หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 546 รนหาที่ตาย?

บทที่ 546 รนหาที่ตาย?

บทที่ 546 รนหาที่ตาย?

——

กลางโถงใหญ่ มีเงาดำมากมายที่ดำสนิท ยืนเรียงสองแถวอย่างเป็นระเบียบ มองไปข้างหน้าเหมือนกัน ท่าทางไม่เปลี่ยนไป ด้านบนของพวกเขาคือหน่วยกล้าตายที่มีเสื้อผ้าต่างกันนับสิบกว่าคน

แต่ละคนมีท่าทางชั่วร้าย แต่มีจุดที่เหมือนกันอยู่อย่างนึงก็คือ สวมหมวกเสื้อคลุมสีเข้ม ปกคลุมทั้งตัวไว้ เผยหน้าออกมาเพียงครึ่งเดียว

สีเสื้อผ้าของเงาดำและหน่วยกล้าตายนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง เงาดำนั้นสวมหน้ากาก เผยแค่ดวงตาออกมา; ส่วนหน่วยกล้าตายเผยออกมาเพียงครึ่งหน้า แม้จะเผยออกมาเช่นนี้ แต่ก็สามารถแยกออกว่าพวกเขาเป็นคนเดียวกันหรือไม่

เงาดำและหน่วยกล้าตายที่หยิ่งยโส แต่ในตอนนี้กลับยืนอยู่อย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าพูดจา ขนาดแม้แต่ดวงตาก็ไม่กล้าชำเลืองมองไปเรื่อย

เพียงเพราะว่า ด้านหน้าพวกเขาทุกคนมีชายชราที่ดูมีพลังเต็มไปด้วยความกดดันยืนอยู่

เขายืนอยู่ตรงกลางห้องโถง ทั้งตัวมีกลิ่นอายที่เหมือนสัมผัสก็จะถึงแก่ความตายแผ่ออกมา ดวงตาอึมครึมที่เต็มไปด้วยริ้วรอย จ้องมองแปลนสีเหลืองเก่าที่อยู่ในมือตาไม่กะพริบ

จ้องอยู่เนิ่นนาน จนลูกตาแทบจะติดไปบนนั้น

แก่แล้ว……

สายตาก็ไม่ดีเท่ากับตอนวัยรุ่น

ยาฉางตานนะยาฉางตาน เจ้าอยู่ไหนกันแน่?

เป็นเวลานานราชครูเทียนเวิงถึงจะเงยหน้าขึ้นมา สายตามองไปอยู่ที่นึง จากนั้นก็ฉีกแปลนในมือออกครึ่งนึง และฉีกออกทีละน้อย ปล่อยเศษกระดาษร่วงกระจายไปตามพื้น

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ตำแหน่งที่ฮ่องเต้เอาไว้นั่งตอนว่าราชกิจ ตรงนั้นเป็นแท่นเรียบส่องแสงเงางาม เดิมที่นั่นควรจะมีบัลลังก์มังกรสำหรับฮ่องเต้

แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า

ราชครูเทียนเวิงอดไม่ได้ที่จะหลี่ตาลง ยกเท้าก้าวขึ้นไปบนแท่นนั้นทีละก้าว และยืนอยู่ตรงที่ที่เดิมทีควรจะมีบัลลังก์มังกร

เขาจ้องมองไปตรงนั้นอยู่นาน หลังจากนั้นก็เงยหน้ามองหน่วยกล้าตายนายหนึ่ง และก็ก้มหน้าต่อไป

หน่วยกล้าตายก็รู้ทันที สั่งกับทุกคนว่า:

“ราชครูใหญ่สั่งให้ค้นหาบัลลังก์มังกรทุกซอกทุกมุม จักต้องหาให้พบ”

“ทราบ!”

นักฆ่าเงาดำและหน่วยกล้าตายที่เหลือรีบคำนับมือทันที ในไม่ช้า พวกเขาก็ค้นหาแต่ละมุมในห้องโถงใหญ่ ถึงขนาดแม้แต่หลังฉากกั้นก็หากันแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ได้อะไรสักอย่าง

สีหน้าของราชครูเทียนเวิงไม่เปลี่ยน ให้พวกเขาหาต่อ

ถ้าหาของที่อยากได้ง่ายขนาดนั้น เขากลับจะรู้สึกผิดหวัง

แต่ในขณะนั้น บนห้องโถงใหญ่ที่เงียบสงบ จู่ๆก็มีเงาดำถูกโยนเข้ามาและตกลงสู่พื้นอย่างแรง ต่อมาก็เป็นเสียงอู้อี้ของเงาดำสองคน

ทุกคนมองไปตามเสียง มีร่างหนึ่งอยู่ด้านนอกห้องโถง แสงด้านหลังค่อยๆเดินเข้ามา ทุกคนมองใบหน้าของเขาไม่ชัดเจน

แต่ดูจากรูปร่างเขาแล้ว น่าจะเป็นคนแก่อายุเยอะ

ราชครูเทียนเวิงมองไปยังคนโหดเหี้ยมที่มา เกือบจะในตอนที่คนผู้นั้นหยุดนิ่ง รูม่านตาก็หดลงทันที เรื่องราวเก่าๆก็ผุดขึ้นมาในหัวทีละเรื่อง ละเรื่อง

คือเขา!

โชคดีจริงๆ ที่แท้ก็ยังไม่ตาย

คนที่เข้ามาในห้องโถงใหญ่ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเย่นโจกชิงที่เคยทำลายทุกอย่างของเขา

เรื่องในอดีตของทั้งสองคนในตอนนี้ค่อยๆปรากฏชัดขึ้นมา

ราชครูเทียนเวิงจ้องเย่นโจกชิงเขม่น เย่นโจกชิงเองก็จ้องราชครูเทียนเวิงเขม่ง

โดยทั่วไปแล้วเมื่อศัตรูพบหน้ากัน มักมีอารมณ์โกรธแค้นรุนแรงเป็นพิเศษ แต่พวกเขาไม่ได้มีบรรยากาศของความตึงเครียดเลย เหมือนกับเพื่อนเก่าสองคนที่ไม่ได้พบกันมาหลายปี ต่างยิ้มให้กัน

แต่รอยยิ้มนี้มันดูซับซ้อนเกินไป รอยยิ้มแบบนี้ถึงกับสามารถทำให้อุณหภูมิในห้องโถงใหญ่ลดลงได้อย่างรวดเร็ว เหล่าเงาดำและหน่วยกล้าตายทำตาถมึงทึง เพียงแค่รอให้ราชครูเทียนเวิงสั่ง พวกเขาก็จะสับผู้ที่มาเป็นหมื่นชิ้น

หลังจากที่เงียบเป็นเป่าสาก……

เย่นโจกชิง: “กี่ปีมาแล้ว?”

ในสมัยราชวงศ์เก่า ฮ่องเต้ของพวกเขาในสมัยนั้น คนในสมัยนั้น ตอนนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคน

เหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปี

แผนชั่วร้ายนับไม่ถ้วน ความรักและความเกลียดชังที่ซับซ้อน……

ปลงพระชนม์……

ฆ่ายกตระกูล……

ถอนรากถอนโคน……

เสียงกรีดร้องดิ้นรนก่อนตายของคนนับไม่ถ้วน เสียงแหลมโหยหวนราวกับผีร้องไห้

เสียงนั้นผู้ที่ตามก็จะอยู่รอด ผู้ที่ขัดขืนก็จะต้องตาย ทำให้วิญญาณพยาบาทหลายพันดวงไม่สงบสุข

บางบัญชี ต่อให้นานแค่ไหนก็ชำระ บางความแค้น แม้จะผ่านไปเป็นพันปีก็ต้องแก้

ตอนนี้เขามาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ก็จะสิ้นสุดต่อราชวงศ์เก่าแล้ว

ราชครูเทียนเวิง: “จำได้ไม่ชัดเจนแล้ว”

มีชีวิตมานาน เรื่องที่ต้องทำก็มากมาย ถึงขนาดกับลืมการเป็นตายของเพื่อนเก่าผู้นี้ไปแล้ว

ตาเฒ่าเย่นส่งเสียงฮึดฮัดเย็นชา เดินไปข้างหน้าสองก้าว

“ไม่เป็นไร เรื่องวันนี้จะทำให้เจ้าสลักเอาไว้ในใจไปตลอด”

ทันทีที่คำนี้ออกไป ราชครูเทียนเวิงก็อ้าปากหัวเราะยกใหญ่ ด้วยน้ำเสียงอึมครึมคับแค้น

“น้องเย่น เจ้าก็รู้ว่าเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย อยู่บ้านดีๆรักษาชีวิตไม่ดีหรือ ต้องมารนหาที่ตายที่นี่?”

ได้ยินดังนั้น!

ตาเฒ่าเย่นส่ายหัวเล็กน้อย ส่งเสียงยิ้มเยาะ

“ก็ตั้งหลายปีแล้ว นิสัยหยิ่งผยองทะนงตนของเจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนไป แต่ว่า เจ้าผิดแล้ว ข้าหมายความว่า แม้จะตาย เจ้าก็ต้องจำไว้ ว่าวันนี้คือวันอะไร”

“โอ้?”ราชครูเทียนเวิงไม่เห็นด้วย “วันนี้มันวันอะไรหล่ะ?”

ขณะนั้น สีหน้าของตาเฒ่าเย่นก็เปลี่ยนไป สายตาเผยความดุร้าย: “วันที่หัวเจ้าขาด”

พูดจบ!

ตาเฒ่าเย่นก็หายไปจากที่เดิม ในชั่วขณะเดียวก็ไปปรากฏตัวตรงหน้าราชครูเทียนเวิง ทำให้ราชครูเทียนเวิงตกใจเล็กน้อย แต่ก็มีประกายความดูแคลนออกมา

คิดไม่ถึงว่าถูกขังมาหลายปี ศิลปะการต่อสู้ของเย่นโจกชิงยังไม่ลดลงเลย

แต่น่าเสียดาย……

คนที่เขาเผชิญก็คือเขา วันนี้จะจบชีวิตของเขาด้วยมือของตัวเอง

ราชครูเทียนเวิงหลบฝ่ามืออันรุนแรงของตาเฒ่าเย่น จากนั้นก็โจมตีกลับไป การต่อสู้ระหว่างผู้มีวิทยายุทธสูงส่ง พวกตัวเบี้ยที่เหลือนั้นช่วยอะไรไม่ได้

แต่ทว่า!

ศิลปะการต่อสู้กำลังภายในของตาเฒ่าเย่น เดิมก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชครูเทียนเวิง ออกไม่กี่กระบวนท่าก็เสียเปรียบ แต่ราชครูเทียนเวิงก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร

หลังจากผ่านไปครู่

มีลมอันทรงพลังกวาดเข้ามา โจมตีไปที่แขนของราชครูเทียนเวิง แขนเสื้อถูกตัดออก ด้านในเผยให้เห็นร่องรอยบาดแผลที่ถูกลมอันทรงพลังโจมตี

ราชครูเทียนเวิงมองมือที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที พลิกฝ่ามือโจมตีตรงเข้าไปที่หน้าอกของตาเฒ่าเย่น

ตาเฒ่าเย่นถอยไปสองสามก้าว ผมขาวยุ่งเหยิงเล็กน้อย คุกเข่าข้างนึงลงกับพื้น มือข้านึงกุมหน้าอกไว้ มืออีกข้างนึงยันไว้กับพื้นอย่างหมดหวังเล็กน้อย

“พู่ว!”

เลือดพุ่งออกมาจากปาก

มือข้างนึงของเขาเอาไปเช็ดๆปาก มืออีกข้างยันไว้กับพื้นยืดตัวขึ้น และพุ่งไปต่อสู้กับราชครูเทียนเวิงด้วยความเร็วอีกครั้ง

ครั้งนี้ ตาเฒ่าเย่นอาจจะไม่สามารถซ่อนร่างกายได้อีก ทั้งยังตั้งใจชะลอความเร็ว พุ่งตรงไปยังหน้าราชครูเทียนเวิง

“รนหาที่ตาย!”

ราชครูเทียนเวิงเดินกำลังภายใน ก็คือฝ่ามืออันรุนแรง

ตาเฒ่าเย่นถูกตีจนบินออกไป ครั้งนี้บาดเจ็บรุนแรงกว่าครั้งก่อน เลือดพ่นลงมายังพื้น เขาก็ล้มลงกับพื้น อวัยวะภายในเหมือนแตกออก

เขาอยากจะปีนขึ้นมา ทุกๆครั้งที่ยันตัวขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่งก็ล้มลงไป แต่เขาก็ใช้พลังเฮือกสุดท้าย ถึงจะยืนขึ้นมาได้ ร่างกายสั่นเทา สามารถจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ

แต่เขาลดสายตามองราชครูเทียนเวิงแว็บนึง ก็หัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา……

“ข้าไม่เสียใจแล้ว แค่กแค่ก……”

“เจ้าพูดอะไร?”

ดวงตาอึมครึมของราชครูเทียนเวิงหรี่ลง ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “เจ้าทำอะไร?”

“แค่วางยาพิษตัวเองก็เท่านั้น เจ้าหวาดกลัวอะไร?”

ก่อนที่ตัดสินใจมาทะเลทรายกับหลานเยาเยา เขาก็ตั้งใจที่จะตายอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะออกจากเมืองหลวง เขาใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อยาพิษมาเม็ดนึง

ยาพิษชนิดนี้รุนแรงมาก ทำร้ายฝั่งศัตรูเป็นพันและฝั่งตัวเองเป็นแปดร้อย ทำร้ายคนอื่นแต่ตัวเองก็ไม่ได้ผลดี ซึ่งปกติจะไม่มีคนใช้

แต่ตาเฒ่าเย่นใช้ และยังวางยาพิษที่ตัวเองก่อน……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท