หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 508 ภาพหลอนที่คุ้นเคยเป็นพิเศษ

บทที่ 508 ภาพหลอนที่คุ้นเคยเป็นพิเศษ

บทที่ 508 ภาพหลอนที่คุ้นเคยเป็นพิเศษ

มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสมอง แต่เป็นเพียงภาพด้านหลัง ชุดขาวปลิวไสว ร่างสูงดูคุ้นเคยเป็นพิเศษ

ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ที่ชายคนนั้นอยู่ เหมือนกับที่ใต้ต้นบุพเพตรงระเบียงวังหิมะ แต่เพียงครู่เดียว ภาพหลอนในสมองนั้นก็หายวับไป

เสียงแปลกๆของส้งเย่นกุยอยู่ข้างหู

“ห้ามคิดอะไรทั้งนั้น ทิ้งความคิดที่วุ่นวายไปให้หมด”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาก็ตกใจ หันไปมองเขาทันที ดวงตาฉายแววตาที่แปลกๆ

เขารู้ว่านางเกิดภาพหลอน

พอจะเอ่ยปากถาม……

จู่ๆสมองก็จมเข้าไปในกลุ่มธาตุอากาศที่เต็มไปด้วยหมอก สภาพแวดล้อมสกปรกเกินทน

หลังจากนั้นก็มีร่างนึงกวัดแกว่งอยู่ในเมฆหมอก ทันใดนั้นชายที่เหมือนกับเทพบุตร ก็ค่อยๆเดินมาทางนาง ชุดขาวราวหิมะ เส้นผมดำสนิทราวกับหมึกมัดเอาไว้เล็กน้อย ใบหน้าขาวสะอาดหมดจน เผยให้เห็นความงดงามเย็นชาที่ไม่ให้ใครเข้าใกล้

ดวงตาล้ำลึกเหมือนน้ำวน ราวกับว่าความสูงส่งและความเป็นราชาได้แพร่ไปยังทุกอณูในร่างกายของเขา

เขามายืนตรงหน้านาง รอยยิ้มบางๆยกขึ้น เอ่ยพึมพำกับนางว่า:

“หนานซู่ เจ้ามาแล้ว”

ทันใดนั้น!

ฝ่ามือก็เจ็บ ความเจ็บนั้นลามไปถึงหัวใจ ภาพหลอนในสมองถูกโจมตีจนเป็นผุยผง ใบหน้าของส้งเย่นกุยก็ประทับเข้าไปในดวงตา แขนถูกบีบเนื้อขึ้นมา หยิกจนเกิดความเจ็บ

หลังจากนั้น แขนก็ถูกเขาจับไว้แน่น พานางบินไปยังรูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนนั้นโดยเร็ว

นี่เป็นครั้งแรก ที่ส้งเย่นกุยเผยวิชาตัวเบาต่อหน้านาง มีความเร็วที่เร็วมาก

รู้สึกเพียงแต่เสียงลมที่พัดผ่านหูไป พวกเขาเป็นเหมือนกับภาพเบลอที่ผ่านทุกคนที่อยู่ด้านล่างไป และบินไปยังด้านบนสุด ของรูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอน

หลังจากหลานเยาเยายืนมั่นคงแล้ว ก็มองเขาอย่างประหลาดใจ ในใจไม่อาจสงบอยู่นาน สายตาก็ซับซ้อน

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

เขารู้ว่าตนเองเกิดภาพหลอน

อีกทั้งยังน่าจะรู้ว่าเป็นภาพหลอนยังไง นางรู้สึกได้ว่า ถ้าเกิดภาพหลอนตลอดแบบนี้ เป็นไปได้ว่านางจะจมลึกเข้าไป ไม่อาจถอนตัวขึ้นมาได้

เมื่อสบตากับหลานเยาเยา ส้งเย่นกุยก็ช้าลงทันที ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย ในดวงตามีแต่ร่างเล็กๆของนาง

สุดท้ายก็ถอดหายใจ พูดขึ้นมาเรียบๆว่า:

“คนโบราณ!”

คนโบราณคนนึงพูดออกมาด้วยความรู้สึกอ้างว้าง……

นี่คือคำตอบอะไร?

คลุมเครือ ตอบกับไม่ตอบก็แทบไม่ต่างกัน

เมื่อเห็นว่าเขาย้ายสายตาไปมองอีกด้าน ก็คงจะไม่ยอมอธิบายอะไรเพิ่ม

หลานเยาเยาก็ไม่ไปสืบสาวอะไรอีก แต่มองไปยังผู้คนที่วิ่งอยู่ข้างล่างด้วยความเร็ว

งูทองทะเลทรายไล่พวกเขาทันแล้ว เย่หลีเฉินที่ดูจนตรอกเล็กน้อย เหลือบมองสองคนที่อยู่ด้านบนรูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนก็วางใจ จากนั้นจึงหยุดฝีเท้า หมุนตัวยกกระบี่ขึ้น รวบรวมกำลังภายใน และฆ่างูทองไปสองสามตัว

แต่ทว่า……

งูทองบางพวกก็โจมตีมาทางเขา เขาเหวี่ยงกระบี่ไปทางซ้ายอีกครั้ง เพื่อไล่งูทองที่อยู่ด้านซ้ายส่วนหนึ่งออกไป แต่งูทองทางด้านขวา เขาไล่ไปไม่ทัน

ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาคนร่างหนึ่งแว็บขึ้นมา ใช้พลังของกระบี่ทำให้งูทองที่อยู่ด้านขวาของเย่หลีเฉินกระเด็นออกไป

เมื่อร่างนั้นลอยลงมา ชายที่หน้าปากเบี้ยวสุดๆ ก็กวาดกระบี่ไปอีกครั้ง หลังจากที่พลังของกระบี่ขับไล่พวกงูทองฝูงใหญ่ออกไปได้ในทันที

ถึงจะหันมามองเขา พูดเสียงเย็นว่า: “รีบไป!”

ผู้ที่มาคือจื่อเฟิงที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความโหดเหี้ยม มีเลือดเปื้อนบนตัวเขามากมาย นั่นคือสิ่งที่เหลือไว้จากการฆ่างูทอง

เมื่อเห็นผู้ที่มาชัดเจน

ก็พยักหน้าหนักแน่น จากนั้นทั้งสองคนก็ใช้พลังดาบด้วยกัน โจมตีไปยังงูทองที่เข้ามาอีกครั้งจนกระเด็นไป พอได้จังหวะว่าง ก็รีบหมุนตัวบินจากไป

หลานเยาเยาที่เห็นสถานการณ์!

ก็รีบแฉลบตัวบินลงมาจากรูปปั้นหินทารกยักษ์ หยิบยาผงบนตัวที่เหลือเพียงสองถุงออกมา เมื่อเห็นขบวนขึ้นมาทีละคนแล้ว

หลานเยาเยาก็สั่งให้พวกเขาอ้อมไปยังด้านหลังรูปปั้นหิน

รอจนกระทั่งหลังจากเย่หลีเฉินและจื่อเฟิงบินมา ก็รีบใช้ปลายนิ้วกรีดถุงยาผง กำลังจะโปรยไปทางงูทอง

แต่ก็ต้องประหลาดใจ ที่พบว่าพวกงูทองไม่ได้บุกโจมตีขึ้นมา แต่หยุดอยู่ในระยะหนึ่งและเงยหน้าพ่นภาษางูอย่างดุร้าย อยากจะพุ่งมา แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้

ราวกับมีฉากมาบังรูปปั้นหินทารกยักษ์เอาไว้ ทำให้มันเข้ามาไม่ได้ ทำได้เพียงล้อมรอบรูปปั้นหินทารกยักษ์ไว้เป็นวงกลม รออย่างเงียบๆ บางตัวถึงขนาดมุดเข้าไปในทรายเหลือง

หรือว่า……

พวกมันกำลังหวาดกลัว จึงไม่กล้าบุกรุกรูปปั้นหินทารกยักษ์!

ยู่หลิวซูที่เดินมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นท่าทางนี้คิ้วก็ยิ่งขมวด พูดตรงๆว่า:

“นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี ที่พวกมันกำลังกลัว”

หลานเยาเยาได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า ส่งเสียงอื้มเบาๆ บ่งบอกว่าเห็นด้วย จากนั้นก็หมุนตัวไปทางรูปปั้นหินทารกยักษ์ ที่สูงใหญ่ราวกับวัง

ตอนนี้มันนอนเอนไป เหมือนกับกำลังนอนคว่ำหลับอยู่ที่พื้น แต่หน้ากลับหันมาทางพวกเขา ใบหน้าสงบของทารกยักษ์ตรงหน้า เหมือนกำลังนอนหลับอย่างสบาย

ปากจู๋เชอร์รี่เล็กๆ ซึ่งเป็นท่าทางที่เกิดขึ้นบ่อย หลังจากที่ทารกหลับสนิทแล้ว

แต่พอมองอย่างละเอียด

ก็จะพบว่า ยิ่งมองมันเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความรู้สึกถึงรอยยิ้มเล็กๆบนหน้า รอยยิ้มนั้นเผยความแปลกประหลาด

เย่หลีเฉินที่มาพร้อมกระบี่ ก็เช็ดๆเลือดของงูทองที่เปื้อนตามร่างกาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียน พอมาถึงตรงหน้าหลานเยาเยา ก็ได้ยินบทสนทนาที่พวกเขาพูดคุย จึงรีบหันไปมองรูปปั้นหินทารกยักษ์

รีบพูดขึ้นว่า:

“ข้าจะไปกำชับพวกเขาว่าห้ามแตะอะไรทั้งนั้น”

ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ แต่ระวังไว้ก่อนดีกว่า

พูดประโยคนั้นจบ เขาก็มุ่งไปทางด้านหลังของรูปปั้นหินทารกยักษ์โดยเร็ว

“มือของเจ้าเป็นอะไรไป?”

ก่อนหน้านี้ที่เห็นจื่อเฟิง จู่ๆหลานเยาเยาก็รู้สึกโล่งใจ นางมองไปยังจื่อเฟิงก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่า เดิมทีที่คุ้นเคยใช้มือขวาในการจับกระบี่ ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นมือซ้าย

ส่วนมือด้านขวานั้นก็ตกลงมาตามธรรมชาติ ราวกับว่าสูญเสียพลังไป

“แค่ก เคล็ด เคล็ดแล้ว”

หากคุณหนูไม่พูด เขาก็ลืมไปแล้ว หลังจากที่ถูกม้วนเข้าไปในมรสุมทะเลทรายขนาดใหญ่ ก็กระแทกกับพื้นหลายครั้ง ทำให้มือเคล็ด

หลังจากที่หล่นพื้น เขาจะต่อเองก็ต่อไม่ได้ บวกกับการโจมตีของงูทอง เขาจึงทำได้เพียงอดทนความเจ็บปวด ปล่อยให้มือขวามันห้อยลงมาอย่างงั้น

ตามหาคุณหนูไปตลอดทาง และก็ฆ่างูทองไปตลอดทาง มันเจ็บจนชา จนลืมไปแล้วว่ามีเรื่องมือเคล็ดนี้อยู่

ตอนนี้พอคุณหนูพูดถึง จื่อเฟิงรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากหัวเราะ มันหายากจริงๆ ว่าผู้ที่ควบคุมกองกำลังซึ่งเป็นองครักษ์ลับใต้บัญชาของอ๋องเย่ จะมีช่วงเวลาที่หดหู่

ดังนั้นจึงก้าวไปข้างหน้า ใช้โอกาสในตอนที่เขาไม่ได้ระวัง มือนึงวางบนไหล่เขา อีกมือนึงก็ดึงแขนของเขา

มีเสียงดัง “กร๊อบ”“กร๊อบ”สองครั้ง มือบอกว่าจะเชื่อมกันก็เชื่อมกันแล้ว ไม่ได้ทำลวกๆสักนิด

“ลองดู ว่าออกแรงได้ไหม”

มือเคล็ด ไม่ใช่หัก พอต่อแล้วก็ยังคงปวด แต่ก็สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระ

ได้ยินดังนั้น!

จื่อเฟิงก็กวัดแกว่งมือขวาได้ตามอำเภอใจโดยไม่ขมวดคิ้วสักนิด มือดีแล้ว ความปวดในตอนนี้ก็ไม่เป็นอันตรายอะไร

รีบคำนับพูดว่า: “ขอบพระทัยคุณหนู”

“เอาหล่ะ ไปสำรวจรูปปั้นหินทารกยักษ์ที่กำลังพักผ่อนอยู่กับข้าก่อน”

“ขอรับ!”

ทั้งสองคนกำลังจะวางแผนเดินไปด้านหลังรูปปั้นหินทารกยักษ์ ก็มีเสียงไม่พอใจรีบดังขึ้นมาจากด้านข้างไม่ไกล

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท