หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 464 ภาพสาวงามสองภาพ

บทที่ 464 ภาพสาวงามสองภาพ

บทที่ 464 ภาพสาวงามสองภาพ

หลังจากที่รู้ว่าถูกวางยาให้สลบ

แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เวลานี้ก็ยังค่อนข้างวุ่นวายอลหม่านขึ้นมาเล็กน้อย

ขันทีที่ถูกเขย่าให้ฟื้นรีบพุ่งเข้าไปในห้องอย่างร้อนรน ตรวจดูว่าอาจมีการสูญหายหรือไม่ คนอีกส่วนหนึ่ง รีบไปรายงานฮ่องเต้

ฮ่องเต้ที่ยังนอนอย่างอบอุ่นในบ้าน เมื่อได้ยินสถานการณ์นี้ก็รีบผุดขึ้นนั่งทันที สีหน้าเคร่งเครียดในฉับพลัน

รอซ้ายรอขวา ก็มาแล้ว โชคดีเขายังมีความสามารถซ่อนไว้

แต่ว่า!

การทำงานลักษณะท่าทางภายนอกให้ทำดี เขาสวมชุดคลุมมังกรเสร็จ ก็รีบตามองครักษ์วังหลวงมาที่ห้องเก็บวางตราราชลัญจกรหยกอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบด้วยตัวเองครั้งหนึ่งจึงจะวางใจ

หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องบรรทมของตัวเองอีก แต่ไปที่ห้องหนังสืออย่างรีบร้อน

สุดท้ายในห้องหนังสือ แสงเทียนระยิบระยับไม่นิ่งอยู่ตลอด

และเวลานี้ในพระราชวังก็วุ่นวายขึ้นมาทันที อย่างไรเสีย มีคนลักลอบเข้าพระราชวังคิดต้องการขโมยตราราชลัญจกรหยก ฮ่องเต้จำเป็นต้องจับหัวขโมยผู้นี้ให้ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย

น่าเสียดาย!

นอกจากองครักษ์วังหลวงที่สลบแล้ว สถานที่เก็บวางตราราชลัญจกรหยกก็เหมือนกับว่ายังไม่ได้มีการโดนแตะต้อง แม้แต่องครักษ์วังหลวงก็ไม่เห็นว่าใครเป็นผู้วางยาทำให้พวกเขาสลบ ไร้ต้นสายปลายเหตุ และไม่พบแม้แต่ร่องรอยใดๆ

ราวกับว่าพวกเขาเป็นลมสลบ เพียงแค่นอนหลับอย่างกะทันหัน และก็ตื่นมาอย่างกะทันหันเท่านั้น

เพราะเป็นเช่นนี้ องครักษ์วังหลวงแต่ละคนขมวดคิ้วแน่น

คนที่มาไม่ใช่คนธรรมดา

นอกจากพวกเขาจะปูพรมค้นหาทุกที่แล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่น

ฮ่องเต้ที่สวมใส่ชุดคลุมมังกรสีเหลืองบริสุทธิ์ นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เขาเริ่มหยิบสาส์นราชการของเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่มาพลิกอ่านทีละเล่ม หลังจากนั้นก็ฉุกคิดอะไรได้ทันที

ค่อยๆวางสาส์นราชการลง มองไปทางกระบอกกลมๆข้างโต๊ะที่ใส่รูปภาพไว้โดยเฉพาะ จากนั้นก็หยิบภาพหนึ่งออกมา

รูปแรกเปิดออก แววตาของฮ่องเต้เปล่งประกายทันใด ด้านในเป็นสาวงามที่งามล้ำเลิศเป็นที่สุดผู้หนึ่ง เป็นภาพที่เหมือนมีชีวิต รอยยิ้มของหญิงสาวแทบจะสามารถดึงดูดวิญญาณคนให้หลงใหลได้

ผู้นี้ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นหลานเยาเยาที่เคยมีรูปโฉมชื่อเสียงดังสะเทือนในเวลาหนึ่ง

ดูไปดูไป สายตาที่ละโมบของฮ่องเต้ก็สลดลงในพริบตา ถอนหายใจเบาๆ : “น่าเสียดาย น่าเสียดาย!”

หลังจากที่เขาพูดว่าน่าเสียดายติดต่อกันสองสามประโยค ยื่นมือไปลูบคนบนภาพ สัมผัสไปพลาง โศกสลดไปพลาง

“ทำไมผู้หญิงที่งดงามถึงได้ตายไปแล้วนะ? ข้ายังไม่ได้แตะต้องเลยนะ!”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง!

เขาได้เอาภาพม้วนแล้ววางกลับเข้าไปในกระบอกอีกครั้ง จากนั้นก็เอาอีกภาพหนึ่งจากด้านข้างออกมา เมื่อเปิดออก ก็เป็นเงาสีแดงเลือดสดสะท้อนเข้าไปในดวงตา

ภาพนี้ยังคงเป็นหญิงงามหยาดเยิ้มเป็นที่สุดผู้หนึ่ง

แต่กลับมีความสวยงามที่แตกต่างไปต่างหญิงงามก่อนหน้านั้น ผู้หญิงในภาพสวมชุดคลุมสีแดงเลือดทั้งตัว ท่าทางมีเสน่ห์เย็นชา รูปร่างงามยั่วยวนยังคงสามารถดึงดูดให้หลงใหลได้ ความหยิ่งยโสของนาง รัศมีของนาง สามารถทำให้ผู้คนปรารถนาที่จะเอาชนะยิ่งกว่า

ดูไปดูไป ฮ่องเต้ก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ ผู้ที่งามได้น่าทึ่งเช่นนี้ เมื่อไหร่จะสามารถทำให้มาอยู่ในมือได้?

“เทพธิดาเอ๋ยเทพธิดา เจ้ามีโฉมหน้าที่ทำร้ายทั้งประเทศและประชาชนเช่นนั้น ทำไมถึงยังได้เก่งกาจขนาดนี้นะ! ทำให้ข้าไม่มีทางจะลงมือ

เพียงแค่เจ้าปรากฏตัว หญิงงามนับพันคนที่วังหลังของข้าก็ดูไร้สีสันไป กับพวกเขาก็ล้วนหมดความสนใจแล้ว แม้บางครั้งแก้ขัดได้ แต่หากว่าสามารถได้ครอบครองเจ้า ข้าเป็นผีก็พอใจแล้ว”

ฮ่องเต้ยื่นมือไปสัมผัสดวงตาที่แผ่ความเย็นชานั้น จากนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนลงด้านล่าง มาถึงบริเวณปากของผู้หญิง ถูเบาๆ จากนั้นก็เคลื่อนลงมาทางด้านล่าง ในดวงตาเขาแสดงถึงความปรารถนาที่มากขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มยกขึ้นเหมือนชายติดยาที่ใช้ชีวิตแห้งเหี่ยวไปวันๆเป็นที่สุด

ทันใดนั้น!

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

มีคนเคาะประตูห้องหนังสือ “ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ ไม่ดีแล้ว พระสนมเอกแท้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“อะไร?”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป เช่นนั้นก็เรื่องใหญ่แล้ว

ในวังหลังที่สวยงามแห่งนี้ของฮ่องเต้พระสนมเอกเป็นถึง ผู้ที่สวยงามที่สุด เพราะว่าโฉมหน้าทำให้ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างมาก อายุยังน้อยก็ได้เป็นถึงพระสนมเอก

แม้ว่ารูปลักษณ์ของนางจะเทียบหนึ่งส่วนสามของเทพธิดาไม่ได้ แต่มีใบหน้าที่งดงามเช่นนี้ก็สามารถทำให้ฮ่องเต้พอใจมากแล้ว ดังนั้นฮ่องเต้จึงให้ความโปรดปรานรักเอ็นดูพระสนมเอกเป็นอย่างมาก

เมื่อได้ยินว่านางแท้งแล้ว

ลุกขึ้นยืนทันที ประตูใหญ่ห้องหนังสือเปิดออก “ไป ไปตำหนักยู่สู้”

แน่นอนว่าก่อนที่จะไป ฮ่องเต้ก็ยังไม่ลืมเก็บรูปหญิงงามที่แผ่อยู่บนโต๊ะอย่างดี

ฮ่องเต้ออกจากห้องหนังสือไปพร้อมกับขันทีที่รายงาน หลังจากนั้นห้องหนังสือก็ได้เพิ่มเติมองครักษ์วังหลวงอีกห้าหกกลุ่มอย่างน่าประหลาด ล้อมรอบห้องหนังสือทั้งในและนอกรอบหนึ่ง ราวกับว่าแม้แมลงวันตัวหนึ่งก็บินเข้าไปไม่ได้

มองดูเงาสองร่างที่ยิ่งเดินยิ่งไกล

หลานเยาเยาที่แอบอยู่ในที่มืด ค่อยๆยกมุมปากขึ้น

พระสนมเอกแท้งได้ถูกเวลาจริงๆ

ดูท่าแล้ว ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าต้องซ่อนอยู่ที่นี่แล้วล่ะ!

เพียงแต่ห้องหนังสือนี้มีองครักษ์วังหลวงล้อมรอบอยู่สามชั้น นางจะเข้าไปในห้องหนังสืออย่างไรถึงจะดีล่ะ?

นี้เป็นปัญหาที่น่ากลุ้มใจหนึ่งปัญหา ไม่มีวิธี แม้ว่าจะเซลล์สมองจะต้องตายมากว่าหลายร้อย นางก็ต้องคิดดีๆ

ถูกแล้ว!

แม้ว่าคนกลุ่มใหญ่ขนาดนี้จะล้อมรอบห้องหนังสือห้องหนึ่ง ดูแล้วไม่มีช่องที่จะมุดได้ แต่ความเป็นจริง คิดต้องการจะเข้าไปก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี

มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้นยิ้มเล็กน้อย

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ห้องหนังสือ ที่มืดบนต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าต้นหนึ่ง มีเสียงขึ้นอย่างกะทันหัน “ส่าส่าส่า” เสียงลมพัดใบไม้

เสียงดังเหล่านี้เหมือนกับว่าจะดังกว่าเสียงลมที่พัดใบไม้ในปกติ หูที่ปราดเปรียวของผู้บัญชาการทหารองครักษ์วังหลวง รู้สึกได้ถึงว่าผิดปกติในทันที

เขาใช้มือชี้แนะกองกำลังกลุ่มหนึ่งโดยตรง ตามไปพร้อมกับเขา เข้าใกล้ที่มืดของต้นไม้ใหญ่นั้นทีละก้าวทีละก้าว

“สวบ” ในเวลาอันสั้น เหมือนกับว่ามีเงาดำวิ่งผ่าน

“ส่าส่าส่า……”

เสียงลมพัดใบไม้ดังขึ้นอย่างกะทันหันอีกครั้ง เสียงดังกว่าก่อนหน้านี้

ผู้บัญชาการทหารองครักษ์วังหลวงผู้นั้น แววตาเคร่งขรึมทันที

ชั่งผิดปกตินัก ดูแล้วขโมยที่ลักลอบเข้ามาในพระราชวังมาถึงที่นี่แล้ว แอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืดด้านหน้าของเขา

ด้วยเหตุนี้เขาจึงยื่นมือ ลูบไปที่ช่วงเอว ชักดาบพกที่อยู่ที่เอวออกมา แล้วก็ทำสัญญาณมือไปทางเหล่าองครักษ์วังหลวงอีกสองสามคน องครักษ์วังหลวงที่ตามอยู่ด้านหลังพยักหน้าอย่างรู้กันทันที จากนั้นก็ปิดล้อมไปทั้งสองทางของต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น

แต่เมื่อผู้นำ เดินเข้าไปดูใกล้ๆต้นไม้ใหญ่ อะไรก็ไม่มี

จากนั้นก็เหาะขึ้นไปตรวจดูบนต้นไม้รอบหนึ่ง ก็ยังไม่มีอะไร

ฉับพลันนั้น!

“เมี๊ยว……”

ไม่รู้ว่าแมวมาจากไหน ร้องเสียงแหลม ดังมาจากด้านบนศีรษะ

ผู้นำเงยหัวขึ้นดู เห็นเพียงสิ่งของก้อนสีดำสนิทสิ่งหนึ่ง ตรงกลางมีตาสองข้างเปล่งประกายออกมา พุ่งมาทางเขาทันที

เขาตกใจจนตกต้นไม้โดยตรง ขณะที่ลุกขึ้นมาแมวก็ได้หนีไปไกลแล้ว

“ที่แท้ก็เป็นแมวตัวหนึ่ง!”

ผู้นำถอนหายใจอย่างหนัก กลับไม่พบว่า ขณะที่พวกเขาจดจ่อเข้าใกล้ต้นไม้ใหญ่ เงาร่างคนบนต้นไม้ใหญ่อีกต้นที่อยู่ไม่ไกล ก็ได้แฉลบตัวผ่านไปทันที ไปถึงที่มืดอีกที่หนึ่ง

ดูองครักษ์วังหลวงที่เฝ้าห้องหนังสือ มีคนมากมาย แต่คนมากก็หมายถึงพวกเขาไม่ได้รู้จักกันหมด แม้ว่าจะมีคนเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาก็สังเกตไม่ได้เป็นแน่

ดังนั้นนางมีช่องโหว่มุดได้แล้ว ขณะที่องครักษ์วังหลวงกลุ่มหนึ่งในนั้นกำลังเปลี่ยนกองกำลัง นางได้ลากองครักษ์ที่อยู่คนสุดท้ายเข้าไปในที่มืดแล้วจัดการทิ้งโดยตรง จากนั้นก็เปลี่ยนใส่ชุดองครักษ์วังหลวง แล้วรีบแฉลบตัวมาถึงกองกำลังเมื่อครู่ด้านหลังสุด ปนเปเข้าไปอยู่ในองครักษ์วังหลวงได้สำเร็จ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท