หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 456 ข้าก็อับอายแล้ว

บทที่ 456 ข้าก็อับอายแล้ว

บทที่ 456 ข้าก็อับอายแล้ว

ในตำหนักเทพธิดา

หลังจากที่หลานเยาเยามองดูส่งรถม้าของเย่แจ๋หยิ่งจากไป ก็กลับตำหนักโดยตรง เดิมทีคิดว่าเห็นเย่แจ๋หยิ่งแล้ว หลังจากที่กลับมานางจะสามารถนอนหลับดีๆได้ กลับคิดไม่ถึง ตอนนี้ในสมองล้วนปรากฏแต่สีหน้าขาวซีดของเขา นางยิ่งนอนไม่หลับแล้ว

เห็นได้ชัดว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นเช่นนั้นเพราะเสียเลือดมากเกินไป

ราชครูเทียนเวิงชั่งโหดเหี้ยมเกินไปจริงๆ

สูบเลือดก็ต้องมีหน่อยระดับสิ! ไม่ได้ ต้องล้มเขาให้ได้เร็วหน่อย

ดูท่าแล้วพรุ่งนี้ข้าต้องหาเวลาไปเยี่ยมเย่แจ๋หยิ่ง เขาเป็นเช่นนั้น นางค่อนข้างไม่วางใจจริงๆ

แล้วในเวลานี้!

ด้านนอกมีเสียงดังขึ้น

“มีนักฆ่า” เย็นหงตะโกนเสียงดัง

เมื่อได้ยินว่านักฆ่า สีหน้าหลานเยาเยาเคร่งขรึมทันที ลุกขึ้น ยังเดินไม่ถึงประตูห้อง ก็ได้ยินเสียงต่อสู้ของอาวุธดังเสียดหู

เมื่อเปิดประตูดู หลานเยาเยาก็อดอ้าปากกว้างไม่ได้

เป็นเขา?

เป็นเขาได้อย่างไร? !

ได้ยินเสียงเปิดประตู สองคนที่ต่อสู้กันอยู่บนหลังคาฝั่งตรงข้างก็มองมาทางนี้พร้อมกัน เวลานี้จื่อซีที่ซ่อนอยู่ในที่ลับก็เข้าร่วมต่อสู้

เงาดำที่ต่อสู้กับจื่อซีและจื่อเฟิง ชั่วครู่หนึ่ง ก็ถูกจื่อซีและจื่อเฟิงตีตกลงมาที่พื้น

ขณะที่เงาดำตกลงมาที่พื้น ไม่เพียงจื่อซีและจื่อเฟิงที่ตะลึงงัน แม้แต่หลานเยาเยาก็ตกตะลึงจนขากรรไกรแทบหลุด

นี่ก็ชั่งน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วมั้ง?

เงาดำนั่นคือเย่แจ๋หยิ่งเชียวนะ! จื่อซีและจื่อเฟิงก็ยังเคยทำงานใต้บัญชาของเขา!

กำลังภายในของจื่อเฟิงล้ำลึก แต่แม้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะสูญเสียกำลังภายในไปครึ่งหนึ่ง ต่อสู้กับพวกเขาก็ไม่สามารถเสียเปรียบได้

เพียงแค่ตอนนี้……

ยังไม่ถึงกระบวนท่าที่สิบ เย่แจ๋หยิ่งก็ถูกพวกเขาตีตกมาที่พื้นอย่างแปลกประหลาด ดูเย่แจ๋หยิ่งลุกขึ้นยืนอย่างสะบักสะบอมเล็กน้อย จื่อเฟิงและจื่อซีอยากไปช่วยพยุงเขา ถูกเย่แจ๋หยิ่งตาขวางใส่โดยตรง พวกเขาสองคนก็ค่อยๆหยุดฝีเท้าลง

ดูดเลือดก็สามารถดูดจนเขาอ่อนแอได้ขนาดนี้?

ในใจหลานเยาเยาเกลียดราชครูเทียนเวิงเพิ่มขึ้นอีกมาก

ตอนนี้นางค่อนข้างร้อนใจแทนเย่แจ๋หยิ่ง

โดนอดีตองครักษ์ลับของตัวเองตีจนล้มอยู่กับพื้น เช่นนี้ก็เสียหน้าพอแล้ว

“ยังดูอะไรอยู่? อ๋องเย่สุขภาพไม่ดี บวกกับอดข้าวมาสามวันสามคืน ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะสามารถสู้ชนะเขาหรือ? ไปไปไป ดูอะไร ควรทำอะไรก็ไปทำอะไร”

หลานเยาเยาใช้อำนาจปกป้องคนของตัวเอง

ไล่จื่อซีจื่อเฟิงและเย็นหงไปโดยตรง แม้มองก็ไม่ให้พวกเขามองซักแวบ

“ขอรับ!”

จื่อซีสองคนรีบทำมือเคารพทันที แล้วก็ดึงเย็นหงหลบออกไปพร้อมกัน

เมื่อพวกเขาจากไป

หลานเยาเยารีบเดินสาวเท้าเข้าไป มองดูเย่แจ๋หยิ่งที่ฟื้นคืนจากความอ่อนเพลีย อดถามอย่างสงสัยไม่ได้ :

“วิทยายุทธของท่านเป็นอะไรล่ะ? ทำไมอ่อนเป็นไก่ขนาดนี้แล้ว?”

มองดูเขา เย่แจ๋หยิ่งยิ้มบางๆ

“ตอนนี้ข้าก็อับอายแล้ว ในใจของเจ้ารู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

ได้ยินคำพูดนี้ หลานเยาเยายังมีอะไรไม่เข้าใจอีก ใบหน้าร้อนผ่าว

เมื่อนึกถึงความเก้อเขินที่จวนอ๋องเย่ก่อนหน้านี้ นางค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไร เพียงคิดไม่ถึงว่าเย่แจ๋หยิ่งจะใช้วิธีการเดียวกันมาอับอายเป็นเพื่อนนาง

“ท่านมาดึกดื่นขนาดนี้ก็เพื่ออันนี้?”

“ไม่งั้นล่ะ?” น้ำเสียงที่เหลือเชื่อ

ในห้องบรรทม

หลานเยาเยาให้เย่แจ๋หยิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ นางเอื้อมมือไปตรวจชีพจรให้เขา แววตาของเย่แจ๋หยิ่งเคลื่อนไหวเล็กน้อย จากนั้นก็หลบเลี่ยงอย่างไร้ข้อสังเกตได้

“เยาเยา เจ้าวางใจ ไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไร?

สีหน้าของเขาขาวราวกระดาษ ริมฝีปากขาวซีด ดูท่าทางแล้วอ่อนแอมาก

นี่คือไม่เป็นไร?

ด้วยเหตุนี้!

ใบหน้าของนางก็เย็นชาลงทันใด น้ำเสียงเย็นยะเยือก เอ่ยแกมบังคับเล็กน้อย :

“ยื่นมือออกมาตรวจชีพจร จำเป็นต้องตรวจ”

นางจำเป็นต้องเข้าใจสภาพร่างกายของเย่แจ๋หยิ่ง จะได้ให้ยาถูกโรค ไม่เพียงแค่บำรุงเลือดอย่างเดียวเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งบอกว่าเขาเองไม่เป็นอะไร นางไม่เชื่อแม้สักนิด

“ได้!”

เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้า จากนั้นก็ยื่นออกมาช้าๆ ขณะที่หลานเยาเยาต้องการเอามือมาพาดบนชีพจรของเขา เขาก็หมุนมืออย่างกะทันหัน คว้ามือหลานเยาเยาไว้ จากนั้นก็ดึงนางเข้ามากอดในอ้อมกอด

“เย่แจ๋หยิ่ง นี่ท่านจะทำอะไร? พูดไว้แล้วว่าจะตรวจชีพจรนะ?” หลานเยาเยาขัดขืนลุกขึ้น

“เยาเยา อย่าขยับ ข้าคิดถึงเจ้าแล้ว ให้ข้ากอดครู่หนึ่ง” น้ำเสียงของเขาแหบต่ำ สีหน้าอ่อนโยน

โดนเขากอดไว้ในอ้อมกอด หลานเยาเยารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วมากขึ้นในพริบตา แต่ก็ไม่ง่ายที่จะหลอกนาง

เขาไม่ให้นางตรวจชีพจร นางก็จะตรวจให้ได้ ขัดขืนลุกขึ้นจากในอ้อมกอดของเขา และก็ไม่รู้ว่าถูโดนตรงไหน เย่แจ๋หยิ่ง “ซื่ด” เสียงหนึ่ง

“ท่านเป็นอะไร?”

“ไม่เป็นไร อย่าขยับ ให้ข้ากอดดีๆ”

“……ก็ได้!”

หลานเยาเยาระงับความสงสัยในใจของตัวเองไว้ชั่วคราว หลังจากให้เขากอดครู่หนึ่งแล้ว เขาจึงกล่าวด้วยเสียงต่ำ :

“เยาเยา วันนี้เจ้าเข้าไปที่ห้องบรรทมแล้ว?”

“ใช่สิ! มีปัญหาอะไรหรือ?” นางตอบอย่างหงุดหงิด

ความจริง เวลานั้นเห็นเย่แจ๋หยิ่งนอนอยู่บนเตียง ทีแรกนางเพียงคิดอยากจะแกล้งเขาหน่อย กลับคิดไม่ถึง ที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเย่แจ๋หยิ่งตัวปลอม ทำให้นางเข้าใจผิดไม่ว่า ยังอับอายขายหน้ามากมายขนาดนั้น

ตอนนี้เขายังจะพูดถึงอันนี้อีกทำอะไร?

หัวเราะเยาะนางหรือ?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็อารมณ์ไม่ดีในทันใด

“ข้าดีใจมาก ที่เจ้าริเริ่มเองเช่นนี้ แต่คราวหน้า เจ้าต้องดูคนให้ชัดเจนก่อนจะพุ่งเข้าไป”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป หลานเยาเยาตัวทำเลิ่กลั่กทันที

อย่าพูดว่าเป็นองครักษ์ลับเข้าใจผิด แม้แต่เย่แจ๋หยิ่งก็เข้าใจผิดแล้ว

ช่างเถอะ นางก็ไม่อยากอธิบายอะไร อธิบายก็คือปกปิด ปกปิดก็จะกลายเป็นความจริงแล้ว ดังนั้นไม่พูดยังจะดีซะกว่า

“ยังไม่ได้แต่งงานนะ! พูดเอาความดีเข้าตัวเองให้น้อยหน่อย นั่นข้าเพียงแค่อยากจะทำให้ท่านตกใจ”

“อะไรเรียกว่าไม่แต่งาน? ทะเบียนสมรสการแต่งงานของเราข้ายังเก็บรักษาไว้อยู่ เจ้านี่นะ หน้าบางไปหน่อย ยังไงก็ควรริเริ่มเวลาที่ควรริเริ่ม น่าเสียดาย ก่อนหน้านี้ข้าไม่อยู่ในจวน ไม่สามารถพะเน้าพะนอกับเจ้าดีๆสักรอบ ตอนนี้รีบมาเป็นพิเศษ ก็อยากจะพะเน้าพะนอให้ดีๆน่ะ!”

“เย่แจ๋หยิ่ง……”

ได้ยินเย่แจ๋หยิ่งพูดจาเช่นนี้ หลานเยาเยาก็รีบขัดจังหวะทันที

เห็นนางมีท่าทีทั้งเขินอายทั้งโมโห เขาก็หัวเราะเบาๆขึ้นมาอีกครั้ง

“พูดเล่นกับเจ้าน่ะ อย่าคิดจริงเลย”

“ปล่อยข้า!”

หลานเยาเยาเขินอายไม่ไหวแล้ว กล่าวด้วยเสียงที่โมโห

“รออีกประเดี๋ยว” น้ำเสียงแหบต่ำคลุมเครือ

เย่แจ๋หยิ่งพบว่าหลานเยาเยามียาพิษ

เมื่อสัมผัสถูกนาง ก็ทำให้เขาไม่สามารถหยุดความปรารถนาได้ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช้เวลา เขาก็ยังคิดอยากจะไปต่อ

ทำอะไรเขาไม่ได้ หลานเยาเยาจึงปล่อยเลยตามเขา

หลังจากครู่หนึ่ง!

ตั้งแต่เริ่มจนจบริมฝีปากบางๆของเย่แจ๋หยิ่งอยู่ข้างหูของนาง

สุดท้าย เขาปล่อยนางแล้ว แววตายังคงแวววาว จ้องมองนางเป็นระยะในเวลาอันสั้น ราวกับว่าวินาทีถัดมาจะพุ่งเข้าไปเช่นนั้น

“สมควรตาย เยาเยา ทำไมเจ้าถึงได้มีเสน่ห์เพียงนี้?”

หลานเยาเยามองบนใส่เขาแวบหนึ่ง จ้องใบหน้าที่แดงราวกับหยดเลือดแล้วกล่าว :

“โทษข้าหรือ?”

“ได้ได้ได้ ไม่โทษเจ้า โทษข้าที่ควบคุมตัวเองได้ยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องการจะทำให้ข้าโกรธตายโดยเฉพาะใช่หรือไม่?”

มองดูหลานเยาเยายืนขึ้น กลิ่นกายที่วนรอบจมูกค่อยๆจางหายไป เย่แจ๋หยิ่งอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน