หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 520 เขามาแล้ว

บทที่ 520 เขามาแล้ว

บทที่ 520 เขามาแล้ว

เขาเบิกตากว้าง พูดใบหน้าดุร้าย

“เกาจื้อ เจ้าหมารับใช้เป็นพยาน ว่าข้านั้นฆ่าพี่ฆ่าน้อง ฆ่าเมียฆ่าขุนนางโดยไม่เคยใจอ่อนเลยสักนิด ตอนนี้ก็เพียงแต่มาถึงตาเจ้า ทำให้ข้าลงมือเองได้ ถือว่าเป็นเกียรติของเจ้าในชีวิตนี้”

แก้ปัญหาเกาจื้อแล้ว

ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้ามองเกาจื้อที่เลือดยังไหลไม่หยุดอย่างเย็นชา นิ่งไปครู่นึง แล้วก็หมุนตัวไล่ตามกองขบวนราชครูเทียนเวิงไปด้วยความเร็ว

——

ซากปรักหักพังหมู่บ้านฝันฮั๋ว

ม้าผอมแห้งตัวหนึ่ง มีชายแต่งตัวกะทัดรัดจูงอยู่ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว ละก้าว บนหลังม้ามีผู้หญิงตัวผอมแห้งคนหนึ่ง ที่อ่อนแรงจนทำได้เพียงแค่นอนคว่ำอยู่บนหลังม้า

“จื่อซี ถึงหมู่บ้านฝันฮั๋วหรือยัง?”หญิงสาวพูดอย่างอ่อนแรง

จื่อซีได้ยิน ก็มองหญิงสาวที่อยู่บนม้านิ่งๆ และจูงม้าเดินไปข้างหน้าต่อไป พูดพึมพำว่า:

“พระราชธิดา ใกล้จะถึงแล้ว”

เห็นๆอยู่ว่าถึงแล้ว เพียงแต่หมู่บ้านฝันฮั๋วที่เขาเคยเห็น กับหมู่บ้านฝันฮั๋วที่พระราชธิดาจาวหยางไม่เหมือนกัน

เพื่อไม่ให้นางผิดหวัง ทุกครั้งที่นางถาม จื่อซีก็จะพูดว่า ‘ใกล้จะถึงแล้ว’แม้จะถึงแล้ว หรือผ่านไปแล้ว เขาก็จะตอบเช่นนี้

“อ้อ ยังไม่ถึงอีก!”

หลังจากผิดหวังเล็กน้อย พระราชธิดาจาวหยางก็เน้นอีกครั้ง

“ถ้าถึงแล้ว แม้แค่เห็นหมู่บ้านฝันฮั๋วเท่านั้น เจ้าก็ต้องบอกข้า เพียงแค่ถึงหมู่บ้านฝันฮั๋ว เจ้าก็ไม่ต้องสนใจข้าแล้ว รีบไปหาเยาเยาที่ทะเลทราย นางน่าจะเป็นอันตรายมาก”

จื่อซีและจื่อเฟิงเป็นผู้ช่วยของหลานเยาเยา จะขาดใครไปไม่ได้

ตอนนี้เป็นเพราะนาง จื่อซีจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของหลานเยาเยา ด้วยการมาส่งนางที่หมู่บ้านฝันฮั๋ว

นางรู้ว่า จื่อซีเป็นห่วงเรื่องความสะดวกสบายของหลานเยาเยามาโดยตลอด

นางพูดโน้มน้าวเขาหลายครั้งว่าให้กลับไปหาหลานเยาเยา นางสามารถเดินออกจากทะเลทรายไปเองได้ แต่ก็ถูกจื่อซีตัดบทตลอด

ตอนนี้มีเพียงแต่ต้องรีบถึงหมู่บ้านฝันฮั๋วเท่านั้น จึงจะสามารถทำให้จื่อซีไปอย่างสบายใจ

ดวงตาของพระราชธิดาจาวหยางเหมือนจะเปิดขึ้น หันหน้าอยู่บนหลังม้า

ทันใดนั้น ป้ายบนพื้นที่ถูกทรายปกคลุมไปครึ่งหนึ่ง ดึงดูดความสนใจของนาง

“……หมู่บ้านฮั๋ว?”

ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ พระราชธิดาจาวหยางตื่นเต้น พูดโพล่งออกมา

“คือหมู่บ้านฝันฮั๋ว!”

นางรีบยันตัวขึ้น สิ่งที่ประทับอยู่ในนัยน์ตานางก็คือทะเลทรายโกบีเปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คน นางส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ และมองป้ายที่อยู่บนพื้นอย่างละเอียดอีกรอบ

จากนั้นก็กระโดดลงม้า คุกเข่าลงที่พื้น พยายามคว้าป้ายที่ถูกทรายคลุมไว้ส่วนหนึ่งออกมา

“คือหมู่บ้านฝันฮั๋ว คือหมู่บ้านฝันฮั๋วจริงๆ”

นางไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือจะเป็นทุกข์ โดยรวม มีความสับสนแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนอยู่ในแววตา นางยืนขึ้น เดินไปยังกองทรายชำรุดทรุดโทรม ที่ยังพอมองร่องรอยการเป็นบ้านออก

ต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเหี่ยวเฉามากี่ปีแล้วนั้นดึงดูดความสนใจของนาง

ทำให้นางเดินไปอย่างห้ามไม่ได้ ร่างกายสั่นเทาไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก

ตอนที่นางเห็นกองกระดูกล้อมรอบต้นไม้เหี่ยวเฉานั้น ทั้งตัวก็อ่อนแรงลงไปอยู่ที่พื้น สีหน้าก็ซีดเผือด

หลังจากนั้นก็ร้องไห้ออกมาเสียงต่ำ

“กระดูกจากศพเปื่อย……”

“ต้นไม้เหี่ยวเฉา……”

“หมู่บ้านที่ตายไปนานแล้ว……ที่แท้ ที่นี่ก็ไม่มีหมู่บ้านฝันฮั๋ว……”

ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้ พระราชธิดาจาวหยางหันกลับมามองจื่อซีที่เดินไปข้างหลังนางและมองนางเงียบๆทันที ถามอย่างเหลือเชื่อว่า:

“ตอนที่รวมตัวกับหลานเยาเยาที่ทะเลทราย เจ้าเห็นส้งเย่นกุยหรือไม่? ชายคนที่เหมือนกับนักปราชญ์ หน้าตาดูอ่อนเยาว์แต่กลับเป็นหมอ”

“อื้ม เห็น”จื่อซีพยักหน้า

เขารู้ว่าพระราชธิดาจาวหยางคิดว่าพวกเขาเห็นผี

แต่เขาและจื่อเฟิงเห็นส้งเย่นกุยจริงๆ!

ส้งเย่นกุยผู้นั้นไม่ใช่วิญญาณ……

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”

“ไม่ทราบ”จื่อซีส่ายหัว และรีบพูดขึ้นว่า “เยาเยารู้เรื่องนี้หรือไม่?”

“รู้”

“งั้นก็ดี” ถ้าหากไม่รู้ นางจะต้องเป็นอันตรายมากแน่ๆ

เมื่อเห็นความงวยงงบนใบหน้านาง และสายตาที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นจื่อซีก็เห็นท่าทางเหมือนตอนที่นางป่วยเมื่อสามปีก่อน จื่อซีก็ทนไม่ไหว

“พระราชธิดา คุณหนูไม่อยากเห็นท่านเป็นแบบนี้แน่ ท่านต้องร่าเริงขึ้น รอจนกระทั่งคุณหนูกลับมาก็จะไม่ทุกข์ใจ”

พระราชธิดาจาวหยางช้อนสายตาขึ้น สบตากับเขาและมองเขานิ่ง

จู่ๆนางก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้ ตลอดทางนี้ ทุกประโยคที่จื่อซีพูดก็ล้วนมีหลานเยาเยา และเพราะเยาเยา นางถึงได้ยืนหยัดมาตลอด

ทว่า……

กลับพบว่า พอมีจื่อซี นางก็ไม่ได้ดูถูกตัวเองและยอมแพ้ และไม่ได้คิดต้องการหนีความจริง เห็นได้ชัดว่าคนที่พูดจาขนาดนั้น ตอนนี้กลับเงียบพูดจาน้อย

นางจึงอดถามไม่ได้ว่า: “แล้วเจ้าหล่ะ?”

จื่อซีตะลึงไปเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถามเช่นนี้ ตอนที่ย้ายสายตาไปทางอื่น ก็ถามเสียงทุ้มว่า

“แน่นอนว่าต้องหวังให้พระราชธิดาปลอดภัยมีความสุข”

“อื้ม ข้าเข้าใจแล้ว”พระราชธิดาจาวหยางยืดตัวขึ้น “ไปเถอะ! ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ห่างจากหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดไม่ไกลแล้ว”

จะมายืดเยื้ออีกไม่ได้แล้ว ไปยังหมู่บ้านอื่น จะให้จื่อซีกังวลกับความสะดวกสบายของหลานเยาเยาไป พร้อมๆกับที่ต้องส่งนางไปยังสถานที่ปลอดภัยอีกไม่ได้

พระราชธิดาจาวหยางเพิ่งจะขึ้นม้า พบว่าจื่อซีไม่มีการเคลื่อนไหว จึงรีบมองไปทางเขา

กลับพบว่าเขามองจ้องไปยังที่ไกลๆ เมื่อมองตามสายตาเขาไป ตรงที่ไกลๆมีกองทัพคนและม้าควบมา แม้ระยะทางจะไกล แต่ท่าทางหล่อราวเทพบุตรของผู้นำ สวมชุดสีดำเสื้อผ้าปลิวไสว……

คือเสด็จอา!

“เสด็จอา เสด็จอา ข้าคือจาวหยาง พวกเราอยู่นี่ ท่านมาเร็วหน่อย! เยาเยานางต้องการท่าน”

นางเรียกเสียงดัง พูดไปพูดไป ดวงตาก็ตกลงอย่างควบคุมไม่ได้ จึงล้มลงจากบนม้าไปยังพื้น และรีบปีนขึ้นมา มองคนที่ควบมา

เย่แจ๋หยิ่งที่หน้าซีดเล็กน้อยมองเห็นสองคนและม้าตัวหนึ่งจากที่ไกลๆ พอมาถึงตรงหน้าพวกเขา ก็เห็นพระราชธิดาจาวหยางที่มีแผลไหม้จนเหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน นัยน์ตาก็ฉายความกังวล ประโยคแรกที่ถามก็คือ:

“เยาเยาหล่ะ?”

“ยังอยู่ในทะเลทราย มุ่งไปทางส่วนลึก อีกทั้งยังเกิดเรื่องแปลกประหลาดมากมาย……”พระราชธิดาจาวหยางเหมือนจะพูดออกมาหมด

เย่แจ๋หยิ่งมองจื่อซีที่ไม่ส่งเสียงอะไรแว็บนึง และรีบหยุดจาวหยาง ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พูดกับองครักษ์ลับข้างหลังสองนายว่า:

“พวกเจ้าคุ้มกันจาวหยางกลับไปยังก่วงส้า ส่วนคนที่เหลือตามข้ามา”

“ขอรับ!”

จาวหยางขึ้นม้าองครักษ์ลับนายหนึ่ง มองจื่อซีอย่างกังวล และพูดขึ้นมาอย่างรีบร้อน

“เสด็จอา จื่อซีนั้นทำตามคำสั่งของเยาเยา จึงมาคุ้มกัน เขาไม่ได้เต็มใจ”

นางรู้ความสำคัญของเยาเยาที่มีต่อเสด็จอา แต่เพื่อฝ่าอันตรายเพื่อนาง ก็กลัวว่าเสด็จอาจะลงโทษจื่อซีโดยไม่แยกแยะถูกผิด

“รีบไปส่งนาง”

พูดจบ ก็มองไปจื่อซี สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย ริมฝีปากเปิดเล็กๆ

“ขึ้นม้า เดินไปด้วยและอธิบายอย่างละเอียดไปด้วย”

“ขอรับ!”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ จื่อซีถึงจะเหมือนยกภูเขาออกจากอก

เจ้านายสามารถไม่พอใจ สามารถลงโทษ สามารถแทงให้ตาย ที่กลัวที่สุดก็คือไม่ให้เขาปกป้องหลานเยาเยา

“ไป……”

คนกลุ่มนี้ควบม้าออกไป

องครักษ์ลับนายหนึ่งที่ช้าไปก้าว แอบบอกกับจื่อซีว่า

“เจ้านายได้รับบาดเจ็บ”

เพียงประโยคธรรมดา ก็ทำให้จื่อซีตกใจ

ผิวด้านนอกบางส่วนของเจ้านายไม่นับว่าบาดเจ็บ องครักษ์ลับก็คงไม่ใส่ใจ ที่ทำให้องครักษ์ลับพูดออกมาจริงจังเช่นนี้ ก็สามารถบอกได้ว่า

เจ้านายบาดเจ็บสาหัส

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน