หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 550 จุดจบใกล้เข้ามา

บทที่ 550 จุดจบใกล้เข้ามา

บทที่ 550 จุดจบใกล้เข้ามา

เย่หลีเฉินที่ถูกโยนไปด้านข้าง จากความรู้สึกที่หายใจไม่ออกใกล้ตาย ทันทีที่หายใจสะดวก ทำให้เขาสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่

เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อยก็รีบเงยหน้ามอง ขณะนี้เย่แจ๋หยิ่งเดินไปถึงข้างบัลลังก์แล้ว มองหลายเยาเยานิ่งๆแว็บนึง และค่อยๆนั่งลงไป……

หลังผ่านไปครู่นึง!

ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งนั้น

แววตาของราชครูเทียนเวิงฉายความผิดหวัง เขาเองก็ไม่ได้

หรือตัวเองจะคิดผิด?

ในตอนที่เขากำลังคิดอะไรไม่ออก เย่แจ๋หยิ่งก็หรี่ตาเล็กน้อยสำรวจบัลลังก์มังกร ตั้งแต่ตอนที่นั่งบนบัลลังก์มังกร ในใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกคุ้นเคยที่อธิบายไม่ได้ แต่ก็หายไปทันที

ความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากเกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ

เพียงแต่สั้นๆเท่านั้น ความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เขานึกถึงท่าทางที่เซียนชุดขาวนั่งลงบนบัลลังก์มังกรเมื่อครู่นี้ และเลียนแบบอย่างสมบูรณ์รอบนึง

เซียนชุดขาววางมือไว้บนที่วางแขน หลังจากนั้นก็หายไป

ดังนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งมองที่วางแขนซ้ายขวาทั้งสองข้างแว็บนึง จากนั้นก็ยกมือวางลงไปเบาๆ

มือทั้งสองข้างดูเหมือนแนบติดไปที่วางแขน อยากจะออกแรงยกก็ยกไม่ขึ้น มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองมือก็ออกแรงกด แท่นข้างหน้าบัลลังก์มังกร มีโต๊ะมังกรลายมังกรหลับสีทองสองตัวค่อยๆสูงขึ้นมาอีกครั้ง

บนโต๊ะมังกรมีกล่องประกายวับอยู่กล่องหนึ่ง ด้านบนฝังอัญมณีสวยงามมากมาย บนอัญมณีหยดน้ำแพรวพราวราวน้ำค้างเกาะตัวอยู่ และรอบๆก็ล้อมด้วยหมอกขาวเป็นเวลานาน

ทุกคนต่างเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ

แม้แต่เย่หลีเฉิงก็รู้สึกเหลือเชื่อ กล่องทองที่ใส่ยาฉางตานปลอมที่เขาเอามาก่อนหน้านี้ ก็เป็นกล่องที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาก่อนจนตราบทุกวันนี้ เดิมคิดว่า บนโลกนี้คงยากที่จะหาอันที่สอง

แต่คิดไม่ถึงเลย……

กล่องนั้นเมื่อเทียบกับกล่องนี้ตอนนี้ มันต่างกันราวฟ้ากับดิน

เย่แจ๋หยิ่งยื่นมือออกไปจะไปเอากล่องนั้น แต่เหมือนมีลมแฉลบผ่านแก้มมา หลังจากที่ทิ้งรอยเลือดอันแสบร้อนไว้ให้ กล่องตรงหน้าอยู่ๆก็หายไป

ชั่วพริบตา

หูก็ได้ยินเสียงแก่ๆหัวเราะจากเสียงต่ำไปสูงอย่างไม่สนใจอะไร เหมือนกับว่าความปรารถนาสิบกว่าปีได้บรรลุแล้ว ดังนั้นจึงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงกลัวอะไร

หลานเยาเยาหรี่ตา แอบพูดกับตัวเองว่าไม่ดีแล้ว

หรือนี่จะเป็นยาฉางตานที่เล่าขานกันมาว่าทำให้คงความหนุ่มสาว เป็นอมตะ?

ความโลภในใจค่อยๆเพิ่มขึ้น……

แต่ในชั่วขณะเดียวก็ถูกปัดออกไป

คงความหนุ่มสาวยังพอได้ แต่เป็นอมตะอะไรนี่ไปตายซะ!

ชีวิตนี้ยังไม่ทันจบ ก็ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่อีกหลายพันปีอย่างสับสนมึนงง และยังข้ามมิติเวลาไปมา ความรู้สึกนั้นไม่ดีเลย

สู้รักษาคนรู้ใจให้อยู่ด้วยกันไปตลอดดีกว่า!

ความโลภใครจะไม่มี?

ตราบใดที่เป็นคน ก็จะมีความโลภ เพียงแต่ต้องดูว่าความโลภนั้นรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็เท่านั้น

อย่างเช่นราชครูเทียนเวิง ความโลภที่เขามีต่อยาฉางตานนั้นรุนแรงกว่าใครๆ ความโลภชนิดนี้มันฝังลึกไปแล้ว ทำให้กลายเป็นความหมกมุ่นที่ไม่ลดละ

ทันใดนั้น!

เสียงหัวเราะของราชครูเทียนเวิงก็หยุดไป

หยดน้ำค้างใสแพรวพราวบนกล่อง หลังจากทันทีที่สัมผัสกับมือของราชครูเทียนเวิง ก็ซึมเข้าสู่ผิวหนังเงียบๆด้วยความเร็ว

จนกระทั่งตอนที่เขารู้สึกเจ็บปวด กล้ามเนื้อและผิวหนังก็ถูกกัดกร่อน……

“มันมีพิษ?”

สีหน้าของราชครูเทียนเวิงขรึมลง หลังจากที่รู้ว่ามีพิษก็ไม่ได้โยนมันออกไป แต่กลับถือไว้ในมือต่อ ฉีกผ้าออกมาผืนนึงเช็ด ‘หยดน้ำค้าง’ออก จากนั้นถึงจะยื่นมือออกไปปิดแขนข้างหนึ่งไว้

พิษชนิดนึงก็คือพิษ

พิษสองอย่างก็คือพิษ

ยังไงก็ถึงตาย จะมากหรือจะน้อยไปชนิดนึงมันจะเป็นอะไร?

เมื่อเห็นสายตาของราชครูเทียนเวิงกวาดไปยังทุกคน หลานเยาเยาก็รีบตะโกนเสียงดังว่า:

“เขาจะหาคนมาเปิดกล่อง ทุกคนอยู่ด้วยกันไว้ ห้ามอยู่ลำพัง

เมื่อครู่เขาใช้กำลังภายใน ซึ่งได้ทำลายเสื้อเลือดหัวใจไปแล้ว ถ้าไม่ถึงเวลาที่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ใช้กำลังภายในอีก ไม่เช่นนั้นพิษสองชนิดจะโจมตีเข้าที่อวัยวะภายในพร้อมกัน

แม้หัวโถ(หมอเทวดา)ยังอยู่บนโลก เขาต้องได้ไปเจอยมบาลแน่”

มีคนเยอะนั้นเป็นข้อดี ไม่เพียงแต่สามารถใช้สองสามคนรุมโจมตีได้ แต่ยังสามารถให้ทุกคนจับกลุ่มกันได้ด้วย

เมื่อได้ยินนางพูด ทุกคนก็มาอยู่ใกล้กันสองสามคน เลี่ยงการอยู่คนเดียว และการกลายเป็นตัวประกันหรือถูกให้เป็นผ้าที่มาใช้เช็ดยาพิษ

ความตั้งใจถูกรู้ทัน สีหน้าของราชครูเทียนเวิงก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที ดวงตามีเส้นเลือดฝอยขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับถูกยาพิษโดยฉับพลัน หันไปมองหลานเยาเยาอย่างเย็นชา

“เจ้าอีกแล้ว!”

เรื่องที่เป็นประโยชน์ของเขาถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า

ดีมาก!

นางไม่ใช่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าหรือไง? หมอแบบนี้ไม่ยอมมาแก้พิษให้ตัวเอง จะไม่เสียดายความสามารถหรืออย่างไร?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ราชครูเทียนเวิงจึงกายเป็นภาพเงา พุ่งไปยังหลานเยาเยา

คาดไว้อยู่แล้วว่าราชครูเทียนเวิงจะมุ่งมาลงมือกับนาง หลานเยาเยาก็เตรียมพร้อมสู้อยู่แล้ว ส่วนเย่แจ๋หยิ่งก็ลงมาจากบัลลังก์มังกร มายังข้างกายนาง ยื่นมือไปเช็ดรอยเลือดบนหน้า

ในไม่ช้าทั้งสามคนก็สู้กัน เย่หลีเฉินและยู่หลิวซูพวกเขาเองก็ไม่ยอมที่จะดูอยู่ข้าง บวกกับจื่อซีและจื่อเฟิงที่ร่วมมือกันอย่างดี ราชครูเทียนเวิงที่ร่างกายโดนพิษไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ ในไม่ช้าก็เป็นผู้เสียเปรียบ

แต่ผู้ที่เคยเชี่ยวชาญในด้านนี้ แม้จะเพลี่ยงพล้ำแต่ก็ยังแข็งแกร่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ราชครูเทียนเวิงที่มีประสบการณ์ในยุคซอมบี้ ในไม่ช้าก็หาจุดบอดเจอ

ยู่หลิวซูบาดเจ็บหนักสุด ศิลปะการต่อสู้กำลังภายในอ่อนแอกว่าใคร

ทุกครั้งที่โจมตีจึงพุ่งไปยังยู่หลิวซู หลังจากที่ทุกคนรู้ความคิดเขาก็ต่างเข้าใกล้ยู่หลิวซูมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของราชครูเทียนเวิงซีดขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็รู้แล้วว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ราชครูเทียนเวิงจะต้องใช้กำลังภายในอีกครั้ง และรอให้เลือดพิษซึมเข้าอวัยวะภายในตาย; ไม่ก็ถูกพวกเขาใช้พลังจนหมด และถูกพวกเขาฆ่าตาย

สรุปแล้ว!

รอบห้องโถงใหญ่ก็ล้วนเป็นน้ำ นอกน้ำก็คือทรายเหลืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีอาหาร สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้นความตาย

“ตู้ม!”

มีสายฟ้าฟาดผ่านท้องฟ้า ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง ไม่รู้ว่าท้องฟ้ามีเมฆดำรวมตัวกันตั้งแต่ตอนไหน ในตอนที่ไล่วนเป็นนาฬิกา มีแนวโน้มว่าจะเกิดเป็นน้ำวน อีกทั้งยังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และยังมีฟ้าผ่าตามกันมา อยู่ด้านบนห้องโถงใหญ่

หลานเยาเยาเงยหน้าขึ้นไปมอง

เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

แต่ในช่วงเวลาที่หยุดลง นางถึงได้พบว่าตัวเองนั้นได้กลายเป็นคนแก่ผมขาวอายุเจ็ดสิบ แปดสิบตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ดูท่าทางแล้วอายุจะห่างกับราชครูเทียนเวิงไม่กี่ปี

นิ้วมือย่นจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ร่างกายไม่คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน แม้แต่ลมหายใจก็เปลี่ยนเป็นช้าและนาน

นางรู้สึกได้ว่าตัวเองใกล้จะตายแล้ว!

ในเวลาที่เหม่อลอยอยู่ ราชครูเทียนเวิงก็พุ่งมาจะโจมตียู่หลิวซูอีกครั้ง นางอยากช่วย แต่ด้วยร่างกายที่ไม่คล่องแคล่วแล้ว แม้แต่แฉลบตัวก็ช้าไปครึ่งจังหวะ

จื่อซีและจื่อเฟิงด้านนั้นได้เข้าไปช่วยแล้ว……

“เยาเยา……”

น้ำเสียงน่าดึงดูดดังขึ้นมาข้างกาย เย่แจ๋หยิ่งยืนอยู่ข้างกายนางตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ห่างไปไหนสักตอน

การเปลี่ยนแปลงของหลานเยาเยา เขาดูอยู่ตลอดเจ็บปวดอยู่ในใจ เสียงเรียกนางก็แหบแห้งเล็กน้อย

“เจ้าอยู่มาตลอด!”

เขาอยู่ เขาอยู่ตลอด นางรู้

“อื้ม!” ตาของเขาแดงเล็กน้อย แต่ก็ยกมุมปากมองนางตลอด พยายามซ่อนความเจ็บปวดไว้ “ไม่ง่ายเลยที่จะได้อยู่ด้วยกัน แล้วจะทนห่างเจ้าไปได้อย่างไร?”

“ข้าตัดสินใจเรื่องนึงไว้แล้ว” เรื่องที่สำคัญมาก

อย่างไรจุดจบตัวเองก็ใกล้เข้ามาแล้ว นางไม่อยากเห็นเพื่อนข้างกายตายไปกับตาตัวเอง พวกเขายังมีทางอีกยาวไกลที่ต้องไป ส่วนนางให้มันจบลงที่นี่

แต่นางไม่อยากตายในอ้อมกอดของเขา นางแค่อยากให้เขารู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต และจดจำตัวเองไปตลอดชีวิต……

นางยอมรับว่านางเห็นแก่ตัว

แต่……ความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท