หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 549 วังบนโอเอซิส

บทที่ 549 วังบนโอเอซิส

บทที่ 549 วังบนโอเอซิส

ตอนนี้หลานเยาเยามาข้างกายเย่แจ๋หยิ่ง ใบหน้าเย็นชาเล็กน้อย มองราชครูเทียนเวิงด้วยท่าทางนิ่งๆ

“คนโกหก? ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อสามปีก่อน ได้พบการมีอยู่ของหนอนพิษกู่ฝ่างซิน เกรงว่าเหตุการณ์วันนี้มันจะกลายเป็นจริงไปแล้ว”

สามปีก่อน ในหุบเขาจิ้น หลังจากเจอส่วนผสมตัวสุดท้ายของพิษกู่จิ้น นางก็ผสมยาแก้พิษ ให้ทุกคนเข้าใจพิษนี้ แต่ในตอนที่แก้พิษให้เย่แจ๋หยิ่ง กลับพบพิษกู่อีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือพิษกู่ฝ่างซิน แม้พิษกู่ฝ่างซินจะร้ายแรง และซ่อนอยู่ลึกยากจะพบ แต่การล่อหนอนลูกออกมานั้นไม่ยาก

“แค่กๆๆ……”

ขณะนี้ ราชครูเทียนเวิงไออย่างรุนแรงออกมาสองสามครั้ง ทุบขวดเล็กๆที่อยู่ในมือ ใบหน้าดุร้าย

พวกกลุ่มเด็กไม่มีความรู้!

เขาโดนพิษแล้วยังไง?

เมื่อครู่เขาได้ขับเลือดพิษออกมาส่วนหนึ่ง แม้จะไม่สามารถแก้พิษได้ แต่ก็ไม่ถึงกับพอใช้กำลังภายในพิษก็จะแพร่ทันที ดังนั้นเขาจึงปิดผนึกเส้นเลือดหัวใจของตัวเอง

เห็นสถานการณ์!

หลานเยาเยาหรี่ตา

คนเลวจริงๆ!

เดิมนางจะเตือนทุกคน แต่คิดไม่ถึงว่าอันดับแรกราชครูเทียนเวิงคิดจะฆ่านาง แม้ราชครูเทียนเวิงจะไม่ได้ใช้กำลังภายใน แต่ฝ่ามือนั้นก็ไม่ใช่เบาๆ หากถูกตีเข้าไป ชีวิตครึ่งหนึ่งก็จะหายไป

ทันทีที่มาถึงปากประตู เห็นเพียงแต่ร่างนึงแว็บมา ร่างเงานั้นผ่านไปรับฝ่ามือของราชครูเทียนเวิง หลานเยาเยาหรี่ตาลงอย่างรวดเร็ว

เย่แจ๋หยิ่ง……

เห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก แต่ใจก็ตกลงทันที

อาการบาดเจ็บภายในเขายังไม่หายดีนะ……

กล้าทำเขา ข้าจะสู้กับเจ้า

เมื่อคิดเสร็จ หลานเยาเยาก็แฉลบตัวไป รับมือกับราชครูเทียนเวิงพร้อมกับเย่แจ๋หยิ่ง พวกเขาร่วมมือกัน ใช้ศิลปะการต่อสู้กำลังภายในรวมกัน ถึงจะพอสามารถสู้กับราชครูเทียนเวิงได้อย่างพอๆกัน อีกทั้งยังอยู่ในสถานการณ์ที่ราชครูเทียนเวิงไม่สามารถใช้กำลังภายในได้

แต่ก็เห็นได้ว่า ราชครูเทียนเวิงนั้นเก่งกาจขนาดไหน

คนอื่นๆก็รีบเข้าร่วมต่อสู้ ยังไงหลายหัวก็ดีกว่าหัวเดียว คำพูดนี้ไม่ผิด ทันทีที่คนอื่นๆเข้าร่วม ราชครูเทียนเวิงนั้นใจสู้แต่กำลังไม่สู้แล้ว

หลังจากที่ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเย็นชาของราชครูเทียนเวิงก็หรี่ลง ทันใดนั้นก็ระเบิดกำลังภายในอันแข็งแกร่งออกมา ทำให้คนที่อยู่รอบตัวกระเด็นออกไป

กำลังภายในที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้ทุกคนล้วนกระเด็นอ้วกออกมาเป็นเลือด แม้แต่ราชครูเทียนเวิง เพราะการระเบิดกำลังภายในอันแข็งแกร่งเมื่อครู่นี้ของตัวเอง ทำให้ไปกระตุ้นความเร็วในการเเพร่ของพิษ และอ้วกออกมาเป็นเลือดอย่างรุนแรงอีกครั้ง

เขารีบปิดผนึกเส้นเลือดหัวใจตัวเองอีกครั้ง

เย่แจ๋หยิ่งที่ถูกทำให้กระเด็นไปบนแท่น มีเลือดเอ่อออกมาเต็มปาก เดิมก็บาดเจ็บภายในอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัด

เช็ดรอยเลือดที่มุมปาก หันหน้าไปหาร่างของหลานเยาเยา กลับพบว่านางอยู่ไม่ไกลจากเขา มีเลือดที่มุมปาก และสายตากำลังมองมาที่เขา

นัยน์ตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความกังวล

แต่สีหน้าของหลานเยาเยาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป……

เพราะมือของเย่แจ๋หยิ่งที่เปื้อนเลือดของตัวเองนั้นยันไปที่พื้นพอดี และบนพื้นนั้น เดิมทีมันควรจะเป็นที่ตั้งของบัลลังก์มังกร

ตอนนี้ เลือดที่เปื้อนบนมือของเย่แจ๋หยิ่งถูกดูดออกไป

“ครืดด……”

ทั้งห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือน ทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แม้แต่ราชครูเทียนเวิงที่จะโจมตีหลานเยาๆเป็นครั้งสุดท้ายยังต้องหยุดมือ และเงยหน้ามองแหล่งที่มาของการสั่นสะเทือน

มีเพียงแต่สายตาของเย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยา ที่มองไปยังพื้นใต้ฝ่ามือของเย่แจ๋หยิ่ง

แรงสั่นสะเทือนนั้นมาจากใต้ดิน

พื้นเดิมทีเรียบๆ ไม่มีช่องอะไร จู่ๆก็มีช่องแตกออก และตรงกลางก็จมลงไปทันที

เย่แจ๋หยิ่งดึงมือกลับมาด้วยความประหลาดใจ มองหลุมสี่เหลี่ยมดำๆนั่น เขามองที่มือตัวเองอีกครั้ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย

การสั่นสะเทือนนั้นยังไม่หยุด กลับแรงขึ้นเรื่อยๆ ยอดของห้องโถงใหญ่เริ่มทลาย เย่แจ๋หยิ่งรีบบินไปข้างกายหลานเยาเยาและปกป้องนาง ไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

ทองที่ทลายลงมาราวกับฝน จนกระทั่งหลังคาด้านบนทลายจนหมด ผลลัพธ์ก็คือห้องโถงใหญ่ค่อยๆสูงขึ้น จนถึงระดับหนึ่ง ทุกคนก็เห็นวังและศาลาพลับพลาที่ทลายลงมารอบๆ และกลไกทุกอย่างยังทำงานอยู่ แต่ก็ค่อยๆถูกทรายเหลืองโถมเข้ามากลืนกินไม่เหลือ

จื่อเฟิงมองไปทางห้องควบคุมกลไกหลัก พูดพึมพำอะไรสักอย่างแต่ไม่มีคนได้ยิน และจื่อซีก็จับเขาไว้ เพื่อไม่ให้จื่อเฟิงที่ฟุ้งซ่านอยู่กระเด็นตกลงไป

“เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วรึไง?”จื่อซีคำราม

“ข้า……”

มองไปยังทิศทางเดียวกับเขา จื่อซีรู้ว่าที่นั่นคือตำแหน่งของห้องควบคุมกลไกหลัก สีหน้าก็หม่นลงเล็กน้อย

“คนสมัยก่อนมักจะชอบทำทางหนีทีไล่ให้กับตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกลไก เจ้าดูสิ ชายชราผู้นั้นที่อยู่สำนักหงอีก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่รึ?

วางใจเถอะ นางเป็นคนดีจะได้รับการช่วยเหลือจากเบื้องบน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้านายและคุณหนู ตอนนี้พวกเขาจะเป็นจะตายก็ยากจะคาดเดา!”

ตรงนี้จื่อเฟิงนั้นรู้

เขาก็ขอเพียงแต่ว่าสิ่งที่จื่อซีพูดนั้นมันจะจริง

ห้องโถงใหญ่ยังคงสูงขึ้น จนสุดท้ายก็ทะลุออกทรายเหลือง และยังทะลุออกชั้นน้ำไปอีก

“น้ำ? ที่นี่มีน้ำได้อย่างไร?”

ไม่รู้ว่าใครพูดประโยคนี้ หลานเยาเยารีบมองรอบๆทันที ภาพวาดฝาผนังที่สามปรากฏออกมา แทบจะเหมือนกับคำบรรยายในภาพเปี๊ยบ ไม่ใช่ปราสาทบนโอเอซิส แต่เป็นวังบนโอเอซิส

หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งมองตากัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนคิดเหมือนกัน

รอจนกระทั่งการเคลื่อนไหวหยุดลง วังที่ไร้หลังคาก็ตระหง่านอยู่กลางโอเอซิส

ร่างสีขาวย่างกรายเข้ามา ขาวจนเหมือนกับโปร่งแสง มาพร้อมกับท่าทางของเซียน

หลานเยาเยาเห็นแล้ว

เป็นเขาอีกครั้ง เซียนชุดขาวที่มักปรากฏขึ้นในช่วงนี้

เย่แจ๋หยิ่งก็เห็นแล้ว

ทำไมเขาถึงปรากฏตัวขึ้นมาอีก? คนที่มีหน้าตาเหมือนกับตนเองเปี๊ยบ

ที่วังหิมะใต้ต้นบุพเพเขาก็เคยเจอครั้งนึง ครั้งนี้ก็เห็นอีกแล้ว

แต่เขามองไปที่คนอื่นครู่นึง ดูเหมือนนอกจากหลานเยาเยาแล้ว คนอื่นๆก็มองไม่เห็น

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าเห็น”

หลานเยาเยาชี้ไปยังที่ที่เซียนชุดขาวยืนอยู่ หลุมสี่เหลี่ยมที่ทลายลงมาจนหมดก่อนหน้านี้ ตอนนี้ด้านในดูเหมือนจะมีของบางอย่างโผล่ออกมา เมื่อพุ่งไปยังหลุมนั้นถึงได้รู้ว่า มันคือบัลลังก์มังกรสีทองอร่าม

ส่วนเซียนชุดขาวในตอนนี้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มือสองข้างวางบนที่วางแขน ด้วยท่าทางสบายๆ หลังจากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง และก็เปลี่ยนเป็นโปร่งแสงจนมองไม่เห็น

นี่หมายความว่าอะไร?

หลานเยาเยายังคิดไม่ทันเข้าใจ ในสมองก็ค้นพบเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่รอยเลือดบนมือของเย่แจ๋หยิ่งถูกดูด

นัยน์ตาก็ประกายขึ้นมาทันที

แอบฉุดแขนของเย่แจ๋หยิ่งเล็กน้อย อ้าปากกำลังจะพูดอะไร แต่เห็นร่างหนึ่งแฉลบผ่านไป มีคนไปนั่งบนบัลลังก์มังกร

คนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่คือราชครูเทียนเวิงที่มองพวกเขาอยู่ตลอด

บัลลังก์มังกรนี้จะต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่!

แต่เขานั่งลงไป ไม่มีปฏิกิริยาใดๆสักนิด ราวกับว่านอกจากความน่าเกรงขามมากกว่าบัลลังก์มังกรธรรมดาทั่วไปแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษอีก

ราชครูเทียนเวิงผู้เจ้าเล่ห์ไม่ได้ยอมแพ้เท่านี้ เขาลงมาจากบัลลังก์มังกรและมายังข้างกายเย่หลีเฉิน ความเร็วของเขารวดเร็วมาก ไม่ให้โอกาสเย่หลีเฉินได้โต้ตอบ ก็กดคอเขามาบนแท่นแล้ว

หลังจากนั้นก็หันกลับมามองทางเย่แจ๋หยิ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยการข่มขู่

“เจ้า นั่งไป ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขา”

พูดจบ สองเท้าของเย่หลีเฉินก็ห่างออกจากพื้น ทั้งตัวถูกยกจนหน้าแดง ทำได้เพียงแค่ใช้สองมือจับมือที่กดคอเขาไว้นิ่งๆ

เขาอยากจะบอกว่าไม่ต้องสนใจเขา

แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรออกมา

เมื่อเห็นเย่หลีเฉินที่ใกล้จะหายใจไม่ออก หลานเยาเยาก็หยิบระเบิดควันออกมา ตอนกำลังจะปาไป ฝ่ามือใหญ่ก็มาจับมือนางไว้

“เขาจะไม่เป็นอะไร”

จากนั้นก็ปล่อยมือนาง มองราชครูเทียนเวิงด้วยสายตาเย็นชา: “ปล่อยเขาก่อน”

ราชครูเทียนเวิงยกมุมปาก

สะบัดเย่หลีเฉินออกไปไม่ใช่เพราะเขาใจอ่อน แต่ว่ายังไงเขาก็ต้องตาย ช้าไปหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท