หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 446 มือข้างเดียวตีจนตาย

บทที่ 446 มือข้างเดียวตีจนตาย

บทที่ 446 มือข้างเดียวตีจนตาย

เมื่อพวกเขาไป

ภายใต้การแนะนำของหานแส ป่ายเม่ยเซิงและซาหมั่นเฉิงก็ได้รีบขึ้นจากร่องบันไดเพื่อตามพวกของจื่อซีไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้

มีคนเพียงสามคนที่เหลืออยู่ในอุโมงค์ ได้แก่ หลานเยาเยา หานแสและเย่หลีเฉิน

แม้ว่าเย่หลีเฉินจะกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านั้น แต่ก็มีคนจำนวนมากมายได้ขึ้นไปแล้ว อีกทั้งคนเหล่านั้นดูเหมือนจะเหมือนกันกับเทพธิดา ที่รู้วิธีจัดการกันคนโดนมนต์ดำ

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตามขึ้นไป

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ จะต้องทำลายสถานที่เพาะพันธุ์พิษกู่จิ้นของราชครูเทียนเวิง

ดังนั้น!

ในเวลาเดียวกันพวกเขาทั้งสามก็มองไปที่ประตูหินที่มีรอยร้าวอยู่หลายสาย

“เทพธิดา นี่มันดอกกระดูกขาวในตำนานไม่ใช่หรือ”

เย่หลีเฉินได้จ้องมองดอกไม้ที่งอกออกมาจากรอยแตก สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

กดอกไมม้แดงดั่งเลือดนี้ ดูมีเสน่ห์และงดงาม แต่กลับเผยให้เห็นถึงความแปลกประหลาดบ้างเป็นบางครั้ง เมื่อได้เห็นก็รู้ว่าไม่ใช่ดอกไม้ที่ดีอะไร

“ใช่เลย!”

เมื่อได้รับคำตอบยืนยัน เย่หลีเฉินก็ยิ่งจริงจังขึ้นมา จากนั้นจึงพูดกับหลานเยาเยา

“ดอกกระดูกขาวเป็นดอกไม้ที่ดูแลยากชนิดหนึ่ง มันสามารถอยู่ได้โดยไม่มีแสงแดด และอดทนต่อความแห้งแล้งแต่กลับไม่สามารถขาดศพไปได้ ดังนั้นหากต้องการปลูกดอกกระดูกขาว ก็ใช้ได้เพียงศพมาเลี้ยงมัน

จากนั้นดอกที่ตูมของดอกกระดูกขาวจะหล่อเลี้ยงพิษกู่จิ้น จึงจะได้พิษกู่จิ้นที่บริสุทธิ์ กล่าวได้ว่าเป็นการบำรุง มากกว่าจะบอกว่าเป็นกาฝาก”

หลังจากได้ฟัง เย่หลีเฉินก็ตกใจอย่างไม่หยุดหย่อน ถึงในใจจะแอบตัดสินใจไปแล้ว ว่าจะต้องทำลายดอกกระดูกขาวที่มีอยู่บนโลกนี้ให้หมด

หลังจากที่พวกเขาเปิดประตูหินนั้น

ดอกกระดูกขาวที่เปื้อนเลือดขนาดใหญ่ดุจเปลวไฟก็มาปรากฏต่อหน้า หลานเยาเยาและหานแสยังโชคดี แม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นดอกกระดูกขาวขนาดใหญ่มาแล้ว แต่เมื่อเห็นดอกกระดูกขาวที่นี่ ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

ไม่นึกเลยว่าจะมากมายขนาดนี้……

ดูแล้วเหมือนว่า ทั้งสวนว่างฮัวนี้จะได้ถูกขุดไปหมดแล้ว

เป็นสิ่งที่เย่หลีเฉินตกใจที่สุด

เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นดอกไม้ชนิดนี้ และทันทีที่เขาเห็นนั้นก็ได้เห็นขนาดใหญ่โตเช่นกัน ตะลึงอยู่ในใจ ไม่เชื่อในสายตาของตนเอง

“ทำไมมีมากมายขนาดนี้”

เย่หลีเฉินกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ

เพียงพิษกู่จิ้นเขมือบคนแค่คนเดียว ก็สามารถแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้อีกมาก ดอกกระดูกขาวมากมายขนาดนั้น ก็แสดงว่ามีพิษกู่จิ้นมากมายเช่นกัน และนี่คือหนึ่งในสถานที่แหล่งเพาะพันธุ์……

การที่ราชครูเทียนเวิงต้องการสร้างกองทัพให้แข็งแกร่งและไม่กลัวตายนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดาย

“มากหรือ นี่มันเป็นแค่ส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็ง”

“ว่าไงนะ” เมื่อได้ยินคำตอบของหานแส เย่หลีเฉินก็มองไปที่เขาอย่างไม่น่าเชื่อ

ก่อนที่เทพธิดาจะพูดว่าราชครูเทียนเวิงต้องการสร้างกองทัพเพื่อรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นนั้น เมื่อเห็นดอกกระดูกขาวเหล่านั้นด้วยตาในตอนนี้ เขาก็เชื่ออย่างไม่สงสัยแล้ว

“เมื่อรู้ว่าราชครูเทียนเวิงสามารถรวมแผ่นดินใหญ่ได้อย่างง่ายดาย แต่ทำไมกลับทำได้ช้าแบบนี้ล่ะ”

“ทำไมน่ะหรือ”

เย่หลีเฉินไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่หานแสอย่างจริงจัง เพื่อรอคำตอบของเขา

“เพราะยาฉางตานไง!”

ยาฉางตานงั้นหรือ

ยาอมตะที่สามารถทำให้ชีวิตยืนยาว!

ใช่

แม้ว่าราชครูเทียนเวิงจะรวมแผ่นดินใหญ่ได้เป็นหนึ่งเดียว อายุในตอนนี้ของเขา อย่างมากสุดก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงเจ็ดถึงแปดปีเท่านั้น ความทะเยอทะยานอย่างเขานั้น จะยอมตายได้อย่างไร

ดังนั้นการตามหายาฉางตานจึงเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของเขา

“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรกันดีล่ะ”

พิษกู่จิ้นพวกนี้จะต้องถูกทำลาย ไม่อย่างนั้น ราษฎรจะได้รับความเดือดร้อน

“ไม่ต้องกังวล เทพธิดามีวิธีจัดการ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าจะทำทำลายเรื่องแบบนี้ แค่พวกเราค่อยสอดส่องก็ได้แล้ว”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปทางหานแส

เหอะ หากไม่ใช่ครั้งแรกแล้วจะทำอย่างไรล่ะ

เมื่อนึกถึงสวนดอกกระดูกขาวที่ถูกเผาไหม้ไปในครั้งแรก หากไม่ใช่เย่หลีเฉินที่ช่วยเอาไว้ นางก็คงจะตายไปเสียแล้ว

หานแสไม่ใช่คนที่เคยรู้ดีที่สุดหรือ

“เทพธิดา……”

เย่หลีเฉินตะโกนเรียกหลานเยาเยาอย่างเป็นกังวลใจ

ขณะที่หันกลับมา หลานเยาเยาก็เห็นดวงตาที่ซับซ้อนของเย่หลีเฉิน

“ไม่ต้องกังวล ใต้ดินที่ปลูกดอกกระดูกขาวล้วนเป็นซากศพทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสารอินทรีย์ขาวจำนวนมากก็จะปรากฏบนพื้นดิน จุดไฟสารอินทรีย์ขาวแค่นิดเดียว ไฟก็พอที่จะเผาพิษกู่จิ้นให้ตายไป

ถึงแม้จะไหม้ตายไม่หมด ดอกกระดูกขาวก็ไม่มีแล้ว พิษกู่จิ้นก็อยู่ไม่ได้แล้ว

แน่นอนว่า ข้อสันนิษฐานคืออย่าปล่อยให้พิษกู่จิ้นที่ยังอยู่ในดอกกระดูกเหล่าทะลักออกมา มิเช่นนั้นพวกเขาจะต้องโกลาหล และเป็นอันตรายอย่างมาก

แต่ไม่เป็นไร พิษกู่จิ้นแบบนี้ไม่สามารถที่จะอยู่เดี่ยวๆ ได้ทำได้เพียงเป็นกาฝาก แค่สัมผัสกับอากาศ เพียงไม่นานมันก็จะตายในทันที ดังนั้นก่อนที่พวกมันจะตายอย่าปล่อยให้พวกมันหาที่พึ่งพิงใหม่ก็เป็นการดีแล้ว”

นี่เป็นการพูดถึงประสบการณ์ และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าของนางอีกด้วย

สำหรับสิ่งที่นางพูดไปทั้งหมดนั้น นางเย่หลีเฉินและหานแสมีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ

แต่!

ความหมายโดยรวมฟังเข้าใจแล้ว

แค่อย่าให้พิษกู่จิ้นแทรกเข้าไปในร่างกายได้ก็เพียงพอแล้ว

แม้ว่าหานแสจะเคยผ่านมาด้วยกันกับหลานเยาเยา แต่ตอนนั้นเขาได้หมดสติไป จึงไม่ได้เห็นมาก่อนว่าหลานเยาเยาเผาทุ่งดอกไม้ได้อย่างไร

แม้แต่นางช่วยเขาอย่างไรนั้น ก็ไม่อาจรู้ด้วยซ้ำ

ดังนั้น!

ที่เขาไม่ลงมือนั้น เพียงอยากเห็นด้วยตาตนเองว่าหลานเยาเยาทำได้อย่างไร

เพราะเหตุนั้น!

หลานเยาเยาจึงเดินไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง จากนั้นสอดมือเข้าไปในชุดคลุม และหยิบห่อจื๋อจื่อ(ของที่มีบทบาทคล้ายไม้ขีดในสมัยโบราณจีน)ออกมาก้านหนึ่ง ในสายตาของเย่หลีเฉินและหานแสนั้น กล่องของห่อจื๋อจื่อก็ได้ถูกเปิดออก เป่าลงไปเบาๆ ก็เห็นเปลวไฟแล้ว

จากนั้น นางก็วางห่อจื๋อจื่อบนนิ้ว และสะบัดไปอย่างแรง ห่อจื๋อจื่อก็ตกลงไปกลางทุ่งดอกกระดูกในแนวโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ

“ฟู่ฟ่าฟู่ฟ่า……”

เมื่อจุดไฟสารอินทรีย์ขาวจะติดไฟ และไฟจะลุกโชติช่วงในทันที ราวกับราดน้ำมันก๊าด

เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน

พวกเขาสองคนก้าวถอยหลังออกมา และเห็นไฟด้านในเริ่มลุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ควันก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ หลานเยาเยาก็ได้สอดมือเข้าไปในเสื้อคลุม จากนั้นหยิบผ้าเช็ดมือที่แช่น้ำยาฆ่าเชื้อผืนหนึ่งออกมาคลุมตัว และปิดปากปิดจมูกเอาไว้

ทั้งสองคนที่ยังคงเฝ้าดูไฟที่โหมกระหน่ำอยู่นั้น เมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของหลานเยาเยา ก็มองไปในชุดคลุมของนางในเวลาเดียวกัน

น่าแปลก·

ชุดคลุมของนางใหญ่แค่ไหนกันแน่ ดูเหมือนว่าจะเป็นของอะไรล้วนแต่สามารถยัดใส่เข้าไปได้หมด แต่เมื่อยัดใส่ของได้เยอะขนาดนั้น ทำไมเวลาเดินไปไหนก็ไม่หลุดออกมาเลย

แม้ว่าเย่หลีเฉินจะงุนงง แต่กลับไม่อาจจะจับมือถือแขนได้

แต่แตกต่างกันกับหานแส

เขาค่อยๆ หรี่ตาลง และจับแขนของนางโดยตรงด้วยการกระทำที่เป็นประโยชน์ จากนั้นยกแขนขึ้น และมองไปข้างในแขนเสื้อ ดูเหมือนกระเป๋าที่อยู่ตรงเสื้อคลุมนั้นไม่มีสิ่งของอะไรเลย

สายตาที่ดูงุนงงนั้นยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ……

ในที่สุดเขาก็ยังยื่นมือออกไปและบีบแขนเสื้อกว้างๆ สองสามครั้ง กระเป๋าที่อยู่ด้านในก็ไม่มีของอะไรเลย นอกจากเนื้อผ้าแล้วก็มีแต่เพียงเนื้อผ้า

“ทำอะไรน่ะทำอะไร” ไม่ใช่แค่เตรียมผ้าเช็ดมือให้พวกเจ้าหรือไง! จะต้องจับมือถือแขนหรือ”

หลานเยาเยาดึงแขนเสื้อของตนเองกลับ จากนั้นมองไปที่หานแสด้วยท่าทางเตือน กล้าที่จะหยาบคายอีกครั้งและนางก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป

“ทำไมชุดคลุมของเจ้าถึงได้ยัดของใส่ได้เยอะขนาดนี้” หานแสถาม

แล้วยังมีพวกขวดกระป๋องสิบกว่าขวด และห่อจื๋อจื่อ(ของที่มีบทบาทคล้ายไม้ขีดในสมัยโบราณจีน)อีก ตอนนี้ผ้าเช็ดหน้าก็มาอีก เหมือนสิ่งของก็ยังรับมาไม่หมด

“ตอนนี้ไม่มีแล้วไม่ใช่หรือ”

หลานเยาเยาเลิกคิ้วเล็กน้อย ยกมุมปากขึ้นตามรอยยิ้มมาตรฐานของเทพธิดา

ล้อเล่น!

จะบอกให้พวกเขารู้หรือ

เมื่อเห็นพวกเขายังคงสงสัย นางจึงค่อยๆ แง้มริมฝีปาก “พวกเจ้ามองข้าจะมีประโยชน์อะไร ไม่ได้มีอะไร ข้าก็แค่ดึงผ้ามาปิดเอาไว้ ข้าไม่เอาของที่ใช้แล้วให้พวกเจ้าหรอก”

เย่หลีเฉินและหานแสเงียบไปครู่หนึ่ง

นางและพวกเขาหมายความว่าอย่างนี้หรือ

แยกไม่ชัด!

ทันใดนั้น สีหน้าของเย่หลีเฉินก็เปลี่ยนไป และเขาก็แผดเสียง

“ระวัง”

แมลงประหลาดตัวเล็กๆ ที่เล็กแต่ไม่เล็กตัวหนึ่ง ไต่ออกมาจากบนกำแพง และเทพธิดาก็พิงไปบนผนัง แมลงประหลาดนั้นก็ได้ไต่ไปบนคอของนาง

หลานเยาเยาก็รู้สึกได้

ยกมือขึ้นตบคอ จากนั้นลูบสองสามครั้ง แล้วดีดแมลงลงไปในกองไฟโดยตรง……

“……”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท