หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 445 มีคนเท้าแพลง

บทที่ 445 มีคนเท้าแพลง

บทที่ 445 มีคนเท้าแพลง

แต่คุณหนูผู้นั้นกลัว ขณะที่ท่านชายคลานเข้าไปหานางนั้น นางก็ก้าวถอยหลังทีละก้าว

พวกเขาอยู่ในห้องด้านล่างของข้างๆ ตำหนัก ซึ่งอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมานานหลายปีมาก และมีความชื้นเล็กน้อย เดิมใช้เป็นห้องเพาะเมล็ด อาจเป็นเพราะความอับชื้น จึงถูกทิ้งร้างไป

เสียงก็ดังเอี๊ยดเมื่อเท้าเหยียบลงบนกระดานไม้ ราวกับหนักหน่อยๆ จนอาจจะเหมือนทำให้กระดานไม้แตก

ทันใดนั้นเอง!

เสียง “แกรก” ดังขึ้น กระดานไม้ก็พังจริงๆ

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

ยิ่งไปกว่านั้นชิ้นส่วนขนาดใหญ่ก็หัก ในเวลาเดียวกันคุณหนูและท่านชายผู้นั้นก็ตกลงไป หลุมที่ผิดปกตินั่นก็ถูกแยกออก ความมืดสลัวด้านล่าง ราวกับความลึกที่มองไม่เห็นนั้น เมื่อสองคนนั้นหล่นลงไปก็ไม่ได้ยินเสียงแล้ว

ก็เหมือนกับปากเหวขนาดใหญ่ ที่กลืนกินทั้งสองคนลงไปอย่างเงียบๆ ……

ทางหลานเยาเยา พวกเขาได้เดินไปตามทางที่คดเคี้ยว และหยุดได้หยุดลงอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะวนเป็นวงกลมแต่กลับไม่เห็นอะไรเลย แต่กลับทำให้พวกเขายิ่งระวังมากขึ้น

เพราะพวกเขาได้กลิ่นดอกไม้ที่ดูเหมือนจะอยู่ที่นั่น ในตอนแรกมันไม่ชัดเจน แถมยังคิดว่าเป็นแค่ภาพลวงตา สุดท้ายกลิ่นดอกไม้ก็ชัดเจนมากขึ้น

สำหรับกลิ่นดอกไม้ชนิดนี้

ไม่ต้องพูดถึงหลานเยาเยาและหานแส แม้แต่จื่อซีและจื่อเฟิงก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี

นั่นคือกลิ่นของดอกกระดูกขาวนี่!

ทางเดินที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ กว้างกว่าทางเดินที่พวกเขาเพิ่งลงค่อนข้างมาก

จื่อซีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พูดกระซิบว่า

“คุณหนู ทางเดินนี้คดเคี้ยวไปมา เดินไปก็เหมือนเดินเป็นวงกลม ดูเหมือนมันถูกขุดซ่อมแซมไปกำแพงของสวนว่างฮัว”

จื่อซีพูดออกมาด้วยความสงสัย นี่เป็นข้อสรุปของเขาที่เขาเดินไปสักระยะหนึ่ง แม้ว่าทางเดินจะคดเคี้ยว แต่ส่วนโค้งของมันก็ไปในทิศทางเดียวกัน

อีกทั้ง ขณะที่พวกเขาเข้าไปรวมอยู่ท่ามกลางของสวนว่างฮัวแล้ว ก็ได้ตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของสวนว่างฮัวรอบหนึ่ง จากนั้นเขาจึงกล้าที่จะบอกกับคุณหนูของตนเอง

“อืม!” หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย

เป็นเช่นนั้นจริงๆ และนางยังพบว่า ในเมื่ออุโมงค์ใต้ดินถูกสร้างเป็นวงกลม อย่างนั้นดอกกระดูกขาวก็อาจจะอยู่ตรงกลางของวงกลม

เพียงแต่การสร้างอุโมงค์นั้นล้วนแต่จะสร้างด้วยหินทั้งหมด ดังนั้นหากต้องการเข้าไปถึงแหล่งเพาะพันธุ์ดอกกระดูกขาว ก็คงจะไม่สามารถใช้กำลังภายในเขย่าให้เปิดได้ สุดท้ายก็คงขุดไม่ได้ และไม่รู้ว่าแหล่งเพาะพันธุ์ดอกกระดูกขาวนั่นไกลจากตรงนี้เท่าไร

มิเช่นนั้นหากว่าพิษกู่จิ้นที่อยู่ดอกกระดูกขาวตื่นขึ้น ก็คงจะต้องหายนะเป็นแน่

ดังนั้นพวกเราจึงทำได้แค่เข้าไปให้ถึงแหล่งเพาะพันธุ์ดอกกระดูกขาวนั่นเสียก่อน จึงจะปลอดภัยที่สุด

ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมา จู่ๆ หลานเยาเยาก็หยุดฝีเท้าลง จากนั้นมองไปที่จื่อซี และถามด้วยความสงสัย

“วันนี้ไม่ได้ให้ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนมาที่นี่หรือ ทำไมพวกเขาถึงไม่อยู่”

สำหรับถิงเมี่ยนและยู่หลิวซู ตอนแรกที่พวกเขาได้รับเข้าสำนักหงอี ก็ได้ประกาศไปทั้งใต้หล้าว่าพวกเขาจะสนับสนุนนาง ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่าพวกเขาทั้งสองเป็นคนของนาง

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ก็ไม่ได้มีอะไร

หลานเยาเยารู้สึกว่ายู่หลิวซูและถิงเมี่ยน ต่างก็มีพรสวรรค์ ดังนั้นเมื่อมีเรื่องอะไรที่สำคัญที่ต้องทำ นางมักจะพาพวกเขาไป

สำหรับเรื่องของคนโดนมนต์ดำ……

แหล่งเพาะพันธุ์ของราชครูเทียนเวิงที่มีอยู่ทั่วใต้หล้า แม้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะพบว่ามีอยู่หลายที่ แต่ก็มักจะไม่เจออยู่เสมอ

นางรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่า ต้องมีสักวัน ที่คนโดนมนต์ดำคงจะสร้างความหายนะ เช่นเดียวกับยุคผีดิบ

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีเช่นกันที่จะทำให้พวกเขาสองคนได้รู้จักคนโดนมนต์ดำ

แต่กลับไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงไม่ปรากฏตัว

สิ่งนี้ทำให้หลานเยาเยารู้สึกสงสัย

“เรียนคุณหนู ยู่หลิวซูถูกแทงได้รับบาดเจ็บ และวันนี้เป็นวันครบรอบการตายของพ่อแม่เขา จึงอาจจะมาสาย ส่วนถิงเมี่ยน……เขาข้อเท้าแพลง ไม่สามารถมาได้”

ยู่หลิวซูบอกว่าเป็นวันครบรอบวันตาย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แต่ถิงเมี่ยนบอกว่าข้อเท้าแพลงจึงมาไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก

เหอะ!·

ข้อเท้าแพลงงั้นหรือ

เหตุผลนี้มันไม่ได้ดูแย่เกินไปหน่อยหรือเปล่า

แต่ในเมื่อเขาไม่มา อย่างนั้นเขาอาจจะมีเหตุผลที่เขามาไม่ได้ จึงพูดว่า

“ไม่มาก็ไม่เป็นไร หาโอกาสลงโทษเขาไม่ได้เลยนี่สิ ไม่นานมานี้มีการศึกษาค้นค้นพิษชนิดใหม่ออกมา ดูเหมือนว่าข้าจะต้องคิดให้ดีก่อน”

พูดเช่นนี้ หลานเยาเยาก็ยังต้องคิดอย่างรอบคอบขึ้นมา

เมื่อจื่อซีมองแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าคุณหนูที่ต้องการจะลงโทษถิงเมี่ยนนั้นเหมือนจะเป็นเรื่องจริง จึงอยากจะปาดเหงื่อให้ถิงเมี่ยนอย่างเงียบๆ

และป่ายเม่ยเซิงที่อยู่เบื้องหน้าที่เกือบจะดีขึ้นจากพิษนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไร จู่ๆ เท้าของเขาก็เย็นลงทันที หากไม่ใช่ซาหมั่นเฉิงคอยปกป้องเขาอยู่ข้างๆ เกรงว่าเขาคงจะล้มลงกับพื้นแล้ว

“เป็นอะไรหรือ พิษแมลงบนมือของเจ้ายังไม่ดีขึ้นหรือ” ซาหมั่นเฉิงเหลือบมองไปที่เขา และพูดอย่างสงสัย

“เปล่า เปล่า เกือบหายแล้ว”

“ยังไม่รีบไปอีก”

“เท้า เท้าแพลง”

“……” สำหรับเจ้าคนอวดดีนี้ สีหน้าซาหมั่นเฉิงก็ไม่ค่อยดีนัก แต่มือก็ยังคงรั้งร่างของเขาไว้อย่างไม่รู้ตัว

หลานเยาเยามองการขยับของอีกฝ่ายที่อยู่ด้านหน้าอย่างสงสัย ปฏิกิริยาหนักขนาดนี้ พิษยังไม่ได้รับการแก้อีกหรือ

เป็นไปไม่ได้!

สำหรับวิชาการรักษาของตนเองนั้น หลานเยาเยาค่อนข้างมั่นใจ ดูท่าแล้วคงอึดอัดจริงๆ

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครที่พูดขึ้นมาว่า “มีการเคลื่อนไหวข้างหน้า”

เดิมทีที่ทุกคนต่างระแวดระวังอยู่แล้ว เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ยิ่งระแวดระวังมากขึ้น ไม่นานทุกคนก็หยุดลง หลานเยาเยาก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

พวกป่ายเม่ยเซิงและซาหมั่นเฉิงที่ลงมือก็ได้ถอยหลังมา และหลีกทางให้กับหลานเยาเยา

เท่าที่เห็น อุโมงค์ด้านหน้าได้สิ้นสุดทางแล้ว และสุดทางนี้ค่อนข้างแปลก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดินวนมาที่มาที่นี่อีกครั้ง……

มีประตูหินบานหนึ่งที่ปลายสุด ซึ่งประตูหินกว้างมาก สามารถรองรับได้สองสามคน อีกทั้งประตูหินที่แข็งแรงนั้นกลับมีรอยร้าวอีกหลายรอย รอยร้าวมีขนาดใหญ่มาก และสามารถมองเห็นสภาพด้านในได้ด้วยตาเปล่า

นอกจากนี้ภายในรอยร้าวยังมีดอกไม้สีแดงที่แปลกประหลาดอีกมากมาย ช่อดอกไม้ที่ตูมก็บานออก ข้างในว่างเปล่า

เมื่อเห็นดังนั้น!

หลานเยาหรี่ตาแคบลงอย่างมาก

มันคือดอกกระดูกขาว

และดอกกระดูกขาวนั้นได้สุกงอมจนเบ่งบานออก พิษกู่จิ้นที่อยู่ด้านในดอกไม้ก็หายไปแล้ว และตรงเหนืออุโมงค์มีปากถ้ำหนึ่งที่ถูกทุบออกมา มีโคลนอยู่บ้างบนพื้นดิน และมีเศษไม้ผุพังกระจัดกระจายอยู่เป็นบางส่วน

ปากถ้ำตรงด้านบน ดูผิดปกติเป็นอย่างมาก

แม้ว่าด้านล่างปากถ้ำจะไม่มีบันไดหรือเชือกเถาวัลย์อะไรเลย แต่กลับมีวิธีที่จะทำให้คนสามารถปีนขึ้นไปได้

เป็นเพราะว่า

ผนังด้านท้ายสุดไม่ได้สร้างขึ้นจากหิน แต่ทำด้วยโคลนอย่างประณีต มีการขุดร่องแบบขั้นบนไดไปในกำแพงโคลน และผู้คนสามารถปีนขึ้นไปตามร่องได้……

สถานการณ์เริ่มท่าไม่ดี

เป็นเพราะมีรอยกรงเล็กที่รอง และคราบเลือดสดอยู่ ดูเหมือนว่ามีคนตกลงมาจากด้านบนโดยไม่ทันระวัง แล้วไปโดนดอกกระดูกขาวเข้า จึงถูกพิษกู่จิ้นแทรกเข้าไปในร่างกาย

จึงกล้ารับประกันว่า มีคนที่ตกลงมาไม่มากกว่าหนึ่งคน บนผนังจึงมีคราบเลือด

คนที่โดนพิษกู่จิ้นนั้น ถือโอกาสที่ยังมีสติอยู่ ปีนขึ้นไปจากที่นี่……

หลานเยาเยามองไปที่จื่อซีและจื่อเฟิงทันทีและพูดด้วยความกังวล

“พวกเจ้าขึ้นไปก่อน และต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดี หากสุดวิสัยจริงๆ ฆ่าได้ก็ฆ่าซะ”

“ขอรับ!”

เมื่อทราบถึงสถานการณ์อันร้ายแรง พวกเขาทั้งสองคนยังไม่ทันได้หยุดหย่อน ก็ทำความเคารพและปีนขึ้นไปตามร่อ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท