หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 473 เท้าเหยียบเจ็ดดาว

บทที่ 473 เท้าเหยียบเจ็ดดาว

บทที่ 473 เท้าเหยียบเจ็ดดาว

“คิดว่าฮ่องเต้ก็น่าจะรู้ องค์ชายที่ฮองเฮาแห่งราชวงศ์เก่าให้กำเนิด ข่าวคราวของเท้าเหยียบเจ็ดดาว เพียงแค่นำคนมาแค่ดูก็รู้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ถูกต้อง

เท้าเหยียบเจ็ดดาว

องค์ชายที่ฮองเฮาแห่งราชวงศ์เก่าให้กำเนิดผู้นี้ เพราะเท้าเหยียบเจ็ดดาว ถูกคิดว่าเป็นโอรสแห่งสวรรค์ที่ชะตาลิขิตอย่างแท้จริง เป็นมังกรมาจุติอย่างแท้จริง

และเป็นเพราะองค์ชายที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นมังกรมาจุติผู้นี้ยังไม่ตาย ฮ่องเต้จึงได้กินไม่ได้นอนไม่หลับ

ด้วยเหตุนี้!

ฮ่องเต้รีบสั่งการทันที ส่งองครักษ์วังหลวงให้รีบเร่งไปจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์โดยตรง

ระหว่างที่รอ เหล่าขุนนางทหารก็รู้แล้ว เหตุที่ราชครูรู้ว่าองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าก็คือเซียวจิ่นหยู

ก็เพราะ วันก่อนหน้านี้คืนหนึ่ง

เซียวจิ่นหยูพาเทพธิดากลับจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ ยังอาศัยอยู่หนึ่งคืน น่าจะวางแผนการลับอะไรอยู่

ยังมีอีกก็คือ เซียวจิ่นหยูเคยถูกแม่แท้ๆของหลานเยาเยาช่วยเหลือ ทุกปีเขาจะไปจุดธูปที่หลุมศพของแม่แท้ๆของหลานเยาเยา

รวมถึงสามปีก่อน เซียวซื่อจื่อยังได้ปรากฏตัวขึ้นที่ชนเผ่าหยินไห่

อย่างไรก็แล้วเพียงแค่มีข่าวสถานที่ที่มีการปรากฏตัวตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่า เซียวจิ่นหยูก็จะปรากฏตัว นี่ยังไม่สามารถทำให้คนเกิดความสงสัย

แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าเซียวซื่อจื่อจะได้ชื่อว่าเป็นคนมีความสามารถ ไม่ชอบหนทางชีวิตการเป็นขุนนาง ชอบเพียงกินเหล้าเที่ยวเล่น ทั้งวันพากลุ่มคุณชายครอบครัวขุนนางเสพสุขอยู่กับสิ่งต่างไม่ทะเยอทะยานเพื่อความก้าวหน้า

หลังจากฟังราชครูบอกเรื่องราวเหล่านี้ ยังมีพยานหลักฐานอีกเป็นกอง

คราวนี้ไม่มีทางหนีแล้ว

เซียวจิ่นหยูก็คือองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าอย่างไร้ข้อกังขา

พริบตานั้นบรรดาผู้คนรู้สึกว่าเซียวซื่อจื่อผู้นี้ปิดบังได้อย่างลึกซึ้งมาก ตอนนี้เพียงรอจับเขามาได้ ดูเจ็ดดาวบนเท้าของเขาก็สามารถสรุปได้แน่นอนแล้ว

ไม่ถึงสี่สิบห้านาที เซียวจิ่นหยูที่อยู่ในร้านเหล้าก็ถูกองครักษ์วังหลวงจับกุมเข้ามาแล้ว

ขณะที่เขามาถึงหน้าพิธีเซ่นไหว้ใหญ่ เมื่อเห็นคนหลายคนยืนอยู่บนบวงสรวงเทพ มองดูสายตาที่เหล่าขุนนางทหารมองดูเขา แววตาก็ส่องประกาย

มาถึงด้านหน้าเหล่าขุนนาง เขาก็คุกเข่าทำความเคารพอย่างมีระเบียบ :

“ข้าน้อยเซียวจิ่นหยูคารวะฮ่องเต้ ฮ่องเต้หมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี”

ฮ่องเต้มองเขาจากบนลงล่าง และไม่ได้ให้เขาลุกขึ้น แต่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เซียวจิ่นหยู ข้าจะถามเจ้า เจ้าเคยไปหน้าหลุมฝังศพของฉูซื่ออนุภรรยาของอดีตจวนแม่ทัพหรือไม่?”

ได้ยินดังนั้น !

เซียวจิ่นหยูตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางหลานเยาเยาที่อยู่ข้างๆ ต่อจากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าน้อยเคยไปพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งไปจุดธูปทำความเคารพทุกปี!”

“อ๋อ นี่คือเพื่ออะไร ฉูซื่อเป็นเพียงอนุภรรยาของอดีตจวนแม่ทัพผู้หนึ่งเท่านั้น แต่เจ้าเป็นถึงซื่อจื่อของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ ทำไมต้องไปบูชาเซ่นไหว้อนุภรรยาผู้หนึ่งล่ะ?”

“กราบทูลฮ่องเต้ อนุภรรยาฉูมีพระคุณช่วยชีวิตข้าน้อย เพียงแต่ยังไม่ทันได้ตอบแทน ข้าน้อยก็ได้ยินข่าวว่านางเสียชีวิต ไม่มีวิธีอื่น ทำได้เพียงไปจุดธูปไหว้นางทุกปีพ่ะย่ะค่ะ”

ฟังถึงตรงนี้ ฮ่องเต้ก็มั่นใจไร้ข้อกังขา ไม่คิดจะถามอีก ใช้สายตาส่งสัญญาณต่อองครักษ์วังหลวงที่อยู่ข้างตัวเขาโดยตรง

องครักษ์วังหลวงรับคำสั่ง ไม่พูดพร่ำ กดเซียวจิ่นหยูไว้โดยตรง หนึ่งคนในนั้นรีบถอดรองเท้าถุงเท้าของเขาทันที จากนั้นก็ยกเท้าของเขาขึ้นมาให้ฮ่องเต้ดู

เห็นฝ่าเท้าของเซียวจิ่นหยูสะอาดสะอ้าน ไม่ต้องเอ่ยถึงเจ็ดดาวแล้ว แม้แต่ไฝสักเม็ดก็ไม่มี ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น แล้วให้คนถอดรองเท้าถุงเท้าอีกข้างหนึ่ง ยังสะอาดสะอ้าน ไฝสักเม็ดก็ไม่มี

ฮ่องเต้ตะลึงตาค้างแล้ว!

สีหน้าของราชครูเทียนเวิงที่อยู่ข้างๆ เคร่งขรึม สายตาจับจ้องจดจ่อที่เท้าของเซียวจิ่นหยู สีหน้าขรึมขึ้นเรื่อยๆ

เป็นไปไม่ได้!

เซียวจิ่นหยูก็คือองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า จุดนี้ไม่ผิดแน่

ราชวงศ์เก่าถูกอัคคีภัยธรรมชาติโจมตีคืนนั้น เขาอยู่ในเหตุการณ์ ทำให้เย่นโจกชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส สังหารทหารหน่วยกล้าตายสี่สิบสองคนของเขา แน่นอนเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีแรงไปตามสังหารองค์ชายที่ถูกคนช่วยไปผู้นั้น

เขาสะกดรอยอยู่ระยะเวลาหนึ่ง เห็นท่านแม่ของหลานเยาเยาส่งคนไปถึงจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์อย่างลับๆ จริงๆสองสามปีมานี้ เขาให้คนที่แอบซ่อนตัวอยู่ที่จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าไม่สามารถที่จะถูกสลับสับเปลี่ยนได้

เช่นนั้นตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

หลังจากฮองเฮาแห่งราชวงศ์เก่าให้กำเนิดองค์ชาย เขาได้เห็นจริงๆว่าองค์ชายผู้นั้นเท้าเหยียบเจ็ดดาว เป็นชะตาชีวิตของฮ่องเต้เรื่องที่หาพบได้ยากในร้อยปี

“เป็นไปไม่ได้!”

ราชครูเทียนเวิงโยกร่างกาย

กี่สิบปีแล้ว คนที่เขาจัดเตรียมล้วนเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สามารถให้ข้อมูลเท็จได้

ด้วยเหตุนี้เขารีบกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นวิชาการรักษา : “เจ้าไปตรวจดูเท้าของเขา”

“ขอรับ!”

หลังจากหมอผู้นั้นทำมือเคารพ รีบไปถึงด้านหน้าของเซียวจิ่นหยูอีกรวดเร็ว จากนั้นก็ตรวจดูที่เท้าของเขาอย่างละเอียด

ฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชครูเทียนเวิง หากว่าวิชาการรักษาของเขาไม่ยอดเยี่ยม อันดับแรกจะต้องไม่ผ่านสายตาของราชครูเป็นแน่

แต่เขาตรวจดูหลายครั้งแล้ว สุดท้ายกลับไม่พบปัญหาอะไรที่เท้าของเซียวจิ่นหยู ยิ่งไม่สามารถที่จะจัดการทำอะไรเป็นพิเศษ

ดังนั้น……

เดิมทีเท้าคู่นี้ก็ไม่มีเท้าเหยียบเจ็ดดาว

นี่คือครั้งที่สองแล้ว

หนึ่งคือใบหน้าของเทพธิดา สองคือเท้าของเซียวจิ่นหยู แต่ทุกครั้งก็ไม่ได้เห็นความสำเร็จออกมา หน้าผากของเขามีเหงื่อบางผุดออกมาชั้นหนึ่งไม่หยุด แม้แต่หลังก็เริ่มเย็นยะเยือกขึ้นมา

“กราบทูลฮ่องเต้……”

พูดยังไม่จบ

ราชครูเทียนเวิงก็โบกมือสื่อความหมายเขาไม่ต้องพูดแล้ว ดูสีหน้าของเขา ก็รู้ความเป็นจริงของเรื่องแล้ว

ขณะนี้สีหน้าของราชครูเทียนเวิงดำดั่งก้นหม้อ

เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายของเขา?

และเป็นใครที่สลับสับเปลี่ยนองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าอย่างไม่มีวี่แวว?

หรือกล่าวว่า องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นั้นตายไปในกองไฟแล้ว?

ราชวงศ์เก่าถูกทำลายคืนนั้น เขารู้ว่าเป็นแผนการร้ายฉากหนึ่ง ไม่เพียงมองดูอย่างเหยียดหยามในที่ลับ ยังวางการป้องกันอย่างหนาแน่นอยู่อย่างลับๆ วางแผนทำให้เชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์เก่าทุกคนตายกลางกองเพลิงนี้

องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นั้นเป็นคนเพียงหนึ่งของเชื้อพระวงศ์ที่หนีออกไปได้ เขากล้ารับรอง ผู้ที่เท้าเหยียบเจ็ดดาวนั้น องค์ชายที่ครอบครองชะตาชีวิตฮ่องเต้ที่หาได้ยากยิ่งในร้อยปีไม่สามารถที่จะตายได้อย่างง่ายดาย

ความเป็นไปได้ที่เขาจะตายในกองเพลิงน้อยมาก

หรือว่า……

ก่อนหน้าที่อัคคีภัยธรรมชาติจะโจมตีก็ถูกคนสลับสับเปลี่ยนแล้ว? นี่คือหนึ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้

เวลานี้ข้างๆหูมีน้ำเสียงที่เหลือเชื่อของฮ่องเต้ดังมา

“เจ้าไม่ใช่องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า?”

คำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าพูดกับเซียวจิ่นหยู

เมื่อครู่เขามีใจคิดอยากสังหาร แม้ว่าจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ต่อเชื้อพระวงศ์ ต่อราชสำนักแล้วจะซื่อสัตย์มาโดยตลอด แต่หากว่าเซียวจิ่นหยูเป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าจริง เซียวจิ่นหยูไม่สามารถเอาไว้ได้ จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ก็ยิ่งเก็บไว้ไม่ได้

แต่ตอนนี้เรื่องราวไม่เป็นดั่งที่ราชครูกล่าวเช่นนั้น……

“เก่า องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า?”

เซียวจิ่นหยูที่เดิมทียังสุขุมเยือกเย็นมาก หลังจากที่ได้ยินไม่กี่คำนี้ สีหน้าก็ขาวซีดไปในพริบตา

เขาดิ้นรนผละตัวออกจากการจับกุมขององครักษ์วังหลวงสองคนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตุบเสียงหนึ่งคุกเข่าบนพื้น กล่าวด้วยความเกรงกลัวอย่างมาก :

“กราบทูลฮ่องเต้ ข้าน้อยเป็นเพียงเซียวจิ่นหยู เป็นลูกชายของเจ้าพระยาซื่อสัตย์ และเป็นซื่อจื่อของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ ไม่ใช่องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าอะไร ขอฮ่องเต้พิจารณาอย่างกระจ่าง จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์รับผิดชอบโทษนี้ไม่ได้นะพ่ะย่ะะค่ะ!”

“เช่นนั้นทำไมเจ้าต้องจุดธูปไหว้แก่อนุภรรยาฉูของอดีตจวนแม่ทัพทุกปี? ยังบอกว่านางคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของเจ้าอีก? เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวตนที่แท้จริงของนางคืออะไร?”

หลังจากรู้ว่าเขาไม่ใช่องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า

น้ำเสียงของฮ่องเต้เห็นได้ชัดว่าอ่อนโยนขึ้นมาก

“กราบทูลฮ่องเต้ เพราะท่านพ่อข้าเคยบอก เก่า ราชวงศ์เก่าถูกทำลายล้างคืนนั้น เป็นวันที่ท่านแม่ของข้าน้อยไปเยี่ยมพระสนมเอกแห่งราชวงศ์เก่าที่พระราชวังพอดี

ไหนเลยจะรู้ว่าอัคคีภัยธรรมชาติจะถาโถม เผาทั้งพระราชวัง ท่านแม่สิ้นชีพกลางทะเลเพลิง หากว่าไม่ได้ท่านป้าฉูช่วยเหลือ เกรงว่าข้าน้อยจะตายกลางกลองเพลิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ

สำหรับตัวตนของท่านป้าฉู ไม่ใช่ว่าเป็นอนุภรรยาผู้หนึ่งของอดีตจวนแม่ทัพหรือ? ยังมีตัวตนอื่นอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ภรรยาหลวงของเจ้าพระยาเซียวกับพระสนมเอกของราชวงศ์เก่าเป็นพี่น้องเผ่าเดียวกัน มีความสัมพันธ์ที่ดี ก่อนราชวงศ์เก่าถูกทำลายล้าง ก็ไปเยี่ยมที่พระราชวังอยู่เสมอ

เรื่องนี้คนส่วนใหญ่ล้วนรับรู้ ฮ่องเต้ก็รู้เป็นธรรมดา

“เช่นนั้นทำไมสถานที่ที่ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าปรากฏเจ้าก็จะปรากฏตัว? เจ้าอย่าบอกข้านะว่านี่เป็นความบังเอิญ”

หนึ่งครั้งสองครั้งเป็นความบังเอิญ

แต่ความบังเอิญมากแล้วก็เป็นแผนการล่วงหน้าแล้ว

อีกทั้งราชครูเทียนเวิงยังมีพยานหลักฐานอีก เขาคิดแก้ตัวก็แก้ตัวไม่ได้

“เฮ้อ นี่ไม่ใช่ความบังเอิญจริงๆพ่ะย่ะค่ะ แต่เพราะท่านพ่อของข้าน้อยเคยต่อสู้ในสนามรบกับอ๋องเย่ เลื่อมใสต่ออ๋องเย่เป็นอย่างมาก

เขามักจะสอนข้าน้อย ให้เรียนรู้จากอ๋องเย่ให้ดีๆ สอนแล้วไม่ฟังจริงๆ ก็จะเอาเรื่องการแต่งงานมาบังคับ ข้าน้อยไม่มีวิธีอื่น ทำได้เพียงแอบไปหาอ๋องเย่ เหมือนองครักษ์คุ้มกันผู้หนึ่งของเขาพ่ะย่ะค่ะ

แต่ทว่า อ๋องเย่ไหนเลยจะมองเห็นข้า? แต่ติดที่หน้าตาของท่านพ่อ ก็ยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้นจึงคิดทุกทางพยายามกลั่นแกล้ง เวลานั้นพอดีกับที่ฮ่องเต้ท่านส่งอ๋องเย่สืบหาตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่า

ดังนั้นอ๋องเย่จึงเอาเรื่องนี้มาหลอกข้าน้อย ยังบอกข้าน้อยว่าหากว่าหาตราราชลัญจกรหยกพบ จะให้ข้าน้อยเป็นทหารหั่วโถว

เมื่อข้าได้ยินน่าจะเป็นตำแหน่งขุนนางที่ดีตำแหน่งหนึ่ง จึงได้ปฏิญาณว่าจะต้องหาตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าให้พบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

สิ้นสุดเสียงของเซียวจิ่นหยู

ฮ่องเต้ก็โกรธทันที : “ก่อกวน อ๋องเย่ก็ชั่งรังแกหลอกลวงคนเกินไปแล้ว”

ทหารหั่วโถวคืออะไร?

ก็คือทำอาหารอยู่ในกองทหาร เป็นตำแหน่งขุนนางไหนอะไร ให้ซื่อจื่อผู้สง่างามไปเป็นคนทำอาหารในกองทหาร ก็คืออ๋องเย่ผู้นั้นที่ไม่เห็นใครในสายถึงทำได้

หลายปีก่อนเจ้าพระยาเซียวออกรบกับอ๋องเย่ และก็เป็นเวลานั้นพอดี ชื่อเสียงของอ๋องเย่ที่องอาจห้าวหาญเชี่ยวชาญการสงครามก็เริ่มเลื่องลือ

เจ้าพระยาเซียวเลื่อมใสอ๋องเย่ ทุกคนล้วนรู้

อย่าพูดถึงเจ้าพระยาเซียว แม้แต่เหล่าขุนนางทหารก็ล้วนทั้งเลื่อมใสและเกรงกลัวต่ออ๋องเย่

และเซียวจิ่นหยูแม้ว่าเคยติดตามไปสนามรบกับเจ้าพระยาเซียว แต่หลังจากที่เจ้าพระยาเซียวขาพิการเป็นต้นมา ก็ไม่ได้ออกไปอีก แต่มุ่งเน้นไปทางความสามารถทางการประพันธ์ นั่นหลังจากที่มีการขนานนามของคุณชายทั้งเจ็ดของเมืองหลวงออกมา เขาก็คือชื่อเสียงดังสะเทือน กลายเป็นชายคนรักในฝันของหญิงสาวนับหมื่นพัน

แน่นอนเหล่านี้เป็นการกินดื่มเที่ยวเล่น ก้าวข้าวหนทางชีวิตการเป็นขุนนาง ไม่ไปสร้างผลงานในทางการทหาร เที่ยวเล่นอิสระกับพวกคุณชายทั้งวัน ทำให้เจ้าพระยาเซียวกลัดกลุ้มใจจนผมขาวหมดแล้ว

ตอนนี้เซียวจิ่นหยูกล่าวเช่นนี้ เป็นเพียงคำพูดจากปาก

หากต้องการรู้ว่าเรื่องราวจริงเท็จ ก็ไม่ได้ยากลำบากมาก เพียงต้องพบเจ้าพระยาเซียว หรืออ๋องเย่ หรือพวกคุณชายที่กินดื่มเที่ยวเล่นกับเขาก็สามารถพิสูจน์ได้แล้ว

“วันก่อนหน้าเหล่านั้น เจ้าพาเทพธิดาไปที่จวน ได้วางแผนการลับเรื่องอะไรอีก?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท