หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 413 ความแตกแล้ว

บทที่ 413 ความแตกแล้ว

บทที่ 413 ความแตกแล้ว

“เฮอะ พูดกับข้าเรื่องมโนธรรม? คืนชีวิตของช่าจื่อมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกันดีกว่า!”

“เจ้าต้องเข้าใจผิดไปแน่ๆ อ๋องเย่ไม่เคยคิดจะจัดการกับเจ้า เขาจริงใจกับเจ้าจริงๆ” โม่เหลียงเฉินในตอนนี้ยังคิดจะลองเกลี้ยกล่อมนาง

อย่างไรเสีย

เขารู้จักเย่แจ๋หยิ่ง เย่แจ๋หยิ่งทุ่มเทความรักที่มีต่อนางสุดหัวใจแล้ว เขาไม่อยากเห็นเย่แจ๋หยิ่งเจ็บปวด

“พอแล้ว เจ้าจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์”

เพียงแต่ว่า……

โม่เหลียงเฉินก็ยังไม่เต็มใจอยู่ดี เขาอ้าปากยังอยากจะกล่าวต่อ แต่จู่ๆกลับรู้สึกหนักที่ไหล่ ฝ่ามือใหญ่เปื้อนเลือดข้างหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของเขา

เขาหันกลับไปก็ได้ยินเย่แจ๋หยิ่งกล่าวอย่างเศร้าโศกว่า:

“อย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เราไปกันเถอะ!”

“ไม่ได้ เย่แจ๋หยิ่ง ในเรื่องนี้จะต้องมีการเข้าใจอะไรผิดกันแน่ๆ เจ้าคิดจะไปเช่นนี้หรือ?” โม่เหลียงเฉินร้อนใจอย่างมาก ในใจก็รู้สึกผิดหวังในตัวเทพธิดาอย่างมากเช่นกัน

และในเวลานี้

เสียงเย็นชาของหลานเยาเยากลับดังออกมาทีละคำทีละคำ

“อยากไป? เป็นไปได้หรือ? ซี เฟิง พวกเจ้าเข้าไปให้หมด วันนี้จะต้องให้อ๋องเย่ล้างหนี้เลือดด้วยเลือดให้ได้”

“ขอรับ!”

จื่อซีกับจื่อเฟิง และยังมีองครักษ์หน้าบากอีกคนต่างก็พากันกอดมือทั้งคู่ไว้ตรงหน้าอกเพื่อแสดงความเคารพพร้อมกัน จากนั้นก็ชักกระบี่พุ่งไปทางเย่แจ๋หยิ่ง

โม่เหลียงเฉินต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จอยู่แล้ว เอาตัวเข้าขวางหน้าเย่แจ๋หยิ่งโดยตรง ต่อสู้กับพวกเขาสามคนขึ้นมา

แต่ว่า!

ถึงวรยุทธของโม่เหลียงเฉินจะสูงมาก แต่ก็ยังสู้จื่อเฟิงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสู้แบบหนึ่งต่อสามอีก

สู้กันไม่กี่ที เขาก็ตกเป็นเบี้ยล่างแล้ว

แต่ยังสามารถรั้งพวกเขาเอาไว้สองสามรอบ โม่เหลียงเฉินกำลังสงสัยว่าองครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่งทำไมถึงไม่อยู่ ก็ถูกองครักษ์หน้าบากใช้เท้าเตะอย่างแรงจนกระเด็นออกไป

ตายดีไม่ดี ยังบังเอิญไปชนเย่แจ๋หยิ่งล้มลงไปบนพื้นโดยตรง

เสียงดัง “ปึง” ขึ้นมา

ทั้งสองฮึดฮัดขึ้นมาพร้อมกัน โม่เหลียงเฉินก็ไม่รู้ว่าไปล้มทับอะไรเข้า เสียง “ซี๊ด” ดังขึ้นมา เลือดก็พุ่งไปบนใบหน้าของเขาโดยตรง

โม่เหลียงเฉินเอื้อมมือไปจับหน้าของตนเอง จากนั้นก็เพ่งสายตามองดูใกล้ๆ มันคือเลือด เลือดที่เย็นยะเยือก……

สีหน้าเขาซีดเผือดไปในทันที

ในใจรู้สึกผิดอย่างมาก กลัวเย่แจ๋หยิ่งจะเป็นอันตรายถึงชีวิต มองไปที่บาดแผลของเย่แจ๋หยิ่งด้วยสีหน้าท่าทางที่ร้อนใจ

เลือดที่ช่องท้องยังคงไหลออกมาต่อเนื่องไม่หยุด ราวกับว่ามันไหลออกมาได้อย่างไม่สิ้นสุด เขารีบยื่นมือไปอุดบาดแผลเอาไว้ กำลังคิดจะหาผ้ามาพันแผลให้เขา

กลับพบว่า มือที่ปิดแผลเอาไว้ของเขากลับไปโดนของที่ปูดขึ้นมา ลองดึงออกมาดู ดูคล้ายกับถุงเลือดถุงหนึ่ง……

เย่แจ๋หยิ่งที่ถูกโม่เหลียงเฉินชนจนปวดแปลบ ห้ามไม่ให้โม่เหลียงเฉินดึงถุงเลือดออกมาเอาไว้ไม่ทัน สีหน้าท่าทางของเขาเป็นประกายแวบขึ้นมา เอื้อมมือมาแย่งกลับไป

นึกไม่ถึงว่า……

เสียงดัง “ซี๊ด” ขึ้นมา เลือดก็พุ่งออกมาจากถุงเลือดอีก

เย่แจ๋หยิ่ง: “……”

โม่เหลียงเฉิน: “……”

หลานเยาเยาเห็นดังนั้น รีบกลั้นหัวเราะเอาไว้ เอามือก่ายหน้าผากทำหน้าเหมือนคนท้องผูกทนดูต่อไปไม่ไหว

พี่ชาย!

มีความเป็นมืออาชีพหน่อยได้ไหม? จะแสดงละครก็ต้องแสดงให้มันเหมือนหน่อย ความแตกแบบนี้ผลกระทบแย่มากจริงๆ

มองดู ท่าทางจื่อซีที่กลั้นหัวเราะจนใกล้จะผิดปกติไปจากเดิม แล้วมองไปทาง จื่อเฟิงที่เอาแต่ปั้นหน้าไม่แสดงอาการ กระตุกมุมปากอย่างแรงอยู่ตลอด

โชคดี!

องครักษ์หน้าบากหันหน้าไปทางแผ่นหลังโม่เหลียงเฉินพอดี เห็นแค่เลือดที่พุ่งออกมาเท่านั้น ไม่เห็นถุงเลือดที่โม่เหลียงเฉินดึงออกมา ยังนึกว่าโม่เหลียงเฉินทำให้เย่แจ๋หยิ่งเลือดพุ่งออกมาอีกแล้ว

ผู้คนที่อยู่ในห้องโถง หลานเยาเยาละเลยไม่สนใจไปเลยโดยตรง

เพราะพวกเขาสามารถเห็นแค่ช่วงบนของคนที่ยืนอยู่เท่านั้น

“แค่กๆ!”

หลานเยาเยากระแอมไอเบาๆ

โม่เหลียงเฉิงที่ตกอยู่ในอาการมึนงง หลังจากที่ดึงสติกลับมาแล้ว ใส่ถุงเลือดกลับไปยัง ‘บาดแผล’ ด้วยท่าทีสงบ จากนั้นก็ทำท่าทางเจ็บปวดขึ้นมา

โม่เหลียงเฉินกระตุกมุมปากอย่างแรงครั้งหนึ่ง อยากหัวเราะแต่ไม่กล้าหัวเราะ เลยต้องอดกลั้นสุดชีวิต

ที่แท้ก็เป็นการเล่นละครเล็กๆนี่เอง!

เขาจะเข้าร่วมด้วย

ดังนั้น เขาจึงร้องไห้โศกเศร้ารันทดเสียงดังขึ้นมาทันที: “เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าวางใจได้ ถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิต ข้าก็จะช่วยเจ้าออกไป จะไม่ยอมให้เจ้าตายเด็ดขาด ฮือๆๆ……”

ในขณะที่กล่าวอยู่นั้นเขายังใช้นิ้วจิ้มไปที่ถุงเลือด

เย่แจ๋หยิ่ง: “……”

และในตอนนี้!

องครักษ์หน้าบากก้าวเท้ามาข้างหน้าอยากจะดูให้ชัดเจน อ๋องเย่ใกล้จะตายแล้วจริงหรือไม่

จื่อซีที่อยู่ด้านข้างจู่ๆก็ตะโกนขึ้นมา ทำให้องครักษ์หน้าบากตกใจ จึงยกกระบี่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ต้องการจะฆ่าโม่เหลียงเฉิน

“ระวังข้างหลัง!”

เย่แจ๋หยิ่งเตือนโม่เหลียงเฉินคำหนึ่ง จากนั้นมองดูรอยแผลที่ท้องด้วยความรังเกียจ

จิ้มอีกที ไหลก็ไม่ไหลออกมาแล้ว

“วางใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง” โม่เหลียงเฉินพยักหน้าราวกับลูกไก่จิกข้าวสาร

รีบลุกขึ้นยืนทันที ต่อสู้กับจื่อซีที่พุ่งเข้ามา บรรยากาศและพลังที่แสดงออกมามีมากพอ ดูเหมือนกับศัตรูคู่แค้นเจอหน้ากัน สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

จื่อเฟิงก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

องครักษ์หน้าบากที่ยืนอยู่ข้างๆ เดิมทีคิดจะอาศัยจังหวะโจมตีโม่เหลียงเฉินให้ถึงชีวิต แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา

เอาชีวิตคุณชายเหลียงเฉิน ยังไม่สู้ฆ่าอ๋องเย่เสีย จากนั้นก็ถือโอกาสฆ่าเทพธิดา ถึงเวลาก็จะมีความรุ่งโรจน์ร่ำรวยมั่งคั่งเสพสุขไม่รู้จบ”

ดังนั้น!

เขามองไปที่อ๋องเย่ครู่หนึ่ง พบว่าตาของเขาปิดลง เหมือนกับว่าหมดสติไปแล้ว

ความตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้าทันที

โอกาสทองแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือโจมตีให้ตายในคราเดียว

หลังจากที่เล็งเป้าหมายไปที่อ๋องเย่ที่นอนครึ่งตัวอยู่บนพื้นแล้ว เขารีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ใช้แรงทั้งหมดที่มีแทงไปที่หน้าอกของอ๋องเย่

หลานเยาเยาหรี่ตาลง กำหมัดเอาไว้แน่นเล็กน้อย

ขณะที่กระบี่คู่กายขององครักษ์หน้าบากกำลังจะแทงถึงหน้าอกอ๋องเย่ ดวงตาเย็นชาดุจสระน้ำที่เยือกเย็นคู่หนึ่งลืมขึ้นในพริบตา

กระบี่คู่กายในมือของเขาไม่อาจเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้อีก เพราะในตอนนี้เขาถูกบีบคอเอาไว้

“ท่าน……”

“แควก……”

องครักษ์หน้าบากได้กล่าวออกมาแค่คำเดียว ก็ถูกหักคอจนตาย

หลังจากที่โยนศพออกไปข้างหนึ่งแล้ว เย่แจ๋หยิ่งขยับสองสามก้าวช้าๆ ไปที่ตำแหน่งข้างหน้าต่างพอดี

ดูเหมือนทั้งร่างกายของเขาจะไม่มีเรี่ยวแรง พิงอยู่ข้างกำแพงอย่างเอื่อยเฉื่อย ค้ำหัวเอาไว้ด้วยมือเดียว ปล่อยให้เส้นผมพัดปลิวเบาๆภายใต้สายลมแห่งการต่อสู้ เขามองดูพวกเขาแสร้งทำเป็นสู้กันอย่างเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มอยู่อย่างนั้น

ท่าทางเหมือนกำลังดูการแสดง

โม่เหลียงเฉินเห็นท่าทางของเขาเป็นครั้งคราว ยังอดกระตุกมุมปากอย่างแรงไม่ได้

เย่แจ๋หยิ่งมองไปทางหลานเยาเยา ยื่นมือตบไปบนพื้นข้างๆตัวเขา ความหมายคือให้นางไปนั่งชมพร้อมกับเขา

“……” หลานเยาเยาส่ายหน้าเอามือก่ายหน้าทนดูต่อไปไม่ไหวอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้……

จะแสดงให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?

“ปึง……”

โม่เหลียงเฉินถูกจื่อเฟิงเตะเข้าไปอย่างแรง ล้มลงไปบนพื้นโดยตรง

โม่เหลียงเฉินรู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาเล็กน้อย

ก็แค่การแสดง พี่ชาย ไม่ต้องโหดขนาดนี้ไม่ได้หรืออย่างไร? เตะนี้มันเจ็บมากรู้หรือเปล่า?

แต่ในไม่ช้า องครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่งก็พังประตูเข้ามา ทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งต่อสู้กัยอย่างดุเดือดขึ้นมา

ในห้องโถงโกลาหลวุ่นวายไปตั้งนานแล้ว

ท่านหานที่ไม่รู้เรื่องอันใด หลังจากที่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ตัดสินใจในยามวิกฤติอย่างเด็ดขาด ให้องครักษ์ของร้านประมูลเสินตู อพยพคนที่อยู่ในห้องโถงออกไป

เดิมทีเขายังคิดจะให้องครักษ์ไปไกล่เกลี่ยให้เลิกสู้กัน แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ที่ดุเดือดรุนแรงเกินไป ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปในทันที แต่เลือกที่จะสั่งให้คนไปแจ้งเรื่องที่ศาลต้าหลี่

ศึกใหญ่ครั้งนี้ของเย่แจ๋หยิ่งกับเทพธิดา ต่อสู้กันนานกว่าหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีคนตาย คนของศาลต้าหลี่มาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สามารถที่จะไกล่เกลี่ยได้

สุดท้ายองค์ชายรัชทายาทเย่หลีเฉินมาด้วยตัวเอง ถึงจะหยุดพวกเขาเอาไว้ได้

ถึงแม้จะไม่สู้กันแล้ว แต่ต่างฝ่ายต่างก็กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันแล้ว จากไปด้วยความโกรธ

เหลือไว้แค่ห้องส่วนตัวที่ยุ่งเหยิงรุงรังเอาไว้

เย่หลีเฉินยืนอยู่ในห้องส่วนตัว มองดูรอยเลือดที่อยู่บนพื้น และองครักษ์ที่ตายไป สายตาลึกลงไปอย่างอดไม่ได้

เขามองไปทางท่านหานที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวถามว่า:

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท