หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 434 ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับคนงาม

บทที่ 434 ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับคนงาม

บทที่ 434 ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับคนงาม

“จริงหรือ?”

ตอนนี้หญิงชาวสวนไม่ได้สนใจแล้วว่าขโมยหรือไม่ขโมยของ ตอนนี้นางสนใจแต่เส้นทางการสอบขุนนางของลูกชาย

เพียงแค่สามารถสอบขุนนางได้อย่างราบรื่น ให้นางทำอะไรนางก็ยอม……

“จริงแน่นอน เจ้าก็รู้ว่าคุณหนูนั้นซื่อสัตย์จริงใจ เจ้าเพียงแค่ต้องช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆของลูกชายอีกเลย เรื่องดีขนาดนี้ มีเพียงแต่เจ้าที่จะสัมผัสได้”

หญิงชาวสวนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

ทันใดนั้นนางก็หัวเราะทั้งน้ำตา คุณหนูถังมู่หวั่นนั้นดีต่อพวกเราคนสวนจริงๆ เพื่อลูกชายของตนแล้ว นางจึงพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ต้องคิด

“ได้ ได้ๆๆ ตราบใดที่อนาคตของชิงเหยนไร้กังวลใดๆ ให้ข้าน้อยทำอะไรก็ยอม”

เสี่ยวเหลียนยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั่นกลับทำให้ใจของหญิงชาวสวนนั้นเย็นวาบ เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา หญิงชาวสวนก็ตกใจ “ท่านจะทำอะไร?”

“ทำอะไรได้? แน่นอนว่าจะบอกเจ้า เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าทำ”

มือข้างหนึ่งของเสี่ยวเหลียนวางไว้บนไหล่ของหญิงชาวสวน เอาปากมาใกล้ๆหูนาง และพูดเบาๆว่า: “เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าทำก็คือ……”

พูดยังไม่ทันจบ มืออีกข้างหนึ่งของเสี่ยวเหลียนก็ดึงมีดขึ้นมาเล่มนึง และแทงเข้าไปที่ร่างกายของหญิงชาวสวน

“ท่าน ท่าน……”

หญิงชาวสวนพูดไม่ออก มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก นางทำได้เพียงแค่ชัก จ้องมองคนที่แทงนาง

เสี่ยวเหลียนยิ้มเยาะ ดึงมีดออกมา และใช้เท้าเตะหญิงชาวสวนล้มลงไปกับพื้น “เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าช่วยก็คือให้เจ้าไปตาย”

หลังจากนั้น

เสี่ยวเหลียนก็กดตามองต่ำไปยังหญิงชาวสวนที่ชักกระตุกจนหมดลมหายใจ

“แอ๊ด……”

ประตูไม้เก่าบานนึงเปิดออก นอกห้องมีองครักษ์สองคนรักษาการอยู่ เมื่อเห็นเสี่ยวเหลียนเดินออกมา ก็ยกมือคำนับอย่างประจบประแจง

น่าเสียดายที่เสี่ยวเหลียนไม่เหลือบมองพวกเขาสักนิด

“เอาศพแก่ๆนั่นลากไปทิ้งที่ประตูเหล็กร้างนั่น”

“ขอรับ!”

องครักษ์สองนายก็รีบพุ่งเข้ามาในห้อง ยกศพของหญิงชาวสวนขึ้น และมุ่งไปยังสถานที่ที่เสี่ยวเหลียนบอก

ในสถานที่ที่ห่างจากห้องเครื่องมือเกษตรไม่ไกลนัก มีศาลาหกเหลี่ยมล้อมด้วยผ้าบางๆอยู่ สายลมพัดเบาๆ ผ้าบางๆปลิวว่อน ด้านในมีร่างคนสองคนเคลื่อนไหวอยู่

คนหนึ่งนั่งอยู่บนม้าหิน ถือชิมน้ำชา ท่าทางเหมือนกับอ๋องเย่ตอนดื่มชา อีกคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ไม่รู้ว่ากำลังร้องขออะไร

เสี่ยวเหลียนเช็ดคราบเลือดที่อยู่ในมือ และรีบไปยังศาลา ก็เห็นท่านชายที่ท่าทางเหมือนกับผู้เรียนหนังสือ กำลังก้มหัวให้ถังมู่หวั่นที่นั่งอยู่บนม้าหิน

“ขอร้องคุณหนูถังได้โปรดปล่อยท่านแม่ของข้าไป ข้าจะยอมทำทุกอย่าง”

คนที่พูดอยู่คือหลี่ชิงเหยน ลูกชายของหญิงชาวสวน เขารู้ว่าท่านแม่ทำเพื่อให้ตนเองได้สอบขุนนางอย่างสบายใจ จึงขโมยเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ไปขายเปลี่ยนมาเป็นเงิน ให้ตนเองได้กินได้ใช้ ตอนนี้ถูกขังเอาไว้

หลี่ชิงเหยนเลื่อมใสถังมู่หวั่น แต่เพื่อท่านแม่ของตนแล้ว เขาจำเป็นต้องคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อท่านแม่

ใบหน้าของถังมู่หวั่นนั้นมีความลำบากใจ สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดว่า:

“ท่านชายหลี่ ท่านแม่ของเจ้าแม้จะเป็นแค่คนสวนในสวนว่างฮัว แต่นางก็ซื่อสัตย์มาโดยตลอด ข้อนี้ข้ารู้ดี ถ้าบอกว่านางขโมยเมล็ดพันธุ์……ข้าเองก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อข้อเท็จจริงมันอยู่ตรงหน้า ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้

ประเทศก็มีกฎหมายของประเทศ บ้านก็มีกฎของบ้าน เรื่องการขโมยแบบนี้อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด”

ทันใดนั้นสีหน้าของท่านชายหลี่ก็ซีด และเขาก็อ้อนวอนอีกครั้ง

“คุณหนูถัง ท่านแม่ไม่ใช่คนเช่นนั้น ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง แต่นั่นก็ทำเพื่อข้า

เอาเช่นนี้แล้วกัน ข้า ข้าจะรับแทนท่านแม่เอง ท่านจะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้ ได้โปรดปล่อยนางไป นางอายุเยอะแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยดี รับความทรมานไม่ได้”

“เอาหล่ะ มันก็เป็นแค่เพียงเมล็ดพันธุ์ก็เท่านั้น ข้าไม่เอาชีวิตท่านแม่เจ้าหรอก เห็นแก่ที่เจ้ามีใจกตัญญู งั้นข้าจะให้เจ้ารับโทษแทนท่านแม่เจ้าแล้วกัน! ข้ามีเรื่องเล็กๆน้อยๆ ต้องการให้เจ้าช่วยพอดี เจ้าช่วยข้าสักครั้งก็พอแล้ว”

“ได้ ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของคุณหนูถังนัก”

……

ตอนที่หลานเยาเยาและเย่หลีเฉินมาถึงศาลา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ

องค์ชายรัชทายาทในตอนนี้ ไม่เหมือนกับองค์ชายรัชทายาทในปีนั้นอีกแล้ว เขาไม่ดื่มเล่นสำราญ เที่ยวผู้หญิงอีก มีความสุขุมมากขึ้น มีความน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

ส่วนเทพธิดา ใบหน้างดงามเตะตา เบื้องหลังลึกลับ ช่วงนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะลอบสังหารอ๋องเย่ ทำให้ทั้งสองฝั่งแตกร้าว ทำเอาโจษจันไปทั่วเมือง

ทุกคนไม่พอใจกับการลอบสังหารอ๋องเย่ แต่นอกจากนี้แล้ว สติปัญญาและความกล้าหาญของนางนั้นอยู่ห่างไกลจากทุกคน ทำให้ทุกคนชื่นชมนาง

แน่นอน!

หานแสที่ยืนอยู่ข้างหลังหลานเยาเยาและเย่หลีเฉิน

ใบหน้าธรรมดา ไม่มีชื่อเสียง มีเพียงไม่กี่คนที่สนใจเขา

ตอนที่ถังมู่หวั่นมาถึง ก็เห็นเทพธิดาผู้ดึงดูดสายตากับองค์ชายรัชทายาทนั่งอยู่ข้างๆ กลายเป็นที่สนใจของทุกคน ตอนที่ได้ยินทุกคนพูดถึงเรื่องอาการบาดเจ็บของอ๋องเย่ขึ้นมา เทพธิดาก็ทำเป็นหูทวนลม ทำท่าทางราวกับไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง

ถังมู่หวั่นหรี่ตาเล็กน้อย!

แต่ในไม่ช้านางก็เงยหน้ายกยิ้มขึ้นมา หลังคารวะและเอ่ยคำพิธีรีตองกับทุกคนเสร็จ ก็พาทุกคนไปชมดอกไม้

แน่นอนว่า ถังมู่หวั่นเชื้อเชิญหลานเยาเยาเป็นพิเศษ ในตอนที่คารวะ นางก็ตั้งใจขอโทษอีกครั้ง

การชมดอกไม้เริ่มขึ้น ทุกคนก็ลงจากศาลา มุ่งไปยังทุ่งดอกไม้ พลางชมดอกไม้ไปพร้อมๆกับแสดงความสามารถในการแต่งกลอนของตัวเอง

พวกเขากระจายกันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มนึงมีเจ็ดแปดคน ล่องลอยไปยังผืนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม

ในศาลาใหญ่ เหลือเพียงแค่สองคน

คนนึงคือหลานเยาเยาที่ปฏิเสธดอกไม้ตามสัญชาตญาณ อีกคนคือเย่หลีเฉินที่อยากอยู่ข้างกายเทพธิดา พูดคุยดื่มชากับนาง

สำหรับการชมดอกไม้ เย่หลีเฉินรู้สึกว่าการอยู่กับเทพธิดา แม้จะไม่ได้พูดอะไรสักประโยค แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

พวกเขาหาอะไรคุยเล่นเรื่อยเปื่อยแก้เขิน

ทันใดนั้น!

“ตึก ตึก ตึก……”

เสียงฝีเท้ารีบเร่งดังมาจากข้างล่าง วิ่งขึ้นมาด้านบน หลังจากที่เสี่ยวเหลียนสาวใช้ข้างกายของถังมู่หวั่นมาถึงตรงหน้าของพวกเขา แล้วทำการคารวะ ก็รีบพูดอย่างร้อนรนว่า:

“องค์ชายรัชทายาท กลอนคู่ที่สัมผัสยากที่สุดของท่านเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้ได้มีคนคิดกลอนออกมาสัมผัสต้องกันแล้ว คุณหนูของข้าน้อยเชิญท่านไปดู”

สามปีก่อน ตอนที่เย่หลีเฉินชมดอกไม้อยู่ ได้คิดกลอนออกมาหนึ่งท่อน เป็นที่ขนานนามมาแต่โบราณว่าเป็นกลอนคู่ที่สัมผัสยากที่สุด ตอนนี้ได้มีคนคิดมันออกมา แววตาของเย่หลีเฉินเป็นประกาย เกิดความแปลกประหลาดใจขึ้นมาทันที

“เอ? เป็นผู้ใดกัน?”

“มิทราบ ท่านชายผู้นั้นมาร่วมงานชมดอกไม้ครั้งแรก ยังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนาม”

คนที่สามารถคิดท่อนมาสัมผัสกันได้ ความสามารถในการแต่งกลอนนั้นต้องดีมาก แน่นอนว่าเย่หลีเฉินต้องอยากไปดูสักครั้ง เขาจึงรีบหันกลับมาเชิญหลานเยาเยาให้ไปด้วยกันทันที

“เทพธิดา พวกเราไปดูด้วยกันดีไหม?”

หลานเยาเยาปฏิเสธไปตรงๆ

“ไม่ไป ความเงียบสงบที่หายากเช่นนี้ ข้านั่งชมดอกไม้ตรงนี้ดีกว่า”

“งั้นข้าจะไปแล้วกลับมา”

“ตามใจเจ้า”

มองเย่หลีเฉินลงศาลาไปอย่างรีบร้อน หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่ยิ้มขึ้นมาอย่างเอ็นดู

กลอนคู่นั่น เป็นนางที่เอาท่านชายระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บังคับให้กลายเป็นท่านชายที่มีพรสวรรค์ด้านการแต่งกลอน แล้วก็แต่งกลอนออกมา จากนั้นนางก็ไปซื้อท่านชายที่ดูไม่เตะตาของตระกูลร่ำรวยมา สั่งให้เขาไปแต่งกลอนคู่ เพื่อดึงดูดเย่หลีเฉิน

เย่หลีเฉินจากไป

หลานเยาเยาก็เอนไปด้านหลังพิงราวบันได หันหัวมองไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง ร่างสีม่วงเข้มก็ปรากฏขึ้นในสายตา

หานแสในตอนนั้นก็มองมา เขาเด็ดดอกไม้ที่อยู่ข้างๆ ยกดอกไม้ขึ้นมาแล้วยิ้มชั่วร้ายให้นาง

เมื่อหลานเยาเยาบินลงไป พวกเขาก็หาที่อำพรางเพื่อคุยกัน

“ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับสาวงาม”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท