หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 439 ถามข้อสงสัย

บทที่ 439 ถามข้อสงสัย

บทที่ 439 ถามข้อสงสัย

“คนโดนมนต์ดำ!”หลานเยาเยาตอบเรียบๆ

“คนโดนมนต์ดำ?”เย่หลีเฉินตกตะลึง

เขาเคยได้ยินเรื่องคนโดนมนต์ดำเล่าต่อๆกันมา แต่มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?

อีกอย่างคนนั้นก็เห็นชัดๆว่าเป็นสาวใช้ ซ้ำเขายังรู้สึกว่าสาวใช้คนนี้ดูคุ้นเคยมาก เหมือนจะเป็นสาวใช้ข้างกายของถังมู่หวั่น……

“รีบหลบไปเร็ว มันโจมตีมาทางเจ้าแล้ว”

หลังจากที่ได้รับการเตือน เย่หลีเฉินก็ดึงสติกลับมาทันที จากนั้นก็หลบจากการโจมตีของเสี่ยวเหลียนอย่างรวดเร็ว หันหัวกลับมาถามว่า:

“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?”

“ง่ายมาก ไม่ยิงหัว ก็หั่นจนแหลก หรือไม่ก็ใช้น้ำกรด ทุกวิธีล้วนโหดร้าย แต่ก็ต้องทำเช่นนี้ ถ้าไม่อย่างงั้นถูกพวกมันกัด ในไม่ช้าก็จะกลายเป็นแบบมัน ดังนั้นเจ้าต้องระวัง น้ำกรดข้าตกอยู่แถวๆนี้ ช่วยข้าหาหน่อย”

พูดจบ!

หลานเยาเยาก็รีบแฉลบตัวไปยังด้านหลังของเสี่ยวเหลียน จับมือของมันพาดไปด้านหลัง แล้วจับไว้แน่น

แบบนี้ เสี่ยวเหลียนก็ไม่มีทางสลัดหลุด และก็ไม่สามารถหันกลับมาโจมตีนางได้

แต่ว่า……

กลิ่นเหม็นโฉ่ที่ออกมาจากร่างกายมันนั้นเหม็นมากๆ หลานเยาเยาเกรงว่าตนเองจะทนได้ไม่นาน จึงพูดกับเย่หลีเฉินว่า

“เจ้าเร็วหน่อย ตรงนี้ข้าเกรงว่าจะยื้อเอาไว้ไม่ได้นาน”

“ได้ ข้าจะหาทันที”

ในช่วงเวลาสั้นๆที่เย่หลีเฉินหาน้ำกรดนั้น เหล่าท่านชายคุณหนูกลุ่มนั้นก็มาถึงที่นี่ พวกเขาเผชิญกับทางด้านหลังของหลานเยาเยา

พอมองแบบนี้

ก็เหมือนกับหลานเยาเยากำลังปฏิบัติต่อสาวใช้อย่างโหดร้าย

ทันใดนั้นก็มีคนส่งเสียงถามออกมา: “เทพธิดา ท่านทำอะไรหน่ะ?”

“คนที่เลือดเต็มตัวนั่นเหมือนจะเป็นเสี่ยวเหลียน สาวใช้ข้างกายของคุณหนูถัง ดูเหมือนจะบาดเจ็บไม่น้อย”

มีบางคนไม่กล้าพูดเสียงดัง ทำได้เพียงพูดเสียงเบาๆ:

“ทำไมเทพธิดาเป็นเช่นนี้? กับสาวใช้ที่ไร้กำลัง ต้องลงมือรุนแรงเช่นนี้ เดิมทีนางคิดว่าหล่อนนั้นเป็นเทพธิดาที่สูงส่ง คิดไม่ถึงว่าในที่ลับจะรังแกผู้อ่อนแอกว่าเช่นนี้”

เพราะเป็นสาวใช้ของถังมู่หวั่น

ดังนั้นหลายคนจึงประณามเสียงเบา พลางกับตรวจดูท่าทางของถังมู่หวั่น เมื่อเห็นว่านางมีท่าทางก้มหน้าเงียบๆ เก็บเรื่องราวเอาไว้ในใจไม่กล้าพูดจา ทุกคนก็ยิ่งออกหน้าแทนนาง

แต่พวกเขาไม่เห็นรอยยิ้มในนัยน์ตาของถังมู่หวั่น

สิ่งที่นางต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้!

แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน เทพธิดายังไม่ยอมปล่อยเสี่ยวเหลียน

เสี่ยวเหลียนเป็นสาวใช้ข้างกายที่มีความสามารถมากที่สุดของนาง ถ้านางต้องตาย ที่จริงก็น่าเสียดายอยู่หน่อย แต่ว่าถ้าสามารถทำให้ชื่อเสียงของเทพธิดาย่อยยับ ถูกประชาชนประณาม ประชาชนสูญเสียศรัทธาได้ งั้นเสี่ยวเหลียนจะตายสักร้อยครั้งก็ได้

ทุกคนก็พูดเยอะขนาดนั้นแล้ว

แน่นอนว่าถังมู่หวั่นก็ต้องพูดแสดงความเห็นบ้าง

“เทพธิดา หม่อมฉันไม่รู้ว่าเสี่ยวเหลียนนั้นทำเรื่องชั่วร้ายอะไร จึงทำให้ท่านลงโทษนางเช่นนี้ แต่ตีหมาก็ต้องดูนาย ถ้านางทำอะไรผิดไป หม่อมฉันจะลงโทษเอง โปรดเทพธิดาปล่อยนางก่อน”

ถังมู่หวั่นเดินขึ้นมาข้างหน้าสองสามก้าว เพื่ออยากจะดูว่าอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเหลียนเป็นอย่างไร?

แต่กลับถูกหลานเยาเยามองอย่างรำคาญ และเอาเสี่ยวเหลียนหมุนกลับมาเผชิญหน้ากับพวกเขา……

“อ๊าย ผี!”

ทุกคนร้องอย่างหวาดกลัว

มีบางพวกที่ขี้ขลาด ก็ขาอ่อนลงกับพื้นทันที ส่วนถังมู่หวั่นหน้าซีด ยืนสงบแข็งแกร่ง ชี้ไปบนฟ้าพูดเสียงสั่นเทา:

“ท่านทำอะไรกับเสี่ยวเหลียน?”

“อา มาถึงตอนนี้แล้ว ยังวางแผนทำร้ายผู้อื่นอีกหรือ ไม่มีตารึไง? รบกวนเจ้าช่วยดูให้ชัดเจน หัวและร่างกายของเสี่ยวเหลียนถูกกัดกินไปส่วนหนึ่ง แต่ยังแข็งแรงมีชีวิตชีวา เจอคนก็กัด เจ้าคิดว่านางยังเป็นคนอยู่ไหม?

จะบอกเอาไว้ก่อนนะ ทางที่ดี พวกเจ้าต้องอย่าให้มันกัด ไม่งั้นพวกเจ้าก็จะกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ไร้ความเป็นมนุษย์”

ในตอนนี้

หญิงชาวสวนที่ถูกมัดไว้บนต้นไม้ ก็สลัดผ้าไหมหลุด อ้าปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วพุ่งไปทางเหล่าท่านชายคุณหนู

ทันใดนั้นพวกเขาก็ตกใจวิ่งกระเจิง ต่างคนต่างวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

หลานเยาเยาหรี่ตา!

สมควรตาย!

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป คนที่ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อย……

ดังนั้นนางจึงย้ายสายตามามองเย่หลีเฉินที่ยังคงหาน้ำกรดอยู่ ก็ต้องพบว่าเขาไม่ได้ห้อยดาบวิเศษไว้บนตัว ส่วนมีดที่อยู่ในมือของตนเองนั้น หากต้องการจะหั่นแยกส่วนคงต้องยุ่งยากเล็กน้อย

ขณะนั้นพอดี เย่หลีเฉินก็เห็นน้ำกรดตกอยู่กลางพงหญ้า คิดจะยกมือตะโกนเรียกเทพธิดา

แต่ก็ต้องพบร่างสีม่วงเข้มบินมาและหยุดอยู่ข้างหลานเยาเยา มองคนโดนมนต์ดำที่ต่อสู้ดิ้นรน หานแสขมวดคิ้วถามว่า:

“เกิดเรื่องขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน” หลานเยาเยาตอบเรียบๆ พอคิดได้ว่ายังมีอีกหนึ่งตน ก็รีบพูดว่า “ตอนนี้มีสอง หานแสดึงดาบออกมาและต้องจัดการให้เร็ว ยังมีอีกหนึ่งตน ที่ไม่รู้ว่าไปทางไหนแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้น!

หานแสก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง

เขาไม่สนใจว่าคนโดนมนต์ดำอีกคนนั้นไปไหน ที่สนใจก็คือสถานที่ของดอกกระดูกขาว แต่เขาก็ยังชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว กวัดแกว่งด้วยความไวสองสามครั้ง เสี่ยวเหลียนก็ถูกแบ่งออกเป็นสองสามชิ้น

แม้จะยังขยับอยู่ แต่ก็ไม่มีแรงโจมตีแล้ว

หานแสไม่ได้มองเสี่ยวเหลียนมากนัก แต่มองหาร่องรอยของคนโดนมนต์ดำอีกคน จากนั้นก็พูดว่า: “พวกเราไปจัดการคนโดนมนต์ดำที่เหลือก่อน จากนั้นค่อยมาหาดอกกระดูกขาว”

ในเมื่อมีคนโดนมนต์ดำปรากฏออกมา

นั่นก็พิสูจน์ได้ว่า ข่าวที่หลานเยาเยาเสนอนั้นถูกต้อง ราชครูเทียนเวิงจะต้องเพาะหนอนพิษกู่จิ้นที่นี่แน่ๆ

“อื้ม!”

ทั้งสองบินจากไปอย่างรวดเร็ว

เย่หลีเฉินที่ถูกทิ้งไว้ หยิบน้ำกรดแล้วลุกขึ้นมาช้าๆ มองไปยังทางที่พวกเขาจากไป แววตาล้ำลึก

พวกเขาสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เย่หลีเฉินมองน้ำกรดแว็บนึง และไปตรงหน้าเสี่ยวเหลียนที่ถูกตัดแขนขา เปิดฝาน้ำกรดออกแล้วราดลงไปบนตัวของเสี่ยวเหลียน

พอจัดการศพของเสี่ยวเหลียนเสร็จ เย่หลีเฉินก็ไล่ตามพวกหานแสไปด้วยความเร็ว ในตอนที่เจอพวกเขา หานแสก็เอาชนะคนโดนมนต์ดำอีกคนได้แล้ว

มีท่านชายและคุณหนูสองสามคนถูกกัด ทุกคนได้เห็นคนที่มีสติดีคนหนึ่ง ค่อยๆสูญเสียสติสัมปชัญญะ กลายเป็นท่าทางดุร้ายน่ากลัวด้วยตาตนเอง

“ชิ้ง!”

หานแสยกมือขึ้นฟันกระบี่ลง หัวคนก็ตกลงกับพื้น เขาไม่สนใจหัวของคนโดนมนต์ดำที่โดนตัดไปแล้วยังขยับอยู่ หมุนตัวมุ่งไปทางคุณหนูอีกคนที่ถูกกัดบาดเจ็บ

เมื่อเห็นเขาค่อยๆเดินมาใกล้ ก็มีคนตะโกนว่า:

“นางยังมีชีวิตอยู่”

หานแสทำเป็นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ยกกระบี่ขึ้นเพื่อจะฟัน……

เย่หลีเฉินรีบก้าวมาข้างหน้า จับแขนของหานแสที่ยกกระบี่ขึ้นเอาไว้ แล้วพูดอย่างรีบร้อนว่า:

“นางกำลังหวาดกลัว นางยังไม่ตาย”

หานแสหันกลับมามองเย่หลีเฉิน จากนั้นก็วางมือลง พูดเย็นชาว่า: “งั้นก็รออีกหน่อย ยังไงก็ในไม่ช้านี้”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ!

สิ้นเสียงหานแสไม่นาน คุณหนูที่ถูกข่วนคนนั้น รูม่านตาก็เริ่มหย่อน ตาดำก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจนมีเพียงแต่ตาขาว เล็บมือก็ยาวอย่างรวดเร็ว ปากก็ส่งเสียงแหบแห้งน่ากลัวออกมาบางครั้ง……

คนที่เดิมทีสนับสนุนคุณหนูผู้นั้น เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็หวาดกลัว โดนหลานเยาเยาตำหนิว่า พวกเขาเพิ่งปล่อยคุณหนูที่กลายเป็นคนโดนมนต์ดำหนีไปไกลแล้ว

เมื่อเห็นท่าทางเป็นบ้า อยากกัดคนของนาง เย่หลีเฉินก็ดึงมือที่ขวางหานแสกลับมา

หานแสยกมุมปากขึ้น กระบี่ตัดลงไปที่หัวอีกครั้ง

มองคนโดนมนต์ดำที่ยังไม่หยุดขยับ พอไม่มีหัว พวกมันก็สูญเสียการโจมตีไป แต่ยังคงแยกเขียวกางเล็บ น่าหวาดกลัวอยู่ แต่ตราบใดที่ไม่ไปแตะพวกมันก็เพียงพอแล้ว

เย่หลีเฉินหลับตาเงียบๆ……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท