หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่478 เขาอันตรายกว่าข้า

บทที่478 เขาอันตรายกว่าข้า

บทที่ 478 เขาอันตรายกว่าข้า

หลังจากนั้นไม่นาน รถม้าขนาดใหญ่ทั้งแปดก็ออกจากเมือง เย่หลีเฉินตรวจสอบคนในกลุ่ม จากนั้นเขาก็ลูบขมับอย่างเหนื่อยล้า ฝีเท้าเซเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังจะเป็นลม

“องค์ชายรัชทายาท ท่านเป็นอะไรไปหรือ?”

องครักษ์วังหลวงหลายคนที่อยู่ข้างๆ เขา เมื่อเห็นเช่นนี้จึงตกใจมาก และรีบเข้ามาพยุงเขา

“ไม่มีอะไร เวียนหัวนิดหน่อย”

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าว “องค์ชายรัชทายาท สองสามวันมานี้ท่านไม่ค่อยได้พักผ่อน วิ่งเต้นไปมา ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้น้ำสักหยดก็ยังไม่ได้เข้าไป ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปร่างกายก็จะดูเกินจริง รีบไปรับประทานอะไรสักหน่อยเถอะ!”

“ยังมีขันทีอยู่ที่นี่ ท่านไม่จำเป็นต้องทำเอง ร่างกายต้องสำคัญ”

คนสนิทที่ติดตามตัวเขา เมื่อเห็นท่าทางซีดเซียวขององค์ชายรัชทายาท จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ฮ่องเต้ให้เวลาองค์ชายรัชทายาทเพียงสามวันเท่านั้น วันนี้เป็นวันสุดท้าย หากไม่พบเบาะแสของเทพธิดาอีก ตำแหน่งขององค์ชายรัชทายาทก็จะถูกยกเลิก

องค์ชายรัชทายาทในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

ทำงานด้วยใจจริงเพียงหนึ่งเดียว แต่วันนี้ฮ่องเต้กลับขาดสติไปแล้ว

เย่หลีเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ทำตามคำพูดของผู้ใต้บังคับบัญชาและกล่าวว่า:

“ตกลง ข้าจะไปหาอะไรกิน เดี๋ยวจะไปทันที ตรงนี้รบกวนขันทีแล้ว”

“ได้เลยได้เลย องค์ชายรัชทายาทเชิญเถอะ!”

ขันทีต้องการให้เย่หลีเฉินรีบออกไป เป็นเพราะเย่หลีเฉินอยู่ เขาคิดที่จะตักตวงบางอย่างไม่ได้ ตอนนี้เขาหวังเพียงให้เย่หลีเฉินออกไปนานสักหน่อย เพื่อที่เขาจะได้สิ่งของที่มีมูลค่ามากขึ้น

กระทั่งเย่หลีเฉินหายลับไปต่อหน้าตนเอง สายตาของขันทีแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย และแอบยิ้มอยู่ในใจ:

องค์ชายรัชทายาทคนเดียว ที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ คงจะเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์

ฮ่องเต้ฉลาดปราดเปรื่องกว่าจริงๆ องค์ชายรัชทายาทผู้นี้คงจะถูกทอดทิ้งไปนานแล้ว

ทันทีที่ละสายตาจากขันที เย่หลีเฉินก็รีบกลับเข้าไปในโรงน้ำชา และเมื่อเข้ามาใกล้ก็เห็นเถ้าแก่คนหนึ่งประสานมือแสดงความเคารพไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม

“เชิญเสด็จองค์ชายรัชทายาท ต้องการดื่มอะไรสั่งได้ตามต้องการ เมนูดังขึ้นชื่อในร้านของเรา……”

ยังไม่ทันจะพูดจบ เย่หลีเฉินก็ขึ้นไปชั้นสองแล้ว และเสียงของเขาก็ดังขึ้นหลังจากไม่เห็นใครอยู่แล้ว:

“น้ำชาที่ดีที่สุดในโรงน้ำชา!”

“โอ้ เสร็จแล้ว! ชาหลงจิ่งของทะเลสาบซีหูชั้นเลิศ”

ประโยคหลังนั้น เป็นของเสี่ยวเอ้อในโรงน้ำชาอย่างชัดเจน

เย่หลีเฉินรีบมายังห้องที่เคยเห็นเงาสีแดงบนถนนก่อนหน้านี้ และระงับอารมณ์ที่ซับซ้อนของตนเอง “ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เห็นได้ชัดว่ากังวลมที่จะเห็นนาง ในใจก็มีความสงสัยที่จะถาม แต่เมื่อประตูห้องเปิดออก

เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เขากลับพูดไม่ออกเลยสักคำ ได้แต่มองไปที่นางอย่างนิ่งๆ อารมณ์ที่ซับซ้อนก็ค่อยๆ สงบลง

“ทำไมหรือ?” ไม่เจอสองสามวัน ก็ไม่รู้จักกันแล้ว”

หลังจากที่ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน และทั้งสองก็นิ่งเงียบไปนาน

หลานเยาเยายกมุมปากขึ้น และพูดอย่างแผ่วเบา: “เจ้ามีอะไรอยู่ในใจ ทำไมไม่ถาม?”

หลานเยาเยารู้ว่า ก่อนที่พิธีบวงสรวงจะเริ่มนั้น ก็ตอนที่อยู่สุสานหลวง เย่หลีเฉินก็เคยสงสัยนางมาก่อน

แม้ว่าในวันทำพิธีบวงสรวงนั้น นางได้ปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่หลานเยาเยา ฮ่องเต้ก็เชื่อ และราชครูเทียนเวิงก็เชื่อเช่นกัน แต่นิสัยของเย่หลีเฉินไม่มีวันเชื่อ

อีกทั้งเมื่อนางได้เห็นความรู้สึกที่แสดงออกทางสายตาของเขาแล้ว และเขายืนยันว่านางคือหลานเยาเยา

“ถามอะไรน่ะหรือ? ถามเจ้าว่าสรุปแล้วใช่หลานเยาเยาหรือไม่?”

ข้าขอถามว่าที่เจ้าทำทุกวิถีทางเพื่อมาใกล้ชิดกับข้า ก็เพื่อให้เมืองหลวงกลายเป็นลักษณะที่ไม่สมบูรณ์แบบอย่างทุกวันนี้?

แล้วขอถามอีกว่าที่เจ้ากลับมาเมืองหลวง ต้องการที่จะล้มล้างราชสำนักปัจจุบัน และช่วยให้คนที่เหลืออยู่ของราชวงศ์เก่าเหล่านั้นมาควบคุมราชวงศ์เก่าใช่ไหม?”

เมื่อเขาพูดนี้ น้ำเสียงก็สั่นเล็กน้อย แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทาเช่นกัน

อดีตก็คืออดีต ตอนนั้นหลานเยาเยายังคงเป็นหลานเยาเยาที่น่าเกลียดอย่างยิ่ง ในใจและในสายตาของนางเต็มไปด้วยเขา ดวงตาคู่นั้นแทบทนไม่ได้ที่จะแนบชิดร่างกายของเขา

แต่เขาในตอนนั้น นอกจากหลานเยาเยาจะเบื่อหน่ายหลานเยาเยาแล้ว ก็เหลือเพียงความรังเกียจลึกๆ เท่านั้น

หลังจากการเปลี่ยนแปลงเพียงครั้งเดียว ก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง หลานเยาเยาเปลี่ยนแปลงจนแพรวพราว และทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะมองนาง แต่นางก็ไม่สนใจเขาอีกเลย แม้แต่สายตาที่มองเขาก็ล้วนแต่เย็นชา ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกใดๆ

การใส่ร้ายของเสด็จแม่ ทำให้เสด็จแม่ต้องฆ่าตัวตายในที่สุด และความโลภของเสด็จพ่อ ทำให้นางเกือบจะตายไม่ดี

เขาก็เคยเกลียดนางมาก่อนเช่นกัน แต่เขาก็เกลียดเสด็จพ่อเสด็จแม่ของตนเองเช่นกัน อันที่จริงเขาอยากจะขอโทษหลานเยาเยา แต่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้

เพราะเสด็จแม่กลับเสียชีวิตเพราะนาง แต่เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของนาง เขากลับรู้สึกปวดใจอย่างแท้จริง

เดิมที ตนเองไม่รู้ตัวว่าได้ชอบคนที่ตนเองเคยเกลียดคนนั้นมาก่อน สามปีแล้ว เขาไม่เคยที่จะลืมนาง แม้แต่ในตอนกลางดึกได้แอบไปยังสุสานฝังหมวกและเสื้อที่เสด็จอาสร้างไว้ให้นาง และเฝ้าหลุมฝังศพจนถึงรุ่งสาง

แต่เมื่อเทพธิดาผู้ที่ลึกลับปรากฏตัวขึ้น เขาก็ถูกดวงตาคู่นั้นของนางดึงดูดอย่างลึกซึ้งที่คล้ายกับหลานเยาเยา เพียงเพราะดวงตาคู่นั้น ดวงตาที่ดูเหมือนหลานเยาเยามาก แต่การแสดงออกของดวงตากลับแตกต่างกัน

เมื่อเคยผ่านความเป็นความตายกับเทพธิดามาด้วยกัน ทำให้เขาเริ่มสงสัยว่า ทำไมเทพธิดาผู้ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนนี้ ถึงยิ่งเหมือนกับหลานเยาเยาขึ้นเรื่อยๆ ?”

กระทั่งในวันนั้น……

เป็นพิธีบวงสรวง เมื่อได้ยินที่คนอื่นพูดมากับหูของตนเองว่านางคือหลานเยาเยา

เขาตกใจ……

จนทำอะไรไม่ถูก เพราะนางกลับมาแล้ว และเข้าหาเขาอย่างมีจุดมุ่งหมาย แล้วเขาจะทำอย่างไร?

เขาเกลียดไม่ลง!

“จุดมุ่งหมายของข้าไม่ใช่เจ้า!”

เมื่อเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนของเย่หลีเฉิน หลานเยาเยากำลังจะหงายไพ่เขา เขาไม่พูดคำใด และหลานเยาเยาได้แต่พูดต่อ:

“เสด็จแม่ของเจ้าพยายามที่จะฆ่าข้าหลายครั้ง ข้าจึงปล่อยให้นางได้รับผลที่ตามมา ข้าไม่คิดว่าข้าผิด

เสด็จพ่อของเจ้าคิดกับข้าเลยเถิด หากไม่สามารถรับได้ก็ต้องคิดที่จะทำลาย ข้าเกลียดเขา

แต่ข้าไม่สามารถที่จะโค่นล้มอำนาจของฮ่องเต้ด้วยเหตุนี้ได้ ทำให้ราษฎรต้องตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก ข้าสามารถมีชีวิตกลับมาได้ เป้าหมายเดียวคือราชครูเทียนเวิงเท่านั้น

เขาจะต้องตาย หากเขาไม่ตาย ใต้หล้าก็จะวุ่นวาย

แน่นอน ข้ายังต้องคิดบัญชีเสด็จพ่อของเจ้า แต่เจ้าไม่ใช่เขา”

ด้วยเหตุนี้ การอธิบายถึงจุดนี้ก็ดี อธิบายไปมากก็ไร้ประโยชน์

หากเย่หลีเฉินไม่สามารถคิดได้ด้วยตนเอง หรือการตัดสินใจขั้นสุดท้ายคือการเลือกอยู่ข้างเสด็จพ่อของเขาก็ไม่สำคัญ

เย่หลีเฉินคนเดียวก็ไม่เป็นอันตรายต่อแผนของนาง

“เสด็จอาล่ะ? เจ้าจริงใจกับเขามากแค่ไหน?”

ในความเป็นจริงเขาก็รู้เช่นกัน ว่าตั้งแต่หลานเยาเยามายังเมืองหลวงในฐานะเทพธิดา ไม่ใช่หลานเยาเยาที่สามารถเข้าใกล้นางได้ แต่เสด็จพ่อจงใจสร้างโอกาสให้ตนเอง และหลานเยาเยาก็แค่ถูกเข้าหาก็เท่านั้น

“เขาเป็นสามีของข้า เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายภพหลายชาติ”

ไม่ต้องพูดถึงความจริงใจของนางว่ามีมากแค่ไหน เพียงคำตอบแบบนี้ก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่าเย่หลีเฉินเข้าใจเพียงพอ

“ทะเลทรายช่างอันตราย แต่เขาปล่อยให้เจ้าไปเสี่ยงแบบนี้หรือ?”

บางครั้งข้าก็ไม่เข้าใจเสด็จอาเลยจริงๆ เห็นชัดๆ อยู่ว่าหลานเยาเยาผู้ซึ่งพิเศษเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเขามีความสามารถในการปกป้องนางจากอันตรายทั้งปวง แต่ทำไมถึงต้องให้นางต้องเสี่ยงอันตราย? การผ่านอันตรายพวกนั้นก็อาจเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

หลานเยาเยาส่ายหน้า

ในใจรู้สึกโศกเศร้า

“เขาอันตรายกว่าข้าอีกนะ!”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน