หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 488 เลือดเปื้อนบ่อน้ำโบราณ

บทที่ 488 เลือดเปื้อนบ่อน้ำโบราณ

บทที่ 488 เลือดเปื้อนบ่อน้ำโบราณ

จากที่ตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากที่หลานเยาเยาใช้รูปแบบการรักษาการจำศีล นางก็ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ละเอียด ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าประหลาดดังขึ้นมา เสียงเบาแต่ชัดเจนล้ำลึก

ไม่เหมือนเสียงฝีเท้าของคนปกติควรจะมี

ทีละก้าว ละก้าว

“ตัก ตัก ตัก……”

เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากที่เข้ามาใกล้ที่สุด เสียงฝีเท้าก็หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆไกลออกไป……

มีเสียง“แอ๊ด”!

หลานเยาเยาเปิดประตูบ้าน มองไปยังทิศทางที่เสียงไกลออกไป มีแต่ความมืดมิด มองอะไรไม่เห็นสักอย่าง

หยิบมุกเย่หมิงออกมา ทันใดนั้นก็ส่องแสงสว่างบริเวณกว้าง

นางยกเท้าตามเสียงฝีเท้าไปอย่างไม่ลังเล

นั่นเป็นทางที่มุ่งไปยังต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน!

บ่อโบราณต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในยามกลางคืนสูงใหญ่และดำสนิท นอกจากจะได้ยินเสียงลมพัดใบไม้แล้ว ก็ไม่มีเสียงอะไรอีก แม้เสียงที่หลานเยาเยาติดตามมา พอหลังจากเข้าใกล้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็หายไป

“อ๊า……”

เสียงอู้อี้น่าเวทนาดังขึ้นมา

จากนั้นก็มีเสียงโซ่เหล็กสั่นดังขึ้นมา ส่งเสียงก๊อกแก๊งๆ น่าสะพรึงกลัวมาก

ตอนที่หลานเยาเยาเข้าใกล้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

ก็เอามุกเย่หมิงเก็บขึ้นมา

ทันใดนั้น!

ก็มีคล้ายๆกลิ่นคาวของเลือดวนเวียนอยู่ที่จมูก นางขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นยิ่งก้าวฝีเท้าไปข้างหน้า กลิ่นคาวเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เท้าที่เหยียบไปบนใบไม้สีเหลืองทอง ก็ส่งเสียงเล็กๆ

แต่ตอนนี้ หลานเยาเยาเดินมาอยู่ตรงหน้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ใต้เท้าก็เหมือนเหยียบเข้ากับของเหนียวๆ

คุกเข่าลงไป เอามุกเย่หมิงออกมาส่อง ก็คือแอ่งเลือดสดๆ

“ก๊อกแก๊งๆ……”

เป็นเสียงโซ่เหล็กสั่นอีกครั้ง ซึ่งอยู่ใกล้กับตัวเองมากๆ

จู่ๆหลานเยาเยาก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เงาดำก็โจมตีมาอย่างรวดเร็ว นางแฉลบตัวหลบเล็กน้อย เงาดำและนางนั้นสวนผ่านกัน พร้อมกับพากลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรงมาด้วย

หลังจากนั้นเงาดำก็กลับมาอีกครั้ง เหมือนกับการแกว่งชิงช้า และยังคงมีเสียงสั่นก๊องแก๊งของโซ่เหล็กตามมาติดๆ

เพียงแต่ในตอนค่ำคืน มันดูน่ากลัวมาก

สั่นสองสามที ก็ไม่ได้ทำให้ถึงตาย

หลานเยาเยาออกแรงดึงเงาดำนั้น เสียงของโซ่เหล็กสั่นก็หยุดทันที รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างสาดมาบนตัว

พอใช้มุกเย่หมิงดู คือเลือด!

รูม่านตานางหดลงมาทันที

มองของที่นางดึงมาอยู่ในมือทันที ที่แท้ก็มีคนตายคนนึง ถูกใช้โซ่เหล็กแขวนอยู่บนต้นไม้ ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเลือด ตายยังไม่หลับตา ‘จ้อง’ตรงมายังนาง เห็นได้ชัดว่าหลานเยาเยานั้นไม่กลัว แต่ขนลุกขนพองไปทั้งตัว

พอเห็นผู้ตายอย่างชัดเจนแล้ว คิ้วนางก็ขมวดแน่นทันที

“เป็นเขา!”

ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ก็เจอคนนี้ที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี่

“แซบแซบ……”

ใบไม้ขยับเล็กน้อย เหมือนกับเสียงลมพัดใบไม้มาก

แต่หลานเยาเยากลับเงยหน้าขึ้นทันที มองไปยังต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เจริญงอกงามและดำสนิท ริมฝีปากเปิดออกเบาๆ:

“ออกมา!”

มีคนอยู่บนต้นไม้

แทบจะทันทีที่เปร่งเสียงออกมา ร่างของนางก็ห่างออกจากพื้น บินไปยังบนต้นไม้โบราณอย่างรวดเร็ว เท้ายังไม่ทันได้ยืนนิ่ง ก็เหมือนมีเงาดำแว็บผ่านหน้าไปด้วยความเร็วมาก

หลานเยาเยาวาดหลังมือไปคว้า และข่วนเสื้อตรงอกของเงาดำ ดูเหมือนจะจับได้เลือด

แต่เขาก็ยังวิ่งหนี……

แตะปลายเท้าเบาๆ ไล่ตามไปราวกับผี

แต่ร่างนั้นหลบหนีได้อย่างฉลาด ใช้ความไม่เข้าใจพื้นที่ในหมู่บ้านของนาง วิ่งไปวิ่งมาในหมู่บ้านเงียบๆ สุดท้ายก็หายไปในความมืด

นางไม่ได้ไล่ตามไปต่อ และก็ไม่ได้กลับไปที่บ่อน้ำโบราณต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้น

แต่กลับไปยังห้องพักชั่วคราวของตนเอง ทำเสียงกรอบแกรบสักพัก ถึงจะไปยังบ้านของคนสวนที่ยู่หลิวซูอยู่

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”

นางเคาะหน้าต่างบานที่ทรุดโทรมสามครั้ง ด้านในก็มีเสียงอ่อนโยนราวกับสายน้ำดังขึ้นมา:

“เจ้าสำนัก?”

“เปิดหน้าต่าง ออกมาพบกันก่อน!”

“……”ดึกแล้ว เจ้าสำนักอย่าซนได้ไหม? ถ้าให้อ๋องเย่รู้เข้า เขาจะยังมีชีวิตอยู่ไหม?

แต่ว่า!

เจ้าสำนักสั่งมา เขาหรือจะกล้าไม่เปิดหน้าต่าง?

คิดไม่ถึงว่า พอเขาเปิดหน้าต่างออกไป แม้แต่หน้าของหลานเยาเยายังไม่ทันเห็น ก้อนดำสนิทก็ถูกโยนมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา

เขามองเข้าไปใกล้ๆอย่างละเอียด ดูเหมือนจะเป็นห่อของ

“เจ้าสำนัก นี่คือ?”

ในกลางดึก หลานเยาเยาเอาห่อของมาให้เขา มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่ใช่ว่าให้เขาจากไปใช่ไหม?

“เก็บให้ดีๆ ห้ามเปิดเด็ดขาด พรุ่งนี้จะต้องมีประโยชน์”

พูดจบก็ไป ทิ้งให้ยู่หลิวซูสับสนมึนงง

……

วันที่สอง ฟ้าเพิ่งสว่าง เสียงกรีดร้องดังทะลุของหญิงคนหนึ่งดังขึ้น เหมือนกับเจอบางอย่างที่น่ากลัว

หลานเยาเยาที่ถูกรบกวน ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ พลิกตัวนอนต่อ

ร้องอะไรนัก ก็กะอีแค่คนตายไม่ใช่รึไง?

ในไม่ช้า!

เช้าตรู่ที่เดิมทีเงียบสงบ ก็เปลี่ยนเป็นวุ่นวายมะรุมมะตุ้ม เสียงดังคึกคาม เสียงที่วิ่งผ่านบ้านเป็นครั้งคราวพวกนั้น ทำให้หลานเยาเยาหลับต่อไปไม่ได้จริงๆ

ในขณะนั้นเอง!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างร้อนรน: “ท่านทวด ท่านเรียกเทพธิดาในห้องให้ตื่นเร็วเข้า ในหมู่บ้านเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ต้องการให้เทพธิดาไปดู”

“เกิดเรื่อง? เกิดเรื่องอะไรหล่ะ?”

“ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์สำแดงอิทธิฤทธิ์แล้ว นักเลงหมู่บ้านที่ทำเรื่องชั่วนั่น ถูกโซ่เหล็กเกี่ยวไว้บนต้นไม้ตาย ท่าทางผิดปกติน่ากลัว” คนที่เคาะประตูอธิบาย

“เขาตาย ตายแล้ว? นั่นก็สาสมนี่ เป็นเรื่องที่ดี งั้นทำไมต้องเรียกเทพธิดาไปด้วย?”ท่านทวดไม่เข้าใจ

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์สำแดงอิทธิฤทธิ์ ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ทุกครั้งที่ตายก็คือคนเลว พวกเขาชาวบ้านก็หวังว่าจะประสบความสำเร็จ

แต่ว่า!

เทพธิดาที่อาศัยอยู่ในบ้านนาง ดูภูมิหลังเหมือนจะไม่ธรรมดา กิริยาท่าทางการกระทำล้วนตื่นตาไม่เจียมตัว พวกเขาเหล่าคนธรรมดาตัวเล็กๆ ก็สนใจแค่ปรนนิบัติให้ดีๆก็พอ

ฟังจากลูกน้องของเทพธิดาบอกว่า เทพธิดาจะโมโหตอนตื่น ถ้าไปรบกวน จะไม่มีผลดีอะไรเลย

“ถ้าท่านไม่ไปดูที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั่น ท่านจะต้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย นักเลงหมู่บ้านตายแล้ว ที่จริงมันก็พอใจ แต่เลือดของเขากลับผสมไปกับบ่อน้ำโบราณ เวลาคืนหนึ่ง น้ำพุในบ่อศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ไหลแล้ว ผู้ใหญ่บ้านคิดว่า เกรงว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะชี้แนะอะไร ดังนั้นจึงมารบกวนเทพธิดา ที่ได้ความคุ้มครองจากพระเจ้า”

บ่อโบราณเพราะเลี้ยงหมู่บ้านมาหลายชั่วอายุคน ถ้าไม่มีบ่อโบราณ แล้วพวกคนในหมู่บ้านจะทำอย่างไร?

“เอ๋? มีเรื่องนี้ด้วยหรือ? ข้าจะไปเชิญเทพธิดามา”

เห็นได้ชัดว่าท่านทวดนั้นร้อนรนแล้ว

หมุนตัวจะไปเคาะห้องที่หลานเยาเยานอน

แต่ทว่า พอสิ้นเสียง

ก็มีเสียง “แอ๊ด” ประตูห้องที่หลานเยาเยาอยู่เปิดออก หลานเยาเยาแต่งตัวตัวเรียบร้อย ยืนอยู่หน้าประตู พูดเสียงเคร่งขรึมว่า:

“ไม่ต้องเรียกแล้ว ไปตอนนี้แหล่ะ!”

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน

ตอนที่หลานเยาเยาไปถึง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกกลุ่มคนรุมล้อมไว้หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน หรือว่าจะเป็นคนที่เพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่เมื่อวาน ก็มากันแทบหมด

แน่นขนัด อีกทั้งยังจ้อกแจ้กจอแจผิดปกติ

เมื่อเห็นว่านางมา ทุกคนก็ทยอยเปิดทางเล็กๆให้ แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรอคอย

เดินเข้าไปดู!

หลานเยาเยาขมวดคิ้วฉงนยิ่งกว่าเมื่อคืน

เมื่อคืนรู้แค่ว่ามีคนตาย ผู้ตาย ถูกคนใช้โซ่เหล็กเกี่ยวกระดูกซี่โครงทั้งสองข้างไว้ และแขวนอยู่บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ รอยเลือดที่อยู่บนร่างกายแห้งไปหมด บนพื้นล่างเท้าคือใบไม้ร่วงสีเหลืองทอง ด้านบนเต็มไปด้วยแอ่งเลือด

พอคิดถึงฆาตกรที่หลุดหนีไปจากมือเมื่อคืน

หลานเยาเยาก็รีบมองไปรอบ สุดท้ายก็หยุดสายตาอยู่ที่ฮ่องเต้ในชุดสีเหลือง หลังจากนั้นก็ย้ายสายตา กวาดตามองผ่านบางคนไป เอ่ยถามว่า:

“คนผู้นี้คือใคร? ตายมานานเท่าไหร่?”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท