้องตบหูเจ้าไปอีกสองสามครั้งเพื่อให้มีความจำที่ยาวขึ้น”

พูดไป ชุนซวงก็ตบไปสองสามทีเข้าที่บ้องหูของคนใช้นั่นจริงๆ

ชุนซวงไม่ได้โง่

นางรู้ว่าคนที่สามารถเข้ามาพักในห้องหรูนี้ได้ต้องไม่ใช่ประชาชนธรรมดา

แต่ในเมืองหลวง นอกจากอ๋องเย่ที่มีอำนาจมากมาย อำนาจที่ใหญ่ที่สุดก็จะต้องเป็นของเฉิงเสี้ยง

แม้แต่รัชทายาทองค์ปัจจุบัน ยังเป็นเพียงองค์ชายที่มีชื่อเสียงแต่ไร้อำนาจเท่านั้น

และนางก็มั่นใจว่าคนที่อยู่ข้างในไม่ใช่อ๋องเย่แน่ๆ เพราะถ้าอ๋องเย่มายังร้านประมูลเสินตู จะต้องไปยังห้องพิเศษสำหรับเขาแน่นอน

ดังนั้น นอกจากอ๋องเย่ นางก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร

ชุนซวงนั้นเป็นเตะต่อยกังฟูอยู่บ้าง ดังนั้นเท้าที่เหยียบบนตัวของคนใช้นั้นจึงหนักมาก แรงที่ตบนั้นก็หนักมาก

แน่นอนว่านางจะไม่ฆ่าใคร

เมื่อตบคนใช้เสร็จ นางก็ไปคุกเข่าข้างๆคนใช้ และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ไปซะ เรื่องของพวกเรา พวกเราจัดการเอง ทางที่ดีเจ้าไปให้ไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

คนใช้ขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด สุดท้ายก็รีบหนีไป

ตอนนี้

ชุนซวงก็เตะเปิดประตูห้องหรูอย่างอาจหาญ สองมือเท้าเอว สายตามองคนที่อยู่ข้างในอย่างหยิ่งยโส

เห็นผู้คุ้มกันใส่เครื่องแบบทหารสองคน กับอีกคนที่เครื่องแบบองครักษ์ นางก็เอือมระอา ไม่รู้สึกว่าจะมีอะไร

แต่พอสายตาของนางต่ำลง และเห็นหญิงสาวชุดแดงนั่งอยู่บนโต๊ะ

สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที สีหน้าซีดเผือดอย่างรวดเร็วจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า สองมือที่เท้าเอววางลงอย่างเงียบๆ ท่าทางที่ชอบพูดจาเสียดสีว่าร้ายก็พังลงทันที

“เทพ……เทพธิดา……”

นางคุกเข่าลงพื้น “ปั้ก” แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ทั้งตัวก็เริ่มสั่นเทา

คิดไม่ถึงว่า คนที่อยู่ในห้องหรูนี้จะเป็นคนที่ฮ่องเต้จะต้องเคารพ เป็นคนที่อ๋องเย่จะต้องปฏิบัติอย่างสุภาพ

แต่ว่า……

ตั้งแต่เทพธิดามาเมืองหลวง ก็ไม่เคยมายังร้านประมูลเสินตู และห้องหรูนี้ ก็เป็นห้องที่คุณหนูจะจองก่อนมาทุกครั้ง

เสี้ยฮัวที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็นชุนซวงคุกเข่าลง นางก็รีบคุกเข่าลงตาม พูดด้วยเสียงสั่นเครือ:

“ข้าน้อยคารวะเทพธิดา ขอเทพธิดามีความสุข”

นิ้วเรียวของหลานเยาเยาจับปอยผมที่ตกมาอยู่ตรงหน้าอก แล้วหมุนพันๆรอบนิ้ว สายตาเย็นชามองสองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงประตู

นางไม่พูดอะไร แต่ปล่อยให้พวกหล่อนคุกเข่าต่อไป

รอจนกระทั่งแข้งขาพวกนางอ่อนแรง ร่างกายโรยรา มุมปากของหลานเยาเยาก็มีรอยยิ้มที่ล้ำลึก

และพูดอย่างมีเลศนัยว่า:

“ถังเฉิงเสี้ยงมีกิจยุ่งทุกวัน งานก็ยุ่งวุ่นวาย ได้รับความเคารพจากประชาชน เดิมคิดว่าในจวนจะได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ คิดไม่ถึงว่าสองสาวใช้ตัวน้อยๆ จะทำงานให้คุณหนูโดยรังแกผู้น้อย ไม่เห็นใครในสายตา

เดิมทีข้ารู้สึกว่าคุณหนูถังของจวนที่สูงศักดิ์จะปฏิบัติตนไม่ขาดตกบกพร่อง แล้วก็มีใจคบค้าสมาคม

ตอนนี้ ดูท่าคงไม่ต้องแล้ว สาวใช้เป็นเช่นนี้ คาดว่าคุณหนูก็คงไม่ดีไปกว่านี้ จบกัน ช่างน่าผิดหวังจริง!”

ถังมู่หวั่น!

สามปีก่อน หลานเยาเยาเคยคบค้าสมาคมสองสามครา

เป็นหญิงสาวที่ประพฤติตนไม่ขาดตกบกพร่องใดๆเลย ภายนอกดูสง่างามอ่อนโยน ใบหน้าก็สวยงดงาม เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจริงๆ

แต่ที่จริงแล้วเป็นคนที่มีอุบายลึกซึ้ง ชินกับการใช้จุดอ่อนของผู้อื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตนเอง แล้วก็ยังทำให้คนอื่นดูไม่ออก

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคนที่มีอุบายลึกซึ้งเช่นนี้ สาวใช้ข้างกายจะไร้ฝีมือเช่นนี้

เมื่อได้ยินความหมายของนาง

สีหน้าของเสี้ยฮัวและชุนซวงก็ยิ่งซีด

เทพธิดาหมายจะคบค้าสมาคมกับคุณหนูหรือ?

แต่โชคร้ายพวกนางดันไปล่วงเกินเทพธิดา ถ้าให้คุณหนูรู้เข้า จะต้องถลกหนังพวกนาง ทำให้เป็นผู้ไร้ความสามารถแน่ๆ

ไม่ได้ จะให้คุณหนูรู้ไม่ได้

ยังไงตอนนี้เทพธิดาก็จะไม่คบค้าสมาคมกับคุณหนูแล้ว นางก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร พูดอีกอย่าง นางก็เป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยง เทพธิดาจะฆ่านางไม่ได้?

“เทพธิดา โปรดอย่าดูถูกจวนเฉิงเสี้ยงของพวกเรา และก็ยิ่งไปกว่านั้นอย่าดูถูกคุณหนูของพวกเรา คุณหนูของพวกเราเป็นหญิงอันดับหนึ่งของเมืองหลวง มีการศึกษา มีเกียรติคุณธรรมที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังชื่นชม”

เสียงอย่างกับเส้นด้าย ตอนพูดน้ำเสียงก็สั่นเครือ

แต่ว่า!

แม้นางจะคุกเข่าอยู่ที่พื้น ในใจก็ไม่ได้มีความเลื่อมใสจริงใจเลย ถ้าหากไม่เกรงกลัวสถานะของเทพธิดา นางจะไม่ทำนอบน้อมเช่นนี้

ได้ยินมาว่า เทพธิดานั้นภาวนาให้ประชาชน มีไมตรีที่ดีต่อผู้คนเสมอมา มองดูก็เป็นคนที่ไม่มีแผนการอะไร ไม่เช่นนั้น ตอนที่พวกนางตบประตู และก็พังประตูเข้ามา ทำไมนางไม่ส่งคนมาสั่งสอนพวกนางสักหน่อยหล่ะ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชุนซวงก็รู้สึกว่าเทพธิดาจะต้องเกรงกลัวอำนาจของจวนเฉิงเสี้ยงเป็นแน่

ดังนั้นความเกรงกลัวที่มีต่อเทพธิดาจึงลดลง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท