หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 566 โอ้โห……เข้ากันได้ดีเป็นเลิศจริงๆ

บทที่ 566 โอ้โห......เข้ากันได้ดีเป็นเลิศจริงๆ

บทที่ 566 โอ้โห……เข้ากันได้ดีเป็นเลิศจริงๆ

คนในดวงตาของนางกลิ่นอายโหดเหี้ยมทั้งร่าง สีหน้าเย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็ง ชุดคลุมสีดำหรูหราทั้งตัว ทั้งๆที่วัดตัวสั่งตัดทำ เวลานี้ดูแล้วกลับเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างใหญ่หลวม และไม่รู้ว่าร่างกายด้านในเสื้อคลุมจะผอมแห้งสักเท่าไหร่?

ผมดำห้อยลงมาทั้งศีรษะ ยาวและดก แต่ก็ห้อยอยู่ด้านหลังอย่างไร้ชีวิตชีวา

ทั้งคนดูแล้วหดหู่เศร้าสลดเช่นนั้น ลมหายใจเหนื่อยล้ากระจายจากด้านในสู่ด้านนอก ไม่จางหายไป

แต่……

เหล่านี้ไม่นับว่าเท่าไหร่

ที่แทงลึกเข้าไปในดวงตาของหลานเยาเยาลึกที่สุดคือ ผ้าสีแดงผืนนั้นที่คล้ำดั่งเลือดสด พันแน่นรอบๆบนดวงตาที่เดิมทีควรจะลึกซึ้ง

ดวงตา……

เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของเขา?

ไม่พบกันหนึ่งปีสามเดือน ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นลักษณะเช่นนี้แล้ว?

แล้วเวลานี้ เสียงที่คุ้นเคยก็ทะลักเข้าหูในทันใด

“เขาไม่ใช่คนโดนมนต์ดำ”

แต่ว่าเวลาช้าไปแล้ว ดาบในมือของชายชุดคลุมสีดำประชิดมาตรงหน้าของหลานเยาเยา ปลายแหลมของดาบกำลังแทงทะลุระหว่างคิ้ว

ในเวลาที่คับขัน

“เคร้งคร้าง” เสียงกังวาน

ดาบหยุดลงอย่างกะทันหันตรงหน้าของหลานเยาเยา และตกลงพื้นอย่างห่อเหี่ยว

จากนั้นชายชุดดำตรงหน้าก็กุมหน้าอกเหมือนกับว่าเจ็บปวดทรมานที่สุดจนยากจะทนได้ และคุกเข่าลงที่พื้นข้างหนึ่ง เลือดทะลักออกจากปากกระเซ็นลงพื้น ทำให้ดาบที่สั่นไหวอยู่ที่พื้นย้อมเป็นสีแดง

แต่ชายชุดดำไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เงยหน้ากะทันหัน ร้องเรียกประโยคหนึ่งอย่างยากเข็ญ

“เยาเยา……”

เพียงชื่อตัวเองสองคำเท่านั้น ทำให้หลานเยาเยาน้ำตาไหลออกจากเบ้า แทบจะแฉลบตัวเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

เพิ่งจะต้องการพยุงเขา ก็มีมือสองข้างของคนด้านหน้าพยุงขึ้นก่อน

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านเป็นอย่างไร? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เจ้าของของมือทั้งสองนั้นก็คือโม่เหลียงเฉินเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กของเย่แจ๋หยิ่ง ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย

แต่ว่า ทำให้โม่เหลียงเฉินประหลาดใจก็คือ เย่แจ๋หยิ่งกลับยื่นมือปัดโม่เหลียงเฉินออกไป ค่อยๆยืนขึ้นมา ดวงตาจ้องตรง‘มอง’ด้านหน้า ค่อยๆเอื้อมมือไปต้องการจะสัมผัสคนด้านหน้า

“เยาเยา เป็นเจ้าใช่ไหม?”

หลานเยาเยาตะลึงงันในพริบตา มองดูเย่แจ๋หยิ่งยื่นมือมานิ่งๆ พร้อมความสั่นเล็กน้อย ริมฝีปากนางเปิดขึ้น อยากบอกว่าตัวเองคือหลานเยาเยา คิดต้องการสัมผัสมือของเขา

แต่พอคำพูดขึ้นมาถึงข้างปากกลับไม่พูด คำที่พูดออกมาล้วนไร้เสียง……

โม่เหลียงเฉินเห็นดังนั้น ถอนหายใจเงียบๆ กล่าวอย่างแผ่วเบา : “เย่แจ๋หยิ่ง เขา เขาไม่ใช่หลานเยาเยา เขาเป็นผู้ชาย”

“อะไร?”

เย่แจ๋หยิ่งตะลึงงันทันที แม้แต่มือที่เอื้อมออกไปก็แข็งทื่ออยู่กลางอากาศ ดึงสติกลับมาไม่ได้อยู่นาน จนถึงสุดท้ายจึงเก็บมือกลับมาวางไว้บนหน้าอก “เป็นไปได้อย่างไร?”

ความรู้สึกที่ปวดใจชนิดนี้ เหมือนกับอดีตทุกอย่าง นางก็คือหลานเยาเยา ไม่ใช่ผู้ชาย

“เขาเป็นผู้ชายจริงๆ!” โม่เหลียงเฉินพูดอย่างแน่วแน่

“ให้นางพูดเอง”

เสียงของเขาสลดเล็กน้อย รอคอยเสียงของคนด้านหน้าผู้นี้ ทั้งๆที่ในใจมั่นใจ แต่เขายังต้องการพิสูจน์สักหน่อย

ภายใต้สายตาที่สับสนของโม่เหลียงเฉิน หลานเยาเยาระงับความรู้สึกนึกคิดทั้งหมด เดินขึ้นไปก้าวหนึ่ง ดึงข้อมือของเขาไว้ทันที ตรวจสอบชีพจรที่อ่อนแอ

จากนั้น ขมวดคิ้วแน่น

“สถานการณ์ของท่านไม่ดี ต้องได้รับการรักษาให้ทันเวลา”

ไม่กี่คำที่ธรรมดาๆ น้ำเสียงสดใสชัดเจน ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดปน

แต่ก็คือน้ำเสียงเช่นนี้ ประกาศโทษประหารของเย่แจ๋หยิ่งโดยตรง

นี่ไม่ใช่เสียงของหลานเยาเยา……

เขาไม่ใช่หลานเยาเยา เขาเป็นผู้ชายหรอ……

เย่แจ๋หยิ่งเก็บข้อมือกลับทันที และเอาไว้ด้านหลัง แม้แต่นิ้วมือสักหน่อยก็ไม่ให้หลานเยาเยาเห็น น้ำเสียงเย็นชาลงมาก

“รักษา……” ก็ไม่จำเป็นแล้ว สองสามคำด้านหลังยังพูดไม่จบ

สีหน้าของหลานเยาเยาเปลี่ยนทันที ตัดบทของเย่แจ๋หยิ่งโดยตรง

“มีความเคลื่อนไหว”

ที่นี่ไม่ได้สว่างเท่าด้านนอก แต่ก็ไม่มืด เพียงแค่มีจุดที่ส่องแสง พวกเขาก็สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่มีร่องรอยใดๆ

กลับเป็นจุดมืด…..

ราวกับว่ามีดวงตาเป็นคู่ๆจ้องมองพวกเขาอยู่ แววตาที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดชนิดนั้น ทำให้คนอึดอัดเป็นที่สุด

“น่าจะเป็นคนโดนมนต์ดำ” โม่เหลียงเฉินขมวดคิ้ว

เย่แจ๋หยิ่ง : “ไม่ใช่!”

หลานเยาเยา : “ไม่ใช่!”

ทั้งสองแทบจะเอ่ยพร้อมกัน หลังจากสิ้นเสียงพูด ยังจะใจตรงกันเป็นอย่างมากสบตากันแวบหนึ่ง นี่ทำให้โม่เหลียงเฉินตาโตอย่างอดไม่ได้

บังเอิญใจตรงกันสินะ?

“ทำไมไม่ใช่?”

หลานเยาเยามองดูรอบๆอย่างระมัดระวังไปพลาง อธิบายอย่างคร่าวๆไปพลาง

“หากว่าเป็นคนโดนมนต์ดำที่ถูกหนอนพิษกู่ควบคุม พวกเขาจะไม่หลบซ่อนอยู่ในที่มืดโดยตลอด

หากว่าเป็นคนโดนมนต์ดำที่ถูกคนโดนมนต์ดำข่วนกัดและแพร่เชื้อ พวกเขาจะรับฟังเสียงและเคลื่อนไหว เจอคนก็กัด เดิมทีไม่สามารถครุ่นคิดได้

บางทีควรพูดว่า พวกเขาไม่ใช่คนโดนมนต์ดำโดยสมบูรณ์ แต่หลังจากที่ติดเชื้อถึงระดับหนึ่ง ถึงจะเปลี่ยนเป็นคนโดนมนต์ดำจริงๆ”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป

โม่เหลียงเฉินอดตะลึงไม่ได้ แม้แต่เย่แจ๋หยิ่งก็หันหน้าไปทางนางตรงๆ บนใบหน้าไร้ความผันแปรใดๆ และไม่รู้ว่าสีหน้าดวงตาภายใต้ผ้าแดงเป็นอย่างไร?

โม่เหลียงเฉิน : “ท่านเป็นใครกันแน่?”

“ข้าเป็นเพียงหมอผู้หนึ่ง เพิ่งเปิดโรงหมอก็ได้รับคนโดนมนต์ดำที่ติดเชื้อไม่รุนแรงนักพอดี ดังนั้นมีความเข้าใจต่อคนโดนมนต์ดำเล็กน้อยเท่านั้น”

“พอดี? ไม่เป็นเช่นนั้นล่ะมัง?” บอกว่าพอดี ใครจะเชื่อล่ะ?

คำพูดเมื่อครู่ก็รู้ว่าเขาไม่ได้เข้าใจคนโดนมนต์ดำเพียงเล็กน้อย อย่างน้อยก็เข้าใจลึกซึ้ง ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจคนโดนมนต์ดำจนกระจ่างขนาดนี้ได้เช่นไร

ได้ยินดังนั้น หลานเยาเยาเพียงยิ้มเท่านั้น และไม่ได้วางแผนจะอธิบายมากมาย หมุนตัวแล้วกล่าว :

“พวกเขาน่าจะอดทนไม่ได้แล้ว”

“อะไร?” โม่เหลียงเฉินสีหน้างงงัน

นาทีต่อมา คนโดนมนต์ดำหลายคนกระโดดพวยพุ่งออกมาจากที่มืดหลายที่อย่างกะทันหัน ระยะห่างยิ่งใกล้แล้ว กลิ่นคาวเลือดบนพื้นทำให้ม่านตาของพวกเขาขยายอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดเปลี่ยนเป็นสีขาว วิ่งพรวดเข้ามาทันที

หลานเยาเยามองเย่แจ๋หยิ่งอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง กล่าวอย่างรีบร้อน

“ท่านถอยหลัง ข้าปกป้องท่าน”

พูดจบ กำลังต้องการขึ้นไปการเผชิญหน้ากับคนโดนมนต์ดำพวกนั้น เห็นเพียงแขนที่เรียวยาวขวางอยู่ด้านหน้าของนาง เสียงเย็นชา :

“ไปเล่นด้านข้าง”

“……”

เล่น?

นางจะไปหาใครเล่นด้วย?

ทั้งหมดมีคนโดนมนต์ดำเพียงห้าคน โม่เหลียงเฉินต่อกรกับสองคนแล้ว สามคนนอกเหนือจากนั้นทั้งหมดล้วนอยู่ทางนี้ เย่แจ๋หยิ่งตอนนี้ยังเป็นคนป่วย ดวงตายังมองไม่เห็นอีก ไม่สามารถให้เขาใช้กำลังภายในได้

ด้วยเหตุนี้!

นางแฉลบตัว เคลื่อนตัวมาอยู่ด้านหน้าของคนโดนมนต์ดำก่อน เพราะต่อกรกับคนโดนมนต์ดำอยู่ บวกกับตอนนี้คนโดนมนต์ดำเหล่านี้แม้จะโหดเหี้ยม แต่ก็ต่อกรง่ายเป็นที่สุด

ดังนั้น ด้วยความรวดเร็วคล่องแคล่ว นางก็จัดการคนโดนมนต์ดำคนหนึ่งแล้ว ขณะหันไปหาคนโดนมนต์ดำสองคน กลับพบว่า ได้โดนเย่แจ๋หยิ่งจัดการแล้ว

เป็นดังคาด เขายังคงเป็นอ๋องเย่ที่เย็นชาและดื้อรั้น

แต่ว่า ที่น่าแปลกก็น่าแปลกที่ หลังจากที่พวกเขาสองคนจัดการคนโดนมนต์ดำสามคนนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ขยับ แต่มองดูโม่เหลียงเฉินเปลืองแรงต่อสู้คนเดียวกับคนโดนมนต์ดำสองคนอย่างเย็นชา

ไม่ใช่กำลังภายในของโม่เหลียงเฉินใช้ไม่ได้

แต่เพราะโม่เหลียงเฉินไม่เคยสู้กับคนโดนมนต์ดำมาก่อน และไม่ได้กินยาถอนพิษของพิษกู่มาก่อน ฉะนั้นในร่างกายเดิมทีก็ไม่มียาต้านพิษ เขาทั้งต้องหลบหลีกการที่ตัวเองจะถูกข่วนบาดเจ็บ และต้องการคิดวิธีจับเป็นคนโดนมนต์ดำ

ด้วยเหตุนี้ เทียบกับเย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยา เขาก็ค่อนข้างกินแรงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว

เมื่อเขาจับคนโดนมนต์ดำได้คนหนึ่ง กำลังอิ่มเอมใจ หันกลับไปดู กลับพบว่าสองคนนั้นยืนอยู่อีกข้างหนึ่ง เอนพิงเสาหินมองดูเขา และไม่รู้ว่าพวกเขาสังเกตนานแค่ไหนแล้ว

โอ้โห!

สองคนนี้……เข้ากันได้ดีเป็นเลิศจริงๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท