หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 512 ในทะเลทรายพบสวนแตงโมอย่างไม่คาดฝัน

บทที่ 512 ในทะเลทรายพบสวนแตงโมอย่างไม่คาดฝัน

บทที่ 512 ในทะเลทรายพบสวนแตงโมอย่างไม่คาดฝัน

ในยามราตรีรอจนทุกคนนอนหลับหมด ด้านฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าและองครักษ์วังหลวงเริ่มเคลื่อนไหว

ฮ่องเต้มีคำสั่งตายให้พวกเขา เป้าหมายคือน้ำและอาหารของพวกเทพธิดา ถ้าพวกเขาทำภารกิจสำเร็จ ก็สามารถได้รับน้ำและอาหารกินอิ่มท้อง

ถ้าทำภารกิจไม่สำเร็จ พวกเขามีแต่ต้องตายสถานเดียว

ตอนนี้พวกเขาเข้าใจอย่างชัดเจนและวิตกกังวลว่าจะกลายเป็นผู้ที่ถูกดูดเลือดแล่เนื้อ สู้ไปสู้ตายอย่างยิ่งใหญ่สง่างามดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ตายอย่างมีคุณค่า

เมื่อมาถึงที่วางน้ำและอาหารของเทพธิดา มองเห็นมีเพียงสองคนที่คุ้มกันอยู่ ในขณะนั้นทั้งสองคนกำลังนัดกันไปห้องน้ำ

น้ำและอาหารของพวกเขา ยังมีม้าทั้งหมดวางรวมอยู่ด้วยกันนะ! แบบนี้พวกเขายังวางใจ กล้าไปห้องน้ำ ไปเรียกคนอื่นให้มาคุ้มกัน?

แม้ว่าพวกเขาจะมีความสงสัย แต่ความเย้ายวนความสดใหม่ของน้ำและอาหารทำให้ไม่อยากคิดมาก เพียงแต่แอบดีใจ

น้ำและอาหารอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาต้องนำมันมาให้ได้

ถ้าถูกผู้อื่นพบเข้า ก็จะขี่ม้าหลบหนีไป องครักษ์วังหลวงทั้งสี่คนแอบไปยังที่ไว้อาหาร ดวงตาเบิกกว้างเป็นประกายขึ้นมาทัน กลืนน้ำลายไม่หยุด ยังไม่ทันได้ยื่นมือไปหยิบ จู่ๆด้านบนหัวก็แสงเหมือนดวงอาทิตย์ส่องลงมา

ทำให้เหล่าองครักษ์วังหลวงตกใจรีบเหลือบมองดู

สิ่งที่เห็นก็คือเทพธิดาซึ่งอยู่ในชุดสีแดง ในมือถือมุกเย่หมิง ยิ้มมุมปากมองมาที่พวกเขา ความเคลื่อนไหวของพวกเขาเมื่อครู่ล้วนอยู่ในสายตา

ในสายตาของนางพวกเขาเป็นเพียงแค่ตัวตลก

มุกเย่หมิงส่องประกาย ผู้ที่แอบอยู่ในมุมมืดล้อมออกมา และล้อมพวกเขาไว้แน่นแม้แต่น้ำสักหยดไม่สามารถเล็ดลอดผ่านไปได้

เมื่อรู้ว่าไม่มีทางที่จะถอยหนีไปได้ พวกเขาองครักษ์วังหลวงคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะร้องขอความเมตตาไม่หยุด โดยหวังว่าหลานเยาเยาจะรับพวกเขาไว้ พวกเขายินยอมเป็นวัวเป็นม้า

อย่างไรก็ตาม!

อยู่ข้างกายฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า ไม่เพียงแต่ต้องความวิตกกังวล ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับความตายตลอดเวลา

แต่มาทาด้านเทพธิดานั้นไม่เหมือนกัน พวกเขามีน้ำมีอาหาร ถ้าพวกเขาเป็นวัวเป็นม้าแล้วมีน้ำกิน แม้ตายพวกเขาก็ยอม

แววตาของทุกคนที่มองพวกเขา เหมือนกำลังมองคนโง่อย่างไรอย่างนั้น

เจ้านายของพวกเขาขายพวกเขาแล้วยังไม่รู้อีก ยังจะคิดเพ้อเจ้ออยากเป็นวัวเป็นม้าให้น้ำพวกเขาหรือ?

อีกอย่าง

ที่พวกเขาไม่รู้คือ หลังจากที่ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าสั่งให้คนไปขโมยน้ำและอาหาร เขาได้พาคนที่เหลือจากอีกด้านหนึ่งมา เตรียมบังคับคนที่พูดจามีน้ำหนักมาต่อรองกับหลานเยาเยา

เพียงแต่ขณะที่กำลังจะเข้าใกล้

มีสองสามร่างปรากฏต่อหน้าพวกเขา ซึ่งคือ เย่หลีเฉิน ยู่หลิวซู ยังมีตาเฒ่าเย่น

“อะไรหรือ?ฮ่องเต้เฒ่า คิดจะใช้อุบายเดิมๆอีกครั้งหรือ” ตาเฒ่าเย่นพูดจาเยาะเย้ย

ก่อนหน้านี้ใช้พระราชธิดาจาวหยางซึ่งถูกไฟคลอกตายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา ตอนนี้คิดที่จะใช้ชีวิตขององครักษ์วังหลวงไม่กี่คนมามาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา จะปล่อยให้พวกเขาทำแผนชั่วสำเร็จหรือ?

น่าสงสาร……

เจ้าสำนักได้เตรียมการไว้เรียบร้อยนานแล้ว

เมื่อรู้ว่าแผนที่ตนวางไว้ล้มเหลว ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าไม่อยากประมือกับพวกของยู่หลิวซูจึงวางอาวุธในมือ

ยู่หลิวซูมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า:

“ท่านรีบออกไปให้ไกลๆ”

ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าสำนักมีประโยชน์ ไม่ฆ่าพวกเขา เขาอดไม่ได้ที่จะต้องการชีวิตของฮ่องเต้สุนัขผู้นั้น

ในฐานะฮ่องเต้ผู้สง่างาม ถูกคนตำหนิเช่นนี้ เขากลับต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ นำคนของตนเองถอยกลับไปอย่างเศร้าหมอง

และองครักษ์วังหลวงสองสามคนที่เขาส่งไปก่อนหน้านี้ถูกตี และเตะพวกเขากลับมายังข้างกายของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า

ฮ่องเต้เห็นพวกเขาก็รู้สึกโกรธ แต่ก็ดุด่าเพียงไม่กี่ประโยคไม่ได้ลงมือตบตีพวกเขา

เป็นคืนหนึ่งที่ผ่านไปอย่างน่ากลัว แต่ไร้เหตุอันตราย

เพียงแต่ในคืนนั้นหลานเยาเยานอนหลับไม่สนิท

นางเหมือนรู้สึกถึงบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวหลบหนีอย่างขวักไขว่ซึ่งอยู่ใกล้กับพวกเขามาก นางจงใจลุกขึ้นสำรวจรูปปั้นหิน แต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ

เพียงแต่เสียงที่ได้ยินเหมือนดังในภาพหลอน

วันที่สอง ขณะฟ้ากำลังสว่าง พวกเขาถูกเสียงร้องด้วยความตกใจปลุกให้ตื่น

“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ท่านรีบมาดูเร็ว นั่นคือแตงโม ที่นั่นมีแตงโมมากมาย”

เสียงที่ทั้งแหลมทั้งบางนั้น เพียงได้ยินก็รู้ว่ามาจากปากของขันที

แตงโม?

ในทะเลทรายจะมีแตงโมได้อย่างไร?

เมื่อวานนางสำรวจแล้ว ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นทะเลทรายที่ไร้ขอบเขต ไม่น่ามีแตงโม

คนของฮ่องเต้นั้นคงเห็นภาพหลอนเข้าแล้ว

ดังนั้นหลานเยาเยาจึงไม่ได้สนใจเสียงร้องด้วยความตกใจนั้น

แต่ว่า!

ไม่นานหลานเยาเยาก็พบว่ามีสิ่งไม่ปกติ คนที่ร้องตะโกนว่ามีแตงโมยิ่งนานยิ่งมากขึ้น แม้แต่กำลังพลของนางยังร้องด้วยความตกใจ

หลานเยาเยารีบลืมตาลุกขึ้น มองเห็นเย่หลีเฉินรีบเดินมาทางนาง นัยน์ตามีประกายของความยินดี

“เยาเยา เจ้ารีบมาดู ที่นี่มีสวนแตงโมอยู่จริงๆ”

“เจ้าสำนัก คนในกองทุกคนล้วนเห็นกับตาไม่ใช่ภาพลวงตา พวกเรารีบไปดูกันเถอะ” ยู่หลิวซูเดินเข้ามาน้ำเสียงไม่ได้มีความตกใจด้วยความยินดีเหมือนคนอื่น ในใจกลับยิ่งมีข้อสงสัย

เมื่อวานเขาสำรวจแล้ว รอบด้านทั้งสี่ล้วนเป็นทะเลทรายที่ไร้ขอบเขต ไม่มีแตงโมอะไรนั้น

วันนี้ตอนเช้ากลับพบสวนแตงโม เป็นเรื่องผิดปกติมาก

แตงโมพวกนั้นมาจากไหน?

คงไม่ใช่ผีหลอกตาหรอกนะ?

ยู่หลิวซูเกาๆหัว คิดว่าตนเองคิดเรื่อยเปื่อยไปเอง

หลานเยาเยาที่ลุกขึ้นแล้ว มองดูท่าทางของพวกเขา จากนั้นจึงมองไปทางที่พวกเขาชี้

ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตรมีสวนแตงโมอยู่จริงๆ แม้ว่าจะไม่ใช่สีเขียวสด แต่สามารถเห็นว่าเป็นแตงโมผลใหญ่

มองแล้วยิ่งทำให้น้ำลายไหล นี่คือสิ่งที่น่ายั่วยวนใจ

ไม่ใช่ภาพลวงตา!

หลานเยาเยาแน่ใจมาก

และก็ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติในภาพลวงตา

หรือว่าแท้จริงแล้วมีสวนแตงโมอยู่จริงๆ ?

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือปลอม ต้องไปตรวจสอบถึงจะรู้

ดังนั้นนางจึงให้คนไปแล่เนื้อม้าที่ตายแล้วโยนออกไปที่ทะเลทรายที่ไกลหนึ่งร้อยเมตร

หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่!

ไม่พบงูทองปรากฏตัว

น่าแปลก งูทองไม่รอเหยื่อก็หนีออกไปแล้ว?

คิดใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ หลานเยาเยาตัดสินใจที่จะไปดูจึงรีบพูดกำชับขึ้น:

“หาคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาหลายคนหน่อยไปดูพร้อมกับข้า จำไว้ไม่ได้รับอนุญาตจากข้าใครก็ไม่สามารถแตะต้องแตงโมพวกนั้น รอข้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วค่อยตัดสินใจ คนที่เหลือคุ้มกันอยู่ที่นี่ ต้องตรวจสอบรอบด้าน ปกป้องอาหารของพวกเราให้ดี”

นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีเสียงความดีใจที่เห็นแตงโมสักน้อย

ทุกคนรู้ว่านางระแวดระวังมากกว่าปกติ ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าที่นางทำแบบนี้สมเหตุสมผล

แม้ว่าแตงโมจะเป็นที่เย้ายวน

แต่ว่าพวกเขามีน้ำมีอาหาร ต้องไม่รีบร้อน

หลานเยาเยาเลือกคนมาไม่กี่คน และมองไปที่จื่อเฟิง

“เจ้าไปกับข้า”

“ขอรับ คุณหนู!”

จากนั้น หลานเยาเยานำคนออกไป

ความเคลื่อนไหวของหลานเยาเยาอยู่ในสายตาของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า เห็นหลานเยาเยานำเนื้อม้าโยนไปข้างนอกร้อยเมตรเพื่อที่จะดูว่างูทองอยู่หรือไม่

เขาจึงให้องครักษ์วังหลวงทำบ้าง แต่พวกเขาไม่มีเนื้อม้าจึงแล่เนื้อคนตายแทน เมื่อเห็นว่าบนพื้นทะเลทรายไม่มีความเคลื่อนไหวจึงวางใจ

สายตามองที่พวกหลานเยาเยาซึ่งกำลังเดินไปทางสวนแตงโม เขาจึงออกคำสั่งอย่างหนักแน่น

“ไปแย่งมาให้ข้า แตงโมทั้งหมดเป็นของข้า”

“ขอรับ!”

มีแตงโมแก้กระหาย ใครจะอยากดื่มเลือดที่ยากจะดื่มนั้น?

หลังจากที่มีบัญชาจากฮ่องเต้ พวกเขารีบวิ่งไปทางสวนแตงโมอย่างบ้าคลั่ง ราวกับกลัวว่าช้าเพียงวินาทีแตงโมจะถูกแย่งชิงไปอย่างไรอย่างนั้น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท