หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 430 ยากมากที่จะใจใหญ่สักครั้ง

บทที่ 430 ยากมากที่จะใจใหญ่สักครั้ง

บทที่ 430 ยากมากที่จะใจใหญ่สักครั้ง

เมื่อมาถึงโต๊ะตัวนั้น หลานเยาเยาก็วางจานลงเบาเบาแล้วเริ่มกินขาหมู โดยไม่ได้มองผู้หญิงที่ปิดบังหน้าตัวเองอย่างมิดชิดที่อยู่ตรงหน้าสักแวบ

แววตาของหญิงผู้นั้นมีความประหลาดใจฉายผ่าน จากนั้นก็มองไปยังโต๊ะจำนวนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ พบว่าในนั้นยังมีโต๊ะอีกสองสามตัว ไม่มีคนแม้สักคน

อีกทั้ง เมื่อครู่นางมีสังเกตคนผู้นี้แล้ว เดิมทีนางนั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัวหนึ่ง ไม่รู้ว่าเจ้าของแผงขายของพูดอะไรกับนาง นางจึงได้มานั้นที่นี่อย่างฉับพลัน

คนด้านหน้าผู้นี้ นางรู้สึกคุ้นเคย หลังจากมองอย่างละเอียดแวบหนึ่ง ดวงตาก็เบิกกว้างทันใด นางขยี้ตา และหลังจากที่มองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง แววตาก็เหลือเพียงความหวาดผวาแล้ว

นางอุดปากไว้ พยายามลดความมีตัวตนของตัวเองลงอย่างสุดกำลัง

โอ้สวรรค์!

เป็นเทพธิดานี่…….

สองสามวันก่อน ก็เป็นเทพธิดาลอบสังหารเสด็จอา ตอนนี้เสด็จอายังล้มหมอนนอนเสื่อ แม้การดำเนินชีวิตก็ไม่สามารถจัดการเองได้

นางต้องอยู่ห่างเทพธิดาให้ไกลหน่อย

อย่างไรก็ตาม!

ตอนนี้กับเทพธิดาและเสด็จอานั้นเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ถ้าไม่ระมัดระวัง นางก็จะตายโดยไม่มีความผิดใด

ไม่ผิด!

ใส่หมวกงอบ ห่อหุ้มตัวเองไว้อย่างมิดชิดไว้ก็คือ พระราชธิดาจาวหยางโหลวเย่ว

เวลานี้ ในใจของนางหวาดผวา หากว่าให้เทพธิดารู้ว่านางคือพระราชธิดาจาวหยางล่ะก็ จะต้องโดนนางแทงเข้าไปสองสามมีดที่นี่โดยตรงแน่ๆ

ดังนั้นนางจึงรีบเอามือวางไว้ตรงหน้าผาก จากนั้นก็ปิดตา เดิมทีอยากรีบจากไปโดยเร็ว แต่มองดูขาหมูที่เพิ่งยกมาเมื่อครู่ ควันร้อนระอุขึ้นวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูกของนาง

อดไม่ไหวจริงๆ นางโหลวเย่วก็กินไปอีกหลายคำ

กินไปพลางก็ยังระมัดระวังความเคลื่อนไหวของคนฝั่งตรงข้ามไปพลาง

ที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือ เดิมทีนางคิดว่าตัวเองกินเร็วพอแล้ว คิดไม่ถึง เทพธิดาที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางกินได้รวดเร็วกว่านาง

เวลานี้!

หลานเยาเยาก็ยืนขึ้นอย่างกะทันหัน โหลวเย่วตกใจจนตัวสั่น ยังคิดว่าจะโดนจำได้แล้ว

กลับคิดไม่ถึง……

เทพธิดาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะโดยตรง : “เจ้าของแผง เอาขาหมูใส่ห่อให้ข้าอีกสิบสามอัน”

“ได้ขอรับ!”

เจ้าของแผงขายของวิ่งเข้ามาอย่างดีอกดีใจ มองเห็นตั๋วเงินใบนั้น รีบกล่าวขึ้นอย่างเก้ๆกังทันที : “แม่นาง ท่านมีเศษเหรียญเงินหรือไม่? มูลค่าของตั๋วเงินใบนี้ใหญ่เกินไป ที่ข้านี้หาทอนไม่ได้”

“หาทอนไม่ได้?” หลานเยาเยามองที่โหลวเย่วแวบหนึ่งอย่างนิ่งเฉย จากนั้นก็พูดอย่างเรียบๆ “ของนางจ่ายพร้อมกับข้าเลย”

โหลวเย่วเหลือบมองไปที่นางอย่างประหลาดใจทันที โบกมืออย่างรีบร้อน คิดต้องการปริปากพูด กลับพบว่าคนอื่นเทพธิดานั้นไม่ได้มองดูนางแม้สักน้อย

“นี่ นี่……”

เจ้าของซุ้มอาหารไม่เข้าใจเหตุผล แต่เขามีมาตรฐานในการทำการค้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขามองดูเหรียญเงินแล้วกล่าว : “แม้ว่าจะจ่ายเหรียญเงินให้แม่นางผู้นี้ ก็หาทอนไม่ได้เช่นกันขอรับ!”

“ไม่เป็นไร ที่เกินไปก็มอบให้เจ้าแล้ว” หายากมากที่หลายเยาเยาจะใจกว้างสักที ถ้าเจ้าของแผงขายของลังเลสักน้อย นางก็รีบเก็บเหรียญเงินกลับมาทันที

ใครจะรู้……

เจ้าของแผงขายของกล่าวขอบคุณด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม หยิบตั๋วเงินขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเป็นที่สุด ท่าทางได้เปรียบเป็นอย่างมาก

“……”

“ขอบคุณแม่นางมากๆ ขอบคุณท่านเป็นอย่างมากจริงๆ แม่นางมาคราวหน้า ข้าจะต้องให้ขาหมูท่านมากขึ้นสองสามที่เป็นแน่”

“……เอาเถอะ!” ค่อนข้างเจ็บปวดใจ

แววตาที่มองไปทางเจ้าของแผงของของก็รู้สึกเยือกเย็นเล็กน้อย

ขาหมูสิบกว่าห่อในใม่ช้าก็ใส่ห่อเสร็จแล้ว หลานเยาเยาลุกขึ้นจากโต๊ะ หยิบขาหมูก็จากไป

ขณะเดียวกันโหลวเย่วก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทิศทางที่เทพธิดาจากไป

มองดูเงาหลังของนาง นางก็แอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

ยังคิดว่าเสด็จอากับนางจะชอบพอกันน่ะ! คิดไม่ถึงกลับทำให้เป็นทีท่าอย่างตอนนี้ได้ คิดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ นางยังช่วยนางจ่ายเหรียญเงินอีกด้วย

คาดว่าคงไม่รู้ว่านางเป็นใครน่ะสิ!

มิฉะนั้นจะต้องเอามีดมาแทงนางแล้วเป็นแน่

เพียงแต่ทำไม ถึงคุ้นเคยเงาหลังของนางเพียงนี้?

ตำหนักเทพธิดา

หลังจากที่หลานเยาเยากลับมา ก็เอาขาหมูที่ใส่ห่อมาให้คนส่งไปให้ตาแก่ทั้งหลายนั้น

ยังเหลืออยู่ในมืออีกสามชุดนี้ นางก็เอากลับไปที่ห้องบรรทม

ที่ประตูห้องบรรทม

เวลานี้เย็นหงกำลังนั่งอยู่ที่ประตูห้อง ถือเข็มด้ายไม่รู้ว่ากำลังปักอะไรอยู่ โดยเฉพาะย่างยิ่ง ใบหน้าของนางก็แขวนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ราวกับว่าอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

อาจจะเป็นเพราะปักเคลิบเคลิ้มไปแล้ว ถึงขั้นหลานเยาเยาเดินมาถึงข้างกายนางก็ยังไม่รู้

หลานเยาเยามองดูงานปักในมือของนางอย่างสงสัย

คิดไม่ถึงว่าเป็นคนสองคน ชายผู้หนึ่งและหญิงผู้หนึ่ง ผู้หญิงล้มลงที่พื้นราวกับว่าได้รับความตกใจ และผู้ชาย ราวกับว่ากำลังทะลุหน้าต่างเข้าไป……

มองดูรอยยิ้มบางๆที่แขวนอยู่บนใบหน้าของเย็นหง นางกล่าวอย่างสงสัยว่า :

หรือว่าเพราะมีความโหยหาความรักแล้ว?

คิดถึงใครล่ะ?

แม้ว่านางจะไม่สนใจการเย็บปักถักร้อย แต่กลับสามารถดูออก ผู้หญิงในงานปักของเย็นหงเป็นตัวนางเอง และในมือของผู้ชายผู้นั้นถือดาบไว้ สีบนเสื้อผ้ายังไม่ได้ปักออกมา ดูท่าทางจะน่าเป็นองครักษ์ในตำหนัก

เพียงแต่ องครักษมากมายขนาดนั้น จะเป็นผู้ใด?

“เย็นหง!”

หลานเยาเยาเรียกนางเบาๆเสียงหนึ่ง

เย็นหงรีบกระโดดขึ้นทันที จากนั้นก็เอางานปักในมือซ่อนไว้ด้านหลัง สีหน้าแดงก่ำขึ้น

“เทพ เทพธิดา ท่านกลับมาแล้ว!”

“เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าปักของอยู่ ที่ปักคืออะไร? เป็นสิ่งของที่เป็นคู่กันหรือ?” หลานเยาเยาตั้งใจหยอกล้อนางรอบหนึ่ง

“ไม่ใช่เจ้าคะ ไม่ใช่ เทพธิดา ข้าเพียงแค่ปักภูเขาแม่น้ำเจ้าค่ะ”

“ภูเขาแม่น้ำหรือ?”

หลานเยาเยาตั้งใจเลิกคิ้ว มุมปากอมยิ้ม บนใบหน้ามีความสงสัยอย่างหนัก ทำให้เย็นหงหน้าแดงก่ำยิ่งขึ้น นางยังไม่ได้ตอบ หลานเยาเยาก็กล่าวต่ออีก :

“ห้ามโกหกข้า ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาร้ายแรงมาก”

พูดพลาง นางก็หรี่ตาลงเล็กน้อย

เมื่อเห็นหงหน้าซีด “เทพธิดา ข้า……”

“ข้าเห็นหมดแล้ว ที่เจ้าปักเป็นคนสองคน บอกข้า ชายหนุ่มผู้ใดกันที่เจ้าชอบพอ? ข้าจะช่วยเจ้าไปชักจูงมา หากว่าบุคลิกใช้ได้ และคนอื่นเขาก็ชอบเจ้า ข้าก็จะรับหมั้นเจ้าให้เขา”

เมื่อนางกล่าวคำเมื่อครู่จบ นอกจากเห็นเย็นหงหน้าแดงแล้ว แม้แต่ใบหูกับลำคอก็แดงขึ้นมาด้วย

“เทพธิดา ไม่ใช่เจ้าค่ะ ไม่ใช่ ข้า ข้า……”

เย็นหงพูดข้ามาครึ่งวันแล้วก็ข้าไม่ออกเหตุผลมาสักที

หลานเยาเยาเอียงศีรษะเล็กน้อยมองดูท่าทางเขิลอายของนาง เปิดปากพูดอีกครั้ง : “เจ้าก็โตไม่ได้เป็นเด็กแล้ว ควรหาคนดีดีแต่งงานได้แล้ว”

เย็นหงรีบคุกเข่าลงทันที ส่ายหัวแล้วกล่าว :

“ข้าน้อยจะติดตามเทพธิดาจนตาย ยินยอมติดตามอยู่ซ้ายขวาทั้งชีวิต ไม่คิดแต่งงาน เป็นทาสหนึ่งวันเพื่อเป็นทาสตลอดชีวิตเจ้าค่ะ”

นางได้แอบสาบานมานานแล้ว หากมีคนช่วยนางออกมาจากตลาดดำ นางจะติดตามตลอดชีวิต จะเป็นตายก็ไม่ทอดทิ้ง

วันนี้เป็นเทพธิดา ช่วยนางออกมาจากความระกำลำบาก ยังปฏิบัติเหมือนนางเป็นคนกันเองอีก เจ้านายเช่นนี้ นางจำเป็นต้องติดตามตลอดชีวิต

เห็นคำพูดที่จริงใจนาง หลานเยาเยาก็ไม่หยอกล้อนางแล้ว

“ลุกขึ้นเถอะ!”

จากนั้นก็ส่งขาหมูชุดหนึ่งไปบนมือนาง “รีบกินเถอะ! นานๆทีข้าจะใจกว้างสักครั้ง”

“ขอบคุณเทพธิดาเจ้าค่ะ!” เย็นหงลุกขึ้น

หลานเยาเยามองดูขาหมูที่เหลืออยู่ในมืออีกสองห่อ เคลื่อนสายตาไปยังที่มืด จกานั้นก็เอาขาหมูสองห่อ โยนเข้าไป

เย็นหงตกตะลึง รีบกล่าวว่า :

“เทพธิดา ทำไมท่านถึงได้โยนขาหมูไปแล้วเจ้าคะ?”

“โยน? แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยทำลายข้าวของ นั่นคือให้ซีและเฟิง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท