หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 475 ทำพินัยกรรม

บทที่ 475 ทำพินัยกรรม

บทที่ 475 ทำพินัยกรรม

เทพธิดาซ่อนตัวขึ้นมาก็ยากที่จะหาเจอ แต่หากสามารถหาท่านชายหยิ่งที่อาการร่อแร่พบ บางทีจะสามารถหาเทพธิดาพบ

เย่หลีเฉินส่ายหน้า เปิดปากกล่าว :

“เมื่อวานขณะที่ลูกไปที่บวงสรวงเทพอีกครั้ง นอกจากขุนนางมากมายที่เป็นลมสลบไป และคนที่ตาย ก็ไม่เห็นท่านชายหยิ่งและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทั้งหมดแล้ว แต่จับกุมเงาปีศาจที่บาดเจ็บสาหัสได้สองสามคนพ่ะย่ะค่ะ”

“ยู่หลิวซูชายนักแสดงผู้นั้นกับถิงเมี่ยนนักเลงหัวไม้ของตลาดดำล่ะ? พวกเขาไม่ใช่คนของเทพธิดาหรือ? ไปหาพวกเขาดู”

ฮ่องเต้โมโหในทันที จ้องมองเย่หลีเฉินอย่างโหดเหี้ยม :

“ที่ข้าต้องการไม่ใช่เงาปีศาจสองสามคนนั้นที่อาการร่อแร่ ที่ข้าต้องการคือเทพธิดา ที่ข้าต้องการคือยาฉางตาน ไม่ใช่ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับท่านชายหยิ่งหรือ? ไม่ใช่ว่าเจ้าสนิทชิดใกล้กับเทพธิดาไม่มีช่องว่างแล้วหรือ?

“พวกเขาล่ะ? เจ้าก็หาออกมาสิ!”

ภายใต้ความพิโรตอย่างหนัก ฮ่องเต้ผลักเย่หลีเฉินออกไป กล่าวด้วยความพูดที่รุนแรง :

“เจ้าไม่มีอะไรที่ใช้ได้จริงๆ อะไรก็ล้วนหาไม่พบ ข้าจะต้องการเจ้าองค์ชายรัชทายาทผู้นี้ไปทำอะไร? ให้เวลาเจ้าอีกสามวัน หากว่ายังหาไม่พบ ข้าจะปลดตำแหน่งของเจ้า”

พูดจบ!

ฮ่องเต้เปล่งเสียงหึไม่พอใจอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อจากไป

พระตำหนักกระดิ่งทองที่ว่างเปล่า เย่หลีเฉินยืนอยู่ที่นั่นผู้เดียวนิ่งๆ กำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ ลูกกระเดือกขยับแล้ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หมัดที่กำแน่นค่อยๆ ผ่อนคลาย เย่หลีเฉินพึมพำประโยคหนึ่ง :

“หลานเยาเยา เจ้าจะอยู่ที่ไหน?”

……

จวนอ๋องเย่ ในห้องบรรทม

องครักษ์ลับที่แข็งแกร่งผู้หนึ่งเหาะเข้ามา คุกเข่าทำความเคารพต่ออ๋องเย่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง ทำมือเคารพและกล่าว :

“เจ้านาย ตอนนี้จวนราชครูได้ถูกตรวจสอบเพื่ออายัด องครักษ์วังหลวง สิงปู้และศาลต้าหลี่ร่วมมือกันจับกุมราชครูทั้งเมือง ล้วนไร้ร่องรอย ราชครูจะออกนอกเมืองหลวงไปที่ทะเลทรายแล้วหรือไม่ขอรับ?”

ตอนนี้ทั้งเมืองใช้กฎอัยการศึก ทหารสืบค้นหาแทบจะทุกบ้าน แม้กระทั่งจวนของเหล่าขุนนางทหารล้วนเป็นองค์ชายรัชทายาทนำคนไปตรวจหาด้วยตัวเอง แต่ยังคงไม่พบเบาะแสของราชครู

นอกจากราชครูจะเหินฟ้าดำดินได้ ไม่เช่นนั้นก็สืบหาคนออกมาได้นานแล้ว

“ไม่! ค้นหาต่อไป”

เยาเยาไม่ไป ราชครูจะไปได้อย่างไร?

องครักษ์ลับแฉลบตัวจากไป เย่แจ๋หยิ่งหันกลับมา มองดูเงาร่างที่เลือนรางด้านหลังฉากกั้น ในดวงตามีรอยยิ้มฉายผ่าน

“นี่ก็จะจากไปแล้ว?”

เมื่อคืนไม่ได้นอน พอเช้าตรู่ก็ปรากฏตัวที่ห้องบรรทม มองดูนางด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขาถามนางเป็นอย่างไร?

นางก็บอกว่าอยากมานอนที่ห้องบรรทมของเขาสักตื่น

นอนแล้วทั้งช่วงเช้า เมื่อครู่เพิ่งจะตื่นอย่างสบาย ตอนนี้ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรีบร้อนต้องการจะจากไป

“ข้าไม่ไป ท่านก็จะอยู่ที่นี่ตลอด ความจริงท่านยุ่งกว่าข้า เพียงแค่เพราะข้ามาแล้ว จึงได้อยู่ในห้องบรรทมเป็นเพื่อนข้า แน่นอนว่าข้าไม่สามารถที่จะทำให้ท่านเสียเวลาได้”

เหล่านี้หลานเยาเยารู้ทั้งหมด

พิธีเซ่นไหว้ใหญ่วันนั้น แม้ว่าผิวเผินเขาจะไม่ได้ปรากฏตัว แต่แอบซ่อนอยู่ในที่ลับมาตลอด ใช้โอกาสช่วงที่ระเบิดพานางไป ทั้งยังช่วยหานแสพวกเขาจากไปด้วย

ยังต้องแอบหยุดยั้งไม่ให้เงาปีศาจส่วนหนึ่งเข้าไปที่บวงสรวงเทพ

ไม่เช่นนั้น!

จากนิสัยขี้สงสัยของราชครูเทียนเวิง รวมถึงเป้าหมายวันนั้นก็เป็นนาง นางจะสามารถหนีไปได้อย่างง่ายดายได้อย่างไรล่ะ?

หลานเยาเยาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดินออกมาจากหลังฉากกั้น อ้อมฉากกั้น ก็ชนเข้ากับกำแพงเนื้อที่แน่นหนา กลิ่นหอมอ่อนๆของยาพรั่งพรูเข้าจมูก

นางรีบสูดหายใจเข้าลึกๆทันที ยื่นมือไปโอบเอวเขา ศีรษะซบอยู่ที่หน้าอก ฟังเสียงหัวใจที่เต้นอย่างแข็งแรงของเขา รู้สึกได้ถึงความสงบปลอดภัยเป็นพิเศษ

“อยากกอดท่านแบบนี้ไปตลอดจริงๆ”

“เจ้าเนี๊ย พูดคำที่ข้าอยากพูดออกมาหมดแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงกอดเจ้าอีกสักพักแล้ว”

จากนั้นทั้งสองก็กอดกันแน่นๆ ครู่หนึ่ง หลานเยาเยาจึงจากไป

หลานเยาเยาที่สวมใส่ชุดผ้าป่านเรียบๆ หลังจากเลี้ยวเจ็บแปดรอบ เดินเข้าไปในสลัมแล้ว ก็มาถึงในบ้านก่อนหน้านี้ที่สะกดรอยตามพวกผู้เฒ่ามาอย่างรวดเร็ว

นางเพิ่งถึงได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เป็นระเบียบเป็นแถวๆ จากนั้นก็มีเสียงทหารตรวจค้นบ้านดังมา

หลังจากที่หลานเยาเยาเข้าไปที่ลานด้านหลังอย่างรวดเร็ว ก็เปิดฝาอ่างน้ำใบใหญ่ใบหนึ่ง ด้านในอ่างน้ำว่างเปล่า อีกทั้งด้านล่างสุดยังมีโพรงโพรงหนึ่ง นางเข้าไปในอ่างน้ำอย่างชำนาญทาง ปิดฝา แล้วกระโดดลงไปในโพรง

โพรงด้านล่างอ่างน้ำมีห้องโถงขนาดใหญ่ของบ้าน ด้านในมีฟางแห้งมากมายปูเป็นแถวหนึ่ง ด้านบนมีคนบาดเจ็บห้าคนนอนอยู่ ด้านข้างมีผู้เฒ่าสามคนดูแลพวกเขา

หลานเยาเยายังไม่ได้พูดจา ตาแก่ก็พูดก่อนแล้ว

“มาค้นอีกแล้ว มาค้นอีกแล้ว วันนี้เป็นคนกลุ่มที่สามแล้ว เมืองหลวงในวันนี้น้า วุ่นวาย!”

ตาแก่พูดไปพลางขมวดคิ้วไปพลาง มือจัดระเบียบขวดและกระปุกไม่หยุดมือ

“ไม่วุ่นวายได้หรือ? เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน ฮ่องเต้เอ้ย คิดว่าสิ่งของได้มาอย่างง่ายดาย แค่แวบเดียวเป็นอยู่ไกลถึงขอบฟ้าแล้ว คาดว่ากำลังจับกุมราชครูเทียนเวิงและหาเบาะแสของข้า ที่เขาอยากหาพบเป็นที่สุดยังเป็นข้า”

ขณะที่คนโดนมนต์ดำปรากฏตัวที่สวนว่างฮัว ก็ไม่ได้โกลาหลขนาดนี้เหมือนตอนนี้

ตอนนี้ราชครูของราชวงศ์เก่าปรากฏตัวขึ้น อีกทั้งฮ่องเต้เพิ่งจะพบว่า ราชครูที่ติดตามข้างกายตัวเองสามปี จะมีความน่าเกรงกลัวขนาดนี้อย่างคาดไม่ถึง คาดว่าเขาคงจะเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของราชครูออกแล้ว

“นังหนู ประเทศก่วงส้าวุ่นวายแล้ว ประสบกับความหายนะก็ยังเป็นราษฎร เรื่องนี้เจ้าก่อขึ้นมา ไม่อยากให้รุ่นหลังกล่าวว่าเป็นคนนำเคราะห์ภัยมาให้ประเทศ ก็รีบทำให้เรื่องนี้สงบลง”

ตาแก่หลับไม่ได้กล่าวโทษ เพียงแต่คิดแทนราษฎรเท่านั้น

แน่นอน เขาก็รู้ เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะโทษผู้ได้ผู้หนึ่งได้ทั้งหมด ตัวการหายนะที่สำคัญยังเป็นราชครูและฮ่องเต้

เวลานี้!

หลานเยาเยามองไปทางคนห้าคนที่นอนอยู่บนหญ้า กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำเล็กน้อย

“วางใจเถอะ! ข้าได้จัดเตรียมหมดแล้ว วันนี้ตอนเย็นก็จะจัดเตรียมให้พวกเขาออกจากเมือง วันหลังก็จะเดินทางออกไปที่ทะเลทรายได้อย่างยิ่งใหญ่ ถึงเวลานั้นเมืองหลวงก็จะสงบลงมาแล้ว”

“เส้นทางการเดินทางนี้อันตรายมาก พวกข้าไปกับเจ้าเถอะ! มากขึ้นขึ้นคนแรงเยอะขึ้นอีกหนึ่งแรง”

ยาฉางตานเป็นเรื่องจริงเท็จมีเพียงหลานเยาเยาผู้เดียวที่รู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นจริง เขาก็รู้ จุดประสงค์สุดท้ายของหลานเยาเยาก็คือกำจัดราชครูเทียนเวิง

แต่นั่นเป็นถึงราชครูเทียนเวิงนะ!

คนที่ทำให้ราชวงศ์เก่าอยู่ในกำมือ

นางไปผู้เดียว จะให้เขาวางใจได้อย่างไร?

“วางใจเถอะ ตาแก่ ข้ายังมีพันธมิตร”

สองคนพูดไปพูดมา หลานเยาเยาก็เดินไปตรวจชีพจรให้ห้าคนที่นอนบาดเจ็บอยู่บนหญ้าทีละคน

“สถานการณ์คนอื่นสามคนมั่นคงแล้ว เพียงรอให้ฟื้นขึ้นมาก็ปลอดภัยหายห่วงแล้ว มีเพียงหานแสแล้ว ตอนนี้เขายังไม่พ้นจากอันตราย จะฟื้นหรือไม่ฟื้นขึ้นมายังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลังจากข้าไปแล้ว ให้หมอของสำนักหงอีดูแลดีๆ

จำไว้ อย่าให้ฮัวหยู่อันรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะมีอันตรายต่อชีวิต ยังมีอีก หากว่าพวกเขาฟื้นมาหมดแล้ว ความลับแกนกลางของสำนักหงอีก็ล้วนไม่สามารถให้พวกเขาสัมผัสได้

หากข้า ข้ากลับมาไม่ได้ ก็ฝึกอบรมให้ยู่หลิวซูเป็นเจ้าสำนักรุ่นต่อไป เขามีความสามารถนั้น”

ไปครานี้ ถนนหนทางอันตราย เพื่อสังหารราชครูเทียนเวิง เดิมทีนางก็ไม่ได้คิดว่าจะมีชีวิตกลับมา

ดังนั้น ต้องเตรียมการล่วงหน้าทั้งหมดให้ดี

“นังหนู เจ้าไม่มีจิตสำนึก พวกข้าผู้เฒ่าสิบคนสร้างสำนักหงอีแทนเจ้า กำลังทำไปได้ดีมาก เจ้าก็พูดคำที่ไม่เป็นมงคลเหล่านี้ ชั่งทำให้คนโมโหนัก

ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมจะต้องฝึกอบรมคนใหม่ผู้หนึ่งให้เป็นเจ้าสำนัก? พวกข้าตาแก่เหล่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร?”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท