หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 450 อาเจียนอาหารค้างคืนออกมาหรือยัง

บทที่ 450 อาเจียนอาหารค้างคืนออกมาหรือยัง

บทที่ 450 อาเจียนอาหารค้างคืนออกมาหรือยัง

เมื่อเห็นลักษณะท่าทางที่ดูตึงเครียด หลานเยาเยาก็สงสัย ดังนั้นนางจึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาคลี่ออก และอ้าปากจะพูด

ทันทีที่อ้าปาก ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าที่ไม่อาจจะหายใจเข้าได้อีกส่งกลิ่นโวย นางจึงหันศีรษะไปอีกด้านทันที

“อ้วก…”

แม้ว่าจะไม่ได้อาเจียนอะไรออกมา แต่ก็ยังพะอืดพะอมอยู่ตลอด

นางยังไม่ทันจะอาเจียนเสร็จ ก็ได้เห็นชายตัวใหญ่ทั้งสองคนก้มตัวลง จากนั้นก็อาเจียนประสานต่อจากนาง

“อ้วก…”

“อ้วก…”

“……”

“.…..”

เหตุผลที่พวกเขายังไม่ได้พูดคุยอะไรกันในตอนนี้ก็เพราะหลีกเลี่ยงการได้กลิ่นเหล่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะปล่อยให้ตนเองขาดอากาศจนหายใจไม่ออกได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจจะกลั่นกลิ่นเหม็นเน่าเหล่านั้นไว้ได้

จื่อเฟิงยังพอไหว หลังจากอาเจียนออกมาสองสามครั้ง ก็วิ่งไปอีกข้างหนึ่ง แต่จื่อซีกลับดูแย่กว่า ดูเหมือนกับเขาจะกำลังอาเจียนเอาสิ่งที่กินไปทั้งหมดออกมา อาเจียนออกมาอย่างรุนแรงตลอดเวลา จนดวงตาเบิกโพลง

องครักษ์ที่พวกเขาพามาด้วยตอนนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ได้ยินแต่เพียงเสียงอาเจียนที่ดังออกมา

มันช่างน่าตื่นเต้นจริง ๆ

ดูเหมือนว่าจะยืนห่างไม่ไกลมากพอ

ดังนั้นนางจึงถอยกลับไปยังสถานที่ไกลมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้สึกโล่งสบายขึ้น หลานเยาเยาจึงให้พวกเขามารวมตัวกันเพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป

ท้ายที่สุดก็ไม่มีวิธีการใดๆ หลานเยาเยาทำได้เพียงให้ปกปิดไว้ด้วยผ้า ราดยาน้ำบางอย่างลงไปเพื่อลดผลกระทบจากกลิ่นเหม็น หลังจากทำเสร็จก็ให้อยู่ห่างออกไปจากสถานที่มีกลิ่นเหม็น นั่งพิงอยู่กับต้นไม้เก่าแก่ ที่บางครั้งก็เห็นแต่พวกองครักษ์ของมดตัวเล็กๆ

ในสระบัว มีการขุดเอากระดูกที่น่ากลัวขึ้นมา ซึ่งมีโคลนจากสระบัวอันน่าขยะแขยงติดมาด้วย

สำหรับสิ่งนี้!

หลานเยาเยาลูบท้องของนาง

หิวแล้ว…

น่องไก่กรอบที่หอมกรุ่นปรากฏขึ้นในมือของนางทันที แต่ไม่มีใครเห็น นางไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ใดๆอีกแล้ว ริมฝีปากแดงถูกอ้าออก จากนั้นก็กินเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

ง่ำ!

กลิ่นหอมฉุย อร่อยมากเลย!

“ข้าตาลายไปหรือเปล่า? ที่นี่มีนักกินซ่อนตัวอยู่หรือนี่” มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

“เดี๋ยวก่อน คาดว่าน่าจะเป็นเทพธิดาตัวปลอม” ชายอีกคนตอบอย่างใจเย็น

เสียงอันหวาดผวาดังมาจากใต้ต้นไม้ หลานเยาเยาที่กำลังกินอยู่ถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินเสียงนั้น สีหน้าก็ขึงขัง

แมร่ง

ทำไมสองตัวนี้ถึงมาที่นี่

ที่ใต้ต้นไม้ยู่หลิวซูที่ดูเป็นสุภาพบุรุษและอบอุ่นยืนอยู่ และพวกเจ้าถิ่นที่จริงจังอีกตัวหนึ่งอย่างถิงเมี่ยน จ้องมองใบหน้าของนาง พวกเขาสองคนต่างอยู่ในสายตาอันตกตะลึงเช่นเดียวกัน

“เป็นเทพธิดาจริงด้วย ทำอย่างไรดี”

ถิ่งเมี่ยนพูดพึมพำ สายตาเหลือบไปมองยู่หลิวซูที่อยู่ด้านข้างเขา

“เก็บคำพูดของเจ้าเมื่อครู่นี้กลับไป ถ้าผ่านไปได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เก็บไว้ให้ดี” ยู่หลิวซูมองไปพลางกลืนน้ำลาย

เมื่อเห็นเทพธิดากำลังกินอย่างตะกละตะกลามแต่ก็ทำเป็นมองไม่เห็น มิเช่นนั้นอาจจะถูกเก็บได้

หลานเยาเยา “……”

เป็นแบบนี้ถือว่านางไม่ได้ยินหรือ

มองดูทั้งสองคนที่กำลังกลับหลังไปทางเดียวกัน จากนั้นก็ย่องออกไป แต่ออกไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงอันเยือกเย็นของหลานเยาเยาก็ดังขึ้น

“หยุดก่อน มาแล้วก็ดี พวกเจ้ากินข้าวกันมาหรือยัง”

เมื่อเห็นสายตาที่ดูมีเจตนาไม่ค่อยดีของเทพธิดา ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนก็พยักหน้าอย่างงุนงง

กินกันอิ่มแล้วหรือ

อีกทั้งยังกินเกินไปด้วย!

สิ่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมาสายของพวกเขาหรือไม่ ไม่เพียงเทพธิดาจะไม่ถือโทษพวกเขา แต่ยังจะจะชวนพวกเขากินน่องไก่อีกหรือ

เพียงครู่เดียว!

ริมสระบัวที่ดูสวยงาม

จื่อเฟิงกอดอกเอาไว้ มือข้างหนึ่งถือกระบี่เอาไว้ด้วย จื่อซีนั่งยองๆอยู่บนพื้น โดยมีมือข้างหนึ่งค้ำใบหน้าเอาไว้ องครักษ์แต่ละคนต่างกำลังพับแขนเสื้อ ด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังดูการแสดง

เบื้องหน้าพวกเขาคือ……

“อ้วก…”

ยู่หลิวซูอาเจียนออกมาจนใบหน้าซีดเซียว รูปลักษณ์ที่แสนสง่างามเมื่อกี้นี้ได้หายไป เหลือไว้เพียงสีหน้าที่อยากจะตายเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่

“อ้วก…”

ถิงเมี่ยนผู้คุมตลาดมืดก็ยิ่งอาเจียนออกมาเป็นเลือด จนแทบจะคว่ำหน้าลงไปอาเจียนอยู่บนพื้น เดินไปเดินมาอย่างวิงเวียน

ให้ตายสิ ของที่นายท่านกินไปครึ่งปีต้องสูญเปล่าแล้ว!

จนกระทั่งพวกเขาไม่มีอะไรจะอาเจียนออกมาแล้ว จื่อซีจึงส่งเสียงจุ้ขึ้นสองครั้ง ก็มีคนก้าวออกไปนำผ้าที่ทาด้วยน้ำยาดับกลิ่นให้พวกเขา

“พวกเจ้านี่ อ่อนแอเกินไป กลิ่นแค่นี้กลับอาเจียนกันขนาดนี้เลยหรือ เอาล่ะ รับไป หากจะอาเจียนขึ้นมาอีกก็รีบใช้มันซะ”

คำพูดของเขาดูหนักแน่นมาก

โดยลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็อาเจียนแบบนี้มาก่อน

หลังจากอาการอาเจียนอย่างรุนแรงนั้นทุเลาลง

ถัดมาความเงียบสงัดก็เกิดขึ้น ทุกคนล้วนกลัวจะอาเจียน จึงไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ หากยังไม่สามารถจัดการได้ จนถึงกับรำคาญที่จะส่งเสียงขึ้นจมูก

สระบัวนั้นแห้งมาก ไม่มีน้ำ ดังนั้นเมื่อขุดกระดูกออกมา ก็ล้วนแต่ขุดขึ้นมาพร้อมกับโคลนของสระบัวเปื้อนอยู่

หลังจากหลานเยาเยากินจนอิ่ม ก็มายังสระบัวอีกครั้ง

นางขมวดคิ้วและมองไปที่ริมสระบัว กระดูกคนตายถูกนำมาเรียงไว้เป็นแถว มืออันเรียวของนางลูบไปที่คาง จากนั้นก็จมลงไปในความคิด

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน

หลังจากที่คนอื่นได้ชำระล้างร่างกายแล้ว จื่อซีและจื่อเฟิงก็ไปสำรวจดูสระบัวอีกครั้ง จากนั้นจึงมาอาบน้ำเย็นที่สถานที่อาบน้ำของสวนว่างฮัว หลังจากอาบน้ำจนสะอาดแล้วจึงได้ออกมา

เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งสองกำลังมา

หลานเยาเยาก็เอาน่องไก่โยนให้พวกเขาโดยตรง

“ลำบากแล้ว รางวัลสำหรับพวกเจ้า ทำงานออกแรงมากคงจะเหนื่อยใช่ไหม เสริมกำลังวังชาสักหน่อย ไม่ต้องเกรงใจ!”

แต่ทั้งสองคนที่ได้รับน่องไก่ กลับมีสีหน้าซีดเซียวทันที

แน่ใจหรือว่านี่ไม่ใช่การลงโทษ

ทว่าน่องไก่ชิ้นนี้มีรสชาติที่น่าดึงดูดมาก แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกคลื่นไส้มาก เมื่อได้กลิ่นก็ถึงกับอายากจะอาเจียนออกมา จะไปกินอะไรลงได้อย่างไร

คาดว่าจากนี้ไปสามวันสามคืนก็คงจะกินอะไรไม่ได้แม้ข้าวสักเม็ด

เมื่อเห็นหลานเยาเยากัดน่องไก่ครึ่งหนึ่งเข้าไปอย่างเต็มปากเต็มคำ พวกเขาถึงกับต้องยอมยกนิ้วให้

ชื่นชม!

ชื่นชมจนขอน้อมกราบอย่างเลื่อมใส!

หลังจากจัดการกับน่องไก่อีกน่องนึ่งเสร็จสิ้น หลานเยาเยาก็ล้างมือ จากนั้นปิดจมูกเพื่อตรวจสอบศพ

สังเกตดูอย่างละเอียดครู่หนึ่ง

นางจึงพบว่า กระดูกพวกนี้ถูกฝังไว้ใต้สระบัวมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเมื่อยุคสมัยของราชวงศ์เก่า สิ่งนี้ทำให้หลานเยาเยาถึงกับขมวดคิ้วให้กับความรู้นี้

แล้วศพเหล่านี้มาจากที่ไหน

เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นศพที่ราชครูเทียนเวิงเตรียมเอาไว้ใช้เลี้ยงดอกกระดูกขาว แต่ภายหลังพบว่ามีมากเกินไปแล้ว ดังนั้นจึงได้นำศพมาฝังไว้ในสระบัว

ลองคิดเช่นนี้อยู่สักพักหนึ่ง

ดูเหมือนว่าจะมีเหตุมีผล แต่นางก็ส่ายหน้าทันที

นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ท้ายที่สุดศพที่นำมาใช้เลี้ยงดอกกระดูกขาว ส่วนมากจะถูกราชครูเทียนเวิงพาไปสังหาร หรือไม่ก็จะถูกวางแผนให้เกิดการฆ่ากันเอง จากนั้นจึงจะนำศพเคลื่อนย้ายไปเลี้ยงดอกกระดูกขาว

ศพเหล่านั้นส่วนมากจะถูกแทงแบบซ้ำๆจนตาย มีบาดแผลอยู่มากมาย

และตอนนี้ในซากศพเหล่านี้ กระดูกที่คอส่วนมากจะมีรอยข่วนลึก มีบางส่วนถูกวางยาพิษ หรือไม่ก็มีบาดแผลอยู่ตรงหัวใจ

ทุกคนล้วนถูกฆ่าตายในครั้งเดียว!

เมื่อนางลองสังเกตอีกครั้ง เสื้อผ้าของกระดูกเหล่านี้ได้เปื่อยขาดไปตั้งแต่อยู่ในสระบัว จึงพิสูจน์ได้เพียงกระดูกเท่านั้น ยิ่งตรวจสอบเท่าไรในใจของนางก็ยิ่งสับสนมากขึ้น

ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

หลานเยาเยาเงยหน้าขึ้นมองจื่อเฟิง

“ก่อนที่ราชวงศ์เก่าจะล่มสลาย มีเหตุการณ์อะไรที่ค่อนข้างเลื่องลือชื่อ และมีคนตายจำนวนมากบ้างไหม”

ที่ต้องถามจื่อเฟิง เป็นเพราะก่อนหน้านี้จื่อเฟิงเคยบอกกับนาง ว่าเจ้านายของเขาคือเย่แจ๋หยิ่งมาโดยตลอด อีกอย่างสถานะของเย่แจ๋หยิ่งก็มีความพิเศษเป็นอย่างมาก

นางรู้ดี ว่า เย่แจ๋หยิ่งจะต้องขอให้พวกเขาไปตรวจสอบเรื่องของราชวงศ์เก่า ดังนั้นจึงต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาถาม

จื่อเฟิงคิดอย่างรอบคอบ จากนั้นก็ส่ายหน้า

“ไม่มีนะ อ๋องเย่เคยให้ข้าไปตรวจสอบเรื่องของราชวงศ์เก่ามาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุการณ์ไหนที่ทำให้คนตายมากมายขนาดนี้ หรือมันอาจจะเป็นการเจตนาที่จะปกปิดจึงไม่มีเรื่องราวอะไรสืบต่อมา”

หลังจากพูดจบ

ทันใดนั้นจื่อเฟิงก็ตาสว่าง ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบอ้าปากพูดทันที

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท