หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 548 เจ้า……คนโกหก

บทที่ 548 เจ้า……คนโกหก

บทที่ 548 เจ้า……คนโกหก

ราชครูเทียนเวิงมองพวกเขาอย่างเย้ยหยัน เหมือนมองกลุ่มตัวตลก หลังจากที่หยุดหัวเราะ ก็พูดเสียงอึมครึมน่าสะพรึงกลัวว่า:

“พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาตายไปแล้ว ข้าก็จะเหลือแต่ทางตายแล้วรึ? น่าขัน ในมือข้านั้นยังมีไพ่ที่สำคัญที่สุดอยู่อีกใบหนึ่ง”

พูดจบ!

ราชครูเทียนเวิงหัวเราะน่าสะพรึงกลัว หยิบขวดเล็กออกมาจากอ้อมแขน ขวดนั้นโปร่งแสง ด้านในมีหนอนที่เป็นสีม่วงทั้งตัว รูปลักษณ์น่ารังเกียจ ตัวอ้วนเงอะงะ คดเคี้ยวอยู่ในขวดไปมา

หนอนแบบนั้นแค่มองก็เป็นสัตว์ที่มีพิษที่สุด

เห็นดังนั้นหลานเยาเยาก็หรี่ตามอง หนอนชนิดนี้นางเคยพบร่องรอยบนหนังสือ หรือทุกแฟ้มเอกสารในการเปิดระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ถึงขนาดกับมาที่แผ่นดินใหญ่นี้ นางเคยสัมผัสมันครั้งนึง

หนอนชนิดนี้เป็นพวกเดียวกับหนอนพิษกู่ สามารถควบคุมสมองคนได้เหมือนหนอนพิษกู่

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือ มันไม่สามารถทำให้คนกลายเป็นศพเดินได้ สูญเสียสติสัมปชัญญะ เชื่อฟังอย่างไร้ความคิดแบบหนอนพิษกู่

แต่จะทำให้สติสัมปชัญญะของคนยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ ขยายความอยากสังหารในใจไม่มีสิ้นสุด จนกลายเป็น ฆาตกรกระหายเลือด

ถ้าเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่ากลัว ที่น่ากลัวกว่าก็คือ หนอนพิษกู่สามารถเปลี่ยนความคิดในใจไปได้หมด ตัวอย่างเช่น คนข้างกายที่สนิทที่สุด ก็จะถูกเขาฆ่าในฐานะศัตรูที่เกลียดที่สุด

ตอนนี้หนอนที่อยู่ในขวดบนมือราชครูเทียนเวิงก็คือหนอนพิษกู่ และก็คือหนอนพิษกู่ฝ่างซินตัวแม่ และราชครูเทียนเวิงก็ควบคุมคนที่มีหนอนลูกในร่าง โดยผ่านการควบคุมหนอนแม่

ดังนั้น หนอนชนิดนี้จึงถูกเรียกว่าพิษกู่ฝ่างซิน!

หลานเยาเยามองเย่แจ๋หยิ่งแว็บนึง จากนั้นก็มองราชครูเทียนเวิงทันที

“คิดไม่ถึงว่าหนอนพิษกู่ที่หายไปนานอย่างหนอนพิษกู่ฝ่างซินจะมาอยู่ในมือเจ้าได้ ต้องนับถือจริงๆ”

พอพูดว่านับถือ แต่แววตาของหลานเยาเยามีแต่เพียงความเย็นชา

“เทพธิดา……ข้านั้นควรเรียกเจ้าว่าพระชายาเย่ คิดไม่ถึงว่าข้าที่ไปทั่วทุกสารทิศบนแผ่นดินใหญ่นี้มาหลายปีเช่นนี้ แต่กลับถูกคนรุ่นเด็กหลอกเอาเสียได้ การแกล้งตายสามปีก่อนพูดได้ว่ายอดเยี่ยมมาก”

ในตอนบวงสรวงเทพแห่งสวรรค์ที่เมืองหลวง เขาก็เกือบจะมั่นใจแล้วว่านางคือหลานเยาเยา แต่คนคนนึงไม่ว่าวิชาการรักษาจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใบหน้าให้ตัวเองได้ใช่ไหม?

อีกอย่าง เทพธิดาจะใช่หรือไม่ใช่หลานเยาเยา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก อย่างไรเรื่องที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือยาฉางตาน

ดังนั้นเมื่อครู่ เขาเห็นกับตาว่านางเอายาและผ้าพันแผลออกมาจากกลางอากาศ ก็ยิ่งแน่ใจว่าคือนาง หลังจากแน่ใจแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันที

ในเมื่อหลานเยาเยายังไม่ตาย

งั้นสิ่งที่เกิดขึ้นที่หุบเขาจิ้นเมื่อสามปีก่อนก็เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่ง

อีกทั้งยังมีผู้ให้เลือด ที่เขามองว่าเป็นลูกศิษย์มาตลอด

เป็นบทเรียนที่โหดเหี้ยมแก่เขาจริงๆ

ในปีนั้นวิชาการควบคุมพิษกู่ถูกทำลายกลางคัน ทำให้เขาโดนแว้งกัด แผนการหลายปีหยุดชะงัก ตัวเองก็เกือบจะอยู่ปรโลกแล้ว

การล่าถอยไปสามปี จะศีลอยู่สามปี ตอนนี้เขากลับมาแล้ว

แต่ว่า……

ดอกกระดูกขาวในทุกๆที่ถูกทำลาย อำนาจที่เขาฝังไว้หลายปีก็ค่อยๆหายไป เขารู้ว่าใครแอบก่อเหตุ

แต่เขาไม่ไปสนใจ อย่างไรเสียงสถานที่เพาะพันธ์ุดอกกระดูกขาวและชีวิตของคนพวกนั้น สำหรับเขาแล้วไม่ได้สำคัญเท่ากับยาฉางตาน

ตราบใดที่ได้ยาฉางตาน ของพวกนี้เขาก็มีเวลาเพาะเลี้ยงไปช้าๆ

แต่ตอนนี้ยาฉางตานยังไม่ปรากฏออกมา และพวกคนรุ่นเด็กต่ำต้อยนั่นก็มาปรากฏตรงหน้าเขา ต้องการจะฆ่าจะแกงเขา เขาไม่ส่งพวกเขาไปสวรรค์ ก็ยากที่จะรายงาน‘น้ำใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา’ของพวกเขา

อ๋องเย่เป็นดาบที่ดี!

เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเขาจะหักหลัง จึงแอบวางพิษกู่ฝ่างซินให้เขา แต่วันนี้ก็ได้ใช้แล้ว เขารอคอยเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อไปมาก

“สามปีก่อนที่ถูกแว้งกัดก็ไม่ได้ฆ่าพวกเจ้า น่าเสียดายจริงๆ แต่วันนี้แม้เจ้าจะติดปีกก็หนีไปไม่รอด พิษกู่ฝ่างซินแล้วยังไง คิดว่าข้ากลัวรึ? ล่อมันออกมาไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เร็ว”

“ไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ ดูท่าทางเจ้าคงจะเดาได้แล้วสิ ว่าหนอนลูกนั้นอยู่ที่ตัวใคร แม้วิชาการรักษาของเจ้าจะเก่งกาจสักแค่ไหน ถ้าคนที่โดนหนอนไม่ยอมให้ความร่วมมือดีๆ เจ้าคิดว่าจะล่อมันออกมาได้หรือ?” ราชครูเทียนเวิงส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชา

ที่นี่มีเพียงเย่แจ๋หยิ่งและราชครูเทียนเวิงที่มีความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ หนอนลูกถูกวางอยู่ในตัวเขา เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด

สีหน้านางสงบนิ่ง วางมาดเทพธิดา ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้สักนิด

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ คนที่เข้าใจนางก็ยิ่งดูออกว่าจิตใจนางไม่สงบ

นางหันไปมองเย่แจ๋หยิ่ง อ้าปากเล็กน้อย พูดไร้เสียงออกมาว่า: มีข้าอยู่ ไม่ต้องกังวล

เย่แจ๋หยิ่งเพิ่งจะพยักหน้า ราชครูเทียนเวิงด้านนั้นก็ใช้แรงเขย่าขวดเล็ก เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มองไปทางหลานเยาเยาด้วยความตระหนกเล็กน้อย พูดเสียงดังว่า:

“ออกไปให้ห่างจากข้าหน่อย”

“เย่แจ๋หยิ่ง……”

หลานเยาเยาจะเดินขึ้นไปช่วยเขา แต่สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ดวงตาเย็นชาสุดขีด มองสายตาของเขาที่ค่อยๆเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีความแค้นบัญชีเลือดต่อกัน “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

พูดจบเย่แจ๋หยิ่งก็แฉลบตัวไป

ในใจก็ได้เตรียมป้องกันไว้อยู่แล้ว ดังนั้นในตอนที่เขาแฉลบตัวมา นางก็หลบแล้ว หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พัวพันจนเป็นหนึ่งเดียว กำลังภายในของทั้งสองเกือบจะมีฝีมือพอๆกัน คนนึงก็ฆ่าอย่างไม่ลังเล คนนึงก็มีกระบวนท่าแปลกประหลาด

หลังจากที่พวกเย่หลีเฉินเห็น แต่ละคนก็ต่างสับสน

จะขึ้นไปช่วย?

หรือขึ้นไปไกล่เกลี่ยให้เลิกทะเลาะ?

ส่วนราชครูเทียนเวิงที่เห็นกระบวนท่าของหลานเยาเยา ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตา

คิดไม่ถึงว่านอกจากนางจะครอบครองระบบขั้นสูงแล้ว ยังเคยเป็นทหารพิเศษอีก มิน่าหล่ะถึงมีสถานการณ์อันตรายหลายต่อหลายครั้ง

แต่ว่าแล้วจะยังไง?

ทหารพิเศษจะสามารถสู้กับซอมบี้คนที่มาจากช่วงสุดท้ายของประวัติศาสตร์ได้หรือ?

ดังนั้นขวดที่ใส่หนอนแม่ในมือของราชครูเทียนเวิงยิ่งสั่นก็ยิ่งแรงขึ้น ยิ่งสั่นก็ยิ่งเร็วขึ้น ส่วนเย่แจ๋หยิ่งก็ยิ่งดูดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ

แต่ที่ทำให้ราชครูเทียนเวิงสงสัยก็คือ ที่เย่แจ๋หยิ่งกับหลานเยาเยาสู้กันนั้นฝีมือกลับสูสีกัน ถึงขนาดกับมีกำลังภายในที่ไม่ต่างกันมาก

นี่ทำให้เขานึกนึงคลื่นข่าวลือในเมืองหลวงขึ้นมาทันที:

อ๋องเย่สูญเสียกำลังภายในไปครึ่งหนึ่ง

ดูท่ากำลังภายในครึ่งหนึ่งที่เสียไปคงจะให้หลานเยาเยา แน่นอนว่าคนรักกัน อะไรก็ต้องยอมทำเพื่ออีกฝ่าย

แบบนี้ก็เหมาะสม เห็นพวกเขาทั้งรักทั้งฆ่า นั้นถึงจะเรียกว่าสุขใจ

เพียงแต่ในตอนที่แฉลบตัว ก็มีร่างนึงวิ่งอุตลุดมาตรงหน้า เดิมคิดว่าเพื่อนคนอื่นที่มากับหลานเยาเยา ต้องการจะโจมตี แต่พอจ้องดู กลับพบว่าเป็นเย่แจ๋หยิ่ง

ดูเหมือนเขาจะถูกหลานเยาเยาตีถอยมาตรงนี้

ทันใดนั้นก็เก็บมือกลับมา เขย่าขวดในมือแรงขึ้น

คิดไม่ถึงว่า……

จู่ๆเย่แจ๋หยิ่งจะหันตัวกลับมา และลงฝ่ามืออันรุนแรงไปที่เขา

“พู่ว!”

เลือดพ่นออกมาจากปาก

ราชครูเทียนเวิงถอยหลังไปสองสามก้าว มองเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของตัวเอง มารู้ตัวอีกทีฮ่องเต้มองไม่ใช่เพราะเย่แจ๋หยิ่งอาฆาตจนเกือบเป็นบ้า มีเพียงอ๋องเย่ที่เย้ยหยันเขาด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้ม

“เจ้า……”

ราชครูเทียนเวิงหันกลับไปมองหลานเยาเยาทันที แต่กลับเห็นนางยกมุมปาก มองเขาด้วยสายตาที่เฉียบแหลม เขาคำรามขึ้นมาทันที

“คนโกหก!”

ถูกนางหลอกอีกแล้ว

น่าเกลียดชัง!

หลานเยาเยา วันนี้นางจะต้องตาย แม้ว่าจะสุดแรงแล้วก็ต้องลากนางลงนรกไปพร้อมกัน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท