หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 509 ลูกเนรคุณ เจ้าจะกบฏงั้นรึ?

บทที่ 509 ลูกเนรคุณ เจ้าจะกบฏงั้นรึ?

บทที่ 509 ลูกเนรคุณ เจ้าจะกบฏงั้นรึ?

“นังหนู แกล้งทำเป็นไม่เห็นข้าอีกแล้วใช่ไหม? ข้าต้องต่อสู้อย่างจริงจังด้านนั้นเพียงลำพัง ขัดขวางการโจมตีของงูทอง เพื่อให้คนมากมายมาถึงหลังรูปปั้นหินอย่างปลอดภัย

แล้วดูพวกเจ้า พอปลอดภัยแล้วก็ไม่มีใครสนใจข้า ทำไมชีวิตข้าถึงได้ขมขื่นขนาดนี้นะ! ไม่มีใครสนใจข้า เจ้าก็ไม่สงสารข้าแล้ว ข้าเป็นปู่เจ้านะ”

คำพูดเมื่อครู่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม พูดตอนสุดท้าย ก็ทำหน้าเบ้ แสร้งทำเป็นร้องไห้ยกใหญ่

เอ่อ……

หน้าผากหลานเยาเยาเต้นตุบๆ อดไม่ได้ที่จะเอามือไปท้าวหัวไว้ นางอยากอยู่เงียบๆ เงียบๆสงบๆ

แต่ทว่า……

นางลืมตาเฒ่าเย่นไปได้ยังไง?

คาดว่าภาพจำที่ตาเฒ่าเย่นให้นางไว้ มันลึกซึ้งมาโดยตลอด อีกอย่างนางก็รู้ว่า กำลังภายในศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก ถึงขนาดอยู่สูงกว่าจื่อเฟิง ดังนั้นจึงรู้สึกว่าไม่ต้องกังวล

พอเห็นท่าทางจนตรอกของเขาตอนนี้ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดของงูทอง โชกไปด้วยเลือด น่าสะพรึงกลัว คนไม่รู้ก็จะคิดว่าเลือดคนออกมาจากตรงไหน และก็ท่าทางที่ทำใบหน้าเหมือนถูกทอดทิ้ง……

เขาเสียใจแล้ว

ใช่!

ตาเฒ่าเย่นทำเพื่อนาง ก็รู้กันอยู่ว่าการมาครั้งนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าจะไม่สามารถหวนกลับมาได้ แต่เขาก็ยังคงไม่สนใจเรื่องในเมืองหลวง และมาทะเลทรายกับนาง ถ้าไม่รู้สึกซาบซึ้งนั่นก็ไม่จริงแล้ว

ตอนนี้พอเจอกับสถานการณ์อันตรายเขาก็ยังคงไม่หนีไปไหน และยืดอกเผชิญอย่างห้าวหาญ ตั้งใจที่จะปกป้องนาง ปกป้องทุกคนในขบวน

จะเหนื่อยจะลำบากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยพูดกับใคร มีเพียงแค่ตอนที่อยู่ต่อหน้านาง ที่พยายามจะเรียกร้องความสนใจ

รู้ว่าเขาเก่งกาจ แต่ก็ลืมไปว่าเขานั้นเป็นชายชรา ที่มีผมขาวเต็มหัวแล้ว วิ่งเต้นในทะเลทรายเป็นเวลานาน ทั้งโดนมรสุมโจมตี ทั้งต้องจัดการกับงูทอง เขาจะไม่เหนื่อยได้อย่างไรหล่ะ!

ชายชราคนนี้ ได้เอาตนเองเป็นคนที่สนิทที่สุดแล้ว

แล้วนางหล่ะ!

มีเรื่องที่ต้องทำมากมาย จึงเอาใจใส่เขาน้อยไป แต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่พูดคุยกับเขาดีๆ ไม่สมควรจริงๆ

จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจและสะอื้นเล็กน้อยๆ เสียงร้องไห้นั้นจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง แต่ก็ยังโผเข้าหาเขาโดยไม่สนใจอะไร และพูดว่า:

“ท่านปู่ ท่านปู่ ช่างดีจริงๆเลยที่ท่านไม่เป็นไร ข้ากังวลแทบตายแล้ว”

ได้ยินดังนั้น!

ตาเฒ่าเย่นก็อึ้งไป ไม่มีปฏิกิริยาใดๆกลับมาอยู่ครู่นึง รอจนหลังจากโต้ตอบมา ก็พูดโต้ขึ้นมาว่า:

“นังหนู เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม? เป็นไข้หรือไม่? ไม่งั้นเจ้าก็คงเรียกว่าตาเฒ่าเย่น?”

จู่ๆนางก็มาพูดว่าท่านปู่ มันก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่

หลานเยาเยาไม่ได้สนใจคำพูดของเขา เดินไปยังข้างกายเขา และคล้องแขนเขาไว้ มองเขาอยู่ตลอด พูดเสียงดังว่า:

“ท่านปู่ ท่านปู่ที่แสนดีของข้า ลำบากท่านแล้ว! อยากนั่งลงแล้วให้ข้าทุบหลังนวดไหล่ให้ท่านไหม?”

เดิมทีคิดว่าตาเฒ่าเย่นจะตอบอย่างสดชื่น แต่คิดไม่ถึงว่า พอหลังจากที่ได้ยินคำพูดนางแล้วเขาจะตัวสั่น ดึงมือออกมาทันที และมองนางด้วยท่าทางที่เหมือนเห็นผี

“นังหนู เจ้าทำเป็นปกติหน่อยเถอะ!”

หลานเยาเยาเงยหน้ามองฟ้าเงียบๆ

ก็ได้!

น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ นางเองก็สะอิดสะเอียนตัวเองสุดๆ

หลังจากนั้น หลานเยาเยา ตาเฒ่าเย่น แล้วก็จื่อเฟิง สำรวจรูปปั้นหินทารกยักษ์ตรงหน้าอย่างละเอียด จากนั้นก็อ้อมไปนั่งพักด้านหลัง

แม้ด้านหลังจะมีเย่หลีเฉินที่ตรวจสอบ แต่นางก็ยังไม่ค่อยวางใจ

รีบยืนขึ้นหยิบยาผงที่เหลือออกมา และโรยยาผงเป็นวงใหญ่ที่ด้านหลังรูปปั้นหินทารกยักษ์ สถานที่ที่พวกเขาพักผ่อน ตลอดจนถึงด้านของรูปปั้นหินทารกยักษ์ เพื่อป้องกันพวกงูมดหนูแมลง

หลังจากนั้นก็ไปยังตรงตำแหน่งส่วนขาของรูปปั้นหินทารกยักษ์เพียงลำพัง

ทันใดนั้น!

นางก็ได้ยินเสียงอาวุธสู้กัน

หัวใจก็จมลงทันที รีบแฉลบตัวไป

ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เย่หลีเฉินรอดพ้นจากการโจมตีของงูทอง ก็ไปจัดเตรียมและสั่งให้ทุกคนห้ามแตะรูปปั้นหินทารกยักษ์มั่วซั่ว

จากนั้น ก็ได้ยินว่าเขาไปสำรวจส่วนขาของรูปปั้นหินทารกยักษ์ จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมา

ก็คิดว่าเขาจะไม่วางใจ และสำรวจรอบๆรูปปั้นหินทารกยักษ์อีกครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะมาเจอกับสถานการณ์อันตราย

พอนางมาถึงตำแหน่งส่วนขาของรูปปั้นหินทารกยักษ์ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่ซื่อสัตย์

เย่หลีเฉินที่สวมเครื่องแต่งกายของไท่จื่อ(องค์ชายรัชทายาท) กำลังต่อสู้กับผู้คุ้มกันหกคน ที่แต่งตัวเหมือนองครักษ์วังหลวง ส่วนด้านหลังของพวกเขาคือฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าที่อยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนใจ ข้างกายเขายังมีอีกสิบกว่าคนปกป้องเขา

“เจ้า เจ้าจะกบฏงั้นรึ?”ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าคำรามออกมา

เสียงโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ดวงตาก็สีแดง แววตาก็ประกายความอาฆาตอย่างรุนแรง

“ข้าเป็นเสด็จพ่อเจ้า เจ้ากล้าฆ่าพ่อตัวเอง เป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้ ลูกเนรคุณ ยังไม่หยุดอีก? เจ้าต้องรับผิดชอบ อย่ามาโทษว่าข้าโหดเหี้ยม รอเจ้าตายก็จะเอากระดูกไปบดขยี้เป็นเถ้าถ่าน”

เฮอะ!

ลูกเนรคุณทรยศ

เขาไม่เคยเอาเย่หลีเฉินอยู่ในสายตา ตั้งให้เขาเป็นไท่จื่อ(องค์ชายรัชทายาท)ก็คือเห็นความสำคัญกับการดูถูกถากถางเขา ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ดุด่าเขาตลอด

ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าในตอนนี้เหมือนเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว

องครักษ์วังหลวงที่เขาพามาหกสิบ เจ็ดสิบคน เป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาองครักษ์วังหลวงที่เขาฝึกอบรม เพียงพริบตาเดียวก็เหลือคนเพียงนิดเดียว เกือบจะพ่ายแพ้แล้ว

ภายในสายตาของเขามีความสิ้นหวัง แต่พอเห็นเย่หลีเฉินเมื่อครู่นี้ก็มีความหวังอันริบหรี่เกิดขึ้นในใจ

เขายังมีชีวิตอยู่ นั่นก็บอกได้ว่าพวกเทพธิดาน่าจะยังมีชีวิตอยู่

ทางด้านพวกเขาจะต้องมีน้ำและอาหารแน่ๆ เขาเพียงแค่อยากให้เย่หลีเฉินไปขโมยเอาน้ำอาหารมาให้เขา

แต่เขากลับกัน

พอเห็นเขา ก็ทำเหมือนเห็นศัตรู จะฆ่าฮ่องเต้ผู้นี้ และยังพูดสิ่งทรยศมากมาย ทำให้เขาโกรธจนเสียอยากจะยกกระบี่ขึ้นมาฆ่า

ทันใดนั้นองครักษ์วังหลวงไม่กี่คนก็มาล้อมเย่หลีเฉินเอาไว้ หลานเยาเยารีบใช้กำลังภายใน ส่งออกไปตบพวกเขา ทั้งหกคนก็กระเด็นล้มไปที่พื้น

เมื่อเห็นว่านางมา นัยน์ตาของเย่หลีเฉินก็ฉายความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่านางจะมาปรากฏตัวที่นี่

ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบาย

ตอนที่มองไปทางฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า นัยน์ตาของเขามีความเกลียดชังออกมา และก็มีแต่ความโกรธแค้น

“กล้าฆ่าพ่อตัวเอง? ในตอนที่เจ้าคิดจะเผาจาวหยางให้ตายในตอนนั้น เจ้าก็ไม่ใช่เสด็จพ่อของข้าอีกแล้ว ขณะนี้ข้าแทบจะไม่ไหวที่จะฆ่าเจ้าในตอนนี้แล้ว”

“เย่หลีเฉิน ตอนนี้เจ้าโดนปีศาจทำให้หลงลืมสติปัญญาไปหมดแล้ว เจ้าอย่าลืมสิว่าเจ้าแซ่เย่ เลือดของราชวงศ์ไหลเวียนอยู่ในกระดูกเจ้า

ข้าคือเสด็จพ่อของเจ้า เลือดนั้นข้นกว่าน้ำ เจ้าต้องการฆ่าข้าเพื่อนางงั้นหรือ? เจ้าต้องได้สติได้แล้ว ต้องแบ่งศัตรูกับข้า”

การปรากฏตัวของเทพธิดา ทำให้เขาจำเป็นต้องพูดกับเย่หลีเฉินดีๆ

อย่างไรเสีย!

สายตาที่เทพธิดามองเขานั้นปกปิดความอาฆาตอยู่ ดังนั้นเข้าต้องให้เย่หลีเฉินทรยศ มาทางฝั่งเขา และปกป้องเขา

แต่ว่า!

การเปลี่ยนทิศทางของเย่หลีเฉินมันเหนือความคาดหมายของเขา เย่หลีเฉินแต่ก่อน ที่ไม่เคยโต้ตอบอะไร เชื่อฟังคำพูดและปฏิบัติตามเขาตลอด บอกให้ไปทางไหนก็ไปทางนั้น

ตอนนี้ ไม่เพียงแต่กล้าต่อต้านเขา

กลับยังกล้าถือกระบี่บอกว่าจะฆ่าเขาอีก!

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก็จะได้ฆ่าเขาไปตั้งแต่ตอนแรก จะให้ข้าเก็บเขาเอาไว้ และมายืนชื่นชมต่อหน้าเขามาจนถึงตอนนี้ทำไม?

“ฮ่าๆๆ น่าตลกจริงๆ เจ้าดูท่าทางของเจ้าตอนนี้สิ เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดหมดแล้ว

และยังคิดเพ้อเจ้อบอกให้ข้าได้สติ? คนที่ควรได้สติน่าจะเป็นเจ้ามากกว่า เจ้านั้นแหล่ะที่เป็นคนหลงลืมสติปัญญา”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำประณามที่โกรธเกรี้ยวของเย่หลีเฉิน ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าก็โมโหจนเส้นเลือดขึ้น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท